857-858
1/10
• เปลี่ยนจาก ‘ตระกูลฉือ’ เป็น ‘ตระกูลจื่อ’
Ep.857
“ผู้อาวุโส ได้โปรดไว้ชีวิต! ตระกูลจื่อของเรายินดีชดใช้ด้วยราคาที่ท่านพอใจ!”
ชายไว้หนวดตระหนักดี ว่าถ้าอยากรอดชีวิต มีวิธีเดียวที่ทำได้ นั่นคืออ้อนวอนขอให้ซูเฉินให้อภัย
“แต่ถ้าฉันทำลายตระกูลจื่อของพวกแก ทุกอย่างไม่ใช่ว่าจะตกเป็นของฉันอยู่ดีหรือ?”
ซูเฉินหัวเราะหยัน ก้าวเข้าหาชายไว้หนวดอย่างช้าๆ
“ผู้อาวุโส ท่านไม่อาจสังหารข้า ตระกูลจื่อของพวกเรามีบรรพชนระดับเทวะเช่นกัน!”
เมื่อเห็นซูเฉินไม่คล้อยตาม ชายไว้หนวดยกอ้างบรรพชน ความปรารถนาที่จะรอดชีวิตนั้นรุนแรงมาก
ซูเฉินยิ้มมุมปาก “อ้อจริงสิ ลืมบอกไป ว่าฉันชอบฆ่าพวกระดับเทวะมากที่สุด!”
“…”
ได้ยินแบบนั้น ชายไว้หนวดตะลึงงันตัวแข็งทื่อ
ซูเฉินไม่ปล่อยให้เขาพล่ามอีก ก้าวไปข้างหน้า ก่อนกระทืบด้วยเท้าเพียงข้างเดียว ทิ้งน้ำหนักส่งทั้งตัวเองและจานบินดิ่งลงสู่เบื้องล่าง
วินาทีถัดมา ซูเฉินส่งชายไว้หนวดถึงที่หมาย บังเกิดเสียงตูม! ดังสนั่น พื้นดินโดนเหยียบจมเป็นปล่องลึก และชายไว้หนวดที่อยู่ก้นปล่อง เวลานี้กลายสภาพเป็นเนื้อบด ตายชนิดที่ว่าคงไม่สามารถตายได้อีก
หลังจากนั้น ซูเฉินส่งสัญญาณให้อู๋หยาจื่อและคนอื่นๆลงจากรถ พร้อมเปิด [มิติสันโดษ] เรียกพวกกู่เทียนฮวาออกมา บุกโจมตีเมืองเทียนกวง
ใครก็ตามที่ขวางหน้า ล้วนถูกพวกเขาสังหารอย่างไร้ปราณี
หลังจากสร้างหายนะในเมืองเทียนกวง พวกซูเฉินกวาดทรัพย์ไปได้มากมาย
ก่อนที่พวกเขาจะถูกส่งกลับเข้า [มิติสันโดษ] เหลิงมู่เย่ทอดถอนหายใจด้วยอารมณ์ “ไม่น่าแปลกใจเลย ว่าทำไมศิษย์น้องซูถึงร่ำรวยนัก!”
คนอื่นๆก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ทั้งหมดพยักหน้าเห็นด้วย
หากเป็นผู้อื่น มากสุดอาจทำแค่ลอกคราบทั้งตระกูล แต่ซูเฉินเลือกปล้นทั้งเมือง แล้วแบบนี้เขาจะไม่ร่ำรวยได้อย่างไร?
…
ออกจากเมืองเทียนกวง [รถศึกอัจฉริยะ] บินมาทั้งวัน ลอยลำจนมาถึงตลาดขนาดใหญ่ นกสำรวจก็เจอของดีอีกครั้ง
“เจ้านาย มีหัวใจจักรกลอยู่ข้างล่าง!” นกสำรวจตะโกนด้วยความตื่นเต้น
หัวใจจักรกล!
ซูเฉินรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
สิ่งเดียวที่เขาขาดแคลนตอนนี้คือหัวใจจักรกล มันเป็นสมบัติที่ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน
“เสี่ยวจือ ลงจอด!”
