855-856
7/8
Ep.855
“เหล่างเจิ้ง คุณไปได้แล้ว”
หลังจากซูเฉินเดินกลับมา เขาก็พูดกับเจิ้งเต๋า
“ขอบพระคุณผู้อาวุโส!”
เจิ้งเต๋าคล้ายได้รับการนิรโทษกรรม กล่าวขอบคุณซูเฉินยกใหญ่ ก่อนหันหลังวิ่งเตลิดไป
ตอนแรก เขายังเกิดความกังวลว่าซูเฉินอาจคิดฆ่าคนปิดปาก แต่เห็นได้ชัดว่าซูเฉินเป็นคนซื่อสัตย์ ยอมทำตามสัญญา ไม่ได้ทำให้เขาลำบากใจ
รอจนร่างของเจิ้งเต๋าหายไปจากสายตา ซูเฉินหันไปมองแนวเขาที่อยู่ตรงหน้า หลังจากครุ่นคิดพักหนึ่ง เขาก็พูดกับ [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ นายพอจะระบุตำแหน่งชัดๆของศิลารวมวิญญาณกับศิลาวิญญาณวายุข้างในภูเขาได้ไหม?”
“ได้สิ” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบทันที
ซูเฉินพยักหน้า จากนั้นเปิด [มิติสันโดษ] เรียกหยางฮ่าวและคนอื่นๆออกมา
งานขุดเจาะแร่แบบนี้ จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญ
ซึ่งพวกหยางฮ่าวเคยทำมาแล้วหลายครั้ง จึงพอมีประสบการณ์อยู่บ้าง นับเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
“พี่เฉิน มีอะไรให้พวกเรารับใช้?” เฉาหรานถาม
“ขุดอุโมงค์หาแร่” ซูเฉินตอบกลับ จากนั้นแลกเปลี่ยน [สุดยอดสว่านไฟฟ้า] หลายเครื่อง หนึ่งเครื่องต่อหนึ่งคน แล้วเริ่มลงมือขุดเจาะ
หนึ่งวันต่อมา งานขุดเจาะก็เสร็จสิ้น
ในที่สุดเขาก็ได้รับศิลารวมวิญญาณมา 11 ก้อน และศิลาวิญญาณวายุอีก 2 ก้อน
นอกจากนี้ ซูเฉินยังเจอศิลารวมวิญญาณอีก 2 ก้อนบนตัวสวี่หลีฉง เมื่อรวมกันแล้วเท่ากับว่าได้มาทั้งหมด 13 ก้อน!
หลังจากนั้น ซูเฉินเรียกทุกคนขึ้นรถ มุ่งหน้าสู่เทือกเขาหยุนหลัวต่อ
ระหว่างทาง ซูเฉินเปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] พูดคุยกับสองมหาเพลิงเอกลักษณ์
“เสี่ยวกู่ เสี่ยวหวง ศิลารวมวิญญาณ 10 ก้อนมากพอจะให้พวกนายยกระดับเป็นขั้น 10 ไหม?”
“เจ้านาย หากได้กลืนกินพวกมันซัก 5 ก้อน ข้ามั่นใจว่าสามารถไปถึงขั้น 10 ได้ แต่สำหรับอัคคีผลาญแปดทิศ เกรงว่าอาจต้องการมันมากกว่าข้า” โลกันต์เยือกแข็งกล่าว
ก่อนหน้านี้โลกันต์เยือกแข็งเคยอยู่ในขั้น 10 มาก่อน แต่ภายหลังถูกซูเฉินทุบตีได้รับบาดเจ็บสาหัสจนระดับพลังลดลง ทว่าหากต้องการฟื้นคืนระดับ ขอแค่มีของพร้อมก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ขณะที่อัคคีผลาญแปดทิศ ตอนซูเฉินจับมา มันอยู่แค่ขั้น 8 เท่านั้น ถ้าอยากให้มันเลื่อนขั้น อาจต้องใช้ศิลารวมวิญญาณจำนวนมากกว่า
“เสี่ยวหวง บอกมาว่านายต้องการกี่ก้อน?” ซูเฉินถาม
เขามีทั้งหมดสิบสามก้อน ตราบใดที่อัคคีผลาญแปดทิศสามารถยกระดับเป็นขั้น 10 ได้ ต่อให้มันต้องการทั้งหมดเขาก็ไม่ว่าอะไร
“เจ้านาย ข้าขอลองซัก 6 ก้อน”
อัคคีผลาญแปดทิศครุ่นคิดพักหนึ่ง ก่อนตอบกลับ
เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถยกระดับได้แน่ๆ ซูเฉินเลยมอบให้ 7 ก้อน จากนั้นเอ่ยถามว่า
“แล้วพวกนายต้องใช้เวลาในการเลื่อนขั้นนานแค่ไหน?”
