ตอนที่แล้วบทที่ 3: เอ้อเหลิงจื่อ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5: คุณคือเสี่ยวหวางใช่ไหมครับ?

บทที่ 4: สูเว่าอิหยัง


เอ้อเหลิงจื่อนั่งอยู่ตรงหน้าเจียงเหอ  มันอ้าปากเล็กน้อยเผยให้เห็นลิ้นสีแดงยาวห้อยลงมา

ด้วยความที่เป็นหมาล่าเนื้อ  มันจึงดูเหมือนหมาป่าที่มีขนสีดำเป็นส่วนใหญ่  ขนบริเวณท้องและเท้ามีสีน้ำตาลและมีสีขาวอยู่ใต้คอ  มันดูหล่อเหลาและสง่างามมาก

เราไม่ค่อยเห็นหมาล่าเนื้อในเมืองต่าง ๆ เนื่องจากรูปลักษณ์ที่ดุร้ายและความใหญ่โตของพวกมันไม่เหมาะที่จะให้เป็นสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน  ส่วนใหญ่แล้วจะพบได้ทั่วไปในแถบชนบท  เนื่องจากมันเหมาะที่จะเลี้ยงเป็นหมาเฝ้าบ้านมากกว่า

“เอ่อ…”

เจียงเหอผง่ะและฉายแสงมือถือของเขาไปทางเจ้าหมา “เอ็งมาทำอะไรดึก ๆ ดื่น ๆ แถวนี้วะ  เอ้อเหลิงจื่อ”

แสงนั้นค่อนข้างสลัว

เอ้อเหลิงจื่อเอียงศีรษะมองไปที่เจียงเหอขณะกระดิกหางไปด้วย

ในภาษาสุนัข  นั่นหมายถึงการแสดงอาการประจบสอพลอ  ซึ่งทำให้เจียงเหออดหัวเราะไม่ได้ “ไอ้หมาเจ้าเล่ห์  ที่เอ็งมานี่เพราะอยากกินแตงกวาล่ะสิ”

โฮ่ง หงิง ๆ…

เอ้อเหลิงจื่อครวญเสียงแล้วพยักหน้าจริง ๆ ซะงั้น

"เอ่อ…"

เจียงเหอเกือบจะล้มลงทั้งยืน

ถ้าเอ้อเหลิงจื่อแสดงความฉลาดโดยกระดิกหางประจบสอพลอเขาก็พอจะเข้าใจเพราะเป็นเรื่องธรรมดา  แต่นี่มันดันพยักหน้าให้ด้วยนี่สิ  ไม่ใช่แค่ฉลาดธรรมดาแล้วมันออกจะน่ากลัวไปหน่อยไหมวะ?

'ไอ้หมานี่เอาจริงดิ?'

นั่นคือความคิดแรกของเจียงเหอแต่ในไม่ช้าเขาก็นึกได้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง

“การฟื้นคืนของพลังวิญญาณช่วยให้สัตว์สามารถบรรลุศักยภาพที่เหนือชั้นกว่าเดิมงั้นรึ?  เอ้อเหลิงจื่อก็คงจะเป็นไปในทำนองเดียวกัน”

“เดี๋ยวสิ  ถ้าเอ้อเหลิงจื่อมันฉลาดขึ้นเพราะพลังวิญญาณจริง ๆ มันคงไม่กินเนื้อที่ตูวางยาเบื่อหนูไม่ใช่เหรอ  หรือว่าจะฉลาดขึ้นหลังจากที่มันกินแตงกวาของตูวะ”

เจียงเหอ หรี่ตามองจนเอ้อเหลิงจื่อที่ถูกมองรู้สึกหนาวสะท้าน

มันปั้นหน้าบ้องแบ๊วราวกับกำลังพูดว่า 'มองกระผมทำไมฮัฟ?'

“จะขอถามอะไรเอ็งซักสองสามข้อนะ  ถ้าใช่ให้พยักหน้าถ้าไม่ใช่ให้ส่ายหัว  โอเค้?”

โฮ่ง!

เอ้อเหลิงจื่อพยักหน้า

“เอ็งฉลาดขึ้นเพราะกินแตงกวานั่นรึเปล่า?”

เอ้อเหลิงจื่อพยักหน้าแล้วส่ายหัว

“…”

เจียงเหอทำหน้าบึ้ง  แต่ในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง  เอ้อเหลิงจื่อก็ทรุดตัวลงกับพื้น  ขาทั้งสี่ของมันกระตุกในขณะที่มีน้ำลายฟูมปาก  และครางอยู่หลายครั้ง

เจียงเหอเข้าใจทันที

“เอ็งจะบอกว่ายาเบื่อหนูก็เกี่ยวด้วยเหรอ”

เอ้อเหลิงจื่อลุกกลับมานั่งอีกครั้งและพยักหน้าให้เจียงเหอ

เจียงเหอคิดใคร่ครวญ

“มันจะเหมือนกับหมารองหลี่ไหมที่มีอาการป่วยเป็นตัวกระตุ้น?”

“เดี๋ยวก่อน  อย่างนี้นี่เอง!”

