ตอนที่ 1043-1044 กงเซลีเข้ามาช่วยเหลือ
ผิวของเธอขาวผ่อง
ทำให้รอยแดงบนใบหน้าปรากฏชัด
กงเซลีมองไปที่ลายนิ้วมือสีแดงครบทั้งห้านิ้ว ความโกรธของเขาก็เพิ่มมากขึ้น
ไม่รอคำตอบของเฉียวเมียนเมียน เขาหันกลับมาและมองดูผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ซูเจ๋อด้วยสายตาเย็นชา “เธอเป็นคนทำใช่ไหม”
รอยนิ้วมือนั้นเรียวยาว ดูไม่เหมือนมือผู้ชาย
หญิงสาวในชุดรัดรูปสีชมพูตกใจเมื่อเห็นเขา และยิ่งนึกถึงข่าวซุบซิบระหว่างเขากับเฉียวเมียนเมียน ทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมา
ตอนนี้เขาดูเหมือนจะอยู่ข้างเฉียวเมียนเมียน ใบหน้าของเธอซีดลง เธอพูดด้วยความกลัวปรากฎในแววตา “ฉะ-ฉันตบเธอเอง ก็เธอไร้ยางอาย ยั่วยวนผู้ชายของคนอื่น ฉะ-ฉันตบเธอไม่ได้หรือยังไง”
“นะ-นายน้อยกง คุณรู้จักดาราคนนี้ใช่ไหมคะ นายน้อยกงจะเข้าข้างเธอเหรอคะ?”
“เธอทำสินะ? ดีมาก” กงเซลีมองไปที่หญิงสาวคนนั้นและยิ้ม
รอยยิ้มของเขาทำให้หญิงสาววิตกกังวลและหวาดกลัวมากขึ้น
เพียะ!
หลังจากที่กงเซลีตบหน้าเธอ หญิงสาวล้มลงไปกองอยู่ทีพท้น ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ต่างอ้าปากค้าง
หญิงสาวที่ล้มลงกองกับพื้น ยังไม่หายตกใจ
ซูเจ๋อมองกงเซลีด้วยความตกใจ เขาไม่อยากเชื่อเลย ว่าเขาจะกล้าทำอะไรแบบนี้ในที่สาธารณะ
และอีกฝ่ายยังเป็นผู้หญิงด้วย
กงเซลีทำหน้าตายในขณะที่ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว และหยุดยืนอยู่ข้างผู้หญิงคนนั้น
เขาก้มลงมองผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างเท้าของเขา
แววตาไร้ซึ่งความอบอุ่น “นี่สำหรับเธอ คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้กล้าแตะต้องเธอ”
หญิงสาวตกตะลึงที่ถูกเขาตบ
เธอแทบจะเป็นลม
ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว มุมปากเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าด้านข้างบวมออกมาให้เห็น
เธอเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง “นายน้อยกง คุณทำร้ายผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง”
“ตบผู้หญิงงั้นเหรอ?” กงเซลีเยาะเย้ย เขามองดูเธออย่างเย็นชาและกล่าวว่า
“คุณไม่ได้ตบผู้หญิงอื่นต่อหน้าคนอื่นเหรอ ในสายตาของฉัน ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรทั้งนั้น ฉันไม่สนว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าคุณทำอะไรให้ฉันไม่พอใจ ยังไงฉันก็จะฆ่าคุณอยู่ดี”
“เมื่อกี้ได้ยินว่า สามารถจัดการเธอได้ง่าย ๆ นี่?” รองเท้าหนังสีดำวาวของเขาเหยียบพื้นเบา ๆ ขณะที่เขาถามอย่างสบาย ๆ แต่สายตาฉายแววชั่วร้าย ทำให้หญิงสาวตัวสั่นด้วยความกลัว
ในหมู่กลุ่มชนชั้นสูง ต่างรู้ว่านายน้อยตระกูลกงคนนี้มีอาการป่วย
อาการป่วยของเขาน่ากลัวเสียจนเมื่อโกรธจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
เธอได้ยินว่าตอนที่เขาโกรธ อาการป่วยของเขาจะถูกจุดขึ้นโดยง่าย
และเมื่ออาการป่วยของเขากำเริบ กระทั่งเริ่มโมโห แม้จะฆ่าคนไม่ได้ แต่ก็ทำให้คนอื่นพิการได้เลยทีเดียว
หญิงสาวกลัว “นะ-นายน้อยกง ฉันแค่พูดไปอย่างนั้นเองค่ะ”
“อ้อ พูดไปอย่างนั้นเองเหรอ ก็ไม่รู้สินะ แต่สำหรับฉัน จะจัดการคนอย่างคุณเป็นเรื่องที่ง่ายมากเลย” กงเซลีมองดูเธอด้วยความรังเกียจและเดินไปทางเฉียวเมียนเมียน
เขามองไปที่แก้มที่บวมของเฉียวเมียนเมียน พร้อมกับขมวดคิ้ว หัวใจของเขาปวดร้าว ทว่าไม่สามารถแสดงออกมาได้ “ฉันช่วยเธอตบคืนแล้ว ถ้ายังไม่พอใจ เธอจะตบด้วยตัวเองอีกครั้งก็ได้”
“รับรองได้ ว่าหล่อนไม่กล้าตอบโต้เธอหรอก”
เฉียวเมียนเมียนมองดูเขาอย่างว่างเปล่าอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “นายน้อยกง คุณ...”