พอแจกจ่ายศิลารวมวิญญาณ ซูเฉินก็เอ่ยถามขึ้น
“หลังกลืนกินศิลารวมวิญญาณ พวกเราจะอยู่ในสภาวะหลับลึก ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบวัน” โลกันต์เยือกแข็งครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วเอ่ยตอบ
สิบวัน …
ซูเฉินพึมพำ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม
เขาปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] แล้วติดตั้งศิลาวิญญาณวายุลงบน [รถศึกอัจฉริยะ] และสิ่งให้เปิดโหมดการบิน
สองวันต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] กำลังลอยลำผ่านเมืองๆหนึ่ง แต่จู่ๆก็ถูกหยุดไว้อย่างกะทันหัน
พวกที่ขวางเขาขี่เครื่องบินที่มีลักษณะคล้ายจานบิน แต่ละลำมีผู้ฝึกตนขั้น 8 ขึ้นไปคอยควบคุมอยู่
“คนข้างในออกมาให้หมด!”
ผู้ฝึกตนขั้น 10 ที่ช่วงคางเต็มไปด้วยตอหนวดสั้นๆ กวาดมองสำรวจ [รถศึกอัจฉริยะ] ทันใดนั้นดวงตาเขาเปล่งประกายสว่างไสว
“แกต้องการอะไร?”
ซูเฉินเปิดประตูรถ เอ่ยถามด้วยสีหน้าเย็นชา
ชายไว้หนวดพอเห็นว่าคนที่ออกมาเป็นเด็ก ก็แสดงท่าทีดูแคลนเล็กน้อย กล่าวอย่างหยิ่งยโสว่า “เจ้าหนู รู้รึเปล่าว่าเมืองข้างล่างมีชื่อว่าอะไร?”
“ไม่รู้ หรือต่อให้รู้ .. แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?” ซูเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย
8/8
Ep.856
เห็นท่าทีเหยียดหยามของซูเฉิน ใบหน้าของชายไว้หนวดมืดมนลง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ที่นี่มีชื่อว่าเมืองเทียนกวง เป็นอาณาเขตตระกูลฉือของพวกเรา”
“แล้วสรุปตระกูลฉือเข้ามาขวางฉันทำไม?” ซูเฉินรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาไม่ได้เผา ปล้น หรือฆ่าในเมืองเทียนกวงซักหน่อย แล้วทำไมอีกฝ่ายถึงได้ทำหน้าเหมือนแทบจะกินเลือดกินเนื้อแบบนี้?
พวกเขาต้องการอะไรกันแน่?
“เข้ามาขวางทำไมงั้นหรือ?” ร่องรอยของความขุ่นเคืองผุดขึ้นบนใบหน้าชายไว้หนวด กล่าวเสียงเย็นว่า “ในอาณาเขตตระกูลฉือ ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฏ! การบินเหนือน่านฟ้าเมืองเทียนกวงถือเป็นเรื่องต้องห้าม!”
“อ้อ” ซูเฉินค่อยเข้าใจ ก่อนหัวเราะออกมาเบาๆ “แต่ฉันก็บินมาแล้ว แล้วแกจะทำยังไงต่อ?”
“ไอ้หนู ในเมื่อเจ้าเพิ่งผิดกฏเป็นครั้งแรก ฉะนั้นยังพอมีทางรอดไปได้–” ชายไว้หนวดกล่าวอย่างชอบธรรม “–จงทิ้งรถศึกคันนี้ซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!”
ตระกูลฉือเป็นตระกูลปรมาจารย์นักหลอมสร้าง เป็นที่รู้จักกันดีในการสร้างจานบิน แต่พวกเขาไม่มีทางสร้างรถศึกที่สามารถบินได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นตั้งแต่แวบแรกที่เห็น [รถศึกอัจฉริยะ] จึงเกิดความคิดปล้นชิง
ไอ้ที่พล่ามมาตอนแรกทั้งหมด เป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น
“แล้วถ้าฉันไม่ให้ล่ะ?” ซูเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มแทนที่จะโกรธ
ในโลกใบนี้ มีแต่เขาเท่านั้นที่ปล้นได้ คนอื่นอย่าคิดหวัง
เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าชายไว้หนวดจะแถได้ซักแค่ไหน
“ในเมื่อเจ้าไม่รู้จักชั่วดี เช่นนั้นก็มีแต่ต้องใช้กำลัง!”
