บทที่ 77: ข้อพิพาทและความคิดที่ต้องระมัดระวัง
บทที่ 77: ข้อพิพาทและความคิดที่ต้องระมัดระวัง
ไม่แน่ใจว่าคำพูดของอลิซเป็นเจตนาหรือไม่ แต่ประโยคนั้นทำให้อลันเข้าใจได้แล้วว่าที่อาเธน่าไม่ปรากฏตัวออกมาช่วงนี้ เพราะนางฝึกฝนตัวเอง ความโกรธของเขาลดลงเล็กน้อย และเขาก็ยังคงจ้องมองไปที่โจเซฟด้วยสายตาเดือดพล่าน
อาเธน่าเมื่อเห็นเพื่อนของนางที่ไม่ได้เห็นมานาน ก็ได้ยิ้มออกมา “อลิซ!”
“เฉินรุยเองก็อยู่ที่นี่ด้วย! ตามมาสิ!” อลิซจับมือของเฉินรุยและอาเธน่า แล้วก็ดึงพวกเขาขึ้นไปที่ชั้นสองต่อหน้าโจเซฟและอลัน
คากูลี เคียและคนอื่นๆต่างก็อยู่ที่นี่ มีลูกค้าไม่กี่ราย และหนึ่งในนั้นได้รับบาดเจ็บด้วยซ้ำ ลูกค้าพวกนี้ดูเหมือนไม่กล้าออกไป เพราะโจเซฟกับอลันขวางบันไดอยู่ เมื่อกี้ อลิซกำลังตรวจสอบอาการของผู้บาดเจ็บ ดังนั้นนางจึงไม่เห็นอาเธน่าและเฉินรุยที่เพิ่งจะเข้ามา
เฉินรุยพอรู้เรื่องจากถามอลิซ ก็ทราว่ามันเกิดข้อพิพาทระหว่างโจเซฟกับอลัน เรื่องผลงานของปรมาจารย์อย่าง "ปริศนาแท่งไม้" แน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะความขัดแย้งในคืนก่อน ทั้งสองฝ่ายที่แต่เดิมทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดก็คงไม่มองหน้ากันไม่ติดขนาดนี้
อีกทั้งวันเกิดของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ของเจ้าชายออบซิเดียนกำลังใกล้เข้ามาแล้ว อลันต้องการซื้อปริศนาแท่ไม้เป็นของขวัญและมอบให้เจ้าชายออบซิเดียนผ่านทางบิดาของเขาที่เมืองหลวง บังเอิญ โจเซฟเองก็มาที่ร้านเจ้าหญิงพอดี หลังจากรู้ว่าอลันตั้งใจมาทำอะไร เขาก็คิดที่จะซื้อปริศนาแท่งไม้ด้วยราคาสองเท่าเอง อลันเกลียดรอยซ์และอรัคที่ฆ่ามิคาส รวมถึงเรื่องที่มาก่อกวนที่คฤหาสน์ของเขา แต่ว่าถึงตอนนี้โจเซฟกลับมาที่เมืองพระจันทร์ดับแล้ว แต่เขากลับไม่คิดจะปรองดองอะไร อีกทั้งยังคิดยั่วยุอลันอีก มันทำให้อลันโกรธมาก ถ้าไม่ใช่เพราะขาดกำลัง เขาก็คงจะเปิดฉากต่อสู้ไปแล้ว ส่วนลูกค้าที่ได้รับบาดเจ็บนั้นได้รับบาดเจ็บจากผู้ใต้บังคับบัญชาของอลัน เพราะเขาโชคร้าย
"โจเซฟ เจ้ารวยมากนักหรือไง? เจ้าควรเก็บเงินเล็กๆน้อยๆของเจ้าไปต่อสู้กับน้องชายของเจ้าอย่างคานิตาเสียเถอะ!" อลันเองก็เริ่มหาเรื่องโจเซฟกลับแล้ว แต่ว่า.. "ข้าจะขอชื้อเป็นจำนวน 3 เท่าของราคา! ปริศนาแท่งไม้จะต้องเป็นของข้า!"
ราคาเดิมของปริศนาแท่งไม้คือ 50,000 เหรียญคริสตัลทมิฬ 3 เท่าของมันก็คือ 150,000 เรียกว่าเงินก้อนโตเลยล่ะ!
กฎของอาณาจักรมารโดยทั่วไปคือผู้ชนะต้องเป็นผู้ที่ให้ราคาประมูลมากที่สุด อลิซตอนนี้ไม่สนใจเรื่องเฉินรุยและอาเธน่าแล้ว ดวงตาของนางตอนนี้แทบจะกลายเป็นเหรียญคริสตัลทมิฬก็มิปาน จากนั้นนางก็ถามตอบกลับไปทันทีว่า "ปริศนาแท่งไม้นี้... โจเซฟ เจ้าจะประมูลเพิ่มอีกไหม?"
"200,000." โจเซฟเมื่อได้ยินอลันเอ่ยถึงชื่อของคานิตาโดยเจตนา ดวงตาของมันก็เต็มไปด้วยความเยือกเย็น
พออลันกำลังจะพูด ลิชที่อยู่ข้างๆก็ได้กระซิบบอกเขาถึงอะไรบางอย่าง "ท่านอลันขอรับ เราไม่มีเงินพอแล้วขอรับ"
เมื่อเห็นรอยยิ้มของโจเซฟ อลันก็ยิ่งโกรธมาก เขาคิดถึงบางสิ่งบางอย่างและเอามันออกมาพร้อมกับทำท่าจาม "ถึงข้าไม่ได้นำเงินมามากพอ แต่ข้าก็มีอุปกรณ์เวทมนตร์คุณภาพสูงมากมาย ถ้าเจ้าหญิงน้อยต้องการ ข้าสามารถแปลงมันให้กลายเป็นเหรียญคริสตัลทมิฬได้ แล้วข้าก็ยังมีอุปกรณ์จำพวกหนึ่งที่ท่านเจ้าหญิงน้อยต้องสนใจเป็นแน่แท้"
รอยซ์ผู้อยู่ด้านหลังโจเซฟ เมื่อเห็นอุปกรณ์เวทมนตร์พวกนั้น สายตาอาฆาตของเขาก็ปรากฏออกมาทันที โจเซฟยกคิ้วขึ้นและรู้ว่านี่เป็นสิ่งของที่หายไปจากร้านเวทมนตร์ของเขาอย่างแน่นอน พฤติกรรมของอลันเป็นการยั่วยุอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งสองฝ่ายจ้องมองกันและกันอย่างโกรธเคือง
อย่างไรก็ตาม โจเซฟไม่ได้โกรธเลย เขาหันหลังกลับ และตบไหล่รอยซ์ จากนั้นรอยซ์ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเริ่มสงบลง
เฉินรุยยกย่องทักษะในการแสดงของรอยซ์ในใจเลย อลิซลังเลและไม่สามารถตัดสินใจได้ และแอบมองไปที่เฉินรุยเพื่อขอคําปรึกษา เฉินรุยไม่สามารถเสนอความคิดเห็นของเขาต่อหน้าผู้คนมากมายได้ ดังนั้นเขาจึงมองไปที่โล่ที่ศูนย์กลางของชั้นสอง บนแผ่นป้ายมีคําแกะสลักตามความคิดของเฉินรุย: ความซื่อสัตย์
อลิซนั้นฉลาดมาก พอมองไปที่ทางที่เฉินรุยใบ้ให้จ้องมอง นางก็เข้าใจทันที แต่ว่านางก็ยังคงขมวดคิ้ว และกําลังพยายามฝืนตัวเองจากแรงปราถนาอย่างเห็นได้ชัด ในที่สุด นางก็พูดออกมาว่า "ข้าไม่ต้องการของพวกนี้"
ใบหน้าของอลันแทบจะเปลี่ยนไปเลย จากนั้นเขาก็ได้ยินอลิซพูดต่อไปอีกว่า "คําขวัญของร้านขายปลีกเจ้าหญิงคือความซื่อสัตย์ และนั่นรวมถึงลูกค้าของเราทั้งหมดด้วย อลันเข้ามาก่อนโจเซฟวันนี้ ดังนั้นปริศนาแท่งไม้จะถูกขายให้กับอลันในราคาเดิม 50,000 เหรียญคริสตัลสีดํา อย่างไรก็ตาม อลัน ข้าใต้บังคับบัญชาของเจ้าทําร้ายลูกค้าของข้า ดังนั้นเจ้าต้องจ่ายค่ารักษาของเขามา มีข้อโต้แย้งอะไรไหม? ”
"ข้าไม่มีอย่างแน่นอน!" อลันดีใจมาก และรีบให้เหรียญคริสตัลสีดําจํานวนหนึ่งพร้อมกับค่ารักษา "ข้าขอบคุณมากจริงๆ! ร้านขายปลีกของเจ้าหญิงเป็นร้านค้าที่ดีที่สุดในเมือง ดีเสียยิ่งกว่าร้านของใครบางคนซะอีก!"
อลิซพยักหน้าและปล่อยให้คากูลีกับเคียนับเหรียญคริสตัลสีดํา 50,000 เหรียญของอลันจากนั้นนางก็ลบการป้องกันเวทมนตร์ออก และให้อลันหยิบปริศนาแท่งไม้ไป
อลันเปิดกล่องอย่างระมัดระวังและเขามองไปที่รุ่นพรีเมี่ยมของปริศนาเสี้ยนราวกับว่าเขาได้รับสมบัติล้ำค่ามา จากนั้นเขาก็เก็บมันไว้ในวงแหวนมิติของเขาอย่างรวดเร็ว เมื่ออลิซเห็นแบบนั้นพร้อมกับนึกถึง "ผลงานของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่" หลายชิ้นที่กองอยู่ในห้องของนางอย่างยุ่งเหยิง นางก็ได้แต่หัวเราะอย่างเงียบๆ อย่างไรก็ตาม นางในตอนนี้สูญเสียเหรียญคริสตัลสีดําน้อย 150,000 เหรียญไปแล้ว จนมันทำให้นางรู้สึกเศร้าใจมาก
โจเซฟเพิกเฉยต่อดวงตาที่ยั่วยุของอลัน และมองไปที่คําว่าความซื่อสัตย์ แม้ว่าการสื่อสารทันทีระหว่างอลิซและเฉินรุยด้วยตาของพวกเขาจะไม่ได้ชัดเจน แต่มันก็ไม่สามารถซ่อนจากโจเซฟได้ หลังจากมองไปที่เฉินรุยอย่างลึกซึ้ง โจเซฟก็ก้มหน้ามองไปที่อลิซและออกจากร้านค้าปลีกเจ้าหญิงพร้อมกับรอยซ์และวาชาซ่า
เมื่อเห็นโจเซฟจากไป อลันก็ภูมิใจออกนอกหน้านอกตา เขาขอบคุณอลิซอย่างมีความสุข และเขาก็ออกไป หลังจากทั้งสองคนจากไป เฉินรุยก็เข้ามากระซิบบอกอลิซสองสามคํา อลิซไปปลอบใจผู้บาดเจ็บทันที ลูกค้าคนนั้นเขาเป็นแค่สมาชิกคนหนึ่งของตระกูลเล็กๆ ในความเป็นจริง เขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เขาไม่จําเป็นต้องได้รับการชดเชยจากเงินจํานวนนั้นเลย เมื่อเห็นเจ้าหญิงน้อยถามเป็นการส่วนตัว เขาก็ดูซาบซึ้งเป็นอย่างมาก
อลิซยิ้มและกล่าวว่า "ทุกคน ข้าเสียใจมากในเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ อย่างไรก็ตาม ข้าเชื่อว่าทุกคนต่างเห็นพ้องแล้วว่าร้านค้าปลีกของเจ้าหญิงให้ความสนใจเป็นพิเศษกับคําว่าความซื่อสัตย์ ในอนาคต ไม่ว่าใครจะมาหาเรา พวกเขาจะรู้ถึงความหมายของคำนี้ได้ทันที ข้าหวังว่าทุกคนเองก็จะรู้สึกพึงพอใจกับร้านค้าของข้านะ"
"ท่านเจ้าหญิงน้อยประเสริฐที่สุดเลย!" คําพูดและรอยยิ้มของอลิซแทบส่งผลกระทบต่อทุกคน ขุนนางคนหนึ่งเองก็กล่าวด้วยอารมณ์ว่า "ข้าอยากจะบอกทุกคนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชื่อเสียงของร้านค้าเจ้าหญิงน้อยจะต้องเป็นที่รู้จักของเมืองพระจันทร์ดับตลอดไป!"
หลังจากที่ลูกค้าเหล่านี้ชื้อขายกันเรียบร้อยและจากไปด้วยความพึงพอใจ เจ้าหญิงน้อยที่ยิ้มด้วย "ความซื่อสัตย์" ก็เปลี่ยนไปแทบในทันที นางกระโดดอย่างกระอักกระอ่วนและขี่คอเฉินรุยจนแทบทำให้เขาสำลักออกมา "นั่นมัน 150,000 เหรียญคริสตัลทมิฬเลยนะ! 150,000 เชียวนะ! วูวู... ทําไมกันล่ะเฉินรุย! เจ้าต้องบอกข้ามานะ! ไม่อย่างนั้นวันนี้ข้าฆ่าเจ้าแน่!”
เฉินรุยตอนนี้หายใจไม่ออกเลย ดูเหมือนว่าภายใต้อิทธิพลของเงิน โลลิตัวน้อยผู้นี้จะมี "รัศมีแห่งความโลภ" คล้ายกับระดับมิคาสก็ไม่ปาน อาเธน่าและเคียที่เห็นแบบนั้นก็รีบหยุดนางทันที พวกนางต้องพยายามสักพักหนึ่งเลยถึงจะดึงอลิซออกจากหลังเฉินรุยได้
เฉินรุยติได้แต่สูดลมหายใจเข้า เมื่อเห็นท่าทางโกรธของโลลิตัวน้อย เขาก็ส่ายหัวแทบจะในทันที “ท่านจำที่ข้าบอกตอนที่ให้ท่านแกะสลักแผ่นนั้นได้ไหม?”
อลิซคิดเกี่ยวกับมันและตอบกลับไปว่า "มันก็แค่ 'ความซื่อสัตย์เหนือกว่ากลยุทธ์ทั้งหมด' นิ"
"หากท่านต้องการให้ร้านค้าปลีกของเจ้าหญิงประสบความสําเร็จอย่างแท้จริงเป็นเวลานานหรือแม้กระทั่งเปิดร้านค้าในเครือมากขึ้น ท่านจะต้องจําประโยคนี้ให้ดี" เฉินรุยเองก็รู้ดีว่าอลิซยังคงไม่เข้าใจ "งั้นให้ข้าเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง ครั้งหนึ่งมีกษัตริย์ปิศาจใหญ่ที่ถูกเรียกขานว่า กษัตริย์จ้าวแห่งจักรวรรดิเหยียน เขาเคยใช้เหรียญคริสตัลทมิฬหนึ่งล้านเหรียญเพื่อซื้อแม่ม้าหายาก..."
สิ่งที่เฉินรุยกล่าวก็คือเรื่องราวเวอร์ชั่นแก้ไขของ "กษัตริย์จ้าวแห่งจักรวรรดิเหยียนซื้อซากม้าด้วยทองคําล้าน" เคียและอาเธน่าดูเหมือนจะไม่เข้าใจ แต่อลิซที่ฉลาดได้เข้าใจความหมายแล้ว
ซึ่งมันมีอีกความหมายหนึ่งที่เขาไม่สามารถพูดต่อหน้าเคียและคากูลีได้ ร้านค้าเวทมนตร์ของโจเซฟกำลังอยู่ในสถานการณ์ลำบาก การมีอลันอยู่ในมือ ก็เหมือนใช้แผนเสือกลืนหมาป่า วันนี้ เจตนาที่อลันแสดงออกมาทำให้รู้เลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายแย่ลงจริง อย่างไรก็ตาม เหตุใดโจเซฟจึงมาแข่งกับอลันเพียงเพื่องานของท่านปรมาจารย์กัน? ปัจจุบันการปรองดองไม่ใช่เรื่องที่ดีที่สุดเหรอ?
“ข้ากะไว้แล้วว่าโดยตลอดว่าพี่ชายเฉินรุยนั้นปราดเปรื่องมาก” หลังจากโลลิตัวน้อยเข้าใจ ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นางกระพริบตาโตและเปลี่ยนจากท่าทางอาฆาตมาเป็นการแสดงความเคารพในทันที “ว่าแต่บางทีเราไปเยือนทะเลสาบสีฟ้าอีกครั้งดีไหม??”
"ไม่! ร่างกายของข้าไม่ดีในช่วงสองวันที่ผ่านมา ดังนั้นข้าคงไม่สามารถเดินทางไกลได้" หัวเฉินรุยสั่นเหมือนเจ้าเข้า อลิซล้อข้าเล่นอยู่หรือเปล่า? ปิคนิคอีกแล้วเหรอ? แน่นอนว่านางเตรียมของไปอ่านและของติดไม้ติดมือเพียบ...รวมถึงหนังสืออ้างอิงบ้าๆพวกนั้นด้วย!
"ทำไมกันล่ะ?!" อลิซดูผิดหวังมาก "ข้าน่ะเบื่อที่จะต้องอยู่ร้านค้าทุกวันแล้วนะ อึดอัดจะตายชัก อาเธน่า มาเดินเล่นในเมืองกับเรา 3 คนกันเถอะ"
"ได้สิ!" อาเธน่าตอบรับทันที
เฉินรุยพอได้ยินว่าแค่เดินเล่นข้างนอก เขาก็คงปฏิเสธไม่ได้ อลิซคิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็พูดไปอีกว่า "รอข้าอยู่ข้างล่างก่อนนะ นอกจากนี้เคียและคากูลีก็ควรลงไปด้วย ข้ามีบางอย่างจะพูดกับอาเธน่าเป็นการส่วนตัว"
หลังจากทั้งสามลงไปข้างล่าง ดวงตาของอลิซก็มองมาบนหน้าอกที่ได้รับการพัฒนาอย่างดีของอาเธน่า พอนางเปรียบกับของตัวเองแล้ว นางก็รู้สึกเหมือนมีแรงกดดันจากอะไรไม่รู้มาทับใส่นางเยอะมาก
"เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันหรือเปล่า?"
อาเธน่าไม่เข้าใจความคิดของอลิซเลย ดังนั้นนางจึงพยิบหน้าและกล่าวว่า "แน่นอนสิ อลิซเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของข้า"
"แล้วเฉินรุยล่ะ?"
ใบหน้าของอาเธน่าร้อนผ่าวเล็กน้อย "เขา... ก็เป็นเพื่อนที่ดีด้วย"
ใบหน้าที่เผยสีแดงด้วยความเขินเอยชั่วพริบตาไม่สามารถรอดผ่านจากสายตาของอลิซไปได้เลย ร่างเล็กๆของโลลิตัวน้อยสั่นเล็กน้อย และจากนั้นก็เหมือนกับความเครียดทั้งหมดของนางได้ระบายออกมา "อาเธน่า! มีบางอย่างที่ข้าจะไม่ยอมแพ้ แม้ว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็ตาม!"
"อะไรงั้นเหรอ?" อาเธน่าดูงงๆนิดหน่อย
"ตัวอย่างเช่น... นั่น..." จู่ๆอลิซก็ไปไม่เป็น และก็ได้แต่ก้มหน้าลง นางค่อยๆเอาปลายนิ้วชี้สองอันของนางมารวมกันและพึมพําว่า "มีคนหนึ่ง... ไม่ใช่! มีสิ่งหนึ่งที่ทั้งเจ้าและข้าชอบกิน..."
"นั่นแหละตัวอย่างที่ข้าจะกล่าวถึงให้เจ้าฟัง" อาเธน่าเองก็พูดขึ้นมาโดยไม่คิดอะไรมาก "งั้นก็แค่ตัดครึ่งด้วยมีด แล้วเราทั้งคู่ก็แบ่งกันสิ"
อลิซนั้นดูกังวลมาก แต่เมื่อได้ยินประโยคนั้น ดวงตาของนางก็กระพริบแปลกๆ "ตัดมันเหรอ?"
"ฮัดชิ้วว!" เฉินรุยที่อยู่ข้างล่างจามออกมาอย่างกับถูกคนนินทา เมื่อเห็นสีหน้าบึ้งของเคียเขาก็ได้แต่ยิ้มขอโทษขอโพย
"แล้วถ้าเจ้าตัดมันไม่ได้ล่ะ?" โลลิตัวน้อยคิดสักครู่และยังคงถามต่อไป "ที่จริงข้าก็ไม่รู้ว่าข้าชอบกินมันหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม ถ้าหาก... 'เจ้าสิ่งนี้' ทําให้ข้ารู้สึกแปลกๆ บางทีข้าอาจจะยากกินนิดหน่อย..."
"ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าอยากจะพูดอะไรอยู่ดี" อาเธน่าคิดสักครู่และตอบกลับไปว่า "ก็ถ้าหากว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถตัดได้ เราก็แค่กัดกินมันไปทีละนิดก็สิ้นเรื่อง เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ดังนั้นแบ่งสิ่งดีๆต่อกันก็ได้ไม่ใช่เหรอ?"
"เอางั้นเหรอ? กัดทีละนิดเนี่ยนะ?" ดวงตาโตของโลลิตัวน้อยสว่างขึ้น ราวกับว่านางแก้ปัญหาสําคัญบางอย่างได้และนางก็มีความสุขมาก "แม้ว่าข้าจะไม่รู้ก็เถอะ... แต่อาเธน่า! เจ้าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของข้าอย่างแท้จริง! ”
"ไม่ใช่ว่าข้าเป็นมาตลอดอยู่แล้วเหรอ?" อาเธน่าไม่รู้ตัวว่าทําไมอลิซถึงจู่ๆก็เครียดจู่ๆก็มีความสุข
"ไปกันเถอะ! อลิซที่ดูมีความสุขมาก ก็ได้กระโดดลงบันไดในขณะที่จับมือของอาเธน่าไปด้วย
.