WS บทที่ 275 ด้วยความจริงใจ
สามวันต่อมา พ่อมดศักวรามาถึงที่พักของเมอร์ลินพัก
“พ่อมดเมอร์ลิน ตามฉันมา พ่อมดอูโม่ หนึ่งในสามผู้นำป้อมอูดอนต้องการมอบเสื้อคลุมขอบทองให้แก่คุณเป็นการส่วนตัว!” พ่อมดศักวราดูค่อนข้างตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด
ทางด้าน เมอร์ลินตกใจเล็กน้อย ป้อมอูดอนมีผู้นำสามคนและพวกเขาล้วนเป็นนักเวทย์ระดับเก้าและนักเวทย์ระดับเก้าคนนั้นต้องการพบเมอร์ลินเป็นการส่วนตัว สิ่งนี้ทำให้จิตใจของเมอร์ลินไม่สามารถคงความสงบไว้ได้
ท้ายที่สุดแล้ว เมอร์ลินไม่เคยพบนักเวทย์ระดับเก้าแม้แต่คนเดียวในดินแดนมนต์ดำ แม้ว่าจะมีนักเวทย์ระดับเก้าที่นั่นแต่พวกเขาไม่ค่อยแสดงตัวในที่สาธารณะ แม้แต่นักเวทย์ระดับเจ็ดบางคนก็ไม่สามารถพบกับพวกเขาได้อย่างง่ายดายเช่นกัน ดังนั้นนักเวทย์ระดับหนึ่งอย่างเมอร์ลินคงจะหมดสิทธิ์
พ่อมดศักวรามองเห็นความลังเลของเมอร์ลิน ดังนั้นเขาจึงพูดกับเขาว่า “พ่อมดเมอร์ลินไม่จำเป็นต้องกังวลไป พ่อมดอูโม่เป็นกันเองมาก ท่านต้องการพบคุณเพราะฉันขอเสื้อคลุมขอบทองแทนคุณ”
เมอร์ลินสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพยักหน้า “พ่อมดศักวรา ฉันพร้อมแล้ว โปรดนำทางให้ฉันด้วย”
หลังจากนั้น เมอร์ลินเดินตามหลังพ่อมดศักวาราและเดินไปที่ปราสาทลึกลับแห่งหนึ่ง
ปราสาทแห่งนี้ดูไม่ผิดแปลกจากปราสาทแถวนี้มากนัก มีสภาพแวดล้อมที่เขียวขจีซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่น อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ร่ายเวทย์คอยคุ้มกันรอบปราสาทและไม่มีการคุ้มครองโดยวงแหวนเวทย์ด้วย
เมอร์ลินแทบจะนึกภาพไม่ออกว่าหัวหน้าป้อมอูดอนจะอาศัยอยู่ในที่ ๆ ไร้การป้องกันเช่นนี้
พ่อมดศักวรายิ้ม “พ่อมดเมอร์ลิน คุณแปลกใจไหม? แต่พ่อมดอูโม่อาศัยอยู่ที่นี่จริง ๆ ไม่เพียงแค่พ่อมดอูโม่เท่านั้น แม้แต่ผู้นำอีกสองคนก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน ดังนั้นสถานที่ที่พวกเขาอาศัยจึงไม่ต้องการการรักษาความปลอดภัย
“เมื่อพิจารณาถึงความสามารถของผู้นำแล้ว นักเวทย์ของป้อมอูดอนทุกคนคงจะไม่มีประโยชน์ในเรื่องการคุ้มกันพวกเขา หากมีใครสามารถคุกคามผู้นำป้อมได้”
เมอร์ลินพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ แท้จริงแล้ว หัวหน้าป้อมของป้อมอูดอนล้วนแต่เป็นนักเวทย์ระดับเก้าทั้งหมด มีเพียงจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานเท่านั้นที่สามารถคุกคามพวกเขาได้
หากศัตรูของพวกเขาคือจอมเวทย์ที่จะโจมตีพวกเขา ก็เกรงว่าต่อให้ขนมาเป็นกองทัพก็ไม่อาจสู้ฝ่ายตรงข้ามได้
“ท่านพ่อมดอูโม่ที่เคารพ ผมพาพ่อมดเมอร์ลินมาพบท่านแล้ว!”
