ลูกเขยพ่อมารร้ายตอนที่ 69
บทที่ 69: ทะเลสาบสีฟ้า! แผนอันผิดพลาดของรอยซ์
. . . .
เฉินรุยในตอนแรกมีความตั้งใจที่จะยื้อเวลาและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ เมื่อเห็นรอยซ์ตั้งใจจะทำอะไร ตัวเขาก็รู้สภาพเลย เขารีบตะโกนออกมาทันที "'ดาบออร่า'!"
รอยซ์ที่เห็นเฉินรุยใช้เจ้านี้หั่นมิคาสเป็นครึ่งท่อน ตัวมันจึงไม่กล้าประมาทเลยสักนิดเดียว มันจดจ่อและรอคอย แต่มันไม่คิดเลยว่าเฉินรุยเพียงหลอกล่อ และเลือกวิ่งหนีไปตรงข้าม
รอยซ์ได้แต่ยิ้มด้วยความชิงชัง ร่างกายของมันสั่นไหวเล็กน้อยและก็ได้ตามไปอย่างรวดเร็ว รอยซ์ค่อยๆเริ่มเข้าใจความรู้สึกของมิคาสก่อนหน้านี้แล้ว เอกิลผู้นี้ หรือควรเรียกว่าเฉินรุยนั้นยากที่จะรับมือมาก ก่อนที่จะก้าวไปสู่มารระดับสูงสุด ความเร็วของมันแทบจะไม่ถึงขั้นเริ่มต้นของมารระดับสูงสุด ดังนั้นรอยซ์จึงไม่ต้องกังวลอะไรเลย แต่ตอนนี้ แม้ว่าความเร็วจะด้อยกว่าเล็กน้อย แต่เฉินรุยนั้นเจ้าเล่ห์มาก มันไม่สามารถหยุดเฉินรุยได้เพียงการโจมตีคราเดียว
อย่างไรก็ตาม รอยซ์ไม่ได้กังวลนัก เพราะเฉินรุยไม่ได้หลบหนีไปที่เมือง ถ้ามันหนีไปที่พระราชวังในเมือง มันก็จะได้รับการคุ้มครองจากเจ้าหญิงเชีย แม้แต่รอยซ์เองก็ไม่กล้าที่จะกระทำการโดยประมาท
ตอนนี้คู่ต่อสู้ของมันก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและคงกำลังตื่นตระหนกอยู่ ด้วยการหลบหนีเต็มกำลังนี้ เจ้ามนุษย์คงจะหมดแรงในไม่ช้า รอยซ์มีประสบการณ์มากมาย มันจึงมั่นใจว่าความแข็งแกร่งของมันว่าสามารถเอาชนะเฉินรุยได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นมันจึงไม่เร่งรีบนัก มันเดินตามอย่างใจเย็นและอดทนรอจังหวะที่ศัตรูของมันหมดแรง เพื่อทำการโจมตีและจับตัว
เฉินรุยไม่มีออร่าเหลือแล้ว ตัวเขาไม่สามารถแลกเปลี่ยนยาดำได้อีก นอกจากนี้ เขาเพิ่งใช้ยารักษาเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นการดื่มยาอื่นจะไม่ได้ผล เขาทำได้เพียงวิ่งอย่างหมดหวัง ในที่สุด ทะเลสาบสีฟ้าอันแสนคุ้นเคยก็ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ในขณะที่เขาวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วเต็มที่โดยไม่ได้คำนึงถึงความแข็งแกร่งของเขา อาการบาดเจ็บของเขาก็ได้รุนรแงขึ้น เลือดได้ไหลออกอย่างรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งบาดแผลที่ร้ายแรงที่สุดที่หน้าอกขวาของเขา แม้จะมีความสามารถแฝงของ 'ร่างดวงดาว' แต่มันก็ไม่สามารถรักษาได้ทันเวลา
“รอยซ์!” เฉินรุยชะงักกึกหันกลับมาและตะโกนไปว่า “หยุดไล่ข้าสักที!”
"โห้? วิ่งไม่ได้แล้วสิใช่ไหมล่ะ? ตอนนี้เจ้าเองก็ไม่มีพลังพอจะใช้เทคนิคลับของเจ้าด้วยสินะ?" รอยซ์ที่อยู่ข้างหลังเฉินรุยหยุดลงและมองไปที่เฉินรุยที่กำลังหอบ เมื่อรู้ว่าศัตรูของมันหมดแรงแล้ว มันจึงไม่เร่งรีบเลยสักนิด “ในที่สุดเจ้าก็คิดได้ใช่ไหม? ไม่อยากจะเหนื่อยอีกแล้วใช่ไหมล่ะ? หรือเจ้าอยากที่จะต่อสู้ครั้งสุดท้ายงั้นหรือ? จากที่เจ้าแสดงให้ข้าเห็นในการต่อสู้กับมิคาส เจ้าน่ะเป็นคนที่ไม่ยอมใคร ตัวเลือกหลังอาจเป็นไปได้มากที่สุด แต่ข้าอยากจะขอเตือนเจ้าว่าข้าไม่ใช่มิคาส ดังนั้นเจ้าคงไม่มีโอกาสนั้นหรอก”
“แต่…ข้าให้โอกาสเจ้าได้นะ” รอยซ์ยักไหล่ “พูดตามตรง ข้าชื่นชมความเข้มแข็งและสติปัญญาของเจ้ามาก ไม่ว่าตัวตนของคุณจะเป็นอย่างไรและจุดประสงค์ของเจ้าคืออะไร ตราบใดที่เจ้าเซ็นสัญญาข้ารับใช้หลักและยอมแพ้ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า บางที…ข้ายังสามารถช่วยให้เจ้าบรรลุวัตถุประสงค์บางอย่างได้ด้วยนะ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้าแล้ว ข้าจะให้เวลาเจ้าคิดสักพัก หากเจ้าปฏิเสธ ข้าจะไม่รั้งพร้อมโจมตีอย่างเต็มกำลัง”
“งั้นข้าเองก็จะมอบโอกาสให้เจ้ายอมจำนนหรือความตายเช่นกัน” เฉินรุ่ยหอบมาก แต่เขาก็หัวเราะออกมาเหมือนกัน เขาชี้ไปที่ทะเลสาบพร้อมกับกล่าวออกมาว่า “เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงหนีมาที่ทะเลสาบสีฟ้า”
รอยซ์ส่ายหัวและถอนหายใจ “อย่าดูถูกสติปัญญาของข้า ไม่มีทางที่เรื่องพิสดารจะเกิดขึ้นได้ เจ้าคิดจะเรียกมังกรที่ถูกปิดผนึกในทะเลสาบสีฟ้ามาฆ่าข้าหรือไง? ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเจ้า แม้เจ้าจะทำให้ข้าโกรธได้ แต่ไม่มีทางที่เจ้าจะปลดผนึกนั้นได้ เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าเหลือเวลาอีก 40 วินาที”
"ปากรีโล!" จู่ๆเฉินรุยก็ได้กรีดร้องออกมา “ไอ้บัดซบเอ้ย หากเจ้ายังไม่โผล่หัวออกมา ข้าจะฆ่าตัวตายแล้วนะ!”
"ปากรีโล?" รอยซ์ขมวดคิ้ว “นั่นเป็นชื่อที่เจ้าตั้งให้กับมังกรที่กำลังหลับใหลอยู่ในทะเลสาบสีฟ้างั้นหรือ? อย่าเสียเวลา…”
รอยซ์ผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ตามสามัญสำนึกแล้ว ไม่มีโอกาสที่เฉินรุยจะรอดเลยสักนิด ปัญหาคือ มนุษย์ผู้นี้ไม่สามารถตัดสินโดยใช้สามัญสำนึกได้เลย ดังนั้นแล้ว แม้แต่ผู้ที่ฉลาดก็มีโอกาสที่จะถูกความฉลาดของตนหลอก
ก่อนที่คำพูดจะจบลง เสียงบางอย่างที่ด้านหลังของมารระดับสูงสุดก็ได้ดังขึ้น “มนุษย์ผู้แสนน่ากลัว ใยเจ้าถึงหาวิธีคุกคามมังกรเช่นข้ามาได้เยอะแยะจัง เจ้านี้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์เลยนะ”
จู่ๆใบหน้าของรอยซ์ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ด้วยความสามารถของมันแล้ว มันไม่รู้ตัวสักนิดว่ามีคนมาอยู่ด้านหลังของมัน จากนั้น มันก็ได้นึกถึงมังกรทะเลสาบสีฟ้า ไฟมารบนร่างของมันลุกโชนและมันก็เปิดใช้งานพรสวรรค์ในการเทเลพอร์ตโดยไม่ลังเล ปฏิกิริยาแรกของรอยซ์ไม่ใช่การต่อสู้ แต่คือหนี ถ้ามังกรตัวนี้ตื่นขึ้นมาอย่างแท้จริงแล้ว ไม่ต้องพูดถึงมารระดับสูงสุดเลย แม้แต่มารระดับราชันย์ก็ไม่มีทางเทียบได้
รอยซ์เทเลพอร์ตเต็มกำลังและหนีออกไปไกลกว่า 10 เมตร อย่างไรก็ตาม เสียงนั้นยังคงดังอยู่ด้านหลังของมัน "มัจจุราชผู้น่าสงสาร ทำไมเจ้าถึงไม่ใช่เทเลพอร์ตอีกครั้งให้ปรมาจารย์ปากรีโลผู้นี้ประจักษ์กันล่ะ?”
หัวใจของรอยซ์เต้นแรงอย่างมาก มันค่อยๆหันกลับมา ตัวมันตอนนี้กำลังมองชายผู้หนึ่ง ผมสั้นสีเข้ม ผิวสีน้ำตาล ที่กำลังแสยะยิ้มให้มันอยู่ รอยซ์ตะคอกกลับไปและไฟมารของมันได้ลุกโชนขึ้น ดาบยาวสีแดงสองอันได้ปรากฏขึ้นในมือของมัน ดาบทั้งสองได้กลายเป็นดอกไม้สีแดงขนาดใหญ่ทับซ้อนกัน เป็นดั่งดอกไม้มารสีแดงที่มีชื่อเสียงในอาณาจักรมาร ซึ่งตอนนี้มันกำลังปกคลุมร่างของปากรีโลอยู่ มันสบัดดาบเข้าใส่ปากรีโลอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ดอกไม้ขนาดใหญ่นี้กลับแตกเป็นเสี่ยงๆทันทีและเสียงของมังกรพิษก็ได้ดังขึ้น
“การใช้ท่าไม้ตายในการโจมตีครั้งแรกเลย ช่างเป็นการตัดสินที่ดีเยี่ยมมาก ช่างน่าเสียดายที่เจ้าอ่อนแอเกินไป!”
ต่อจากนั้นเอง มันก็ได้ยินเสียงทุบพร้อมกับร่างที่ลอยปลิวไปต่อหน้าเฉินรุย รอยซ์กำลังปิดปากของมันพร้อมกับหอบอย่างหนัก มันกัดฟันยืนขึ้น ไฟบนร่างกายของมันเริ่มหรี่ลง
รอยซ์ตอบสนองเร็วมาก มันต้องการจับเฉินรุยไว้เป็นตัวประกัน แต่ร่างของปากรีโลก็ปรากฏตัวต่อหน้ามันอีกครั้งพร้อมเตะขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นเขาก็ทุบมารระดับสูงสุดผู้นั้นลงกับพื้นกลางอากาศ การโจมตีที่ดูเหมือนธรรมดานั้นได้ได้สร้างความเสียหายให้กับรอยซ์มากพอสมควร จนมันไม่อาจจะยืนได้ด้วยซ้ำ
ในที่สุด เฉินรุยก็เข้าใจได้แล้วว่าปากรีโลทรงพลังปานใด เนื่องจากตราประทับยังอยู่ มันจึงมีพลังเพียงมารระดับราชาเท่านั้น ถ้าผนึกของมันปลดออก บางทีมันอาจจะ ...
ในอาณาจักรมารแล้ว ปากรีโลไม่ใช่คนเดียวที่มีพลังระดับมารราชันย์ ไรเซ็นแห่งอาณาจักรเลือดเป็น มารระดับราชันย์ ที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรมารในขณะที่ แคทเธอรีนแห่งอาณาจักรเงา ก็มีความแข็งแกร่งเช่นเดียวกัน ไม่ต้องพูดถึงชายผู้น่ากลัวที่ปิดผนึกปากรีโลเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ศัตรูของเฉินรุยเป็นเพียงมารระดับสูงสุด หากต่อจากนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับมารระดับราชา มารระดับราชันย์ มารระดับจักพรรดิล่ะก็...
แต่เฉินรุยไม่กลัว ตัวเขาตอนนี้มีจิตวิญญาณนักสู้เต็มเปี่ยม ตราบใดที่เขายังคงยืนหยัดและพยายาม การที่จะเป็นชายผู้แข็งแกร่งที่สุดในตำนานก็ไม่ใช่เพียงแค่ความฝัน ในตอนนี้เขาไปถึงสถานะมิชาร์ได้แล้ว และด้วยการที่เขาสามารถสังหารมาระดับสูงสุดอย่างมิคาสได้ มันก็พิสูจน์แล้วว่าเขาแตกต่างจากชายที่ไร้พลังในเดือนก่อนอย่างสิ้นเชิง
"เห้ย! หยุดฝันกลางวันได้แล้ว“เสียงของมังกรพิษขัดจังหวะความคิดของเฉินรุย” นี่คือมารระดับสูงสุดที่เจ้าพูดถึงงั้นหรือ? อ่อนแอชะมัด ถ้าเราฆ่ามัน จากนี้ก็ไม่ต้องกังวลหรือสัญญาแล้วใช่ไหม?"
"ไม่ใช่มัน มันเป็นมารระดับสูงสุดอีกตัวหนึ่ง“เฉินรุยส่ายหัวและเอื้อมมือออกไปอย่างไร้ยางอาย” ขอหยกไข่มุกหน่อย ไม่เห็นเหรอว่าข้ากำลังจะตายแล้ว”
ไม่เพียง แต่หยกไข่มุกจะสามารถล้างพิษได้ แต่ยังช่วยรักษาบาดแผลด้วย มันมีประสิทธิภาพมากกว่ายารักษาพอสมควร นอกจากนี้ ยารักษายังเป็นยาระดับต่ำที่มีเวลา "คูลดาวน์" ค่อนข้างนาน อีกทั้งตอนนี้ก็อยู่ในช่วงคูลดาวน์ ดังนั้นการดื่มมันลงไปอีกจึงไม่ค่อยมีประโยชน์
“ทำไมยามใกล้ตาย เจ้าถึงมีพลังเหลือล้นจังนะ? ไม่ใช่ว่าเจ้าบอกว่าอยากจะฆ่าตัวตายหรือไง? ทำไมเจ้าไม่ตายต่อหน้าข้าเสียเลยล่ะ?”
แม้ว่าปากรีโลจะพูดแบบนั้น แต่มันก็ยังคงโยนหยกไข่มุกและมองไปที่เฉินรุยสักพัก ทันใดนั้น เสียงของมันก็ดูประหลาดใจมาก “ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจ้า…คือมารระดับสูงสุดงั้นเหรอ?”
“ใช่ ข้าเพิ่งก้าวขั้นมาไม่นานและข้าก็ฆ่ามารที่ระดับสูงกว่าได้ ยังไงก็เถอะ เจ้านี้มันมีไหวพริบมากและมันก็ได้โผล่มาช่วงท้าย ข้าเกือบถูกมันจับตัวได้แล้ว” เฉินรุยกลืนหยกไข่มุกและขมวดคิ้ว “เจ้าขี้เหนียวชะมัด ทำไมข้าได้แค่อันเดียวกัน! อีกอย่าง รสชาติโคตรแย่ ปรับแต่งรสสักนิดไม่ได้หรือไง?”
“เจ้าคิดว่ามันเป็นยาหวาเหรอ? ช่างเป็นคนที่ไม่รู้จักพอเสียจริง!” ปากรีโลดูหงุดหงิดมาก“ภายใน 2 เดือน เจ้าสามารถก้าวจากมารระดับกลางเป็นมารระดับสูงสุดได้จริงๆ! ทำไมเจ้าถึงโชคดีนักนะ? นอกจากนี้เจ้ายังได้รับสมบัติสุดหายากจากปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ด้วย! โอ้ แสดงว่าสิ่งที่เจ้าพูดก็คงจะจริงทั้งหมดเลยสินะ!”
รอยซ์ที่ล้มลงกับพื้นตอนนี้ยังไม่ตาย มันพยายามที่จะเทเลพอร์ตหนีอีกครั้ง แต่มันก็อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถใช้พลังได้เต็มกำลัง มันคงเป็นพิษร้ายแรงจากมังกรพิษ นอกจากนี้ คำพูดของปากรีโลยิ่งทำให้มันตกใจยิ่งไปกว่าเดิม
มังกรพิษทะเลสาบสีฟ้านี้ได้ทำลายผนึกแล้วและตื่นขึ้นมาแล้ว!
อีกทั้งเอกิลผู้นี้ยังเป็นมนุษย์ ซึ่งก็คือเฉินรุย!
ความสัมพันธ์ระหว่างมังกรพิษและเฉินรุยนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน!
นอกจากนี้เฉินรุยยังใช้เวลาเพียงสองเดือนในการเลื่อนระดับจากมารระดับกลางไปสู่มารระดับสูง!
มรดกของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คืออะไรกัน? เป็นไปได้ไหมว่าปรมาจารย์ตัวจริงไม่ใช่อัลดาส แต่เป็น...
มีความลับที่น่าตกใจมากมายเพียงใดที่ซ่อนอยู่กับมนุษย์ผู้ดูไร้พลังคนนี้…
อย่างไรก็ตาม รอยซ์ก็รู้ดีว่าสำหรับมังกรพิษแล้ว การที่มันกล้าพูดความลับมากมายต่อหน้าแล้ว มังกรพิษคงจะไม่ปล่อยให้มันมีชีวิตรอดอย่างแน่นอน
ถ้ามันรู้อย่างนี้แต่เนินนาน ตัวมันคงจะใช้พลังทุ่มฆ่าเฉินรุยแต่แรก ตอนนี้จะเสียใจก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว แต่ตัวมันไม่อยากจะยอมรับชะตากรรมเลยสักนิด
“ปรมาจารย์มังกรพิษ” รอยซ์คิดอยู่พักหนึ่งและพูดอะไรบางอย่างออกมา “ข้าไม่ใช่ผู้ที่กลัวความตาย แต่ข้าไม่เต็มใจที่จะตายในลักษณะนี้ หากข้ายอมจำนน ท่านจะปล่อยข้ารอดไปไหม?”
ในแดนมาร การยอมจำนนต่อผู้แข็งแกร่งไม่ใช่เรื่องน่าอาย โดยเฉพาะมังกรที่ทรงพลังอย่างปากรีโล
ปากรีโลมองไปที่รอยซ์อย่างอยากรู้อยากเห็น จากนั้นมันก็พยักหน้าและพูดออกไปว่า“ความแข็งแกร่งของเจ้านั้นแย่พอสมควร แต่ปฏิกิริยาและสมองของเจ้าก็ไม่เลวนัก ข้าเองก็ยอมรับการยอมจำนนของเจ้าได้”
ในขณะที่รอยซ์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก มันก็ได้ยินว่ามังกรพิษเปลี่ยนน้ำเสียงชี้ไปที่เฉินรุยและพูดว่า“อย่างไรก็ตาม คนที่เจ้าต้องทำสัญญาหาใช่ข้า แต่เป็นเจ้าคนนี้”
ดวงตาของรอยซ์เต็มไปด้วยความโกรธ มันได้แต่ก้มศีรษะลงอย่างเงียบงัน ปากรีโลสังเกตเห็นอาการของรอยซ์ ก็ได้กล่าวออกไปว่า “เจ้าคิดว่ามนุษย์ผู้นี้อ่อนแอกว่าเจ้าและเป็นความอัปยศอดสูที่จะยอมจำนนต่อมันงั้นเหรอ? ข้ารับรองได้ว่าอีกไม่นานมันผู้นี้จะสามารถเหยียบย่ำเจ้าได้อย่างง่ายดายหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน”
รอยซ์เองที่เริ่มคิดขึ้นมาได้ว่า “เอกิล” สามารถก้าวข้ามระดับจนสามารถเหยียบย่ำอรัคได้ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน ก็ดูมีอาการเปลี่ยนไป ในตอนนี้มังกรพิษยังได้เปิดเผยอะไรบางอย่างออกมาด้วย “และข้าจะบอกเจ้าอีกอย่างด้วยว่า แม้แต่สัญญาที่ข้าทำกับเจ้านี้ก็ไม่ใช่สัญญาที่เท่าเทียมกัน แต่เป็นสัญญาชีวิต! คนทั่วไปสามารถทำสัญญาได้เพียงสัญญาเดียว แต่เจ้าคนนี้เป็นคนประหลาดอย่างแท้จริง เพราะมันทำสัญญามาสองฉบับแล้ว”
รอยซ์ตกใจมากพร้อมมองใบหน้าที่จริงจังของปากรีโลด้วยความประหลาดใจ จากนั้นสายตาของมันก็มองไปที่เฉินรุย: มนุษย์ผู้นี้มีอำนาจถึงเพียงไหนกันถึงสามารถทำให้มังกรพิษ ผู้เป็นเผ่าพันธุ์มังกรอันแสนแข็งแกร่งมาทำสัญญาชีวิตแบบนี้ได้! นั่นไม่ได้หมายความว่าชีวิตของมันจะลดลงเหลือเพียงไม่กี่ร้อยปีหรือไง?
มังกรพิษได้เอ่ยปากบอกความลับออกไปมากมาย ดูเหมือนว่าหากมันไม่ยอมจำนนจริงๆ ตัวมันคงได้ตายแน่นอน
“ข้ามีเกียรติของข้าและข้าขอยืนกราน” รอยซ์หายใจเข้าลึกๆแล้วพยุงร่างของมันให้ยืนขึ้น มันมองตรงไปที่เฉินรุย “ถ้าเจ้าสามารถสัญญากับข้าอย่างหนึ่ง ข้าก็เต็มใจที่จะเป็นคนรับใช้ของเจ้า หากไม่ ข้าขอยอมตายเพื่อรักษาเกียรติเสียจะดีกว่า”