ตอนที่ 14 ผู้หญิงของผม
ไม่ว่าใครจะพูดอะไร เจียงเหยายังคงเงียบเหมือนลูกแกะ เธอหยิบแตงโมจากเขาแล้วกินโดยก้มศีรษะต่ำ หลังจากที่เธอกินเสร็จ เธอมองดูลู่ชิงสีอย่างเงียบ ๆ สงสัยว่าเขาโกรธเธอเรื่องจดหมายตอบรับหรือไม่
ลู่ชิงสีไม่ค่อยแสดงอารมณ์ของเขาออกมา เขามักจะเงียบ ไม่เปิดเผยความรู้สึกให้ใครได้รู้
ในห้องครัว เสียงของลู่อี้ชิงดังก้องไปทั่วบ้าน ขณะเดียวกัน ในห้องนั่งเล่น พ่อลู่พูดคุยเรื่องทั่ว ๆ ไป กับจ้าวจวนซ่ง บางครั้ง จ้าวจวนซ่งก็พูดคุยกับลู่ชิงสีบ้าง เจียงเหยากำลังนั่งอยู่ท่ามกลางพวกเขา ราวกับพวกเขาเป็นเหมือนอากาศที่มองไม่เห็น
ไม่ใช่ว่าพ่อลู่และจ้าวจวนซ่งตั้งใจจะเพิกเฉยต่อเธอ แต่พวกเขาต่างรู้ว่าเจียงเหยาเป็นคนเงียบขรึม เธอไม่ค่อยพูด เธอตอบเฉพาะเมื่อถูกถามอะไรบางอย่างเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงตอบคำถามโดยไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม คำพูดของเธอดูเรียบง่ายและซ้ำซากจำเจกว่าคำพูดของลู่ชิงสี
โชคดีที่ลู่ชิงสีจะหยิบผลไม้ส่งให้เธอเป็นครั้งคราว
ในระหว่างการสนทนาเจียงเหยาก็ลึกขึ้นยืน ลู่ชิงสีขยับสายตามองตามอย่างประหลาดใจ และถามอย่างรวดเร็ว “ไปไหนเหรอ”
ลู่ชิงสีกังวลว่าเจียงเหยาจะรำคาญ เพราะคำพูดก่อนหน้าของลู่อี้ชิง เขากังวลและรีบลุกขึ้นยืนและจับแขนเจียงเหยาไว้
“ไม่ได้จะไปไหน ฉันจะเอาของไปเก็บในห้อง” เจียงเหยากล่าวขณะที่เธอโบกจดหมายในมือของเธอ
“ไปด้วยสิ ผมจะไปเอาครีมทาหน้าให้คุณ” ลู่ชิงสีปล่อยมือของเจียงเหยา เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินเธอพูดเบา ๆ พร้อมกับโบกจดหมายอย่างผ่อนคลายและสบาย ๆ
“หึ! จุกจิกจัง! รอยแดงนิดหน่อยเอง ไม่ถึงชั่วโมงก็หายแล้ว ทำยังกับเป็นสมบัติล้ำค่า”
ลู่อี้ชิงที่อยู่ในห้องครัวเยาะเย้ยเมื่อเธอได้ยินลู่ชิงสีพูดเช่นนั้น เธอเดินเข้ามาพร้อมกับอาหารกลางวันในมือ เมื่อรู้ถึงอารมณ์ของลู่ชิงสี เธอจึงกลับไปที่ห้องครัวทันทีที่พูดจบ
เจียงเหยาตั้งใจจะกลับไปที่ห้องด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ เธอเดินตามลู่ชิงขึ้นบันไดไป
เขาเดินน้ำหน้าเธออยู่สองก้าว เงาที่ยาวและบางของเขาทอดทับและปิดกั้นแสงตรงหน้าเธอ เจียงเหยาจ้องมองที่หลังของเขาจนสุดทางชั้นบนและเพ่งสายตาของเธอ เมื่อพวกเขาเข้ามาในห้อง
ลู่ชิงสีเป็นทหาร หลังจากสี่ปีที่มหาวิทยาลัย เขาได้เข้าร่วมฐานทัพทหารอย่างเป็นทางการ การฝึกหลายปีของเขาทำให้เขาประสาทสัมผัสที่รวดเร็ว ดังนั้นเขาจะไม่สังเกตเห็นการจ้องมองอย่างจริงจังด้านหลังเขาได้อย่างไร เขาจัดการซ่อนรอยยิ้ม และพนันว่าคนข้างหลังเขาไม่คิดว่าเขาจะรู้ว่าเธอจ้องมองเขาตลอดทาง
“นั่งลงสิ คุณเก็บชุดปฐมพยาบาลไว้ที่ไหน” ห้องนี้ถูกตกแต่งใหม่ เมื่อพวกเขาแต่งงานกัน หลังจากแต่งงานลู่ชิงสีเข้าร่วมฐานทัพ จึงไม่ค่อยได้กลับบ้านบ่อยนัก เจียงเหยาเป็นคนดูแลห้องให้เป็นระเบียบ เขาจำได้ว่าเขาซื้อชุดปฐมพยาบาลให้เธอเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน แต่เขาไม่รู้ว่าเอเก็บไว้ที่ไหน
เจียงเหยาชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้า “ลิ้นชักล่างซ้าย” เธอพูดต่อ “ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก รอยแค่นี้ แปบเดียวก็หาย”
“คุณเป็นผู้หญิงของผมนะ จะเรื่องมากบ้างก็ไม่เป็นไร” ลู่ชิงสีโพล่งออกมาขณะที่เขามองหาอุปกรณ์ เขาก้มตัวหยิบชุดพยาบาลและตรวจดูวันหมดอายุของครีมก่อนทาบาง ๆ ที่รอยแดง บนใบหน้าของเจียงเหยา