บทที่ 11: กายาวัชระคงกระพัน, ผู้ฝึกยุทธระดับสาม
“ในการฝึกฝนวรยุทธนั้นระดับ 1 – 3 เป็นการฝึกฝนร่างกาย ต้องเป็นระดับ 4 ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะฝึกฝนพลังลมปราณได้”
เจียงเหอพูดอะไรไม่ออก
'ระดับสี่เลยเหรอ?'
เขาคงจะต้องกินแตงกวาทั้งหมด 99 ลูก จึงจะไปถึงระดับนั้นได้
นี่หมายถึงแตงกวาสี่ลูกต่อวัน และแม้ว่าเขาจะบีบเค้นตัวเองและกินอีกวันละหนึ่งมื้อ ก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยยี่สิบวันเพื่อที่จะไปถึงระดับ 4
แต่ที่สำคัญที่สุด 'นี่ตูต้องกินแตงกวาทุกวัน—ใครมันจะไปทนไหวเล่า?'
“ว่าก็ว่าเถอะ สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรถือนี่เป็นกำลังใจที่ดี ในเมื่อสามารถเอามาปลูกได้ วรยุทธอื่น ๆ ก็มันก็ต้องทำได้เหมือนกันสิ”
ดังนั้นเจียงเหอจึงเริ่มเสิร์จไป่ตู้อีกครั้ง
ปรากฎว่าทุกอย่างตั้งแต่วิชาเก้าอิม, วิชาเก้าเอี้ยง, กระบี่บู๊ตึ๊ง ไปจนถึง สุดยอด 72 กระบวนท่าเส้าหลิน ล้วนมีทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ต ก็ไม่รู้หรอกว่าคนแบบไหนที่อัพโหลดของพวกนี้ ที่สำคัญคือแต่ละคนระบุกระบวนท่าการเคลื่อนไหว วิธีฝึกฝน และสิ่งจำเป็นทุกอย่าง
“แต่การฝึกฝนส่วนใหญ่เหล่านี้ต้องใช้ลมปราณในการออกกระบวนท่า นอกเหนือจากนี้ก็มีพวกวิชาที่การฝึกเข้มงวดถึงขั้นไร้เหตุผล”
และแล้ว ในที่สุดเจียงเหอก็ตัดสินใจเลือกวิชาวรยุทธที่เข้มงวดออกมาวิชาหนึ่ง : กายาวัชระคงกระพัน หนึ่งใน 72 สุดยอดวิชาของเส้าหลิน
“กายาวัชระคงกระพันไม่ได้ต้องการให้ฝึกฝนทั้งร่างกายทั้งภายนอกและภายใน แต่สามารถใช้ได้แม้ในกรณีที่ไม่มีพลังลมปราณ และเมื่อฝึกฝนสำเร็จหมายความว่าร่างกายของผู้ฝึกจะแกร่งกล้าดั่งเพชรที่ไม่ได้รับผลกระทบจากไฟหรือน้ำ…”
“มีทั้งหมดสิบสองขั้นการฝึกฝน : ตำแหน่งเริ่มต้น, ท่านั่งสมาธิ, ยกมือทั้งสองข้างขึ้น, ฝ่ามือล่างซ้ายถึงสะดือ, เหยียดฝ่ามือขวาด้วยนิ้วชี้ไปที่รูจมูก, นั่งยองเล็กน้อยในท่าม้า, วิญญาณสงบ, หายใจตามธรรมชาติ, มุ่งความสนใจไปที่ตันเถียน…”
ในที่สุดเจียงเหอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
มันตลกเกินไป
ชาวเน็ตที่อัปโหลดวิชาวรยุทธเหล่านี้ต้องมีแต่พวกเพี้ยน ๆ แน่ ๆ ต้นไม้เหี่ยวเฉายืดราก, ปราณซึมชับสู่ตันเถียน, อรหันต์ยกหม้อน้ำ, วัชระโกรธา... ทุกสิ่งทุกอย่างเขียนไว้อย่างชัดเจนเสียจนเจียงเหอรู้สึกเขินอายที่จะก๊อปปี้เลยแหล่ะ
***
ในขณะที่เจียงเหอกำลังก็อปกายาวัชระคงกระพันอยู่นั้น เขาก็ไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เพื่อรักษาความสงบในหมู่ประชาชนหลังจากการระเบิดอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ได้ออกแถลงการณ์อ้างว่ากองทัพอยู่ระหว่างการฝึกปฏิบัติการรบในจุดที่ไม่มีคนอาศัยอยู่บนภูต้าตง จึงไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก
แต่ว่าพลเมืองไม่ได้โง่เขลาขนาดที่จะใช้ข่าว สื่อ และนักข่าวมาปิดบัง
“การฝึกซ้อมแบบใดที่จำเป็นต้องมีการระเบิดขนาดนี้? ตามข้อมูลของฉัน แม้ว่าชาวบ้านที่อยู่ใกล้ภูต้าตง จะถูกย้ายไปที่อื่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีคนเลี้ยงแกะอยู่ในพื้นที่ การระเบิดรุนแรงเช่นนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยเหล่านั้นเลยหรือ?”
