ตอนที่แล้วลูกเขยพ่อมารร้ายตอนที่ 79
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 81: ออกเดินทาง! ได้เวลาผจญภัย

ลูกเขยพ่อมารร้ายตอนที่ 80


บทที่ 80: การพูดคุยยามค่ำคืน ณ ทะเลสาบสีเงิน

แหวนวงนี้ไม่ได้มีอะไรตกแต่งจนเป็นพิเศษ มันทั้งดูมืดมนและทื่อ แต่เฉินรุยรู้สึกได้ถึงพลังที่เลือนลางจากภายใน

“ยื่นมือซ้ายออกมาแล้วกรีดเลือดจากนิ้ว หลังจากนั้นจงผ่อนคลาย อย่าต่อต้านมัน” เสียงของเชียดังขึ้น

เฉินรุยรู้ว่าเชียจะไม่ทำร้ายเขา ดังนั้นเขาจึงทำตาม เชียเองก็กรีดเลือดออกมาจากนิ้วของตน เลือดของนางไม่ได้หยดลงบนพื้น แต่มันลอยอยู่ในอากาศเหมือนไข่มุกสีแดง นิ้วของเชียสั่นสะท้านด้วยจังหวะที่แปลกประหลาด หยดเลือดค่อยๆก่อตัวเป็นเครื่องหมายพิเศษ ซึ่งทำให้แหวนลอยไปทางมือซ้ายของเฉินรุยและพอดีกับนิ้วนางของเขา

จากนั้นเลือดของพวกเขาผสมกัน รอยเลือดเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ใหม่ที่ค่อยๆผสานเข้ากับแหวน เฉินรุยรู้สึกถึงความร้อนที่ลุกโชนจากนิ้วนาง ราวกับว่าเลือดของเชียปะปนอยู่ในร่างกายของเขาผ่านแหวน ความรู้สึกนั้นวิเศษมาก ไม่นานมันก็สลายไป

“ชื่อของแหวนนี้คือ  'ความปราถนาแห่งความมืด” มันสามารถต้านทานการรบกวนทางจิตใจได้ทุกประเภท เจ้าสามารถใช้ 'เทเลพอร์ตแบบสุ่ม' ได้วันละครั้ง. อย่างไรก็ตาม มันมีข้อจำกัดบางประการในทั้งเรื่องระยะทางและพื้นที่ ข้าจะให้มันกับเจ้า แหวนนี้จะสืบทอดตามสัญลักษณ์เลือด ดังนั้นแล้ว จะไม่มีใครอื่นนอกจากเจ้าที่สามารถใช้มันได้”

“ความปราถนาแห่งความมืด” นั้นมาจากมือของเชียเองเลย แสดงว่ามันไม่ใช่ของธรรมดา 'เทเลพอร์ตแบบสุ่ม' ต่อวันก็แข็งแกร่งไม่ธรรมดา เวลาสิ้นหวังก็คงจะใช้มันได้

อย่างไรก็ตาม นิ้วที่สวมแหวนนั้นค่อนข้างแปลก มันเป็นนิ้วนาง ตัวเฉินรุยเองก็ไม่รู้ว่านิ้วที่สวมแหวนมีความหมายพิเศษอะไรในแดนมารแห่งนี้หรือเปล่า อย่างไรก็ตาม นิ้วนางคงไม่ใช่นิ้วสำหรับสวมแหวนแต่งงาน มิฉะนั้นเชียคงจะไม่สวมมันบนนิ้วนางของเขา

หัวใจของเฉินรุยในตอนนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ จนเขาเผลอโพล่งออกมา “เจ้าหญิง นี่จะต้องเป็นสมบัติที่สำคัญของท่าน ข้ารับไว้ไม่ได้หรอก”

"คุณค่าของมันเป็นตัวกำหนดการคงอยู่ แม้นว่ามันจะมีค่ามาก แต่การที่เจ้าเก็บมันไว้กับตัวคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว” เชียตอบอย่างใจเย็น

ประโยคนั้นนางพูดออกมาโดยไร้ความรู้สึกจริงๆ อย่างไรก็ตาม เฉินรุยไม่ได้โกรธ เขายิ้มและพูดตอบกลับไปว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะรักษาชีวิตของข้าและจะรักษามันไว้อย่างดี”

เชียพยักหน้า “ดีมาก ตอนนี้ข้าคงไม่สามารถจะพาเจ้าไปที่เหมืองได้ ในตอนแรกข้าสัญญาว่าหลังผ่านไปหนึ่งเดือนข้าจะมอบเคียให้เจ้า เช่นนั้นไว้คุยกันเรื่องนี้หลังจากเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย ตราบใดที่เจ้ามีชีวิตอยู่ ความปราถนาของเจ้าข้าจะเติมเต็มเอง แม้แต่ 'การได้กลืนกินร่างกาย' ของเคียก็ไม่มีปัญหาอะไร”

นี่เป็นสวัสดิการของเขาเหรอ? ความจำของเจ้านายสาวแสนสาวช่างดีเหลือเกิน!

“เจ้าหญิง ข้าไม่ได้มีความประสงค์ต้องการเคียเลย ได้โปรดอย่าพูดเช่นนั้นเลย”

เฉินรุยยิ้มและส่ายหัว: แต่ถ้าจะให้พูดตามจริง ซัคคิวบัสก็มีเสน่ห์มากเลยแหละ อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่นางให้นั้นเป็นความต้องการทางเพศมากกว่า ไม่ใช่ความรัก สิ่งสำคัญที่สุดคือ นางไม่ได้เต็มใจ มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชายและหญิงที่หากจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง จำเป็นต้องมี ถ้ามีความสนิทสนมกัน มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ เฉินรุยยอมรับว่าเขาชอบสาวงาม แต่เขาก็มีกฏพื้นฐานที่สุดในใจเขาเช่นกัน ถ้าเขาต้องพึ่งพาพลังหรือสิ่งอื่นใดเพื่อครอบครองผู้หญิง เขาก็คงจะได้แต่รังเกียจตัวเองที่ไร้ค่าขนาดนั้น แม้ว่าเคียจะไม่มี "กลืนกินร่างกาย" ก็เถอะ

เชียเหลือบมองเขาด้วยอารมณ์แปลกๆ และเสียงของนางก็เย็นชา “อย่าดูถูกเคีย หากภูเขาซีหลางเป็นการทดสอบครั้งแรกของเจ้า เคียก็คือการทดสอบครั้งที่สอง ในเรื่องนี้ เราจะคุยกันหลังจากที่คุณเจ้ามาจากภูเขาซีหลางในอีกหกเดือนต่อมา”

เฉินรุยเองก็รู้ดีว่าการที่เชียมอบ "สาวใช้" ให้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา แต่ก็อย่างที่เชียบอก ควรพูดเรื่องนี้หลังเรื่องเหมือง

เฉินรุยโค้งคำนับ “เช่นนั้นข้าขอตัวไปเตรียมการเพื่อเดินทางพรุ่งนี้”

เชียพยักหน้า เปิดแฟ้มบนโต๊ะของนางและไม่สนใจเขาเลย

ไม่มีแม้แต่คำลา?

อย่างน้อยสักนิดก็พอ...

น่าเสียดายที่เจ้าหน้าที่เหมืองเฉินรุยไม่ได้ยินอะไรเลยแม้จะยกหูขึ้น ดังนั้นเขาจึงต้องออกจากห้องประชุมด้วยความผิดหวัง

“กลับมาอย่างมีชีวิตนะ”

หลังจากที่เฉินรุยจากไป เสียงที่ต่ำก็ได้ดังขึ้น นางยังไม่เงยหน้าขึ้น แต่ความหนาวเย็นในเสียงของนางก็ละลายไปมาก ความรู้สึกนี้ออกมาโดยตรงจากใจของนาง น่าเสียดายที่คนควรได้ยินกลับไม่ได้ยิน

เมื่อกลับมาที่ห้องทดลอง โจเซฟได้ส่งคนไปส่งของตามสัญญาแล้ว ดูเหมือนว่าประสิทธิภาพในการทำงานของเขาค่อนข้างสูง บางทีเขาอาจไม่ต้องการให้เฉินรุยหาข้อแก้ตัวใดๆทำให้ล่าช้า มีวัสดุเวทย์มนตร์สองสามอย่างสำหรับการแปลงออร่าอยู่จริงๆ ในกำไลมิติที่เชียมอบให้ มีศิลาเถาวัลย์คุณภาพสูงสุด 100 ชิ้น

ศิลาเถาวัลย์คุณภาพปานกลางให้ออร่า 100 – 150 ศิลาเถาวัลย์ที่เหนือกว่าของโจเซฟไม่ใช่วัสดุที่มีน้อยเลย เนื่องจากออร่าที่ให้มานั้นมีคุณภาพปานกลางถึงเกือบ 4 เท่า หลังจากแปลงศิลาเถาวัลย์และวัสดุอื่นๆทั้งหมด เฉินรุยที่เหลืออยู่ 90,000 ออร่าก็กลับมาเป็น 140,000 ออร่า

แม้ว่าการบริโภควัสดุหายากเหล่านี้จะสิ้นเปลืองเพียงเล็กน้อย แต่ความแข็งแกร่งก็มีความสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด ยิ่งหากรวมเมล็ดสำคัญของสวนกาแล็กซี่เติบโตเต็มที่ในวันพรุ่งนี้ก็คงจะเยอะแน่ ตอนนี้เขามีออร่ามากมายมหาศาล

หลังจากแปลงทุกอย่างเป็นออร่า ตอนนี้ก็มืดแล้ว เฉินรุยรีบกินข้าวเย็น ขี่ไวเวิร์นและบินไปที่ทะเลสาบสีฟ้า

แน่นอนว่ามังกรพิษกำลังนั่งอยู่ที่เดิมและเล่นกับของเล่น เมื่อรู้ว่าการสูญเสียจิตวิญญาณของเฉินรุยมีความสำคัญก่อนหน้านี้ ปากรีโลก็ไม่ได้แอบโจมตีหรือตั้งจารึกเพื่อเล่นตลกอีกต่อไป

"เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง? พลังวิญญาณของเจ้าฟื้นแล้วเหรอ?”

“ยัง แต่ข้าคงต้องออกไปสักพัก” เฉินรุยนอนบนทุ่งหญ้าข้างๆมังกรพิษ จากนั้นก็ได้เหยียดขาเหยียดแขนออกอย่างสบาย เขาหยิบหญ้าคาบใส่ปากในขณะที่บอกปากรีโลเกี่ยวกับเรื่องของภูเขาซีหลาง

ปากรีโลขมวดคิ้ว “เจ้าถูกเจ้าหญิงใส่อาคมมนต์เสน่ห์หรือเปล่า? อีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็ต้องต่อสู้กับอรัค แต่เจ้ายังคงจะไปภูเขาซีหลางเนี่ยนะ? อันที่จริง…สาวน้อยที่ทำให้เจ้าหมดสติในวันก่อนนั้นถือว่าใช้ได้เลยนะ เคี๊ยกเคี๊ยก แค่หน้าอกของนางแบนเกินไปหน่อย ข้าว่าเจ้าน่าจะรอสักสองสามปีก่อน”

“หุบปาก! ข้าไม่ใช่โลลินะโว้ย!” เฉินรุยมองไปที่มังกรพิษที่พยายามจะไม่หัวเราะ และเขาก็ด่ากลับไปด้วยความรำคาญ “เหตุผลที่ข้าไปภูเขาซีหลางก็เพราะมรดกของปรมาจารย์ ข้าต้องการแร่เสียประเภทหนึ่งในภูเขาซีหลางเพื่อปลุกพลังแห่งมรดกของข้าให้ตื่นขึ้น หากการท้าทายนี้เสร็จสิ้น ข้าอาจได้รับยาทมิฬ”

เขามียาทมิฬอยู่แล้ว แต่เขาต้องการออร่าเพื่อแลกเปลี่ยน วิวัฒนาการเริ่มแรกกินเวลาครึ่งหนึ่งของอายุขัยของมังกรพิษไป แม้ว่าปากรีโลจะไม่เคยพูดถึง แต่เฉินรุยก็ยังเก็บมันไว้ในใจเสมอ เมื่อเขาก้าวเข้าสู่สถานะ "อลิออต" กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เมื่อถึงระดับวิวัฒนาการ 3 ดาว ศูนย์แลกเปลี่ยนควรมียาดำระดับสูงสุด "การยืดอายุ" และ "การฟื้นคืนชีพ"!

เขาไม่รู้ว่าอายุขัยเพิ่มได้อีกเท่าไร แต่อย่างน้อยเขาจะต้องชื้อมันมา

“ยาทมิฬ!” มังกรพิษดูตกตะลึง “9000 ปีที่แล้ว อาณาจักรมารมีปรมาจารย์สองคน ปรมาจารย์ด้านยา โรเซนเบิร์ก และปรมาจารย์ช่างกล โลโล โลโลเป็นคนแคระดำที่มีพรสวรรค์ ซึ่งมีทักษะด้านกลไกและอักษรรูนโบราณ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มีลูกศิษย์เลยทั้งชีวิต ดังนั้นทักษะของเขาในด้านกลไกและอักษรรูนโบราณจึงหายไปหลังจากการตายของเขา ดังนั้น นอกจากโซล่าแล้ว โดยพื้นฐาน ไม่มีใครสามารถเข้าใจอักษรรูนโบราณในแดนมารได้ โรเซนเบิร์กเป็นดาร์กเอลฟ์ที่มีลูกศิษย์มากมาย แต่เขาถูกสังหารโดยศิษย์พี่ซาแมนเพราะสูตรลับ หลังจากการหายตัวไปของซาแมน ยาทมิฬก็หายไปเช่นกัน ถ้าเจ้าสามารถปรุงยาทมิฬได้ เจ้าคงทำให้ทั่วแดนมารต้องโกลาหล”

“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงไม่ใช่เวลาที่จะแสดงมันออกมาในตอนนี้ อย่างน้อยข้าเลยต้องปลดปล่อยผนึก 'แสงและความมืด' ก่อน” เฉินรุยได้พูดคุยกับอัลดาซมาก่อน โดยทราบถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากยาทมิฬแล้ว “ไม่เช่นนั้น เจ้าคงจะหนีไม่พ้นแม้ว่าจะต้องการก็ตาม”

"ฮึ่ม! ถ้าไม่ใช่ตราประทับของอักษรรูนโบราณ ข้าก็ว่าจะจัดการ 'ผนึกแห่งแสงและความมืด' ด้วยกำลังของข้าเอง“ปากรีโลพูดด้วยความไม่พอใจ”อย่าลืมสัญญาสงครามเสียล่ะ เจ้าเหลือเวลาไม่มากแล้ว”

"ข้ารู้อยู่แล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าต้องไปที่ภูเขาซีหลาง ข้ามีไวเวิร์น ดังนั้นข้าสามารถย่นระยะเวลาการเดินทางกลับไปกลับมาได้มาก เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะกลับมาต่อสู้กับอรัค รอดูการฝึกฝีมืออันแสนสุดยอดของข้าได้เลย!”

"ฮึ่ม! แล้วการฝึกล่ะ? ถึงแม้เจ้าจะพูดอวดดีเช่นนี้ แต่ยังไงข้าก็สามารถเหยียบเจ้าไว้ใต้ฝ่าเท้าของข้าง่ายๆอยู่ดี“มังกรพิษวิพากษ์วิจารณ์เขา และเขาก็ล้มตัวลงนอนเช่นกัน หลังจากที่แหงนมองท้องฟ้าอยู่นาน เขาก็ถามว่า”เจ้าเคยคิดถึงคนที่เจ้ารักในโลกมนุษย์บ้างไหม?”

“คนที่รักของข้าตายเร็วมาก” เฉินรุยกำลังพูดถึงชีวิตในอดีตของเขา ในชีวิตนี้ อาเธอร์อาจมีญาติอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา อย่างน้อยก็ไม่มีเกี่ยวข้องกับเขาเลย “แล้วเจ้าล่ะ?”

“ตอนข้าเกิด ข้าไม่เห็นอะไรนอกจากเปลือกไข่” ปากรีโลยักไหล่และพูดอย่างเป็นกันเองว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ข้าไม่มีคนที่รัก แต่ข้ากลับมีศัตรูมากมายแทน”

“แล้วเพื่อนล่ะ?”

“มังกรไม่ต้องการเพื่อน โดยเฉพาะมังกรพิษ” ปากรีโลพูดกลับคืนด้วยความเย่อหยิ่งของมังกร "เจ้าเคยเห็นพระเจ้ามีเพื่อนไหม? พวกเขาแค่ต้องการได้รับการเคารพและเกรงกลัวเท่านั้น พวกเขาไม่ต้องการการดูแลและความเข้าใจที่ไม่จำเป็น”

“บางทีมันก็อาจจะเคยเป็นแบบนั้น” เฉินรุยถามต่อ “แล้วตอนนี้ล่ะ?”

“ตอนนี้…ข้าอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าด้วยสัญญา เช่นนั้นข้าก็ควรต้องทำดีด้วยสิ” ปากรีโลดูทำอะไรไม่ถูก

เฉินรุยรู้ว่ามังกรพิษไม่เต็มใจที่จะยอมรับ ดังนั้นเขาจึงไม่เปิดเผยความในใจออกมา “หรือว่าข้าควรจะหลอกสาวงามมาคุยเป็นเพื่อนเล่นกับเจ้าดีนะ?”

“สาวสเปคข้ามันแตกต่างจากระดับต่ำที่เจ้าชอบเยอะ” ปากรีโลจ้องมาที่เขาด้วยท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยาม “ยมทูต ซัคคิวบัสและโลลิน้อยนั้นเหมาะกับเจ้าดี แต่น่าเสียดายที่พวกนางไม่มีคุณสมบัติที่ข้าต้องการเลย สตรีที่ข้าชอบต้องมีตาแข็งกร้าว สวยงาม ฟันสะอาดคม สูง และอวบอ้วน…”

"ช้าหน่อย! เจ้ากำลังพูดถึงมังกรตัวเมีย ไม่ใช่สตรีแล้วเฮ้ย!” เฉินรุยตกตะลึงกับสเปคของปากรีโลมาก มันเกือบจะทำให้เขาเจ็บปวดกับการจินตนาการเลยด้วยซ้ำ

"เจ้าจะไปรู้อะไร!" ปากรีโลยิ้มและมองดูเขาอย่างเหยียดหยาม “เจ้ามนุษย์ที่ตื้นเขิน!”

“…”

“พิษเหล่านี้ข้าให้เจ้า เอาไปไว้เป็นของป้องกัน แล้วก็อย่าคิดจะเอาไข่มุกของข้าไปอีกเชียว! แม้แต่อาเธน่าของเจ้า การต้านทานพิษในตอนนี้ของนาง ก็คงจะไม่มีผลเสียอะไรกับไวเวิร์นแล้ว ส่วนสำหรับเจ้า ให้ไปก็มีแต่สิ้นเปลืองใช่เหตุ!”

“เท่าที่ข้ารู้ มีสัตว์อสูรใต้ดินหลายชนิด บางตัวถึงระดับราชาปีศาจหรือสูงกว่า ตราประทับของข้ายังไม่ถูกปลดผนึก ดังนั้นจงอย่าลืมหลบหนีก่อนหากเกิดอันตรายขึ้นจริงๆ!”

“ก็ได้ ปากรีโล เจ้าขี้จุกจิกตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!” เฉินรุยได้แต่ส่ายหัว “สบายใจได้ ข้ายังไม่ได้รับสมบัติในบึงคืนสงบ ข้าจะตายง่ายๆได้ยังไง!”

ถึงอย่างนั้น เฉินรุยก็ยังรู้สึกถึงความกังวลเบื้องหลังคำพูดเหล่านั้น เขายังรู้สึกถึงความอบอุ่นจางๆจากภูเขาน้ำแข็งก้อนหนึ่งด้วย

"ช่างเป็นคนโลภเสียจริง! ถ้าไม่ใช่ว่าชีวิตของข้าเชื่อมโยงกับเจ้า…”

ก่อนที่ปากรีโลจะพูดจบ เฉินรุยก็ขี่ไวเวิร์นและบินหนีไปเสียก่อน

"ฮึ่ม! เผ่นเร็วชิบ! ไอ้เจ้าขี้ขลาด!” ปากรีโลได้แต่เฝ้าดูเฉินรุยที่หายตัวไปในท้องฟ้า จากนั้นเขาก็นอนลงเลียนแบบมนุษย์ พร้อมกับคีบใบหญ้าบนปากและหลับตาลง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด