ตอนที่แล้วระบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 30 พี่เย่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 32 กลับบ้าน

ระบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 31 ชายหัวโล้นผู้น่าสงสาร


ตอนที่ 31 ชายหัวโล้นผู้น่าสงสาร

เพียะ!

เด็กหนุ่มคนนี้เป็นใครกัน? ทำไมถึงได้ทำให้ลูกน้องของคุณชายฉู่หวาดกลัวได้มากขนาดนี้?

ไม่ใช่เพียงซูไป๋ที่คิดเช่นนี้ กระทั่งเซี่ยเฉิงและลูกน้องของมัน ก็มีคำถามเดียวกันนี้ในหัวเช่นกัน!

“หึ! ฉันจะบอกอะไรพวกแกให้ คุณชายฉู่อะไรนั่นกับลุงของมัน นอกจากจะถูกฉันถ่มน้ำรดหน้าแล้ว พวกมันสองคนเพิ่งจะถูกฉันซ้อมจนร้องไห้กลับบ้านไปแล้ว นี่พวกแกยังจะกล้าเอาชื่อของมันมาข่อขู่ฉันอีกงั้นเหรอ? ถุย!”

เย่โม่เดินตรงเข้าไปหาเซี่ยเฉียงพร้อมกับถ่มน้ำลายรดหัวโล้นของมันทันที!

อะไรนะ?!

คุณชายฉู่กับลุงหลงถูกเด็กหนุ่มแซ่เย่ซ้อมจนร้องไห้กลับไปบ้านงั้นเหรอ?!

คุณชายฉู่เป็นใคร? เขาเป็นถึงหนึ่งในยี่สิบอันดับต้นๆ ของคุณชายที่มีอำนาจอิทธิพลในจี่หนิงเชียวนะ!

ส่วนลุงหลงน่ะเหรอ? เขาเป็นทหารเก่าที่อยู่ในหน่วยพิเศษที่มีชื่อเสียง แม้ว่าตอนนี้จะผ่านจุดสูงสุดของชีวิตมาแล้วก็ตาม แต่ฐานะของเขาในสังคมยังคงสูงส่งไม่น้อย และด้วยธุรกิจทั้งขาวและดำของเขา ทำให้แม้แต่นักเลงใหญ่ๆโตๆ ยังต้องให้ความเคารพและเรียกขานเขาว่า ‘พี่หลง’ กันเลยทีเดียว!

หลังจากได้ยินคำพูดของเย่โม่ ทั้งลูกน้องของซูไป๋และเซี่ยเฉียงต่างก็ไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาคิดว่าตนเองคงจะหูฝาดไป แต่เมื่อหันไปเห็นเซี่ยเฉียงที่ยืนคอตกเป็นไก่หงอยอยู่แบบนั้น ทุกคนต่างก็มั่นใจได้ทันทีว่า ทั้งหมดที่เย่โม่พูดมานั้นเป็นความจริง!

“พี่เย่ครับ! อย่าโมโหไปเลยนะครับ! ผมจะรีบพาลูกน้องออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้!”

หลังจากที่ร้องบอกเย่โม่ด้วยท่าทางเคารพนอบน้อมแล้ว เซี่ยเฉียงก็หันไปตวาดน้องชายกับลูกน้องในห้องเสียดัง

“พวกแกยังจะยืนนิ่งกันอยู่ทำไม? ยังไม่รีบออกไปจากห้องนี้อีก แล้วอย่าให้ฉันรู้นะว่าใครกล้าเข้ามารบกวนพี่เย่อีก ฉันเอามันตายแน่!”

“พี่เย่ครับ ผมผิดไปแล้ว ผมสมควรตายๆ!”

เพียะๆๆๆ

หลังจากที่พูดจบ เซี่ยเฉียงก็ยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองอีกหลายฉาด จากนั้น จึงรีบหันหลังเตรียมตัวที่จะเดินออกไปจากห้องทันที

“ฉันอนุญาตให้แกออกไปแล้วเหรอ?” น้ำเสียงที่ไม่ดังนักของเย่โม่ดังขึ้น

เมื่อเซี่ยเฉียงได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของมันถึงกับเปลี่ยนเป็นซีดเผือด ขาทั้งสองข้างสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว มันรีบหันหลังกลับมาพร้อมกับคุกเข่าลงกับพื้นทันที ปากก็ร้องตะโกนอ้อนวอนขอความเมตตาจากเย่โม่

“พี่เย่ครับ.. ได้.. ได้โปรดเมตตาไว้ชีวิตผมเถอะนะครับ! ผม.. ผมยังไม่อยากตาย!”

คำพูดสั้นๆเพียงประโยคเดียวของเย่โม่ ก็ทำเอาเซี่ยเฉียงถึงกับหวาดกลัวจนเสียผู้เสียคนแบบนี้ ทำให้ซูไป๋ยิ่งไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ฐานะของพี่เย่คนนี้นั้นสูงส่งขนาดไหน!

“คุณถิงถิง ช่วยเดินมาตรงนี้หน่อยครับ!” เย่โม่หันไปเรียกถิงถิงด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

หลังจากที่ได้เห็นชายฉกรรจ์ทั้งหมดในห้องต่างก็มีสีหน้าท่าทางหวาดกลัวเด็กหนุ่มคนนี้เป็นอย่างมาก ความหวาดกลัวภายในใจของถิงถิงพลันมลายหายไปในทันที เธอรีบเดินเข้าไปหาเย่โม่อย่างว่าง่าย

“นับจากนี้เป็นต้นไป ถ้าเกิดอะไรกับเด็กสาวตัวเล็กๆคนนี้อีก ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของพวกแกหรือไม่ก็ตาม ฉันจะถือว่าเป็นความรับผิดชอบของแก ฉันพูดแบบนี้แกเข้าใจมั๊ย?”

เย่โม่ร้องบอกเซี่ยเฉียงพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางถิงถิงที่ยืนอยู่

“ครับพี่เย่! ผมเข้าใจครับ รับรองว่าจะไม่มีใครกล้าแตะต้อง หรือสร้างปัญหาให้กับผู้หญิงคนนี้อีกแน่นอนครับ!”

เซี่ยเฉียงร้องตอบพร้อมกับพยักหน้าหงึกๆเป็นไก่จิกข้าว

“อ่อ.. เมื่อครู่แกบอกว่าจะให้เงินฉันเท่าไหร่นะ? หนึ่งแสนหยวนสินะถ้าฉันฟังไม่ผิด? แกบอกว่า.. ให้ฉันรับเงินหนึ่งแสนหยวนนี่ไปซะ ถ้าไม่อย่างนั้น…”

“ครับๆพี่เย่ ผมจะไปเอาเงินมาให้พี่เย่เดี๋ยวนี้เลย!”

หลังจากนั้น เซี่ยเฉียงก็หันไปส่งสัญญาณให้ลูกน้องส่งกระเป๋าเงินให้ จากนั้น จึงได้หยิบเงินจำนวนหนึ่งแสนหยวนยื่นให้กับเย่โม่ด้วยท่าทางเคารพนอบน้อม

เย่โม่รับธนบัตรปึกนั้นมา แล้วจึงส่งต่อให้กับถิงถิงพร้อมกับบอกหญิงสาวว่า “คุณเอาเงินจำนวนนี้ไป แล้วก็อย่ากลับมาทำงานที่นี่อีก!”

“แต่พี่เย่คะ ฉันรับเงินนี่ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!” ถิงถิงร้องบอกเย่โม่ด้วยสีหน้าท่าทางที่น่าสงสารอย่างมาก

“นี่สาวน้อย! ในเมื่อพี่เย่ให้ เธอก็รับไว้เถอะ! ไม่อย่างนั้นพี่เย่อาจจะโมโหเอาได้นะรู้มั๊ย?”

หวังยู่หยางคว้าเงินจำนวนนั้นมาจากมือของเย่โม่ พร้อมกับจับยัดลงไปในมือของเด็กสาวที่ชื่อถิงถิง จากนั้นจึงได้หันไปขยิบตาส่งสัญญาณให้เย่โม่ทำสีหน้าข่มขู่หญิงสาว

“แต่ว่า…”

ในขณะที่ถิงถิงกำลังจะปฏิเสธอีกครั้ง เย่โม่ก็ได้ส่งสายตาดุดันให้กับเธอ และนั่นก็ทำให้เด็กสาวถึงกับกลืนคำพูดทั้งหมดกลับเข้าไปในลำคอคืนอย่างรวดเร็ว

“พี่เย่ครับ… ถ้าอย่างนั้นพวกเรา…” เซี่ยเฉียงเอ่ยถามเสียงอ่อย

“ไสหัวไปให้พ้นไอ้พวกสวะสังคม!”

