ตอนที่ 106 ข่าวจากโรงพยาบาล
ตอนที่ 106 ข่าวจากโรงพยาบาล
กายวางรูปของพ่อกับแม่ไว้ที่โต๊ะข้างหัวนอน ก่อนที่ตัวเขาจะมองไปที่นอนที่คิดถึง กายถอนหานใจทิ้งตัวนอนไปบาที่นอนในทันทีอย่างเมื่อยล้า
การเล่นเกมในเครื่องแคปซูลแม้จะดูเหมือนกับการหลับพักผ่อน แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่แม้แต่น้อย เพราะสมองของเขายังต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา ทำให้ในลึก ๆ แล้วตัวของกายนั้นดูเหมือนมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะสงครามในวันนี้ มันกินพลังงานกายมากจริง ๆ
...
19.00 น. เสียงโทรศัพท์ของกายดังขึ้น กายที่อยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นเอื้อมมือไปรับสายอย่างเคยชิน
“สวัสดีครับ ผมกาย ใครโทรมา” กายถามไปด้วยน้ำเสียงงัวเงียเล็กน้อย
“กาย นี่เมญ่านะ ตอนนี้ไทเลอร์ได้สติแล้ว” เสียงของเมญ่าพูดด้วยความดีใจเล็กน้อยกับการที่ไทเลอร์ฟื้นขึ้นมา
กายที่ยังง่วงอยู่ พอได้ยินว่าเพื่อนสนิทฟื้นแล้วก็ถึงกับดีดตัวลุกขึ้นอาการง่วงทั้งหมดหายไป ก่อนจะมองดูไปที่เบอร์อีกครั้งว่าใช่เมญ่าหรือเปล่า หลังจากดูแล้วว่าเป็นเมญ่าโทรมาจริง ๆ เขาก็ถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
“ไทเลอร์ฟื้นแล้วอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่เขาพึ่งรู้สึกตัวเมื่อสักพักนี่เอง แต่ยังคงอ่อนแรงอยู่และหมอพึ่งตรวจไทเลอร์ไป หมอบอกว่าอาการของเขาดีขึ้นมากบาดแผลก็ไม่มีสัญญาณของอาการบาดเจ็บอะไร” เมญ่าเล่าอาการของไทเลอร์ให้กายฟังไม่หยุด ราวกับว่าเธออยากจะบอกใครสักคนถึงเรื่องน่ายินดีนี้
“ดีแล้ว ๆ” กายพูดย้ำถึงสองครั้งพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างโล่งอก เขายังกล่าวต่อ “ทางนั้นมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มหรือเปล่า”
“ไม่มี ตอนนี้ดูเหมือนเรื่องเหตุระเบิดจะเป็นข่าวใหญ่และก็ได้มีผู้บริจาคลึกลับเข้ามาช่วยในค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นใคร”
“ผู้บริจาคลึกลับ?” กายพึมพำด้วยสีหน้าแปลก ๆ เขาไม่เข้าใจว่าใครทำเรื่องนี้ แต่ถึงแบบนั้นกายก็ไม่สนใจขอแค่เป็นการช่วยเหลือไทเลอร์ก็พอแล้ว
“กายนายจะมาเยี่ยมไทเลอร์หรือเปล่า”
“ตอนนี้เขายังอ่อนแรงอยู่ควรปล่อยให้พักไปก่อน เอาไว้พรุ่งนี้ตอนเที่ยงฉันค่อยไปที่นั่นก็แล้ว”
“ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนั้น”
เมญ่ากดวางสายลงไป กายก็โยนโทรศัพท์ลงที่นอนก่อนจะนั่งลงถอนหายใจออกมาอีกครั้ง หลังจากเรื่องร้ายผ่านไปเรื่องดีก็จะเข้ามาแทนที่
นั่งนิ่งอยู่สักพักท้องของกายก็เริ่มร้องสั่งสัญญาณถึงความหิว กายจึงลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตา เช็ดตัวให้สดชื่นก่อนจะไปหาอะไรกิน
ตอนนี้ของในตู้เริ่มหมดลงแล้ว แต่พอเห็นอาหารในตู้กายก็คิดอะไรขึ้นมาได้
เรื่องงานที่อันยาขอให้เขาช่วยและกายก็รับปากไว้ ซึ่งกายไม่ได้รับปากแบบส่ง ๆ ไปเท่านั้น แต่เขามีแผนอยู่แล้ว
เราลองขอให้ออสตินช่วยน่าจะไม่ยากอะไร เพราะอย่างหมอนั่นก็เป็นลูกของรองผู้จัดการ ห้าง C-OPY ของเขต 7 ถ้าแค่ช่วยแทรกใบสมัครงานของอันยาเข้าไปคงจะไม่ใช่เรื่องยาก
และส่วนที่เหลือก็ขึ้นกับโชคและความสามารถของอันยาแล้วว่าจะสามารถทำได้แค่ไหน
แต่ตอนนี้เราไม่มีเบอร์ของออสติน ไว้ค่อยคุยตอนเล่นเกมในวันนี้ก็แล้วกัน
...