ซูเฉินออกคำสั่งทันที เนื่องจากมีหัวใจจักรกลปรากฏขึ้นในตลาด แน่นอนว่าเขาต้องลงไปรับมันมา
เดิมที เขาตั้งใจจะไปคนเดียว แต่ฉีมู่เสวี่ยกับฉีมู่อวี้ต้องการติดตามไปด้วย พวกเธออาศัยอยู่ในมิติภายนอก นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นตลาดใหญ่แบบนี้ เลยอยากจะลองเที่ยวเล่นดู
“ถ้าได้หัวใจจักรกลแล้ว พวกเราจะกลับกันทันที ไม่เสียเวลาอยู่ต่อ” ซูเฉินเตือนก่อนก้าวลงจากรถ
“วางใจเถอะ ข้าจะไม่สร้างปัญหาให้เจ้าแน่นอน”
ฉีมู่อวี้สัญญา เดินตามซูเฉินไปติดๆ
ตลาดใหญ่เช่นนี้ ที่ราบเทียนชางบนเกาะเฉียนหยูก็มีอยู่ที่หนึ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับที่นี่แล้ว เห็นได้ชัดว่าฝ่ายหลังใหญ่โตกว่ามาก ของที่ขายก็เยอะกว่าเช่นกัน และยังมีคุณภาพดีกว่า
ซูเฉินไม่สนใจสมบัติชิ้นอื่น ภายใต้การนำทางของนกสำรวจ เขาเดินตรงไปยังร้านค้า
ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงร้านขายแร่แห่งหนึ่ง ในร้านนี้จัดวางแร่ไว้หลายชนิด และบางส่วนซูเฉินยังเคยเห็นพวกมันมาก่อน
“สหายทั้งหลาย ไม่ทราบพวกท่านสนใจแร่ก้อนไหน?” เถ้าแก่ร้านทักทายอย่างกระตือรือร้น
ซูเฉินกวาดสายตามองอย่างตั้งใจ แต่ก็ไม่พบหัวใจจักรกล เลยหันไปถามนกสำรวจ “เสี่ยวซุ่น เป็นแร่ชิ้นไหน?”
นกสำรวจยื่นอุ้งเท้า ชี้ไปทางแร่สีดำขนาดเท่าหินโม่ “เจ้านาย มันอยู่ข้างในแร่ก้อนนั้น”
ซูเฉินเลิกคิ้ว หันไปพูดกับเจ้าของร้านอย่างใจเย็นว่า “แร่สีดำนั่นราคาเท่าไหร่?”
ขณะที่เถ้าแก่กำลังจะตอบ จู่ๆก็มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาตรงเข้ามาหาเขา ชายคนนี้เมื่อเห็นนกสำรวจ ดวงตาก็เป็นประกาย พูดกับซูเฉินว่า
“เฮ้สหาย นายช่วยขายสัตว์เลี้ยงวิญญาณตัวนี้ให้ฉันจะได้ไหม? เรื่องราคาต่อรองกันได้!”
2/10
Ep.858
ซูเฉินกวาดสายตามองชายหนุ่มหล่อเหลา กล่าวเสียงเย็น “ไม่ขาย”
นกสำรวจไม่ได้เป็นแค่สัตว์อสูรขั้น 8 เท่านั้น แต่มันยังมีความสามารถในการคาดการณ์อันตรายและตรวจจับสมบัติ คงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะขายมัน
ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของชายหนุ่มหล่อพลันหมองลง กล่าวอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “นายจะไม่ลองคิดดูอีกทีหรอ? จะแลกกับอะไรก็ได้ พูดสิ่งที่นายต้องการออกมาเลย!”
“ไสหัวไป!” ซูเฉินกระชากเสียงเย็น พร้อมปลดปล่อยแรงกดดันออกมาเบาๆ ผลักชายหนุ่มหล่อเหลาถอยออกไปหลายก้าวอย่างไม่ใยดี
“นี่แก ..!”
ใบหน้าของชายหนุ่มหล่อเหลาเปลี่ยนเป็นสีแดง เขียว ตามด้วยขาว มุมปากกระตุกไม่หยุด
ทว่าแม้ความโกรธในใจเขาจะลุกโชนถึงขีดสุดแล้ว แต่เจ้าตัวก็ทราบว่าซูเฉินคือยอดฝีมือ จึงไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมามากกว่านี้
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ได้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมากทันที หลายคนเริ่มมามุงดู พากันกระซิบกระซาบ
“เจ้าเด็กนั่นบ้าไปแล้ว เขากล้าดียังถึงตวาดด่าเซียวหยู ไม่กลัวตายเลยหรือ?”
“คงเป็นคนนอกแน่ๆ เลยไม่รู้ถึงภูมิหลังของเซียวหยู แต่ในเมื่อเขาล่วงเกินเซียวหยูแล้ว น่ากลัวว่าคงไม่รอดไปจากที่นี่”
“พ่อของเซียวหยู –เซียวเฟยก็อยู่ในตลาดเหมือนกัน เขาน่าจะมาถึงในเร็วๆนี้ เจ้าหนุ่มนั่นคงอยู่ได้อีกไม่นาน”
ซูเฉินคือผู้ฝึกตนขั้น 10 ดังนั้นสัมผัสในการได้ยินของเขาจึงเฉียบแหลมมาก บทสนทนารอบด้าน แว่วมาถึงหูเขาทุกประโยค
อย่างไรก็ตาม เขาทำเป็นหูทวนลม กล่าวกับเถ้าแก่ร้านว่า “ฉันต้องการแร่ก้อนนั้น มันราคากี่หินพลังงาน?”