ดูเหมือนนี่จะเป็นคำพูดชื่นชมจากปากของเย่โม่ที่เซี่ยเฉียงได้ยินมากกว่าหนึ่งครั้งในคืนนี้ และคำพูดของเย่โม่ก็ศักดิ์สิทธิ์ราวกับคำสั่งนิรโทษกรรม ทั้งเซี่ยเฉียงและลูกน้องของมันต่างก็พากันวิ่งหางจุกตูดออกไปจากห้องทันที

“คุณเป็นใคร? ทำไมยังไม่ออกไปอีก?”

เย่โม่จ้องมองซูไป๋ที่สวมเสื้อสูทเรียบร้อย พร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น

“คุณเย่ครับ! อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ ผมเป็นผู้จัดการโรงแรมชื่อว่าซูไป๋ครับ”

สายตาดุดันของเย่โม่ทำให้ซูไป๋ถึงกับตกใจกลัว เขารู้สึกราวกับกำลังถูกพยัคฆ์ดุร้ายจ้องมองมา และเวลานี้แผ่นหลังของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อเย็น

“อ่อ.. งั้นก็ดีเลย! คุณช่วยให้คนส่งถิงถิงกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย! แล้วก็อย่าให้ฉันรู้นะว่า มีใครกล้ายึดเงินหนึ่งแสนหยวนของถิงถิงไป รับรองว่าฉันจับมันหักขาทีละคนแน่!”

“พี่เย่ครับ เรื่องนั้นพี่เย่ไม่ต้องเป็นห่วง! พวกเราดูแลพนักงานของเราอย่างดี ถ้าไม่เชื่อ คุณเย่ลองถามถิงถิงดูก็ได้ครับ!” ซูไป๋ระล่ำระลักอธิบายทันที

เย่โม่เพียงแค่พยักหน้ารับรู้ จากนั้น ซูไป๋ก็สั่งให้คนไปเอากุญแจรถของตนเองมา และรับปากว่าจะไปส่งถิงถิงกลับบ้านอย่างปลอดภัยด้วยตัวเอง

“พี่เย่ครับ วันนี้คุณกับเพื่อนช่วยพนักงานของเราไว้ ทางเราขอไม่รับค่าบริการในคืนนี้นะครับ!”

ซูไป๋มั่นใจว่าฐานะของเด็กหนุ่มคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ เขาจึงต้องการที่เอาอกเอาใจด้วยการเสนอบริการทั้งหมดให้ฟรี

“นี่พี่เย่! แค่ข้ามคืนก็กลายเป็นคนดังไปแล้วนะ ใครๆก็ให้ใช้บริการฟรี แบบนี้อีกหน่อยไปไหนต่อไหนก็คงไม่ต้องพกเงินแล้วสินะ แค่ใช้เส้นสายของพี่เย่ก็ได้กินได้ใช้บริการฟรีแล้ว ฮ่าๆๆ”

หวังยู่หยางพูดหยอกเย้าเย่โม่พร้อมกับหัวเราะเสียงดัง

“หยุดล้อเล่นได้แล้ว! ยังไงเรามาใช้บริการของร้าน ก็ต้องจ่ายเงินให้กับเขาไป!” เย่โม่ร้องบอกพร้อมกับกรอกตาใส่หวังยู่หยาง

“ไม่ต้องครับคุณเย่! วันนี้ผมขอรับผิดชอบค่าบริการของคุณเย่ไว้ทั้งหมดเอง…”

ซูไป๋รีบร้องบอกอีกครั้ง พร้อมกับหยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋ายื่นให้กับเย่โม่ “นี่นามบัตรของผมครับคุณเย่! นับจากนี้ไป คุณเย่สามารถมาใช้บริการที่ร้านได้ฟรีตลอดเลยนะครับ จะมาสักกี่คนก็ได้ครับ!”

“ได้! ในเมื่อคุณมีน้ำใจ ผมก็จะไม่ปฏิเสธ!”