เธอไม่คิดว่ากงเซลีจะปรากฎตัวในเวลาแบบนี้
และเขายังช่วยเธอตบผู้หญิงคนนั้นด้วย
เขาเข้ามาช่วยเธอ?
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ดี ขนาดที่เขาจะเข้ามาช่วยเธอเช่นนี้ได้
เฉียวเมียนเมียนขมวดคิ้ว ขณะที่เธอคิดถึงข่าวซุบซิบอื่นที่อาจจะตามมา
หากเป็นอย่างนั้นคงยากที่จะจัดการ
ถ้าครั้งแรกมีเรื่องซุบซิบเกิดขึ้นแล้ว ครั้งที่ยังมีข่าวออกมาอีก และยังมีครั้งต่อ ๆ ไป
โดยเฉพาะกับกงเซลี เขาดูเหมือนไม่ใช่คนที่จะเข้ามายุ่งวุ่นวาย
ถ้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ เขาจะยืนอยู่ข้างเธอครั้งแล้วครั้งเล่าเหรอ?
แม้แต่เธอเองยังไม่เข้าใจ นับประสาอะไรกับคนอื่น
เฉียวเมียนเมียนไม่แน่ใจว่ากลุ่มคนที่ยืนมุงดูอยู่จะจำเธอได้หรือเปล่า
หญิงสาวคนนั้นตะโกนชื่อเธอออกมาเสียงดังอย่างตั้งใจ เธอสงสัยว่าจะมีคนรู้จักเธอหรือไม่
“ที่ทำไปก็เพราะอาซื่อ ฉันจะยอมให้คนอื่นรังแกเธอได้ยังไง” กงเซลีรู้สึกผิดเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทางสับสนของเธอ
เขาไม่กล้าสบตาเธอ
เขากลัวว่าเธอจะอ่านใจเขาออก
ดังนั้นเขาจึงให้ความสัมพันธ์ของเขากับเหมาเยซื่อมาเป็นข้ออ้าง
แต่เขารู้ดีว่าทำไม เขาถึงได้ช่วยเธอ
ความช่วยเหลือที่เขาให้เธอ ไม่เกี่ยวอะไรกับเหมาเยซื่อ
การที่เขาช่วยเธอ นั้นเป็นความลับ
ความลับที่มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่รู้
เฉียวเมียนเมียนตกตะลึงอีกครู่หนึ่งก่อนที่ความสับสนในดวงตาจะสลายไป
นั่นคงเป็นความจริง
แม้ว่าเธอจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับกงเซลีมากนัก แต่เขากับเหมาเยซื่อเป็นเพื่อนสนิทกัน
เมื่อเห็นภรรยาของพี่ชายถูกรังแก จะให้เพิกเฉยได้อย่างไร
แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเธอก็ตาม
เมื่ออยู่ในจุดนี้ เขาคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้าวเข้ามาช่วยเหลือ
“ขอบคุณคะคุณกง” เฉียวเมียนเมียนต้องการตบคืน แต่เพราะกงเซลีได้ตบคืนแทนเธอแล้ว เธอจึงไม่อยากทำอะไรอีก
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงคนนั้นก็กลัวกงเซลีจนตัวสั่น
กงเซลีขมวดคิ้วเมื่อเธอขอบคุณเขา
ท่าทางสุภาพและเว้นระยะห่างของเธอ ทำให้เขาไม่สบายใจนัก
เขารู้สึกได้ว่าเธอจงใจรักษาระยะห่างจากเขา
คงเป็นเพราะข่าวลือระหว่างเขากับเธอล่ะมั้ง
หรือเป็นเพราะก่อนหน้านี้ เขาปฏิบัติกับเธอแย่เกินไป และสร้างความรู้สึกแย่ ๆ ไว้กับเธอ ทำให้เธอไม่อยากเข้าใกล้เขามากเกินไป?
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันก็เพียงพอที่จะทำให้กงเซลีอารมณ์เสีย
เขาเต็มไปด้วยความเสียใจ
ทำไมก่อนหน้านี้ เขาไมปฏิบัติกับเฉียวเมียนเมียนให้ดีกว่านี้?
ตอนนี้เขารู้ความจริงแล้ว เขาต้องการที่จะปฏิบัติต่อเธออย่างดีและชดเชยให้กับเธอ แต่ดูเหมือนว่าเขาคงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว
คงยากที่จะได้เป็นเพื่อนกับเธอ
“ไม่มีอะไรที่ต้องขอบคุณหรอก” กงเซลีอารมณ์เสียอยู่บ้าง เขามองไปรอบ ๆ และถามอย่างไม่เป็นทางการว่า “อาซื่อล่ะอยู่ไหน? เขาไม่ได้อยู่กับคุณหรอกเหรอ?”
“ค่ะ ฉันออกมาทานข้าวกับเพื่อน เพิ่งทานข้าวเสร็จ อีกเดี๋ยวเขาก็คงจะมารับแล้วล่ะค่ะ”