แต่ในเวลานั้นเอง เซียวหยูหันไปส่งสายตาให้เถ้าแก่ร้าน ฝ่ายหลังเข้าใจทันที หัวเราะและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แร่ชิ้นนี้เป็นสมบัติของร้านเรา ต่อให้จ่ายเป็นหินพลังงานจำนวนมากก็ไม่สามารถซื้อได้ แต่ถ้าคุณชายอยากซื้อจริงๆ สามารถใช้สัตว์เลี้ยงวิญญาณแลกเปลี่ยนได้ แล้วฉันจะยอมตัดใจปล่อยมือจากมัน”
ซูเฉินหรี่ตาลง หันไปจ้องเถ้าแก่ร้าน ก่อนสลับมองเซียวหยูอีกครั้ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาราวกับน้ำแข็ง “แกเป็นคนสั่งให้เขาพูดแบบนี้ใช่ไหม? คงอยากตายจริงๆสินะ?”
สายตาที่ซูเฉินกวาดมองมา เล่นเอาเซียวหยูรู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัว แต่ก็ยังกัดฟันและพูดว่า “เจ้าหนู แกรู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร? กล้าดียังไงมาขู่ฉัน?”
ซูเฉินหัวเราะ หันไปสั่งฉีมู่เสวี่ยว่า “มอบบทเรียนให้เขา! เอาแบบให้รู้สึกว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป!”
ฉีมู่เสวี่ยไม่คิดอะไรมาก ย่างสาวขุมไปเบื้องหน้าและเริ่มทุบตีเซียวหยู
ด้วยฐานะผู้ฝึกตนขั้น 10 ต่อให้ออมแรงก็ต้องเผลอพลั้งมือไปบ้าง หักกระดูกเซียวหยูไปกว่าครึ่งร่างในลมหายใจเดียว จากนั้นลากเขาในสภาพไม่ต่างจากสุนัขตายมาอยู่แทบเท้าซูเฉิน
ได้เห็นฉากนี้ ฝูงชนรอบข้างต่างตกตะลึงจนอธิบายไม่ถูก
เซียวหยูคือผู้ฝึกตนขั้น 6 แต่ยามตกอยู่ในมือของฉีมู่เสวี่ยกลับไร้เรี่ยวแรงขัดขืน นี่แสดงให้เห็นว่าฉีมู่เสวี่ยต้องมีฐานฝึกตนขั้น 7 ขึ้นไป
“แต่แข็งแกร่งแล้วไง? สาวน้อยคนนั้นคงไม่รอดแล้ว ทำตัวเองแท้ๆ” บางคนทอดถอนหายใจด้วยอารมณ์
พ่อของเซียวหยู –เซียวเฟยคือผู้ฝึกตนขั้น 10 ทั้งยังเป็นพวกหวงลูกเป็นอย่างมาก
ลูกชายของเขาถูกทุบตีต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้ คนอย่างเขามีหรือจะยอมอยู่เฉย
ทุกคนในที่นี่เห็นพ้องต้องกัน ว่าซูเฉินและอีกสองคนไม่น่ารอด คงถูกทรมานจนกว่าจะตาย
“พวกแกรอฉันก่อนเถอะ! พ่อของฉันจะไม่มีวันปล่อยพวกแกไป!”
ถูกทุบตีและทำให้อับอายต่อหน้าสาธารณะ เซียวหยูโกรธเกรี้ยวถึงขีดสุด ตะโกนเสียงดังใส่ซูเฉิน
ซูเฉินปลดปล่อยพลังแห่งจิตวิญญาณ เซียวหยูหายใจไม่ออกทันที
จากนั้น เขามองไปทางฉีมู่เสวี่ย เผยรอยยิ้มจางๆ “ทำได้ไม่เลว คุ้มค่าที่จะฝึกอย่างจริงจัง”
ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของฉีมู่เสวี่ยกลายเป็นไม่น่าดูนัก ตอนที่เธอลงมือเมื่อครู่ ยังไม่รู้สึกอะไร แต่หลังจากลงมือเสร็จก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ–
–ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอเชื่อฟังคำสั่งของซูเฉิน?
ซูเฉินบอกให้ทำเธอก็ทำทุกอย่างที่เขาต้องการงั้นหรือ? นี่มันเหมือนกับว่าเธอได้กลายเป็นน้องเล็กของซูเฉินเลย
“ให้ตายเถอะ!”
ฉีมู่เสวี่ยร่ำร้องในใจ