เย่โม่ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบกลับไป ในเมื่ออีกไม่นานเขาก็ต้องมาเรียนที่จี่หนิงอยู่แล้ว จึงไม่คิดที่จะปฏิเสธอะไรดีๆแบบนี้

หลังจากรับนามบัตรมาจากซูไป๋แล้ว เขาก็ยื่นมืออกไปตบบ่าซูไป๋เบาๆ จากนั้นจึงชวนหวังยู่หยางเดินออกจากห้องไป

เมื่อกลับไปถึงห้อง เย่โม่ก็บอกกับหวังยู่หยางว่าเขาต้องการพักผ่อน จากนั้นจึงเดินเข้าไปอาบน้ำก่อนจะกลับมานอนพักผ่อนบนเตียงของตัวเอง

เย่โม่ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ที่แสนสบาย จากนั้นจึงเริ่มสื่อสารกับระบบผ่านทางจิตใจอีกครั้ง

“นี่ระบบ! วันนี้ผลประเมินการปฏิบัติภารกิจของฉันเป็นยังไงบ้าง?”

[วันนี้ผลการประเมินของโฮสท์อยู่ในระดับดี - ได้ 5 คะแนน]

“เฮ้อ! ฉันไม่อยากจะยอมรับผลประเมินนี่เลยจริงๆ!”

[โฮสท์ คุณยังขาดอีก 4 คะแนน ก็จะสามารถอัพเกรดทักษะการแพทย์เป็นระดับเหนือธรรมชาติได้ และเมื่อถึงตอนนั้น ระดับระบบทักษะของคุณก็จะถูกอัพเกรดขึ้นเป็น LV2 เมื่อถึงตอนนั้นโฮสท์จะสามารถเลือกทักษะที่สองในหมวดทักษะชีวิตได้]

“อืมม ฉันจะพยายามให้มากกว่านี้!”

[ความจริงแล้ว ด้วยระบบทักษะนี้ ต่อให้โฮสท์จะเป็นแค่หมูตัวหนึ่ง คุณก็สามารถกลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลกนี้ได้ คุณไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายาม และความสามารถอะไรที่พูดมาเลยด้วยซ้ำไป เพราะระบบจะเป็นที่พึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ!]

“เอ่อ.. กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลก… กระทั่งหมูนี่นะ?!”

…………

เช้าวันใหม่ เย่โม่ก็ได้ทำการเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม และพบว่าซูไป๋มายืนรออยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ของพนักงานต้อนรับก่อนแล้ว

หลังจากที่พูดคุยกันสองสามคำ ทั้งคู่ก็ได้ไปรับประทานอาหารเช้าร่วมกับซูไป๋ที่ได้ตระเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

หลังจากนั้น หวังยู่หยางก็ได้ขับรถพาเย่โม่กลับไปที่โรงพยาบาลเฟิรสท์พีเพิล

หลังจากร่ำลาหวังยู่หยางแล้ว เย่โม่ก็ได้เดินขึ้นไปที่ห้องพักของหวงเจิ้งหมิงทันที และเมื่อเขาเดินเข้าไปภายในห้อง ทั้งเฟิงเฉียน หวงหยาน แล้วก็หวงเจิ้งหมิงต่างก็พากันร้องทักทายขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน

“สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ เชิญนั่งก่อน!”

เย่โม่เพียงแค่พยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปถามไถ่อาการของหวงเจิ้งหมิง

ทั้งภรรยาและลูกสาวของหวงเจิ้งหมิงต่างก็ผลัดกันเล่าให้เย่โม่ฟังว่า หลังจากที่อยู่โรงพยาบาลเฝ้าดูอาการต่ออีกสองวัน ปรากฏว่าหมอที่นี่ก็ยืนยันว่าเขาสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงได้เตรียมตัวกันพร้อมที่จะเดินทางกลับว่านซานแล้ว และทุกคนต่างก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณเย่โม่

“งั้นก็ดีครับ! ผมเองก็พร้อมจะออกเดินทางแล้วเหมือนกัน รอประธานเฟิงมาพวกเราก็ออกเดินทางได้ทันที!”

หลังจากผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเฟิงกั๋วตงก็ไปจัดการเคลียร์ค่าใช้จ่ายกับทางโรงพยาบาลเรียบร้อย จากนั้น ทั้งหมดก็ได้นั่งรถมุ่งหน้าไปเมืองว่านซาน!

--------------------------

ติดตามนิยายแปลสนุกๆอีกหลายเรื่องได้ที่เพจ  : แปลสนุก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด