ลูกเขยพ่อมารร้ายตอนที่ 75
บทที่ 75: แคร๊ก! ความลึกลับของทักษะวิเคราะห์ระดับสูง
ในตอนกลางคืน ไวเวิร์นตัวหนึ่งก็ได้กระพือปีกและปรากฏขึ้นที่ทะเลสาบสีฟ้า
น่าแปลกที่เฉินรุยไม่พบปากรีโล แม้จะไปหาหลายที่แล้วก็ตาม ในใจเขาก็กังวลพอสมควร ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ทะเลสาบสีฟ้าด้วยความหวังสุดท้ายของเขา ตอนนี้เขากังวลจนอยากจะดำดิ่งลงไปในน้ำเพื่อหาคำตอบ
ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงหัวเราะชั่วร้ายดังมาจากด้านหลังของเขา “เพื่อนมนุษย์ของข้า ที่เจ้าถอดเสื้อผ้าออกคงอยากจะอาบน้ำใช่ไหม?”
เฉินรุยไม่เคยลืมเสียงนี้เลย แต่ “เพื่อนมนุษย์” ที่พูดออกมาทำซะเขาขนลุกตั้งชูชัน เขาหันไปรอบๆ แต่ก็ไม่มีอะไรโผล่ออกมา
"ปากรโล ไอ้สารเลว! ถ้าเจ้าไม่ออกมาตอนนี้ ข้าจะกลับไปแล้วนะ!”
“ฮ่าฮ่า… ทำไมเจ้าไม่ขู่ว่าจะฆ่าตัวตายล่ะ? เพื่อนยาก?” ในที่สุดร่างของมังกรพิษก็ปรากฏขึ้นมาจากที่โล่งด้านหลัง แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะเหน็บแหนมเฉินรุย
“ยังมีหน้ามาพูดอีกนะ!” เฉินรุยเคลื่อนตัวไปและพุ่งเข้าหาเขา “ไอ้เจ้าคนน่ารังเกียจ!”
“ความเร็วของเจ้าทำไมถึงเพิ่มขึ้นอีกครั้งกัน!” ดวงตาของมังกรพิษเป็นประกาย แต่เขาถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว
เฉินรุยรู้สึกว่าพลังที่มองไม่เห็นกำลังขวางหน้าเขา ราวกับว่ามีกำแพงโปร่งใสหยุดไม่ให้เขาก้าวไปข้างหน้า เฉินรุยคิดเคลื่อนไหวและกระแทกกำปั้นไปที่ "กำแพง" มันฟังดูเหมือนเป็นการกระแทกโดยใช้หมัดจริงๆ แต่ว่า "กำแพง" ก็ทนทานมากจนสะท้อนความเสียหายทั้งหมดได้ มันทำให้เขากระวนกระวายใจมาก แต่ว่าพอได้เห็นถึงแรงกระแทกนั้น ก็ทำให้มันรู้ตัวได้ในทันที
“แม้แต่พลังโจมตีของเจ้าก็ยังแข็งแกร่งขึ้น!” หลังจากที่ปากรีโลพูดจบ มันก็เห็นเฉินรุยกระโดดขึ้นสูงบนฟ้าพร้อมฟาดลงมาด้วยรูปมือของเขาเหมือนใบมีด ปากรีโลก็ยังคงเป็นปากรีโลคนเดิม เขาสังเกตเห็นพลังประหลาดบนมือของเฉินรุยที่เปล่งความคมชัดอย่างน่ากลัว ราวกับอาวุธในตำนานขนาดยักษ์
“ไอ้บ้า อย่าคลั่งไปสิเฮ้ย!” ปากรีโลปรากฏตัวต่อหน้าเฉินรุยทันทีจนทำให้เขาตกใจ เฉินรุยกำลังใช้ 'ดาบออร่า' ของสถานะมิชาร์ และตอนนี้มันสายเกินกว่าที่จะหยุดแล้ว จากนั้น ในขณะที่ "ใบมีด" พุ่งตรงไปที่แขนของมังกรพิษ เขาก็เห็นปากรีโลปัดแขนของเขาราวกับสายฟ้า จนเปล่งเสียงดั่งมีดกระทบกัน
เฉินรุยรู้สึกได้เลยว่า 'ดาบออร่า' ของเขากำลังปะทะกับเกราะสุดแกร่งอยู่ แรงกระเพือมแปลกๆได้ปรากฏบนเกราะ ซึ่งแสดงให้เห็นเลยว่า 'ดาบออร่า' คมขนาดไหน แต่พลังที่เหลืออยู่ก็ไม่สามารถทำลายการป้องกันของ "เกราะ" ได้ กลับเป็นตัวเขาเองที่ถูกกระแทกจนล้มลงกับพื้น
ปากรีโลก็ล้มลงกับพื้นและใบหน้าของมันดูตกใจมาก แขนที่กั้น 'ดาบออร่า' ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่หลังแขนของเขา มีบาดแผลเล็กน้อย บนหน้าผากของมังกรพิษก็ราวกับว่ามันถูกเฉือนด้วยใบมีดคม
ร่างกายของมังกรพิษนั้นไม่ธรรมดา ดังนั้นรอยคมดาบจึงกลับคืนสู่สภาพเดิมในทันที อย่างไรก็ตาม ความประหลาดใจในหัวใจของมันยากที่จะทำให้สงบได้ การโจมตีครั้งนี้ดูเหมือนจะได้รับการปกป้องอย่างสมบูรณ์ แต่กลับมีพลังลึกลับที่ลอดผ่านเข้ามาทำร้ายเขา
เฉินรุยยืนขึ้น หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมปากรีโลที่ไม่ได้รับอันตรายจาก 'ดาบออร่า' ของเขา แม้ว่าเจ้าหมอนี้จะเป็นคนช่างประชดประชัน แต่ความแข็งแกร่งก็ไม่มีใครรู้ได้ ถ้าเขาปลดผนึกและฟื้นพลังของเขาในฐานะ ราชันย์มาร ไม่รู้เลยว่ามันจะแข็งแกร่งขนาดไหน
“เจ้า..ใช่แล้ว อย่างที่เจ้าบอกมา มันไม่ปกติเลยสักนิด! ผิดปกติอย่างยิ่ง!” มังกรพิษดูไม่พอใจ “ครั้งก่อนเจ้าบอกว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บจนถึงขั้นที่เจ้าบอกว่าเจ้าอยากจะฆ่าตัวตาย ตอนนี้เจ้าเกือบจะฟื้นตัวเต็มที่แล้ว ในขณะที่พลังและความเร็วของเจ้าก้าวหน้าไปอีกระดับอีกครั้ง นอกจากนี้ เทคนิคลับที่เจ้าใช้ก็แปลกมาก มันสามารถทำร้ายข้าได้จริงๆ! หากเจ้ายังคงเติบโตเช่นนี้ เจ้าคงสามารถพิชิตอาณาจักรมารทั้งหมดได้ภายในเวลาไม่กี่ปี!”
ขณะที่มังกรพิษพูด มือของเขาก็โบกไปมาในอากาศ จากนั้น เครื่องหมายเล็กๆ 2 อันที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตรก็ปรากฏขึ้นที่พื้นด้านหลังเขา ทำให้เกิดแสงแปลกๆ
“นั่นเจ้าเรียกว่าบาดเจ็บได้ด้วยหรือ?” เฉินรุยมองไปที่หน้าผากที่มังกรพิษชี้ด้วยความรังเกียจ เขามองไปที่เครื่องหมาย 2 อัน “ว่าแต่ไอ้สองอันนั้นคืออะไร?”
“เจ้าลืมแม้แต่คำจารึกมังกรแล้วเหรอ?” ปากรีโลเลยดุไปว่า “ไอ้ตัวโง่เขลาเอ้ย ทั้งที่เจ้าโชคดีมาก แต่ก็ทึ่มมากเช่นกัน! เทคนิคลับที่เจ้าใช้คงจะเป็นมรดกของปรมาจารย์สินะ มันน่าทึ่งจริงๆ อย่างไรก็ตาม หากอยู่ในมือเจ้าก็มีแต่จะเป็นขยะ! ที่เจ้าโจมตีเมื่อครู่ก็คือ จารึก 'สะท้อน' หากเจ้าไม่ทำลายมันอย่างสมบูรณ์ มันก็จะสะท้อนความเสียหายที่เจ้าทำใส่มันเป็นเท่าตัว ตอนนี้ข้าอยู่ในระดับราชามารระดับสูงสุด ดังนั้นจารึกนี้จึงแข็งแกร่งเท่ากับมัน ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจ้า เจ้าคงไม่สามารถทำลายจารึกนี้ได้ ไม่ว่าเทคนิคลับของเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม ถ้าข้าไม่หยุดยั้งเจ้าไว้ เจ้าคงได้รับความเสียหายจากเทคนิคลับของเจ้าแล้ว!”
เฉินรุยตัวสั่น เพราะในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมปากรีโลถึงเข้ามาหยุดเขา จากนั้นเขาก็ตระหนักรู้ได้ในทันที: ดูเหมือนว่าการที่เขาฆ่ามิคาสได้วันก่อนจะทำให้เขาได้ใจมากไปหน่อย ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหน 'ดาบออร่า' ก็ยังมีข้อจำกัดและเขาต้องระวัง
“ถ้าอย่างนี้ แสดงว่าเจ้ายังไม่เรียนเรื่องจารึกสินะ” ปากรีโลชี้ไปที่เครื่องหมายอื่น “แล้วเจ้าจำนี้ได้หรือเปล่า?”
“นี่คือ…” จากความเข้าใจของเฉินรุยเกี่ยวกับจารึก มันก็ได้แค่ท่องจำ และถ้าถามว่าความรู้ด้านพื้นฐานมีไหม โฮ้ย ไม่มีหรอก ในขณะที่เขากำลังอ่านจารึกที่บันทึกไว้ในความทรงจำของเขา การแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเขาในทันใด “พบข้อมูลเมตาที่ไม่รู้จัก ท่านต้องการเปิดใช้งาน 'วิเคราะห์ขั้นสูง' หรือไม่ ?”
เฉินรุยตกใจ 'วิเคราะห์ขั้นสูง' เป็นทักษะราคาแพงที่เข้าใจยาก 10,000 ออร่าต่อการใช้งาน และใช้งานได้เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ตอนนี้เขามีออร่า 110,000 เพื่อเปิดเผยความลึกลับเพิ่มเติมของระบบสุดยอด เขาจะลองดู!
"เปิดใช้งาน!"
ทันทีที่เฉินรุยยืนยันในใจ เขาก็รู้สึกได้เลยว่าจิตวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นในทันที เขากำลังอ่านและวิเคราะห์ส่วนที่เกี่ยวข้องในความทรงจำของเขาด้วยวิธีแปลกๆ 10 นาที เมื่อเห็นเฉินรุยทำท่าทีแปลกๆ ปากรีโลก็ได้แต่ส่ายหัว ความยากของจารึกมังกรมันก็ค่อนข้างยากแหละนะ แม้แต่มังกรก็ไม่สามารถควบคุมมันได้ง่ายๆ สำหรับคนโง่เขลาเช่นนี้ กว่าจะไปถึงระดับเจ้าแห่งมารก็คงยาก ข้าคงจะได้แต่ต้องอดทนและสอนเขาอย่างช้าๆ
“ลืมมันไปเถอะ ด้วยสติปัญญาของเจ้าตอนนี้…”
ก่อนที่ปากรีโลจะพูดจบ เขาได้ยินเฉินรุยตะโกนออกมาว่า “ปากรีโล บอกความรู้เกี่ยวกับจารึกทั้งหมดที่เจ้ารู้มาตอนนี้ซะ อย่าถามว่าทำไม! เดี๋ยวนี้เลย!”
ปากรีโลได้แต่ตกตะลึงและเขาก็ตอบกลับไปทันที เขาเริ่มสอนขณะวาดภาพบนพื้น หลังจากที่เขาพูดไปซักพัก เขาก็อยากจะหยุดและพักผ่อน แต่ดวงตาของมนุษย์ก็จ้องมาที่เขาและสั่งว่า “เร็วเข้า! รีบพูดมา เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าหากได้ทั้งหมดก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว!”
เจ้าหมอนี้มันไปกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ตั้งแต่ตอนไหนกัน? มังกรพิษรู้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่มันไม่สนใจ และบอกทุกอย่างที่เขารู้พร้อมกับวาดมันบนอากาศ
เฉินรุยไม่ได้พยายามทำความเข้าใจเลย แต่เขากำลังจดจ่ออยู่กับการท่องจำทุกอย่าง ไม่นานครึ่งชั่วโมงก็ผ่านไป เขาไม่สนใจมากและเปิดใช้งาน 'วิเคราะห์ขั้นสูง' อีกครั้งจนกระทั่งมังกรพิษพูดจบ
“โอเค ตอนนี้ก็อย่าเพิ่งมากวนข้านะ!” เฉินรุยรู้สึกว่าสมองของเขาเหมือนกับคอมพิวเตอร์ จัดเก็บ วิเคราะห์ คำนวณ และกระทั่งถอดรหัสข้อมูลที่บันทึกไว้ได้อย่างรวดเร็ว!
เขาหยิบกิ่งไม้และเริ่มวาดลงบนพื้น
ปากรีโลส่ายศีรษะในตอนแรก แต่มันก็รู้สึกประหลาดใจมากขึ้นหลังจากที่ได้เห็นอะไรบางอย่าง แม้ว่าคำจารึกที่เฉินรุยจะมีพลังน้อยกว่าที่ปากรีโลคาดไว้มาก แต่ความแม่นยำก็สูงขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดก็ไร้ที่ติ!
เวลาที่มีประสิทธิภาพ 'วิเคราะห์ขั้นสูง' ในที่สุดก็หมดลง ข้อมูลได้รับการวิเคราะห์อย่างสมบูรณ์ บางทีควรเรียกได้ว่าข้อมูลที่วิเคราะห์นั้นสร้างสิ่งที่เหมือนความรู้ฝึกลึกลงไปในตัวเฉินรุย ราวกับว่าเขาเชี่ยวชาญเรื่องนี้ และเขาสามารถใช้มันได้อย่างอิสระ
แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความรู้จากมังกรพิษ ทว่าส่วนที่เหลือยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำ ดังนั้นเฉินรุยยังสามารถเปิดใช้งาน 'วิเคราะห์ขั้นสูง' ต่อไปได้
“จารึกทั้งสองของเจ้า หนึ่งในนั้นคือ 'สะท้อน' และอีกอันคือ 'หลบซ่อน' สำหรับของข้า… นี่หมายถึง 'เปลวเพลิง' เป็นตัวย่อสวนจาก 'ระเบิด' จากนั้นเส้นนี้หมายถึง 'พิษและเทเลพอร์ต' ข้าเข้าใจถูกไหม?” เฉินรุยถามปากรีโล
ปากรีโลพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้น เขาก้าวไปข้างหน้าและมองที่เฉินรุยด้วยท่าทางแปลกๆ ราวกับว่าเขากำลังจะกลืนเฉินรุยเข้าไป
เฉินรุยที่เห็นอย่างนั้นก็ราวกับมีอาการเย็นลงที่กระดูกสันหลัง นี่คือรังมังกรพิษจากเรื่องหุบเขาเร้นรักใช่ไหม?
“ตอนนี้ข้าชักเริ่มสงสัยแล้วว่าเจ้าเป็นมังกรมากกว่ามนุษย์เวร!” ปากรีโลกล่าวขณะกัดฟัน “แม้แต่มังกรก็ไม่สามารถเชี่ยวชาญจารึกมังกรได้เร็วขนาดนี้!”
ปากรีโลนั้นเก่งจารึกมังกรเป็นปกติอยู่แล้ว เขาหมกมุ่นอยู่กับความรู้เรื่องนี้และมีประสบการณ์เกือบ 10,000 ปี ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างมีชื่อเสียงในหมู่มังกรในแดนมาร ถึงกระนั้น เขาไม่เคยคิดเลยว่ามนุษย์ผู้โง่เขลาคนนี้จะสามารถศึกษาเรื่องจารึกได้ภายในพริบตา ไม่ใช่แค่ท่องจำเหมือนแต่ก่อน แต่เป็นความเข้าใจอย่างแท้จริง!
“ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่! ต้องเป็นเพราะมรดกของปรมาจารย์แน่!” ปากรีโลเริ่มพูดกรอกหูตัวเองและหันไปหาเฉินรุยทันที “ดูเหมือนว่าปรมาจารหงอคงจะต้องเป็นมังกรแน่แท้! หรือบางทีอาจเป็นบรรพบุรุษของมังกรในตำนาน! ทำไมบรรพบุรุษเช่นนั้นถึงต้องสนใจมนุษย์ที่ไร้ยางอายแบบนี้ด้วย? แล้วตัวข้าล่ะ ปรมาจารย์ปากรีโล ผู้แสนหล่อเหลา ทรงพลังและมีพรสวรรค์กลับถูกมองข้ามไปได้ยังไง!”
"อิจฉาข้าอีกแล้วนะ! ไม่มีศักดิ์ศรีของมังกรเลยหรือไง" เฉินรุยยื่นริมฝีปากของเขาดูถูกเหยียดหยามไป แต่ในใจเขาก็มีความสุขเหลือเกิน นี้แหละคือความลึกลับของ "ทักวิเคราะห์ขั้นสูง"! ออร่ากว่า 20,000 ดวงที่ใช้ไปนั้นคุ้มค่าอย่างยิ่ง เนื่องจากมันสามารถจัดการกับจารึกมังกรที่แสนยากลำบากลงได้ จากสิ่งนี้ ถ้าเขาสามารถเรียนรู้อะไรก็ได้ บางทีเขาอาจจะกลายเป็นสุดยอดของสุดยอดก็ได้เลยไม่ใช่เหรอ?
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่เข้าใจว่า "ข้อมูลเมตาที่ไม่รู้จัก" หมายถึงอะไร อาจมีข้อจำกัดบางประการเกี่ยวกับเป้าหมายของ 'วิเคราะห์ขั้นสูง' ก็ได้
ระบบสุดยอด เปรียบเสมือนสมบัติล้ำค่า เฉินรุยได้รับกุญแจแล้ว แต่เขาก็แค่ขุดที่ระดับตื้นที่สุดเท่านั้น สิ่งที่อยู่หลังจากนั้นหากเฝ้ารอต่อไปอาจจะคุ้มค่ามากก็ได้
เมื่อเขาได้ยินปากรีโลบ่นเรื่องหงอคอ เฉินรุยก็ได้แต่ส่ายหัว: บรรพบุรุษของมังกรอะไร? มันก็แค่ลิงจ๋อ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสุดยอดลิงระดับดึกดำบรรพ์ โคตรพระเจ้าลิง ต่างหาก!
ในขณะนั้นเอง เฉินรุยก็รู้สึกเวียนศีรษะอย่างรุนแรงราวกับว่าโลกหมุนไปรอบๆ ความรู้สึกที่ถูกเพิ่มขึ้นในช่วง 'ดวงตาวิเคราะห์' กลับลดฮวบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างกายของเขาส่ายไปมา จนราวกับว่าเขากำลังล่มลงกับพื้น
ปากรีโลสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเขา ดังนั้นเขาจึงรีบเร่งจัดท่าให้เฉินรุยนั่งลงบนสนามช้าๆ
เฉินรุยนั่งลงบนพื้นครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็ดีขึ้นเล็กน้อย เขารู้สึกว่าพลังจิตวิญญาณอุดมสมบูรณ์ตลอดเวลาของเขาจู่ๆก็เหือดแห้งลงไป ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมเขาคุมตัวเองไม่อยู่
ดูเหมือนว่า 'วิเคราะห์ขั้นสูง' ไม่ใช่ทักษะที่สามารถใช้ได้โดยไม่คิดอะไร มันต้องการจิตวิญญาณค่อนข้างสูง การใช้มันสองครั้งติดต่อกันตอนนี้ทำให้จิตวิญญาณของเขาว่างเปล่า
ในขณะนั้น เขาได้แลกเปลี่ยนขวดฟื้นคืนจิตวิญาณราคา 2,000 ออร่าทันทีและดื่มมัน อย่างไรก็ตาม ยาสีขาวซึ่งเทียบเท่ากับยาที่ปรุงโดยปรมาจารย์ไม่ได้ผลอย่างที่คาดไว้ พร้อมด้วยความสามารถของ 'ร่างดวงดาว' การฟื้นตัวของจิตวิญญาณเร็วขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันอาจไม่ได้เกิดจากฤทธิ์ของยา แต่เป็นผลข้างเคียงของ 'วิเคราะห์ขั้นสูง'
มังกรพิษมีคำถามอีกมากมาย แต่เมื่อเห็นสภาพของเฉินรุย เขาไม่คงไม่ได้ถามตอนนี้ เขาปล่อยให้เฉินรุยขี่ไวเวิร์นกลับไปพักผ่อน ในสถานการณ์ปัจจุบันของเฉินรุย เขาไม่สามารถใช้ 'วิเคราะห์ขั้นสูง' ไปเรื่อยได้แน่ โชคดีที่เคกูคุ้นเคยกับการเดินทางไปกลับครั้งนี้ ดังนั้นเคกูไม่ต้องการคำสั่งของเขาและบินตรงกลับไปที่ห้องทดลองของวัง
เฉินรุยพอกลับมาก็ตรงไปที่ห้องของเขา เขารู้สึกอ่อนเพลียทางจิตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และเขาก็ได้ผลอยหลับไป