ตอนที่ 12 ข้อแก้ตัว
“เจียงเหยา เกิดอะไรขึ้น?” คุณนายลู่ไม่รู้สึกลูกสาวตนเองทำอะไรผิด ตอนนี้เธอกังวลมากที่สุดเกี่ยวกับจดหมายตอบรับ
“เธอไม่ได้สัญญาแล้วหรือว่าจะสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทย์จินโตน่ะ”
เจียงเหยานั่งบนโซฟาอยู่ในภวังค์และจ้องมองไปที่พื้นอย่างว่างเปล่า
ตอนที่ลู่อี้ชิงโยนจดหมายไปที่หน้าของเธอ เธอก็จำได้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น
ในชีวิตที่แล้วของเธอ มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นในวันนี้ ลู่ชิงสีได้กลับมาที่บ้าน และลู่อี้ชิงได้นำจดหมายตอบรับของเธอมาด้วย
เพราะจดหมายฉบับนี้ทำให้เธอได้ไปทางใต้ตามที่เธอต้องการ การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ช่องว่างระหว่างเธอและตระกูลลู่กว้างขึ้น รวมทั้งทำให้เธอต้องขัดแย้งกับตระกูลเจียง ครอบครัวของเธอเองด้วย
แม้ว่าจดหมายฉบับนี้จะเป็นเพียงกระดาษแผ่นบาง แต่ก็ยังเจ็บเมื่อจับที่ใบหน้าของเธอ
ย้อนกลับไปในสมัยนั้น เธอรู้สึกเสมอว่าลู่อี้ชิงเอาแต่ใจมากเกินไป และชอบยุ่งเรื่องของลู่ชิงสี ตอนนี้เมื่อเธอย้อนกลับไปคิดในมุมของลู่อี้ชิง เธอก็เข้าใจถึงความกังวลและความทุกข์ใจแทนน้องชายของเธอ
เจียงเหยายังคงเงียบ บรรยากาศในบ้านจึงแย่ลง หลังจากนั้นไม่นานลู่ชิงสีก็ทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดใจและพูดว่า
“แม่ การสมัครก็เป็นเพียงขั้นตอน ที่เจียงเหยาจะต้องเข้ากระบวนการคัดเลือก มันอยู่เหนือการควบคุมของเธอ บางทีเธออาจจะถูกมหาวิทยาลัยแพทย์จินโตปฏิเสธอก็ได้ แต่นานเจียงดันรับเธอ ถึงแม้ว่าอีกที่จะอยู่ทางเหนือ และอีกที่จะอยู่ทางใต้ ก็เป็นมหาวิทยาลัยที่ยอดเยี่ยมทั้งคู่ ได้รับเลือกจากมหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียง ก็แสดงว่าเจียงเหยาเก่งมากเลยล่ะ!”
นั่นก็แค่ข้ออ้างที่แม้แต่ลู่ชิงสีที่พูดออกมาจากปากของตัวเองยังไม่เชื่อ
“บ้า!” ลู่อี้ชิงตะโกน “เจียงเหยา เธอใช้ยาอะไรกับน้องชายฉัน ลู่ชิงสี นายประสาทไปแล้วหรือไง ถึงได้พยายามหาข้อแก้ตัวให้เธอ ตอนที่ได้รับจดหมายตอบรับ ฉันได้โทรไปถาม ผอ. ที่รับผิดชอบเรื่องนี้แล้ว เขาบอกว่าเจียงเหยากรอกมหาวิทยาลัยในใบสมัครแค่มหาวิทยาลัยเดียว คงเดาได้นะว่ามันคือ หนานเจียง เธอยอมไม่กรอกมหาวิทยาลัยอื่นเลย แม้ว่าครูจะเกลี้ยกล่อมยังไง เธอก็บอกว่าถ้าไม่ใช่หนานเจียง เธอก็ไม่อยากจะเรียนต่อแล้ว”
ลู่ชิงสีเงียบไปครู่หนึ่ง สายตาของเขาเปลี่ยนไปตามสัญชาตญาณ
เจียงเหยาไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ความรักที่เอ้อระเหยออกมาหลังจากที่เธอบอกว่าเธอคิดถึงเขาค่อย ๆ จางหายไปทีละน้อย
ความผิดหวัง การสูญเสีย และความคับข้องใจเกิดขึ้น หัวใจของลู่ชิงสีแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แม้จะปวดใจ แต่เขาไม่สามารถต่อว่าเธอได้หรือตำหนิเธอได้
“มันเป็นการตัดสินใจของเจียงเหยา ว่าเธออยากเรียนที่มหาวิทยาลัยไหน เธอเลือกหนานเจียง ก็คงเพราะหนานเจียงมีอะไรดีที่ดึงดูดเธอให้ไปที่นั่น เธอเลยอยากจะเรียนที่หนานเจียงมากกว่าจินโต”
หลังจากพูดเช่นนี้ ลู่ชิงสีหยิบแก้วบนโต๊ะขึ้นมาแล้วกลืนน้ำไปอึกหนึ่ง
เมื่อพ่อลู่ เห็นเข้า เขาเข้าใจความหมายของลูกชายของตนและเริ่มพูด
“พอแล้ว ๆ มหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียงก็เป็นมหาวิทยาลัยแพทย์ที่สำคัญของภาคใต้เช่นกัน หลายคนแลกด้วยจิตวิญญาณเพื่อที่จะได้เรียนที่นั่น ยังไม่สามารถเรียนได้เลย”
พ่อลู่หันไปหาภรรยาและกล่าวว่า “ลองนึกภาพการมีนักศึกษามหาวิทยาลัยเป็นลูกสะใภ้ดูสิ คุณก็สามารถคุยโม้ได้ทุกที่ หลังจากเจียงเหยาเรียนจบ คุณก็ลองนึกภาพการมีหมอเป็นลูกสะใภ้ของคุณดูสิ การเป็นหมอถือไม่อดตาย – ยังไงก็ถูกจ้างไปตลอดชีวิต ดีแค่ไหนแล้วที่เจียงเหยาอยากเรียนที่หนานเจียงและเป็นหมอน่ะ ให้เธอไปเรียนเถอะ”
ลู่ชิงสีพูดต่อหลังจากพ่อของเขาด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวดและแน่วแน่
“ใช่ พ่อพูดถูก นอกจากนี้หนานเจียงก็อยู่ใกล้บ้านเราด้วย เจียงเหยาก็จะได้ปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตได้ง่ายขึ้น ถ้าไปทางเหนือ เธอไม่ชินกับที่นั่น ผมก็ต้องคอยเป็นห่วงเธออีก ทางที่ดี เราไม่ต้องกังวลให้มากไปหรอก”