ชายไว้หนวดตวาดเสียงเย็น ก่อนหันไปขยิบตาให้ผู้ฝึกตนขั้น 9 ที่อยู่ข้างๆ
ผู้ฝึกตนขั้น 9 เข้าใจสัญญาณที่ส่งมา ขับจานบินออกไป ลอยเข้าหาซูเฉินอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางร้องตะโกนแหกปาก “เด็กน้อย! ข้าจะทำให้เจ้าตาสว่างไปถึงชาติหน้าเอง ว่าอย่าไอ้ล่วงล้ำอาณาเขตของตระกูลฉือเรา!”
“ตระกูลฉือ … น่ากลัวว่าวันนี้คงเหลือแค่ชื่อแล้ว”
อู๋หยาจื่อและคนอื่นๆในรถต่างระเบิดเสียงหัวเราะ
ด้วยอุปนิสัยของซูเฉิน คนที่กล้าหาเรื่องเขา ไม่มีใครพบจุดจบที่ดี
ตระกูลฉือกล้าอวดดีต่อหน้าซูเฉิน ผลที่ตามมาคงสามารถจินตนาการได้
“ช่างไม่รู้จักที่ตาย!”
เห็นผู้ฝึกตนขั้น 9 ลอยเข้ามาใกล้
ซูเฉินก้าวออกจาก [รถศึกอัจฉริยะ] ระเบิดพลังจิตออกมา พันธนาการผู้ฝึกตนขั้น 9 จนไม่อาจขยับเขยื้อน
จากนั้นค่อยๆเอื้อมมือไปคว้าคออีกฝ่าย กล่าวหยอกเย้าว่า “ไหนแกบอกว่าจะทำให้ใครตาสว่างนะ”
“อื้อ .. อื้อ ..”
ผู้ฝึกตนขั้น 9 หวาดกลัวจนหน้าซีด สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง
จวบจนบัดนี้ เขาถึงค่อยกระจ่าง ว่าซูเฉินน่าพรั่นพรึงเพียงใด
“เจ้าหนู ปล่อยเขาซะ! ไม่อย่างนั้นข้าจะสับเจ้าเป็นหมื่นๆชิ้น!”
เห็นสมาชิกตระกูลตกอยู่ในอันตราย ชายไว้หนวดคำรามด้วยความโกรธ
“จัดให้ตามที่ขอ”
มุมปากของซูเฉินยกยิ้ม ออกแรงบีบเล็กน้อย หักคอของผู้ฝึกตนขั้น 9 โดยตรง แล้วถึงยอมคลายมือ ปล่อยอีกฝ่ายร่วงหล่นจากฟากฟ้า จากนั้นหันหน้าไปมองชายไว้หนวด เอ่ยอย่างแผ่วเบาว่า
“ฉันปล่อยมันให้แล้ว ตอนนี้พอใจรึยัง?”
“เจ้ามันแส่หาที่ตาย!”
ชายไว้หนวดไม่สามารถระงับความโกรธในใจได้อีกต่อไป นำกลุ่มคนที่เหลือจากตระกูลเข้ารุมโจมตีซูเฉิน
ใบหน้าของซูเฉินเต็มไปด้วยความดูแคลน รอให้อีกฝ่ายรวมกลุ่มกัน จะได้ฆ่าทีเดียว
เมื่อเห็นจังหวะเหมาะ หนึ่งแขนง้างศอกไปเบื้องหลัง และชก [หมัดดาวตก] ออกไป
ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก!
ภายใต้เสียงกระแทกกระทั้นหนักทึบ ยกเว้นชายไว้หนวด สมาชิกตระกูลฉือที่เหลือ ล้วนถูกเป่าเป็นผุยผง เหลือทิ้งไว้เพียงละอองเลือด ร่วงลงจากฟากฟ้า
ส่วนชายไว้หนวด แม้ยังไม่ตาย แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้นอนแผ่เป็นหมาตายอยู่บนจานบิน ในดวงตาเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ
หมัดเดียวสังหารเหล่าผู้ฝึกตนชั้นสูงของตระกูลฉือ กำลังรบอันน่าหวาดกลัวเช่นนี้ มีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับเทวะเท่านั้นจึงจะครอบครองได้
พอนึกว่าซูเฉินคือตัวตนระดับเทวะ หัวใจของชายไว้หนวดคล้ายตกวูบ จมสู่ก้นบึ้งอันไร้ที่สิ้นสุด