"นอกจากนี้…"
นักข่าวคนหนึ่งที่มีฝีปากกล้าพุ่งเป้าไปที่ผู้นำของสำนักงานความมั่นคงสาธารณะและองค์กรการปกครองส่วนภูมิภาคซึ่งดูเหมือนมีท่าทีสงบ แล้วถามว่า “เมื่อเร็วๆ นี้มีเหตุการณ์แปลกประหลาดมากมายเกิดขึ้นทั่วโลก โดยผู้เห็นเหตุการณ์อ้างว่าพบเห็นสัตว์ประหลาดในทะเลยาวกว่าพันเมตรในมหาสมุทรแปซิฟิก และลิงยักษ์ขนาดเท่าภูเขาในมหาสมุทรแอตแลนติก…”
ผู้นำไม่ตอบคำถามและเดินจากไปโดยเร็ว
***
หมู่บ้านจินยินถาน
“วุ้ย ~ ในที่สุดก็ก็อปกายาวัชระคงกระพันเสร็จจนได้!”
แล้วเขาก็ทำอย่างที่ทำ เจียงเหอขยำกระดาษที่เขาคัดลอกวิชากายาวัชระคงกระพันให้เป็นก้อนแล้วฝังมันลงในหลุมปลูกพร้อมกับปุ๋ยไนโตรเจนอีกเม็ด
ในไม่ช้าหน่อของต้นอ่อนก็งอกขึ้นมา
แต่ต่างจากสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร กิ่งก้านของกายาวัชระคงกระพันไม่มีดอกไม้ใด ๆ แต่กลับมีระฆังสีทองปรากฏบนกิ่งโล้นโล่งแต่ละกิ่ง
และในหนึ่งชั่วโมง ระฆังก็ขยายจากขนาดเท่าเล็บมือเป็นขนาดเท่าจานข้าว
เจียงเหอเด็ด 'ระฆัง' ออกจากกิ่งอย่างระมัดระวัง
[ติ๊ง!]
[ฟาร์มพอยท์ +100]
ในหัวของเขา มีการแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้น [ตรวจพบวิชาต่อสู้ระดับต่ำในผลผลิตของโฮสต์ ใช้ฟาร์มพอยท์ 500 แต้มเพื่อเรียนรู้หรือไม่?]
"เรียนรู้!"
[ฟาร์มพอยท์ -500]
วูม!
ทันใดนั้นระฆังสีทองในมือของเจียงเหอก็สั่นสะเทือน และกลายเป็นลำแสงสีทองที่ลอดเข้าไปในร่างกายของเขาในทันที ปล่อยให้จิตใจของเขามึนงงครู่หนึ่งในขณะที่ข้อมูลลึกลับและซับซ้อนหลั่งไหลเข้ามาในหัว
“นี่… นี่คือวิธีฝึกที่ถูกต้องของวิชากายาวัชระคงกระพันงั้นหรือ?”
เจียงเหอรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด
ภายในร่างกายของเขากล้ามเนื้อและกระดูกเกิดเสียงเลื่อนลั่นเปรี๊ยะ ๆ เหมือนกับเสียงข้าวโพดที่เอาไปทำป๊อบคอร์น ผิวหนัง โครงกระดูก กล้ามเนื้อ และความยืดหยุ่นของของร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วกระบวนการก็ได้ทั้งหมดหยุดลงหลังจากผ่านไปห้านาที
เจียงเหอเองก็อ้าปากค้าง
“นี่หมายความว่าตูได้ฝึกฝนวิชากายาวัชระคงกระพันสำเร็จแล้วหรือ?”