กายแต่งตัวก่อนจะเดินไปตามทาง มันเป็นทางเดียวกับที่เคยเจออันยาและแฟนหนุ่มถูกซ้อมอยู่ กายไม่ได้จะไประลึกความหลังอะไร แต่เขาจะไปหาอะไรกิน ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่กายอยากไปกินอาหารเย็นพอดี
หลังจากกินอาหารเย็นจนอิ่มกายก็เลือกจะเดินย่อยอาหารไปตามถนนที่มีหมอกควันลอยอยู่จำนวนมาก ฝุ่นควันพวกนี้นับวันจะยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ กายเริ่มรู้สึกแสบจมูกเล็กน้อยเขาจึงเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นอีกหน่วย
ในขณะที่ใจก็คิดว่าคนควรจะหาซื้อหน้ากากที่ดีขึ้นมากกว่านี้มาใช้งาน เพราะตอนนี้มีเงินมากพอแล้ว เขาไม่อยากจะตายตั้งแต่อายุ 50 ปี สำหรับคนบนผิวโลกโดยเฉพาะชนชั้นแรงงานแล้วนั้นจะมีปัญหาเรื่องอาการป่วยเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดนั้นมาจากปอด พวกเขาต้องสูดเอาอากาศแบบนี้เขาไปทุกวันทำให้มันสะสมมากจนเป็นอารการป่วยได้
กายยังไม่อยากป่วยแบบนั้น
กายกระชับหน้ากากขึ้นแน่กว่าเดิมทำให้มันช่วยได้เยอะพอสมควร เขาเดินจนมาถึงร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8 ที่นี่ดูคึกคักมากเป็นพิเศษในวันนี้ กลุ่มเด็กวัยรุ่นตั้งแต่ 18-25 ต่างพากันมองไปที่จอขนาดใหญ่ของร้าน
เสียงฮือฮาดังอย่างต่อเนื่อง
กายมองตามพวกเขาและก็ทำให้เห็นว่าพวกเขากำลังดูอะไรกัน ซึ่งมันกลับกลายเป็นว่าพวกเขากำลังดูภาพการต่อสู้ของลอร์ดเจ็ดโลหะที่บันทึกโดย [หมูน้อย007]
ภาพเหล่านั้นถูกนำมาตัดต่อใหม่ ทำให้มันเหมือนกับหนังต่อสู้และสงครามฟอร์มยักษ์ไม่มีผิด
ภาพแต่ละภาพเล่าตั้งแต่กายสู้กับกิลด์กะโหลกแดงยังไง รวบรวมผู้เล่นปลุกระดมผู้เล่นเพื่อสู้กับเงา ในฉากนี้ดูเหมือนกล้องจะแพนไปที่ [นักเลง1] จนกายคิดว่านักเลง1 อาจจะช่วยออกทุนทำวิดีโอชุดนี้ก็ได้
การต่อสู้ของผู้เล่นและเงาเริ่มต้นขึ้น ซึ่งหลังจากผู้เล่นรวมตัวกันก็แสงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถเอาชนะเงาได้ ถ้าหันมาร่วมมือกัน การต่อสู้เหมือนกับฝ่ายธรรมะและอธรรมที่รับบทโดยเงาเกิดขึ้น สร้างเสียงฮือฮาไม่หยุด
แต่ที่ฮือฮามากกว่านั้นคืออยู่ ๆ ลอร์ดเจ็ดโลหะก็ถูกผู้เล่นทอดทิ้งมีหลายคนสาปแช่งผู้เล่นพวกนั้น ซึ่งการกระทำนั้นอย่างรุนแรง
“พวกผู้เล่นพวกนี้น่าด้านมาก”
“ใช่ถ้าไม่ใช่เพราะลอร์ดเจ็ดโลหะช่วยพวกเขาไว้จะรอดมาถึงตอนนี้ได้ยังไง”
“ลอร์ดเจ็ดโลหะเป็นคนดีเกินไป เขาสู้กับพวกวายร้ายอย่างกิลด์กะโหลกแดงโดยไม่หวังอะไร ตอนนี้พอช่วยผู้เล่นกลับมาโดนทอดทิ้งตอนวิกฤตแบบนี้อีก”
การพูดคุยของคนในร้านทำเอากายรู้สึกละอายใจขึ้นมา
เรื่องกิลด์กะโหลกแดงฉันทำไปเพื่อแก้แค้นตั้งหาก เพราะพวกมันดันมาทำลายการทดสอบจนฉันเกือบตายตั้งหากไม่ได้มีคุณธรรมอะไรเลย ส่วนที่ช่วยผู้เล่นก็แค่จะทำให้สามารถฝ่าไปเอาเหรียญตรามาก็เท่านั้น
กายแก้ตัวอยู่ในใจไม่กล้าพูดออกไป เพราะนั้นอาจจะมีคนคิดว่าเขาแอบอ้างเป็นลอร์ดเจ็ดโลหะและยังมาพูดใส่ร้ายอีกมีหวังเขาโดนกระทืบและคาร้านอย่างแน่นอน
“สุดยอด เขาวางแผนไว้ทั้งหมดทำให้เงานั้นตกใจจนคาดไม่ถึง”
“เท่ฉิบหายเลยโดยเฉพาะหมัดนั้นที่ใช้หัวลูกศรต่อยไปที่หน้าผากของเงาลอร์ดเจ็ดโลหะ”
“เฮ้ยมีใครทันเห็นใบหน้าของลอร์ดเจ็ดโลหะหรือเปล่า ตอนที่หน้ากากเขาหยุด”
“บ้าเอ๊ย หน้ากากหลุดก็จริง แต่ไอ้คนถ่ายมันดันถ่ายไม่เห็นใบหน้า”
“น่าเสียดายชะมัดเลย อยากรู้จังใครเป็นลอร์ดเจ็ดโลหะ ถ้าเขายังหนุ่มอยู่ฉันอาจจะจีบเขาก็ได้”
ผู้คนทั้งชายหญิงในร้านเกมเสมือนจริงหมายเลข 8 ต่างส่งเสียงพูดคุยกันอย่างดุเดือด กายไม่สนใจอีกต่อไป บางครั้งพอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเองแล้วกำลังฉายอยู่ พอมาถูกพูดถึงมันก็รู้สึกแปลก ๆ ยังไงไม่รู้
“หมอนั่นอยู่ไหน” กายมองไปรอบ ๆ หาออสติน ตอนนี้มันก็เกือบสามทุ่มแล้ว ปกติออสตินต้องมาจองเครื่องแล้ว แต่แล้วกายก็คิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง
“ฉันลืมไปได้ยังไง ว่าหมอนั้นบอกเครื่องแคปซูลมาส่งก่อนกำหนด ถ้าอย่างนั้นตอนนี้หมอนั่นก็ไม่ต้องมาที่ร้านก็ได้นี่สิ”
กายส่ายหัวตัวเอง แต่ในเมื่อไม่เจอแล้วจะให้ทำยังไงได้ เขาจึงคิดว่ามันคงจะช่วยไม่ได้ แต่แล้วในตอนนั้นเองก็มีคนเดินเข้ามาทักทายเขาจากทางด้านหลัง
“ลูกพี่คุณมาแล้วอย่างนั้นเหรอ”
“ลูกพี่สุดยอดมาก ไม่คิดว่าฉากที่ผมโดนฆ่าจะอยู่ในนั้นด้วย แต่จริงสิลูกพี่สุดยอดเลยที่สามารถสู้กับเงาแบบนั้นได้ ลูกพี่...”
“เฮ้ ๆ พอแล้ว ฉันบอกแล้วว่าไม่ใช่ลูกพี่นาย ถ้ายังไงช่วยเรียกว่า กายแทนลูกพี่ได้ไหม”
“ได้ รุ่นพี่กาย” ออสตินพูดด้วยความยินดี
กายรู้สึกมันแปลก ๆ แต่พอมาคิดว่าออสตินอายุน้อยกว่าตัวเองเล็กน้อยดังนั้นคงไม่เป็นไร
“จริงสิ นายมาพอดี ฉันมีเรื่องจะขอร้องสักหน่อย แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เป็นอะไรดังนั้นไม่ต้องคิดมากนะ”
“ไม่ต้องห่วงรุ่นพี่กาย ในเขตเจ็ดนี้ไม่มีอะไรที่ ออสตินผู้นี้ทำไม่ได้ ขอแค่รุ่นพี่กายสั่งมาได้เลย” ออสตินตอบด้วยความมั่นใจ แต่ในสายตาของกาย หมอนี่มันโม้อีกแล้ว แต่ถึงแบบนั้นกายก็ไม่ได้พูดอะไร
“พอดีฉันมีคนรู้จักเธอกำลังหางานทำอยู่ จะพาร์ทไทม์หรืองานประจำก็ได้ นายพอจะช่วยหางานให้เธอทำได้ไหม” กายบอกไปอย่างเกรงใจ
“แค่นั้น” ออสตินถามแบบไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
“ใช่แค่นั้น มีอะไรรู้เปล่า”
“เปล่า แค่ไม่คิดว่ามันจะง่ายแบบนั้น ผมคิดว่ารุ่นพี่กายคิดจะอยากโฆษณาเปิดเผยว่าตัวเองคือท่านลอร์ดเจ็ดโลหะอะไรแบบนั้นซะอีก”
“เบา ๆ เอาเป็นว่าห้ามบอกใครเรื่องตัวตนในเกมของฉัน ฉันไม่อยากจากตกเป็นเป้าหมายของไอ้พวกลูกคุณหนูและคนรวยบนนั้นหรอกนะ” กายชี้ไปบนฟ้านั้นหมายถึงโอเอซิส
พอออสตินได้ยินก็พึ่งนึกขึ้นได้จึงหุบปาก ต้องไม่ลืมว่าลอร์ดเจ็ดโหละได้กลายเป็นศัตรูของกลด์กะโหลกแดงไปแล้ว ถ้ามีคนรู้ตัวจริงขึ้นมา อาจจะลำบากเอาได้
แม้แต่ออสตินพอพูดถึงโอเอซิส ออสตินก็ไม่กล้าโม้หรือโอ้อวดออกมามากเกินไป ต้องบอกว่าสถานะมันต่างกันเกินไป
“เรื่องนั้นผมจะปิดปากเงียบ จริงสิรุ่นพี่กายช่วยเอาเบอร์ติดต่อของคนที่รุ่นพี่จะให้ช่วยหางานมาหน่วยได้ไหม”
“ได้สิ แล้วก็นี่เอาเบอร์ฉันไว้ด้วย เผื่อมีธุระอะไรจะได้ติดต่อกันได้”
“ขอบคุณรุ่นพี่กาย”
ออสตินตอบรับด้วยความยินดี กายแยกตัวออกไปจากออสติน เพราะดูเหมือนพวกคนที่รู้จักออสตินจะมองการสนทนาของทั้งคู่มากขึ้น กายไม่อยากเป็นเป้าสนใจของใคร ส่วนออสตินนั้นก็ยังคงพูดคุยเฮฮาและโม้เหมือนเช่นเคย เขาไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลยแม้แต่น้อย
จนกายเริ่มคิดว่าไอ้การหลงตัวเองคงเป็นนิสัยยากจะแก้ไปแล้ว