“ผลของแตงกวาคือการดีท็อกซ์  คลายความร้อน  เสริมสร้างสมองและทำให้เส้นประสาทสงบลง  พูดง่าย ๆ ก็คือ  การดีท็อกซ์และกำจัดความร้อนหมายถึงการรักษาพิษทั้งหมด  ในขณะที่การเสริมสร้างสมองและทำให้เส้นประสาทสงบลงหมายถึงการส่งเสริมจิตใจ  สุนัขเป็นสัตว์ที่ฉลาดตั้งแต่แรก  หลังการฝึกแล้วพวกมันสามารถเล่นสเก็ตบอร์ด  เข็นรถเข็นหรือไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตเพียงลำพัง  ดังนั้นหลังจากที่เอ้อเหลิงจื่อถูกพิษกระตุ้นและกินแตงกวา  ความฉลาดของมันก็ถูกปลดปล่อยออกมา  ที่ตอนนี้มันฉลาดขึ้นนี่มันก็สมเหตุสมผลอยู่”

แสงแห่งปัญญาสาดส่องในจิตใจของเจียงเหอหลังจากดูเอ้อเหลิงจื่ออยู่นาน

ในอนาคตเขาจะปลูกพืชผลมากขึ้นอย่างแน่นอนซึ่งจำเป็นต้องมีการวิจัยในบ้านนี้  ซึ่งตัวทดลองที่ดีที่สุดและไม่มีอะไรมาแทนได้ในตอนนี้ก็คือเจ้าหมายักษ์เอ้อเหลิงจื่อตัวนี้นี่แหล่ะ

ยิ่งกว่านั้นเรื่องที่ว่าแตงกวาจากระบบรักษาพิษได้จริงหรือไม่นั้นยังต้องทดสอบต่ออีกด้วย

เจียงเหอยิ้มกว้างพลางเอื้อมมือไปลูบหัวเอ้อเหลิงจื่อ “อืม  ในเมื่อเอ็งชอบแตงกวาของตูมากขนาดนั้น  ต่อจากนี้ไปเอ็งจะอยู่ที่นี่ก็ได้นะเอ้อเหลิงจื่อ”

โฮ่ง!

เอ้อเหลิงจื่อเห่าออกมาแล้วหันหันหลังหนีไป  หูของมันก็ตกลงและมันคอยหันกลับมามองเจียงเหอ  มันวิ่งไปด้วยแล้วหันกลับมามองเจียงเหออย่างระแวดระวังไปด้วย

“ไอ้หมานี่มันรู้เหรอว่าตูจะจับมันทำเป็นหนูลองยา?”

เจียงเหอหัวเราะแห้ง ๆ และหยิบไม้ที่อยู่ใกล้ตัวขึ้นมาชี้ด้วยรอยยิ้มที่มืดมน “กินแตงกวาของตูแล้วคิดจะชักดาบเหรอ?  ถ้าเอ็งยังหนีอยู่อีกตูจะตีเอ็งให้ขาหักเลย!”

เอ้อเหลิงจื่อหันกลับมาและวิ่งกลับมาหาเขา

ในทางกลับกันเจียงเหอได้ควักแตงกวาออกมา  หักหนึ่งในสามส่วนแล้วโยนให้เอ้อเหลิงจื่อและพูดว่า “เฝ้าที่นี่ให้ดี  นี่อาจเป็นโชคดีของเอ็งก็ได้  มีตำนานกล่าวถึงจักรพรรดิดำว่าเป็นราชาแห่งสุนัขทั้งมวลที่เคยปกครองท้องฟ้ามหาสมุทร  เอ็งอาจได้เป็นตัวต่อไปก็เป็นได้นา”

ดวงตาของเอ้อเหลิงจื่อเป็นประกายขณะที่มันกลืนแตงกวาลงท้อง

(⊙o⊙)…

น่าหมั่นใส้จริง ๆ ว่ะ!

'ถ้ามันได้เป็นราชาสุนัข  ควรตั้งชื่ออะไรให้มันดีล่ะ?'

'เอ่อ...'

เจียงเหอเฝ้าดูเจ้าหมาที่ยิ้มอย่างโง่เขลาและพึมพำเงียบ ๆ ว่ามันได้รับภูมิปัญญาของมนุษย์จริง ๆ ด้วย  ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่า

“ถ้าเกิดผู้ใหญ่บ้านแกรู้ว่าตูลักพาตัวหมาของแกมา  แล้วแกจะโกรธตูไหมหว่า?”

***

เมื่อกลับไปที่ห้อง  เจียงเหอหยิบมือถือขึ้นมาและเรียกดูวิดีโอและโพสต์ที่เกี่ยวข้องบนเว็บ

แต่ก็เหมือนเมื่อเดิม  วิดีโอและโพสต์จำนวนมากเป็นหน้า 404 ทันทีที่เปิด

ยังคงมีโพสต์หนึ่งที่ทำให้เขาสนใจ

[พบฝูงหมาป่าใกล้ภูต้าตงแพะของชาวนากว่า 300 ตัว ตายเรียบ…]

เจียงเหอรู้ว่าภูต้าตงนั้นอยู่ห่างจากหลิงโจวสามร้อยลี้  อยู่ในตำบลยู่หวัง  อำเภอถงซิน  มลรัฐหลิงโจวและเชื่อมต่องกับภูเขาหวงถู่  เกษตรกรที่อาศัยอยู่ที่ภูต้าตงได้  “อพยพเพื่อรักษาระบบนิเวศ” ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา  โดยย้ายหมู่บ้านทั้งหมดออกไปที่เมืองในอำเภอใกล้เคียง  สิ่งที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่คือฟาร์มแพะ

ปรากฏภาพกลางคืนอันมืดมิดบนภูเขา  หมาป่าตัวมหึมาที่ใหญ่กว่าวัวกำลังหอนไปที่ดวงจันทร์

ไม่น่าแปลกใจเลยที่วิดีโอดังกล่าวต้องถูกระงับ  คอมเม้นท์ในฟอร์รัมก็ถูกลบไป

เจียงเหอรู้สึกถึงวิกฤติแปลก ๆ บอกไม่ถูก  นอกจากนั้นความแข็งแกร่งที่หมารองหลี่แสดงนั้นไม่ใช่สิ่งที่กึ่ง ๆ ผู้ฝึกยุทธอย่างเขาสามารถเทียบได้

“คนที่ตื่นขึ้นนี่… น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอวะ?”

“วิธีฝึกฝนของตูคือ… กินแตงกวาเพื่อเสริมแกร่ง  นี่มันใช่วิธีที่คนปกติเขาทำกันไหมวะเนี่ย?”

เจียงเหอเอาแต่คิดวุ่นวายจนนอนไม่หลับ  กว่าจะหลับเวลาก็ล่วงเลยไปถึงตีหนึ่งแล้ว

***

ในเวลาเดียวกัน  บนถนนลาดยางที่ตรงขึ้นไปบนภูเขาทางตะวันออกของหมู่บ้านจินยินถาน

ถึงจะเรียกว่า 'ภูเขา' แต่ก็เป็นเพียงที่ราบสูงที่สูงกว่าหมู่บ้านเล็กน้อย  หมู่บ้านจินยินถานนั้นอยู่ใกล้กับตัวเมืองของเสฉวน  ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบซึ่งค่อนข้างจะแตกต่างไปจากหุบเขาของภูเขาหวงถู่

บนภูเขามีสถานที่เพาะปลูกมากมาย  ส่วนใหญ่จะเป็นทุ่งข้าวโพด  ในทุ่งข้าวโพดนั้นมีแสงไฟสว่างและมีรถบรรทุกวิ่งสวนกันเข้าออกตลอดเวลา

ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม  ข้าวโพดในนาส่วนใหญ่สุกแล้ว  เป็นภาพที่น่ายินดีที่ได้เห็นซังข้าวโพดม้วนกองอยู่บนพื้น  ในช่วงนี้สหกรณ์พ่อพันธุ์แม่พันธุ์กลายเป็น “เขตสงวนสีเขียว”  ที่เรียกแบบนี้เพราะว่าจะใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยวผลผลิต  และบดซังข้าวโพดเพื่อหมักเป็นอาหารสัตว์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่ทุ่งเลย  ทำให้ต้นทุนต่ำและเก็บรักษาได้ตลอดปี

“แม่มันสิ! ทำไมสุดยอดไลฟ์สดของตูถึงบินไปแล้วล่ะวะ?”

รถ BMW คันหนึ่งจอดอยู่ใกล้ทุ่งนาแห่งหนึ่ง  และหมารองหลี่ก็ก่นด่าออกมาขณะที่ลงจากรถ  เขาได้ลงนามในข้อตกลงกับทุ่งนาพันหมู่ที่อยู่ใกล้เคียง  โดยทุก ๆ ข้าวโพดในนาจะถูกส่งไปยังฟาร์มของเขาทุกปี

หมารองหลี่ยุ่งกับการทำงานในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา  และต้องทำงานล่วงเวลาหลายคืน

แต่ว่าทันทีที่เขาลงจากรถ  เขาก็เห็นว่ามีรถ MPV สีดำขวางทางอยู่

มีผู้ชายสามคนและผู้หญิงหนึ่งคนลงจากรถมา

ผู้ชายทุกคนสวมชุดสีดำ  ส่วนผู้หญิงสวมชุดหนังรัดรูป  และมุ่งหน้าตรงมาที่หมารองหลี่   เธอหยิบหนังสือเล่มเล็ก ๆ สีแดงออกมาโชว์แล้วกล่าวว่า “เราคือทีมปฏิบัติการพิเศษของสำนังงานจัดการคดีพิเศษและความมั่นคงแห่งรัฐในมณฑลซีเซี่ย  คุณคือหลี่เอ้อโก่ว(หมารองหลี่)ใช่ไหม?”

“…”

หมารองหลี่ที่ตกตะลึงอยู่ก็ตอบไปด้วยสำเนียงซีเป่ยหนา ๆ ของเขาว่า “สูเว่าอิหยังนะ?  เว่าอีกทีซิ  ข่อยบ่อเข่าใจ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด