ตอนที่แล้วลูกเขยพ่อมารร้ายตอนที่ 80
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปลูกเขยพ่อมารร้ายตอนที่ 82

บทที่ 81: ออกเดินทาง! ได้เวลาผจญภัย


บทที่ 81: ออกเดินทาง! ได้เวลาผจญภัย

เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินรุยที่หลับสนิทตื่นขึ้นจากเสียงเคาะประตูของสลี

“นายท่าน เจ้าหญิงน้อยและอาเธน่ามาแล้ว!”

เฉินรุยรีบแต่งตัวทันที จากนั้นเขาก็ได้แต่ผงะเมื่อเขาเห็นอาเธน่าและอลิซอยู่นอกห้องของเขา

อาเธน่าสวมชุดเกราะหนังทั้งตัว สวมสร้อยข้อมือมิติ ถือดาบใหญ่ตามปกติ ดูราวกับว่านางกำลังจะไปที่ไหนสักแห่งที่ห่างไกล ในขณะที่ดวงตาโตของอลิซดูแดงและบวม เห็นได้ชัดว่าก่อนมานางต้องร้องไห้มาก่อน

"เข้ามาสิ พวกเจ้าทั้งคู่เป็นอะไรไปเนี่ย?” เฉินรุยถามด้วยความประหลาดใจ

อาเธน่าก้าวไปข้างหน้าและยื่นกระดาษหนังให้เขาและพูดว่า “นี่คือจดหมายนัดหมายของเจ้าในฐานะเจ้าหน้าที่เหมือง เจ้าหญิิงได้ทำตกลงตามคำขอของข้าแล้ว ดังนั้นข้าจะไปที่ภูเขาซีหลางกับเจ้า”

“พี่สาวเป็นคนน่ารำคาญชะมัด!” อลิซพูดอย่างหดหู่ต่อ “ข้าทะเลาะกับนางหนักมาก แต่นางก็ยังไม่อนุญาตให้ข้าไปด้วย!”

“เจ้าทั้งคู่รู้เรื่องเจ้าหน้าที่เหมืองคนก่อนไหม?” เฉินรุยเกาหัว จุดประสงค์หลักของเขาคือออร่า ดังนั้นการมีอาเธน่าอยู่รอบตัวจะไม่สะดวกอย่างแน่นอน สำหรับแก๊งค์เสื้อคลุม เขาได้เตรียมการไว้แล้ว สมาชิกรู้เพียงว่าหัวหน้ากำลังออกไปฝึกลับเพื่อเผชิญหน้ากับอรัค เจสซี่และดีดี้จะจัดการทุกเรื่องเอง

“เรื่องนั้นเมื่อบ่ายวันนี้มันได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองแล้ว” อลิซพยักหน้า “ข้ารู้เรื่องนี้จากพี่สาวของข้า นี่เป็นฝีมือของโจเซฟแน่นอน เขาต้องต้องการล้างแค้นเหตุการณ์ที่ศึกเวหา”

เฉินรุยได้แต่ส่ายหัวอีก: การแก้แค้นที่โจเซฟต้องการไม่ใช่แค่แค่ศึกประลองเวหาหรอก อย่างไรก็ตาม แม้แต่รอยซ์เองก็ดูยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ของเหมือง รอยซ์คิดและบอกเขาเพียงคร่าวๆว่าโจรและจ้าววิญญาณสีชาดต้องเกี่ยวข้องกัน

“ไอ้บ้าโจเซฟ!” อาเธน่ากำหมัดของนางอย่างเกรี้ยวกราด “อลันก็ด้วย พวกมันต้องการฆ่าเจ้านะเฉินรุย!”

เฉินรุยได้แต่ปลอบโยน “ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่เป็นไร ข้ามีสหายคอยปกป้องข้าอยู่แล้ว อาเธน่า เจ้าไม่ต้องมากับข้าเลย อยู่ในเมืองพระจันทร์ดับเพื่อติดตามอลิซเถอะ”

“ไม่ ที่นั่นมันอันตรายมากเลยนะ ข้าต้องไปกับเจ้า!” อาเธน่าดูมุ่งมั่นมาก “ข้าตัดสินใจแล้ว ใครก็ตามที่พยายามจะหยุดข้าต้องก้าวข้ามศพของข้าไปก่อน! นี่คือสิ่งที่ข้าพูดกับเจ้าหญิง”

เฉินรุยรู้สึกตกใจมาก เมื่อมองดูความมุ่งมั่นในดวงตาที่เหมือนทับทิม เขารู้สึกว่าเส้นบางๆในหัวใจของเขากำลังเคลื่อนไหว

อลิซยังกล่าวอีกว่า “ภูเขาซีหลางไม่เหมือนที่อื่น มันถูกรบกวนโดยสัตว์อสูรใต้ดินมาหลายร้อยปีแล้ว และการขุดเหมืองก็ไม่สามารถทำได้อย่างราบรื่น มีแม้กระทั่งโจรอาละวาดอยู่รอบๆ ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่อันตรายที่สุดในเมืองพระจันทร์ดับ ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เหมืองคนก่อน ทิมได้นำทีมสำรวจเหมืองเป็นการส่วนตัว ในท้ายที่สุด ผู้คนที่ไปกว่าสิบคนก็หายตัวไป กระทั่งตอนนี้ยังหาศพไม่พบ! ดังนั้น เจ้าต้องให้อาเธน่าอยู่ข้างกายเจ้า มิฉะนั้น ข้าคงจะเป็นห่วงมากขึ้นแน่”

ดวงตาสีแดงของอลิซและการแสดงออกที่จริงจังทำให้หัวใจของเฉินรุยอบอุ่นไปอีก เขาลูบหัวนางเบาๆ การเคลื่อนไหวนั้นเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ อลิซตกตะลึง ใบหน้าของนางแดงก่ำ อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้ต่อสู้ดิ้นรนและดูเหมือนนางจะชอบมัน หลังจากที่เฉินรุยทำอย่างนั้น เขาก็ตกตะลึงเช่นกัน แซลลี่ที่อยู่ด้านข้างก็ได้แต่ตกใจ จากนั้นจึงเกิดความชื่นชมอย่างแรงกล้าที่เจ้านายของเขากล้าทำขนาดนั้น

ส่วนอาเธน่าไม่มีปฏิกิริยาพิเศษใดๆ นางดูจริงจังพอควร นางจ้องเขม็งไปที่เฉินรุย และยิ่งทำให้เฉินรุยรู้สึกกดดันอย่างมากไปอีก

นี่มันอะไรกัน? ไม่ได้ไปตายนะเฮ้ย จะกังวลใจอะไรกันขนาดนั้น?

บางทีอาจเป็นเพราะ "พรหมลิขิต" ล่ะมั้ง

จู่ๆ เฉินรุยก็นึกถึงชื่อเพลงเก่า “มีนางตลอดการเดินทาง” และสูดหายใจเข้าลึกๆ

“อาเธน่า เจ้าจะเดินทางไปได้เมื่อไหร่?”

ประโยคนั้นทำให้ดวงตาที่จริงจังของอาเธน่าหลอมรวมเป็นความกระตือรือร้นอย่างสนุกสนาน “ได้ทุกเมื่อ!”

เฉินรุยพยักหน้า “งั้นก็ดี เรากำลังจะออกเดินทางแล้ว ข้าจะให้ยาแก้พิษแก่เจ้าในขณะที่เราจะขี่ไวเวิร์นไปที่นั่น”

อลิซพอได้ยินคำว่าไวเวิร์น ตาของนางก็สว่างขึ้นทันที  “การวิจัยยาแก้พิษสำเร็จแล้วเหรอ?”

เฉินรุยกลัวที่จะสร้างปัญหาเพิ่มเติม ดังนั้นเขาจึงอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “ยาแก้พิษเป็นเพียงของชั่วคราว จำเป็นที่จะต้องเป็นมารระดับสูงสุดก่อน หลังจากที่ยาแก้พิษตัวใหม่พัฒนาขึ้น ข้าจะพาเจ้าไปขี่ไวเวิร์นเอง หรือไม่เจ้าก็คงต้องขึ้นไปเป็นมารระดับสูงสุดก่อน”

"งั้นก็ช่างเถอะ ข้าจะรอยาแก้พิษตัวใหม่ของเจ้าล่ะกัน” อลิซพูดด้วยความผิดหวัง ในแง่ของการฝึก โลลิตัวน้อยภูมิใจในความเกียจคร้านของตนอยู่เสมอ การตื่นขึ้นของ 'เปลงไฟทมิฬ' เป็นแค่เพียงพรสวรรค์ของนาง หาใช่การฝึกหรืออะไรสักนิดเดียว

ในไม่ช้าอาเธน่าและเฉินรุยก็มาถึงรังไวเวิร์นที่สร้างขึ้นชั่วคราวที่ด้านนอกห้องทดลอง แม็กดาและเคกูติดตั้งอานแบบเรียบง่ายอยู่บนตัวแล้ว แซลลี่พาไวเวิร์นไปหาเจ้านายของเขาและท่านหญิงของเจ้านายในอนาคตทั้งน้ำตา

อัลดาซ ซึ่งอยู่ในห้องลับ เพื่อศึกษายาทมิฬก็รีบออกมาและมอบยาจำนวนหนึ่งให้กับเฉินรุยโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เมื่อเฉินรุยมองดูฉลาก เขาก็รู้ว่าพวกมันเป็นยาเพิ่มพลังที่แข็งแกร่งที่สุดและยาพิษในห้องทดลอง

ดาร์คเอลฟ์มองที่เฉินรุยอย่างซาบซึ้ง “อย่าลืมว่าเจ้ายังไม่ได้ทำตามสัญญา”

เฉินรุยรู้ว่าอัลดาสกำลังพูดถึงน้องสาวของเขา อย่างไรก็ตาม การที่อัลดาสบอกแบบนี้ไม่ใช่เพราะน้องสาวของเขา แต่เป็นสัญญาที่เฉินรุยจะต้องกลับมาทำโดยที่ต้องมีชีวิตกลับมา

เฉินรุยพยักหน้า อัลดาสพูดจบ ก็รีบกลับไปที่ห้องทดลองโดยไม่หันกลับมามอง

แม้แต่อลิซก็พูดว่า “ท่านอาจารย์กลิ่นเหม็น ทำไมถึงรีบไปจังล่ะ? เจ้ากลัวที่จะให้คนอื่นเห็นน้ำตาของเจ้าหรือไง เจ้าคนอารมณ์อ่อนไหวนี้?”

“ยังไงทั้งสองคนก็ต้องปลอดภัยอยู่แล้ว!” โลลิตัวน้อยโบกมือให้เฉินรุยและอาเธน่าด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “เฉินรุย ถ้าเจ้ากลับมาได้ ข้าอาจจะคิดเรื่องหนีไปกับเจ้าและอาเธน่าก็ได้นะ…”

หลังได้ยิน เฉินรุยแทบจะกลายเป็นหิน: เห็นได้ชัดว่านี้มันเหมือนกับคำสาป ตูจะกลับมาดีไหมนะ!

จากนั้น ไวเวิร์นก็ได้กระพือปีกและบินสูงขึ้น

เมื่อมองลงไปที่ร่างของอลิซและแซลลี่ที่เล็กลงเรื่อยๆ เฉินรุยก็โบกมืออย่างอ่อนโยน ดวงตาของเขาจ้องไปที่ห้องประชุมของพระราชวังครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็กระตุ้นให้แม็กดาบินไปข้างหน้า ในที่สุดพวกเขาก็หายตัวไปจากสายตาของอลิซ

อาเธน่ามีความปรารถนาที่จะเป็นอัศวินมังกรอยู่เสมอ ตอนนี้นางสามารถไปกับเฉินรุยได้แล้ว ความปรารถนาของนางก็เป็นจริง และนางก็อารมณ์ดีมาก ขณะที่เฉินรุย ฟื้นจากการสูญเสียจิตวิญญาณจาก 'วิเคราะห์ขั้นสูง' เขาก็ได้สื่อสารกับพวกไวเวิร์นผ่านทาง 'ดวงตาวิเคราะห์' ควบคู่ไปกับประสบการณ์การฝึกฝนสัตว์อสูรอันเข้มข้นของอาเธน่า การทดสอบครั้งแรกประสบความสำเร็จอย่างมาก

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองพระจันทร์ดับคือ เขตวิญญาณเจ้าสีชาด ทิศตะวันออกเฉียงใต้คือเขตลาวาฟ้า ทำให้ภูมิประเทศทางทิศตะวันตกเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด มันเต็มไปด้วยภูเขาสูงตระหง่านและสันเขาที่สูงชัน เมื่อผ่านทิวเขาซีหลาง ทางตะวันตกไกลออกไปจะเป็นเมืองเลอา ซึ่งอยู่ติดกับอาณาจักรแห่งความมืดมิด

เดิมเมืองเลอาเป็นป้อมปราการสองแห่งที่หันหน้าเข้าหากันและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน พวกเขาเป็นของจักรวรรดินางฟ้าตกสวรรค์และอาณาจักรเงาตามลำดับ เมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว จักรพรรดิแห่งนางฟ้าตกสวรรค์ ศากยะ ลูซิเฟอร์ ได้ครองราชย์ และเขามีความสัมพันธ์อันเกื้อหนุนกันกับอาณาจักรเงา ทั้งสองอาณาจักรได้ลงนามในข้อตกลงที่เป็นมิตรที่จะอยู่ร่วมกันเป็นเวลา 10,000 ปี เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ ป้อมปราการของทั้งสองอาณาจักรจึงถูกรื้อถอนและรวมเข้ากับเมืองเลอา ซึ่งทั้งสองประเทศใช้ร่วมกัน

เชียเคยส่งกองคาราวานไปทางทิศตะวันตกและต้องการผ่านเมืองเลอาเพื่อเข้าสู่อาณาจักรเงา อย่างไรก็ตาม พวกโจรก็ได้ปรากฏตัวขึ้นทางทิศตะวันตกเช่นกัน นางสูญเสียสิ่งของที่ส่งไปหลายครั้ง เมื่อรวมกับ “การกำจัดที่ไม่สำเร็จ” ของอลันแล้ว เมืองพระจันทร์ดับก็สามารถแลกเปลี่ยนกับจ้าววิญญาณีสชาดหรือแลกเปลี่ยนกับโลกภายนอกผ่านจ้าววิญญาณสีชาดเป็นช่องทางเดียวเท่านั้น ดังนั้น เส้นชีวิตทางเศรษฐกิจจึงถูกควบคุมโดยจ้าววิญญาณสีชาดเสมอ

“ด้วยความเร็วนี้ เราสามารถไปถึงภูเขาซีหลางโดยใช้เวลาประมาณ 2 และอีกครึ่งวัน” ด้วยความที่ลมแรงมาก อาเธน่าจึงพูดเสียงดังเป็นพิเศษ

“เราจะตั้งแคมป์ที่ไหนในตอนกลางคืนดี?” เห็นได้ชัดว่าไม่มีโรงเตี๊ยมเลยระหว่างทาง ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงตั้งแคมป์

อาเธน่ามีประสบการณ์มากมายในการฝึกสัตว์และตั้งแคมป์ “ระยะทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล เราจะพยายามไม่ให้พวกไวเวิร์นหมดแรง เราจะหยุดพักระหว่างทางพร้อมกับให้อาหารพวกไวเวิร์น จากนั้นเราจะรีบไปที่ป่าฝนดำก่อนมืด”

"อืม!" เฉินรุยตระหนักได้เลย การมีอาเธน่าไปด้วยช่วยแก้ปัญหาได้มาก ถ้าเขาอยู่คนเดียว เขาอาจจะเสียเวลามาก แม้ว่าเขาจะมีแผนที่เวทย์มนตร์ก็ตาม

เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ทั้งสองก็มาถึงป่าฝนสีดำตามกำหนด เฉินรุยจำได้ว่าตอนที่เขาพบอลิซครั้งแรก หญ้าและดอกไม้มีพิษที่เขาได้รับต่างมาจากที่นี่

ป่าฝนสีดำเป็นพื้นที่ป่าแดนมารมาตรฐานที่มีขนาดใหญ่และอุดมไปด้วยสมุนไพร คุณภาพของสมุนไพรนั้นสูงกว่าที่อื่นมาก แต่ก็เต็มไปด้วยพืชและสัตว์ที่อันตราย

อาเธน่าพาเฉินรุยยังเนินเขาที่มีลมพัดอย่างคุ้นเคย ไวเวิร์นทั้งสองกำลังพักอยู่ที่ด้านข้างของต้นไม้เหนือเนินเขา มันยังมีบทบาทเป็นดั่งสุนัขเฝ้าบ้านด้วย มีลำธารอยู่ไม่ไกลจากเชิงเขามากนัก หาน้ำได้สะดวก

“คืนนี้พักผ่อนที่ไหล่เขาล่ะกัน อลิซกับข้าพักที่นี่ครั้งสุดท้ายเช่นกัน เพราะมันปลอดภัยกว่า” อาเธน่าหยิบดาบใหญ่ที่ด้านหลังของนางแล้วนั่งลงบนหิน

"อาเธน่า"

"อะไรเหรอ?"

"ขอบคุณนะ" เฉินรุยกล่าวอย่างจริงใจ ภูเขาซีหลางนั้นอันตรายพอๆ กันสำหรับอาเธน่า แต่นางไม่ลังเลใจที่จะติดตามเขามา

“เราเป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องพูดหรอก” อาเธน่าส่ายหัวและหันหน้าไปทางอื่น

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาออกไปเที่ยวด้วยกัน แต่จู่ๆอาเธน่าก็รู้สึกประหม่าอย่างอธิบายไม่ถูก เมื่อนางคิดว่านางอาจจะใช้เวลาอยู่กับเฉินรุยเพียงลำพังเป็นเวลานาน หัวใจของนางก็เต้นเร็วขึ้น สถานการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

"ข้ารู้" เฉินรุยเกาศีรษะ “แต่ข้ายังคงต้องการขอบคุณเจ้าอยู่ดี”

เมื่อเขาพูดจบประโยค และ "ฟุ๊บ" ดาบใหญ่ก็ถูกดึงออกจากฝักโดยไม่แจ้งให้ทราบ มันอยู่ตรงหน้าเฉินรุย เขาสะดุ้ง เพราะเขาแค่อยากจะขอบคุณเท่านั้น นี่เขาไปทำอะไรให้ถึงต้องชักดาบออกมา?

อาเธน่าลุกขึ้นยืนทันที นางถือดาบใหญ่ของนางและเดินไปที่ลำธารโดยไม่หันกลับมามอง นางบอกก่อนจะจากไปว่า “ไม่มีอะไรหรอกน่า! เจ้าก็ตัวตั้งใหญ่ ทำไมถึงพูดจาโผงผางแบบนั้นล่ะ! ข้าแค่จะไปล่าเหยื่อ!”

อันที่จริง นางก็แค่พูดเก้อแก้เขินและไม่อยากให้เห็นหน้าแดงๆของนาง

หลังจากนั้นสักพัก อาเธน่ากลับมาเป็นปกติ หลังจากที่นางกลับมาที่เนินเขาพร้อมกับเหยื่อสองตัว นางก็เห็นเต็นท์ที่เฉินรุยตั้งไว้ และนางก็ดูประหลาดใจมาก

“เต็นท์นี้คืออะไรเหรอ? นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นสิ่งนี้เลย”

เฉินรุยยิ้มและกล่าวว่า “นี่เรียกว่าเต็นท์กระโจมยังไงล่ะ เพราะแซลลี่ช่วย มันก็เลยเพิ่งทำเสร็จเมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าเพิ่งสร้างมันขึ้นมาเพื่อความสนุกในตอนแรก แต่ข้าไม่เคยคิดว่าจะได้ใช้งานเร็วขนาดนี้”

อันที่จริง นี่คืออุปกรณ์บางส่วนที่เฉินรุยเตรียมไว้สำหรับบึงคืนสงบล่วงหน้า มันเพิ่งมีประโยชน์โดยบังเอิญเท่านั้นเอง

“เต๊นท์นี้ไม่เลว เก็บก็ดูสะดวกด้วย” อาเธน่ามีประสบการณ์มากมายในการเอาชีวิตรอดในป่า ดังนั้นนางจึงสังเกตเห็นประโยชน์ของเต็นท์ได้ในทันที นางวางเหยื่อที่ทำความสะอาดไว้ข้างกองไฟ “นี่เป็นงานของปรมาจารย์ในความทรงจำของเจ้าด้วยหรือเปล่า?”

“มันเป็นแค่ของเทียม อันที่จริงแย่กว่าของจริงมาก” เฉินรุยพูดอย่างคลุมเครือ เขาจับเหยื่อและหยิบอุปกรณ์บาร์บีคิวออกมา “อ้อ เต็นท์ของเจ้าอยู่ที่ไหนเหรอ?”

"ข้าไม่ต้องใช้หรอก เพราะข้าคุ้นเคยกับที่นี่“อาเธน่าได้แต่ส่ายหัว”มันมืดแล้ว ข้าจะเป็นคนเฝ้ายามเอง เจ้าควรพักผ่อนก่อนเถอะ พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางแต่เช้า”

เฉินรุยตกใจ นี่มันอะไรกัน? ให้ผู้หญิงเฝ้ากลางคืนในขณะที่ผู้ชายซ่อนตัวอยู่ในเต็นท์เพื่อพักผ่อนเนี่ยนะ?

“เต็นท์นี้ใหญ่มาก สองคนก็นอนได้นะ” เฉินรุยตระหนักดีว่ามีบางอย่างผิดปกติหลังจากที่เขาพูด จึงได้รีบเปลี่ยนคำพูด “คือข้าหมายความว่าเราสามารถผลัดกันเฝ้ายามได้ คนละครึ่งคืน จะได้พักผ่อนทั้งคู่”

ใบหน้าของอาเธน่าแดงเล็กน้อย โชคดีที่มันไม่ชัดเจนนักภายใต้แสงไฟ แต่นางก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ก่อนหน้านี้ข้าก็ทำแบบเดียวกับอลิซ ตอนนี้ข้าเป็นมารระดับสูงสุด ที่นี่ไม่ปลอดภัย อาจมีอันตรายได้ตลอดเวลา เจ้าไม่มีเรี่ยวแรง ให้เป็นหน้าที่ข้าเถอะ”

“ปีศาจระดับสูงไม่จำเป็นต้องพักผ่อนเหรอ?”

เฉินรุยจะไม่มีวันปล่อยให้อาเธน่าต้องทนทุกข์เพียงลำพังแน่ นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขาไม่ได้ด้อยกว่านาง เพียงแต่เขาขาดประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม เขามีมากกว่าความสามารถในการเตือนและปกป้องตัวเอง เฉินรุยส่ายหัวอย่างแรง “ข้าไม่ใช่อลิซ ลืมไปหรือเปล่าว่าข้ามีความสามารถในการทำให้พวกสัตว์ร้ายเชื่อง? ข้าสามารถทำให้แม็กดาและเคกูผลัดกันเฝ้ายามได้ พวกเขาแข็งแกร่งกว่าข้าอีก ถ้าเจ้ายืนกรานที่จะเฝ้าคนเดียวทั้งคืน ข้าก็จะไม่นอนเหมือนกัน ข้าจะเฝ้ากับเจ้า”

เมื่อเห็นทัศนคติที่แน่วแน่ของเขา อาเธน่าก็รู้สึกสบายใจอย่างสุดจะพรรณนาอยู่ในใจของนาง นางเองก็หยุดยืนกราน พร้อมคิดว่าช่วงเกือบเช้าอาจจะมีอันตราย นางจึงเลือกที่จะพักผ่อนในครึ่งแรกของคืน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด