853-854
5/10
Ep.853
“สามหาว!”
“ไอ้หนู รู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังหาที่ตาย?”
เหล่าสาวกตระกูลซูต่างโกรธแค้น ทั้งหมดตะโกนด่าทอซูเฉิน
สวี่หลีฉงคือชนชั้นเทวะ สถานะสูงส่งเพียงใด? คนอย่างเขาจะถูกควักลูกตาได้อย่างไร?
สามารถพูดได้เลย ว่าวาจาหยาบคายของซูเฉินเมื่อครู่ ได้ถูกตัดสินโทษแล้ว นั่นคือความตาย! ขอแค่สวี่หลีฉงออกคำสั่ง พวกเขาจะกระโจนเข้าพร้อมกัน สับซูเฉินเป็นหมื่นๆชิ้น!
สวี่หลีฉงสูดหายใจลึก ระงับความโกรธในใจ กล่าวเสียงขรึมว่า “เด็กน้อย เจ้ารู้รึเปล่าว่ากำลังพูดอยู่กับใคร?”
ความมั่นใจของซูเฉิน ทำให้เขาสังหรณ์ใจแปลกๆ จึงไม่รีบร้อนลงมือ
ซูเฉินเบ้ปาก เอ่ยด้วยความดูถูกดูแคลนว่า “ก็กำลังพูดอยู่กับระดับเทวะไง แกเป็นระดับเทวะไม่ใช่หรอ?”
ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา ทุกคนในตระกูลสวี่และเจิ้งเต๋าต่างตกตะลึง
การดำรงอยู่ระดับเทวะ ทรงพลังเพียงใดใครๆก็รู้ แล้วซูเฉินกล้าพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไร?
เหตุใดจึงกล้าพูดอย่างกับว่าสวี่หลีฉงเป็นแค่มดปลวก?
“หึ หึ .. ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” สวี่หลีฉงไม่โกรธแต่หัวเราะ “เจ้าหนู ในเมื่อเจ้าดูถูกข้าในฐานะระดับเทวะ เช่นนั้นเจ้ากล้าที่จะประกาศชื่อตัวเองหรือไม่?”
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องปกติ จะต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังแน่ พฤติกรรมผิดวิสัยของซูเฉิน ทำให้เขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง จึงอยากทราบภูมิหลังของซูเฉิน
“ฉันว่าแกน่าจะเคยได้ยินชื่อฉันนะ แล้วน่าจะได้ยินบ่อยซะด้วย”
ซูเฉินหัวเราะเบาๆ จากนั้นกล่าวต่อว่า “ฉัน-คือ-ซู-เฉิน!”
ชนชั้นเทวะเผ่ามนุษย์รวมหัวกันสังหารเขา ฉะนั้นอีกฝ่ายต้องรู้เรื่องราวของเขาบ้างไม่มากก็น้อย
“ซูเฉิน …”
สวี่หลีฉงพึมพำ แต่แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“เขาคือซูเฉิน!”
ร่างของเจิ้งเต๋าสั่นสะท้าน สายตาที่มองไปยังซูเฉินเต็มไปด้วยความยำเกรง
ชื่อเสียงของผู้คนก็เสมือนร่มเงาของต้นไม้
หากถามว่าในปีที่ผ่านมา ผู้ใดมีชื่อเสียงมากที่สุดในทวีปมนุษย์ คงเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากซูเฉิน
ชื่อของซูเฉิน สามารถอธิบายได้ว่าโด่งดังราวกับเสียงฟ้าร้อง
ในปีที่ผ่านมา สิ่งที่เขาทำ มันสุดโต่งมาก ทั้งยังมีข่าวลือว่า ระดับเทวะเผ่ามนุษย์และพวกต่างเผ่าได้ร่วมมือกันเพื่อสังหารซูเฉิน แต่หลายต่อหลายครั้ง ผลลัพธ์คือไม่เพียงไม่สามารถสังหารซูเฉิน แต่ยังสูญเสียไพร่พลไป
กระทั่งบรรพชนระดับเทวะของตระกูลเฝิง และด้วงเขมือบทองคำระดับเทวะก็ตายลงด้วยน้ำมือซูเฉิน
หรือก็คือแม้แต่ยอดฝีมือระดับเทวะก็ไม่ใช่คู่มือเขา เห็นได้ชัดว่าซูเฉินน่าหวาดกลัวเพียงใด
หลังจากได้ล่วงรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของซูเฉินแล้ว ความเย่อหยิ่งของเหล่าสมาชิกตระกูลสวี่พลันเลือนหาย ค่อยๆถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ
มีข่าวลือว่าซูเฉินไม่เพียงแข็งแกร่งไม่แพ้ใคร แต่ยังเป็นนักฆ่าเลือดเย็น สังหารทุกคนที่ไม่ลงรอยกับเขา มีนิสัยมุทะลุ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหยุดเขาได้!
จนถึงตอนนี้ ผู้คนที่จบชีวิตลงด้วยน้ำมือซูเฉิน มีเยอะจนนับไม่ถ้วน สามารถกล่าวได้เลย ว่าเขาคือเทพสังหารอันดับหนึ่งในช่วงเวลานี้
เมื่อครู่ พวกเขาทั้งหมดเพิ่งพูดไม่ดีกับซูเฉิน ด้วยอุปนิสัยของซูเฉินแล้ว ซูเฉินคงคิดเอาคืนพวกเขาแน่ๆเลยใช่ไหมนี่?
ในเวลานี้ เหล่าสมาชิกตระกูลสวี่ต่างเริ่มไม่สบายใจ แม้แต่สวี่หลีฉงก็ไม่มีข้อยกเว้น เพราะเขารู้ตัวเองดี ว่ากำลังรบของตนไม่ต่างจากเฝิงเหอเซียง และไม่ใช่คู่ต่อสู้ของด้วงเขมือบทองคำระดับเทวะ
แต่ซูเฉินสามารถสังหารด้วงเขมือบทองคำได้ เช่นนั้นหากคิดสังหารเขา มันไม่ใช่เรื่องง่ายดายหรอกหรือ?
“ชื่อเสียงของซูเฉินโด่งดังจริงๆ”
ฉีมู่เฟิงถอนหายใจด้วยอารมณ์
ซูเฉินเพียงลำพัง ก็สามารถกดดันผู้คนนับร้อยจากตระกูลสวี่รวมไปถึงระดับเทวะให้ตกอยู่ในความเงียบ นี่แสดงให้เห็นว่า อิทธิพลของซูเฉินในทวีปมนุษย์ยิ่งใหญ่เพียงใด
“ซูเฉิน พวกเราตระกูลสวี่ไม่มีความแค้นเคืองใดๆกับเจ้า หากเจ้าต้องการศิลารวมวิญญาณ ข้ายินดีมอบพวกมันให้เจ้าทั้งหมด” สวี่หลีฉงกัดฟันกล่าว
เนื่องจากซูเฉินมาเพื่อศิลารวมวิญญาณ งั้นก็จำเป็นต้องมอบทั้งหมดให้อีกฝ่าย ไม่ควรสร้างเรื่องยุ่งยากให้กับตัวเอง
“ยอมง่ายขนาดนี้เลยหรอ?”
ฉีมู่เสวี่ยตะลึงงัน ผู้แข็งแกร่งระดับเทวะ เมื่ออยู่ต่อหน้าซูเฉินก็กลายเป็นเต่าหัวหด มันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
6/8
Ep.854
“ฉันต้องการศิลารวมวิญญาณก็จริง แต่ก็ต้องการชีวิตของแกด้วยเหมือนกัน!”
ใบหน้าของซูเฉินเผยท่าทีหยอกล้อ ชนชั้นเทวะเผ่ามนุษย์ร่วมมือกันฆ่าเขา จึงเป็นธรรมดาที่เขาต้องแก้แค้น
ได้ยินแบบนั้น ทุกคนในตระกูลสวี่ต่างถอยกรูดพร้อมกัน สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
ซูเฉินคือตัวตนที่สามารถสังหารด้วงเขมือบทองคำ เช่นนั้นหากคิดสังหารพวกเขา มันไม่ง่ายดายราวกับบี้มดหรือ?
“ซูเฉิน ตระกูลสวี่ของข้ายังมีระดับเทวะอีกคน และท่านผู้นั้นเป็นถึงขั้น 2 รู้แบบนี้แล้ว เจ้ายังอยากฉีกหน้าพวกเราอีกหรือ?”
สวี่หลีฉงหน้าเปลี่ยนสี ชื่อเสียงอันชั่วร้ายของซูเฉินทำให้ความกล้าของเขาเหือดหาย ทั้งยังกระจ่างว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูเฉินอย่างแน่นอน เพื่อเอาชีวิตรอด เลยทำได้เพียงยกระดับเทวะอีกคนมาอ้างถึง
“ใช่ว่าฉันไม่เคยฆ่าระดับเทวะขั้น 2 ซักหน่อย” ซูเฉินแค่นเสียงดูแคลน กวาดมือใหญ่
“พวกเราลงมือ! อย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว!”
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ก็เป็นระดับเทวะขั้น 2 แต่สุดท้ายมันก็ตกตายด้วยน้ำมือเขา
การที่อีกฝ่ายยกระดับเทวะขั้น 2 ขึ้นมาข่มขู่ จึงเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี
“ฆ่า!”
ฉีมู่เฟิงเป็นคนแรกที่พุ่งไปข้างหน้า ในเมื่อเขากับซูเฉินเป็นพี่น้องกันแล้ว ฉะนั้นธุระของน้องชายก็เป็นธุระของเขาเช่นกัน
สังหารตระกูลสวี่ ถือเป็นหน้าที่ของเขาที่ไม่อาจปฏิเสธได้!
อู๋หยาจื่อและคนอื่นๆก็ลงมือเช่นกัน
“จะรังแกกันมากเกินไปแล้ว! เราผู้เฒ่าขอสู้ตายกับพวกเจ้า!”
สวี่หลีฉงคำรามด้วยความโกรธ กลิ่นอายบนร่างเขาลุกโหมอย่างบ้าคลั่ง
กระนั้น ภาพที่ปรากฏขึ้นในวินาทีต่อมา มันทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง!
เห็นแค่เพียงสวี่หลีฉงหยิบเอาสมบัติวิเศษที่มีรูปทรงคล้ายปีกออกมา ติดลงบนแผ่นหลัง และโผบินไปในอากาศอย่างรวดเร็ว
“ซูเฉิน! ความแค้นในวันนี้ ตระกูลสวี่ของข้าจะใช้คืนเป็นร้อยเท่า เจ้าเตรียมรอรับการแก้แค้นที่ไม่รู้จบของตระกูลข้าได้เลย!”
สิ้นเสียง ปีกบนแผ่นหลังของสวี่หลีฉงพลันกระพือดุเดือด โฉบหนีไปในทิศทางเดียว
“ซูเฉิน! รีบขับรถฐานทัพของเจ้าไล่ล่าเขาเร็ว!” ฉีมู่เฟิงเตือน
คิดตัดหญ้าหากไม่กำจัดถึงราก พอถึงฤดูใบไม้ผลิ พวกมันก็จะงอกขึ้นใหม่อีกครั้ง
ถ้าปล่อยให้สวี่หลีฉงหนีไปได้ ปัญหาที่ตามมาอาจไม่มีสิ้นสุด
“เขาหนีไม่พ้นหรอก”
ซูเฉินเบ้ปากเล็กน้อย จากนั้นภายใต้สายตาประหลาดใจของฉีมู่เฟิง เขาค่อยๆย่ำขึ้นไปในอากาศที่ละก้าว
เมื่อมาถึงความสูงที่พอเหมาะ ทั้งคนทั้งร่างเขาก็พุ่งเป็นเส้นตรง กลายเป็นเส้นแสงดาราพรั่งพราว ไล่ตามไปยังทิศทางที่สวี่หลีฉงจากไป
“นี่ซูเฉินสามารถเดินบนอากาศได้ด้วยหรือ?”
ฉีมู่เสวี่ยและฉีมู่อวี้อ้าปากค้าง ใบหน้าของพวกเธอเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“กลยุทธของซูเฉินมีมากมายไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ”
ฉีมู่เฟิงทอดถอนหายใจด้วยอารมณ์ ก่อนหันไปร่วมมือล่ากับคนอื่นๆต่อ
พวกเขาทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือขั้น 10 ขึ้นไปทั้งสิ้น คิดจัดการกับสมุนตระกูลสวี่ จึงง่ายดายเหมือนหั่นผักหั่นแตง
ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ตระกูลสวี่นับร้อยคนก็ไม่มีใครรอดชีวิต ถูกสังหารสิ้น
ในเวลาเดียวกัน ได้ยินเสียงกรีดร้องน่าสยดสยองดังแว่วเข้ามาจากที่ไกลๆ
ไม่นานหลังจากนั้น ก็เห็นซูเฉินวิ่งกลับมาแต่ไกล นี่บ่งบอกได้ชัดเจน ว่าบรรพชนระดับเทวะสวี่หลีฉง ได้ตกตายอย่างน่าอนาถด้วยน้ำมือของซูเฉินแล้ว
ได้เป็นสักขีพยานของสิ่งที่เกิดขึ้น เจิ้งเต๋าตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ตระกูลสวี่เป็นใหญ่บนเกาะชิงหยุนมาหลายปี แต่กลับถูกทำลายลงง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร?
ณ ขณะนี้ เขาตระหนักได้อย่างชัดเจน ว่าข่าวลือเกี่ยวกับซูเฉิน ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย อันที่จริงพวกเขาประเมินความสามารถของซูเฉินต่ำไปด้วยซ้ำ
ซูเฉินไม่เพียงสามารถสังหารการดำรงอยู่ระดับเทวะได้อย่างง่ายดาย แต่ข้างกายเขายังห้อมล้อมไปด้วยผู้แข็งแกร่ง
และด้วยกำลังรบระดับนี้ ในทวีปมนุษย์ยังจะมีขุมกำลังใดสามารถต่อกรได้อีก?
หากคิดสังหารซูเฉิน เกรงว่าคงต้องยกยอดฝีมือชั้นนำทุกคนบนแผ่นดินมาสู้กับเขา!