“ไม่ ยังฝึกฝนไม่สำเร็จ แต่ก็อยู่ในขั้นเริ่มต้นแล้ว”
“และที่สำคัญ…”
เขาเหลือบมองไปที่หน้าต่างระบบ
[ชื่อ: เจียงเหอ]
[การฝึกฝน : ระดับ 2 ขั้นสุดยอด]
[ความสามารถ : ไม่มี]
[วิชาฝึกฝน : กายาวัชระคงกระพัน (เริ่มต้น+)]
[ที่ดินที่เป็นเจ้าของ : 888 m²]
[ระดับฟาร์ม: เลเวล 1 (EXP 30/50)]
[กระเป๋าเก็บของ : 3 ช่อง]
[ร้านระบบ : ปลดล็อค]
[ฟาร์มพอยท์ : 163]
“กายาวัชระคงกระพันนี่ทำให้ตูพัฒนาจากกึ่ง ๆ ผู้ฝึกยุทธไปเป็นผู้ฝึกยุทธระดับ 2 ขั้นสุดยอด ในคราวเดียวเลยเหรอวะเนี่ย?” เจียงเหอค่อนข้างประหลาดใจ แต่ไม่นานก็รู้สึกโล่งใจ
ในการฝึกวิชา ระดับหนึ่ง สอง และสามขัดเกลาเคี่ยวกรำร่างกาย ดังนั้นจึงต้องอาศัยการฝึกฝนเลือดลมและกล้ามเนื่อเส้นเอ็นและกระดูกเพื่อขัดเกลาร่างกาย อันเป็นกระบวนการฝึกที่จะทะลวงขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์อย่างไม่ลดละแม้จะอยู่ในขั้นเริ่มต้น และกายาวัชระคงกระพันเองก็ยกระดับสมรรถภาพทางกายเขาอย่างก้าวกระโดดครั้งใหญ่ การยกระดับได้ถึงขั้นนี้ถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว
“วิชากายาวัชระคงกระพันเพิ่ม EXP ได้ 10 แต้ม… เอ๋?”
เจียงเหอเหลือบมองไปเป็นหัวข้อ [วิชาฝึกฝน]
มันไม่เคยมีมาก่อน แต่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นหลังจากที่เขาเรียนรู้กายาวัชระคงกระพัน
“ไอ้เครื่องหมาย '+' นี่มันอะไร”
เจียงเหอลองแตะสัญลักษณ์อย่างระมัดระวัง และการแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในหัวของเขาอีกครั้ง
[ใช้ฟาร์มพอยท์ 1,000 แต้มเพื่อยกระดับกายาวัชระคงกระพันให้เป็นระดับเริ่มต้นหรือไม่?]
เจียงเหอตกตะลึงก่อนจะเปลี่ยนเป็นยินดีสุด ๆ
“นี่แปลว่าตูแค่ต้องทำงานหนักในฟาร์ม แล้วก็จะได้รับฟาร์มพอยท์มาใช้ยกระดับการฝึกฝนวิชาให้บรรลุขั้นสูงสุดได้สินะ?”
"โอ้โฮ!"
เจียงเหอเก็บความสุขไว้ในอกแล้วส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ “ถ้าเป็นอย่างนั้น ความสุขในการฝึกฝนคงจะลดน้อยลงมาก…”
“งี้ด ๆ!”
เอ้อเหลิงจื่อคร่ำครวญอยู่ที่มุมหนึ่ง กลอกตาสุนัขของมันมองบนจนเห็นเพียงตาขาว
‘ไหน? ใครมันแอบนินทาอะไร?’
‘อยากโดนส้นเท้าเหรอ?’
เจียงเหอเตะตูดเอ้อเหลิงจื่อจนมันกระเด็น แล้วเอามือมาปัดที่รองเท้า
“บ่ายสามแล้ว”
“รีบกินข้าวให้เสร็จแล้วกลับมาทำงานต่อดีกว่า ต้องตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ เพื่อเป็นการเริ่มต้น เอาเป็นว่าวันนี้เดี๋ยวต้องก็อปสุดยอด 72 กระบวนท่าเส้าหลิน…”
"ไม่สิ! เขียนเองมันช้าเกินไป กินข้าวเสร็จแล้วไปที่ร้านถ่ายเอกสารของหมู่บ้านแล้วปริ้นต์ออกมาเลยดีกว่า”
เจียงเหอยังมีบะหมี่ที่เขาซื้อมาก่อนหน้านี้เก็บไว้อยู่ เหลือแค่เอาไปต้มเท่านั้น
ในเวลาเดียวกัน เขาหยิบแตงกวาอีกลูกออกมาล้างและทำสลัดแตงกวาทุบ
ในไม่ช้า เขามีบะหมี่ชามใหญ่และสลัดแตงกวาทุบจานหนึ่งพร้อมรับประทานบนโต๊ะ
เขาใช้ตะเกียบคีบแตงกวาหนึ่งชิ้นแล้วใส่เข้าปาก
กรุบกรุบ.
ขณะที่แตงกวาลงไปในหลอดอาหาร ใบหน้าของเจียงเหอก็กลายเป็นสีเขียว
เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานจากเลือดที่เดือดพล่าน และพูดไม่ออก
“ขอตูกินแบบสงบ ๆ หน่อยไม่ได้เหรอ”
ผู้ฝึกยุทธ…
ระดับสาม!