เมื่อพวกเขามาถึงประตูหลักของปราสาท พ่อมดศักวราไม่ได้ผลักประตูให้เปิดทันทีแต่เขากลับกล่าวที่หน้าปราสาทด้วยความเคารพ
“พ่อมดศักวรา ทำได้ดีมาก เข้ามาได้!” เสียงที่น่าดึงดูดมาจากภายในปราสาท มันฟังดูใจดีและเป็นมิตรมาก
“เอาล่ะ เข้าไปกันเถอะ” พ่อมดศักวารายิ้มให้เมอร์ลิน จากนั้นจึงผลักประตูเปิดและพาเมอร์ลินเข้าไปในปราสาท
กลิ่นหอมของหมึกเต็มปราสาท การตกแต่งได้รับการขัดเกลาและสง่างาม มีภาพวาดที่สวยงามแขวนอยู่บนผนังที่สามารถระบุได้ว่าเป็นผลงานของจิตรกรที่มีชื่อเสียงด้วยรูปลักษณ์เดียว
นอกจากภาพวาดแล้ว ยังมีเครื่องปั้นดินเผาที่ดูล้ำค่าและพรมสีเทาที่ช่วยเพิ่มความสง่างามให้กับสถานที่โดยรวม เฟอร์นิเจอร์ถูกคัดสรรมาอย่างประณีตและการจัดเรียงของห้องโถงก็ให้กลิ่นอายของบ้านขุนนาง
“พ่อมดอูโม่ นี่คือพ่อมดเมอร์ลินขอรับ!”
พ่อมดศักวราหันหน้าไปทางด้านหน้าและกล่าวด้วยความเคารพต่อชายวัยกลางคนซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ ชายคนนั้นไม่ได้สวมเสื้อคลุมใด ๆ แต่เขากลับสวมชุดของขุนนางสีน้ำเงินและดูเหมือนขุนนางที่มีอัธยาศัยดี
อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินรู้ดีว่าชายผู้นี้เป็นหนึ่งในผู้นำของป้อมอูดอน เขาเป็นหนึ่งในนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด พ่อมดอูโม่!
เมอร์ลินโค้งคำนับเล็กน้อย พ่อมดอูโม่ที่ดูเหมือนขุนนางมากกว่านักเวทย์ อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเขาลึกล้ำเกินจินตนาการ
ดวงตาเป็นหน้าต่างของจิตวิญญาณของบุคคล ไม่ว่านักเวทย์จะพยายามปกปิดอย่างไร ดวงตาของพวกเขาก็จะทรยศต่อพวกเขาในทันที สายตาของพ่อมดอูโม่ทำให้เมอร์ลินรู้สึกคุกคามอย่างไม่น่าเชื่อ พ่อมดอูโม่นั้นอันตรายกว่านักเวทย์ทุกคนที่เมอร์ลินเคยพบเจอ
“พ่อมดเมอร์ลิน เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีคุณมาอยู่กับพวกเรา ป้อมอูดอน! พ่อมดศักวราขอเสื้อคลุมขอบทองแทนคุณ คุณรู้หรือไม่ว่าเสื้อคลุมขอบทองหมายถึงอะไร” พ่อมดอูโม่ถามอย่างใจเย็น
เมอร์ลินพยักหน้า “ผมรู้เพียงเล็กน้อยขอรับ เสื้อคลุมขอบทองเป็นเกียรติสูงสุดในป้อมอูดอน ใครก็ตามที่มีเสื้อคลุมขอบทองถือเป็นระดับสูงสุดในหมู่นักเวทย์ระดับเดียวกันขอรับ”
หลังจากที่พ่อมดอูโม่ได้ยินคำตอบ เขาก็ส่ายหัวเล็กน้อย “นั่นผิดแล้ว ใครก็ตามที่มีเสื้อคลุมขอบทองไม่ถือว่าเป็นระดับสูงสุดในระดับเดียวกัน แต่มันเป็นตัวตนที่ไร้เทียมในที่ระดับสูงขึ้นไปก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้! ในบรรดาพ่อมดเสื้อคลุมเทาในป้อมอูดอน ไม่มีใครเคยได้รับเสื้อคลุมขอบทองมาก่อนมาหลายปีแล้ว คุณเป็นคนแรก!”
ในที่สุด เมอร์ลินก็ตระหนักถึงความสำคัญที่แท้จริงของเสื้อคลุมขอบทอง มันแสดงถึงเกียรติยศสูงสุดของป้อมอูดอนละนักเวทย์ที่มีศักยภาพสูงสุดในป้อมอูดอน
เมอร์ลินก็เข้าใจว่าทำไมเขาซึ่งเป็นเพียงนักเวทย์ระดับหนึ่งเอาชนะโฮมุนครุสระดับสี่และได้เป็นพ่อมดชุดเสื้อคลุมเทาจึงสามารถเรียกความสนใจจากพ่อมดอูโม่ได้
เหตุผลที่แท้จริงอยู่ในเสื้อคลุมขอบทอง เสื้อคลุมขอบทองไม่ได้มอบให้ผู้อื่นอย่างง่ายดาย มีนักเวทย์เพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ได้รับเสื้อคลุมขอบทองในป้อมอูดอน
“พ่อมดเมอร์ลิน ฉัน อูโม่ เป็นตัวแทนของป้อมอูดอนทั้งหมด ขอมอบเสื้อคลุมเทาที่ประดับด้วยขอบทองให้แก่คุณ! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณคือพ่อมดเสื้อคลุมเทาในป้อมอูดอน!”
พ่อมดอูโม่แสดงสีหน้าจริงจัง จากนั้นจึงหยิบเสื้อคลุมเทาขอบทองออกจากแหวนของเขา เสื้อคลุมนี้ก็ไม่ต่างจากเสื้อคลุมเทาทั่วไป ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือบริเวณคอที่มีการทอเส้นสีทองที่เป็นเอกลักษณ์ เส้นสีทองแสดงถึงเอกลักษณ์และสถานะของนักเวทย์ในป้อมอูดอน
เมอร์ลินรับเสื้อคลุมขอบทองจากพ่อมดอูโม่ มันมีวงแหวนเวทย์ลึกลับสลักอยู่ซึ่งมีความสามารถในการป้องกันที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม มันเกือบจะเหมือนกับเสื้อคลุมที่เมอร์ลินแลกเปลี่ยนจากหอสมุด มันแทบจะไม่สามารถป้องกันการโจมตีระดับสามได้
แม้ว่าเสื้อคลุมนี้จะไม่ได้มีลักษณะพิเศษใด ๆ แต่ก็ให้ความหมายที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
พ่อมดศักวราพูดกับเมอร์ลินด้วยเสียงต่ำว่า “พ่อมดเมอร์ลินมีอีกสิ่งหนึ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน นักเวทย์ที่ได้รับเสื้อคลุมขอบทองสามารถให้การแนะนำสั่งสอนนักเวทย์ทั้งหมดในระดับเดียวกับคุณในป้อมอูดอนได้ตามใจชอบ!”
"อะไรนะ? เสื้อคลุมขอบทองให้สิทธิ์ขนาดนี้เลยหรือ?” เมอร์ลินมองไปที่พ่อมดอูโม่อย่างไม่เชื่อ
นั่นหมายความว่าเมอร์ลินสามารถออกคำสั่งแก่พ่อมดแห่งป้อมอูดอนที่สวมเสื้อคลุมเทาทั้งหมดได้ หากเขาสวมเสื้อคลุมเทาขอบทอง
พวกเขาส่วนใหญ่เป็นนักเวทย์ระดับสี่ แม้แต่ในดินแดนมนต์ดำ พวกเขาสามารถสร้างหอคอยสำหรับตนเองและให้คำปรึกษาแก่นักเวทย์คนอื่น ๆ แต่ในตอนนี้ เมอร์ลินสามารถสั่งนักเวทย์ระดับสี่ได้อย่างง่ายดายเพียงเพราะเขาสวมเสื้อคลุมขอบทอง
พ่อมดอูโม่พยักหน้า "ถูกตัอง พ่อมดศักวราพูดถูก นอกเหนือจากการให้เกียรติอย่างยิ่งใหญ่ เสื้อคลุมขอบทองยังให้สิทธิ์แก่คุณในการสั่งการให้นักเวทย์หลายคนโดยไม่มีเงื่อนไข ตอนนี้คุณมีเสื้อคลุมเทาขอบทอง ดังนั้นคุณจึงมีอำนาจสั่งสอนพ่อมดเสื้อคลุมเทาได้ทั้งหมด!”
เรื่องนี้ทำให้เมอร์ลินตกตะลึงอย่างมาก หากเขามีบารมีเช่นนี้ในป้อมอูดอน เขาจะไม่มีปัญหาในการค้นหาดินลาวา
“แล้วอีกอย่างพ่อมดเมอร์ลิน เนื่องจากคุณได้รับเสื้อคลุมขอบทองคุณต้องลงนามสัญญา คุณถือเป็นแกนหลักของป้อมอูดอน นั่นเป็นเหตุผลที่คุณต้องลงนามสัญญาระดับสูงสุด”
พ่อมดอูโม่หยิบเอกสารสัญญาทองคำออกมาแล้วเหลือบมองเมอร์ลินอย่างใจเย็น
“ลงนามสัญญา?”
เมอร์ลินขมวดคิ้วและลังเล เขานึกถึงสัญญาระดับสูงสุดที่เขาได้ลงนามกับดินแดนมนต์ดำซึ่งเขาตกลงกันว่าเขาจะไม่มีวันทรยศดินแดนมนต์ดำ
สัญญาที่เขากำลังจะลงนามกับป้อมอุดรอาจขัดแย้งกับสัญญาเดิม
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เมอร์ลินก็รู้ว่าเขาต้องให้พวกรู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ให้ชัดเจน ดังนั้นเขาจึงกล่าวว่า
“พ่อมดอูโม่ ผมต้องชี้แจงบางอย่าง ผมไม่ใช่พ่อมดพเนจร ผมมาจากที่ไหนสักแห่งที่ห่างไกลและเป็นสมาชิกขององค์กรนักเวทย์ที่มีชื่อว่า ดินแดนมนต์ดำ ผมได้ลงนามสัญญาระดับสูงสุดกับพวกเขาด้วยและตกลงที่จะไม่ทรยศต่อที่นั่น ดังนั้น ฉันเกรงว่าฉันไม่สามารถลงนามสัญญาของท่านได้ในตอนนี้…”
ตอนแรกเมอร์ลินคิดว่าป้อมอูดอนเป็นกองกำลังที่กระจัดกระจายและไม่ใช่องค์กรนักเวทย์ เขาคิดว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสัญญาใด ๆ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิด
เนื่องจากหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาได้รับการพัฒนามาหลายปี อิทธิพลเพียงเล็กน้อยบนเกาะได้ส่งเสริมรากฐานที่มั่นคง พวกเขายังมีเอกสารสัญญามากมาย หลังจากผ่านไปสองสามร้อยปี มีความเป็นไปได้สูงสำหรับอิทธิพลในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาในการปรับปรุงเพื่อให้กลายเป็นองค์กรนักเวทย์
“ดินแดนมนต์ดำ? ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน ฉันเคยไปที่ เมืองแห่งอัคคีมาก่อนแต่ฉันไม่คิดว่าพ่อมดเมอร์ลินจะเป็นสมาชิกของดินแดนมนต์ดำ”
พ่อมดอูโม่ดูแปลกใจเล็กน้อยแต่เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “พูดตามตรง ไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะป้อมอูดอน ไม่ได้ใกล้ชิดกับดินแดนมนต์ดำ ยิ่งกว่านั้นพวกเราแยกออกจากกันอย่างดี อาจไม่เคยมีความขัดแย้งระหว่างพวกเรา ดังนั้นสัญญาระหว่างพ่อมดเมอร์ลินและป้อมอูดอนสามารถเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อย
แล้วแบบนี้ล่ะ? สัญญาสามารถเปลี่ยนแปลงได้เพื่อให้สัญญาเป็นโมฆะทันที หากมีความขัดแย้งระหว่างป้อมอูดอนกับดินแดนมนต์ดำ แบบนี้เป็นอย่างไรพ่อมดเมอร์ลิน?”
พ่อมดอูโม่เปลี่ยนเนื้อหาของสัญญาโดยตรง หากวันหนึ่ง ป้อมอูดอนมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับดินแดนมนต์ดำ เมอร์ลินอาจเพิกเฉยต่อสัญญาที่ทำกับป้อมอูดอนได้ นี่คือความจริงใจสูงสุดที่พ่อมดอูโม่แสดงออกมา
เนื่องจากสิ่งนี้ไม่ได้ขัดแย้งกับสัญญาของเขากับดินแดนมนต์ดำ เมอร์ลินจึงไม่ต้องกังวลอะไรและเริ่มลงนามสัญญา
เมอร์ลินคุ้นเคยกับกระบวนการลงนามในสัญญาอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบดำเนินการ เอกสารสัญญาถูกเก็บไว้โดยพ่อมดอูโม่ ด้วยเหตุเมอร์ลินต้องไม่ทรยศต่อป้อมอูดอน
หลังจากลงนามสัญญา เมอร์ลินก็เป็นสมาชิกของป้อมอูดอนอย่างเป็นทางการ ยิ่งกว่านั้นเขาถือเป็นแกนหลักของป้อมอูดอนดรที่มีเสื้อคลุมขอบทองซึ่งแสดงถึงเกียรติยศและศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!