ลูกเขยพ่อมารร้ายตอนที่ 64
บทที่ 64: การดวล! ฉากต่อสู้ของมารระดับกลางที่แข็งแกร่งที่สุด
ในสนามประลอง ซัคคิวบัสสาวก็ได้แนะนำตัวผู้เข้าแข่งขันทั้งสองฝ่ายให้กับผู้ชมได้รับทราบ หลังจาก "เบอร์ล็อค" เรก้าได้มองไปยังที่นั่ง VIP แล้ว มันก็ตัดสินใจที่จะสู้ด้วยมือเปล่า จากนั้น มันก็บอกหมายเลข 64 5 คำว่า “เจ้าพร้อมตายหรือยัง?”
สิ่งที่ทำให้ซัคคิวบัสประหลาดใจคือ คำพูดของหมายเลข 64 คราวนี้ไม่ใช่เรื่องของการเดิมพันอีกแล้ว แล้วก็บังเอิญที่มันเป็น 5 คำเช่นเดียวกับของเรก้า "อย่าทำข้าผิดหวัง"
จากนั้นเอง การต่อสู้ของมารระดับกลางที่แข็งแกร่งที่สุดก็ได้เริ่มต้นขึ้น ผู้ชมต่างกลั้นหายใจ เตรียมตัวพบกับการประลองอันแสนดุเดือดเลือดพล่าน อย่างไรก็ตาม หลังจากทั้งสองคนตั้งท่าต่อสู้แล้ว พวกเขาก็ไม่ขยับกันเลย พวกเขาจ้องมองกันและกัน เพื่อที่จะมองหาช่องว่าง
หากการจ้องมองเป็นอาวุธ พวกเขาทั้งสองคงได้ฟาดฟันกันเป็นนับพันครั้งแล้ว สายตาของเรก้าเป็นดั่งภูเขาไฟประทุ การขยับของมันเหมือนกับแผ่นดินกำลังไหว ทางฝ่ายหมายเลข 64 เป็นดั่งน้ำที่สงบนิ่ง พลังที่ยิ่งใหญ่คงซ่อนอยู่ภายใต้ความนิ่งนั่นเป็นแน่
เมื่อผู้ชมเริ่มหมดความอดทน ในที่สุดก็ได้มีคนเปิดสักที แต่ว่าไม่มีใครคาดคิดเลยว่าผู้ทำการเปิดการโจมตีจะเป็นหมายเลข 64
ในขณะที่หมายเลข 64 เคลื่อนไหว ดวงตาของรอยซ์และอรัคก็กระพริบแทบจะพร้อมๆกัน ผู้ชมเองก็ประหลาดใจ เพราะหมายเลข 64 จู่ๆก็หายไป!
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้น มันคือเสียงบางอย่างกระแทกเข้ากับร่างของเรก้า “ตู้ม! ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม...”
เรก้าดูเหมือนจะตั้งรับการโจมตีไว้แล้ว ร่างกายของมันสั่นเพียงน้อยนิด แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ขยับอะไรเลย ผู้ชมบางคนที่มีสายตาพิเศษ ต่างเห็นว่าร่างบางของหมายเลข 64 ได้หายไปและจู่ๆพื้นใต้เท้าของเรก้าก็ค่อยๆแตกกระจายออกไป
ในบรรดาเหล่าผู้ชม ใบหน้าของดาร์คเอลฟ์ เจสซี่ ก็กลายเป็นซีดเผือก ด้วยสายตาของมัน มันสามารถรู้ทันทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสนามประลอง แต่ถึงแม้เขาจะรู้ขนาดนั้น จริงๆแล้วเขาก็แทบจะมองไม่ทันด้วยซ้ำ
เจสซี่นั่นภูมิใจในความเร็วของตนมาเสมอ แม้จะแพ้เอกิลในครั้งก่อน แต่ความเร็วของเขายังคงเหนือกว่า แต่เพียงแค่ 20 วันที่ผ่านมา ความเร็วของเอกิลมัน...เพิ่มขึ้นถึงระดับที่น่ากลัวเช่นนี้ได้ยังไงกัน!
ไม่เพียงแต่ความเร็ว! พลังก็เช่นกัน! เมื่อตอนที่มันต่อสู้กับซิลวาในบ้านโบราณ มันหาได้แสดงพลังเช่นนี้ออกมา เกิดอะไรขึ้นภายในเวลาครึ่งเดือนกัน?
ด้วยความแข็งแกร่งและความว่องไวของเอกิลในตอนนี้ หากพวกเขาต่อสู้กันอีกครั้ง แม้แต่เจสซี่ก็ไม่สามารถทนได้เกิน 5 นาทีหรือบางทีอาจน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ! หลังเดือนนี้ข้าจะท้าทายกับชายผู้นั้นได้จริงหรือ? ดาร์คเอลฟ์กำมัดของมันแน่น นิ้วของมันตอนนี้สีแดงเผือด
เจ้าจะแข็งแกร่งกว่านี้ใช่ไหม? เสียงนั่นได้ดังขึ้นมาในหัวของเขาอีกครั้ง
“ข้าทำได้!” เจสซี่ตอบกลับไปด้วยเสียงต่ำ แต่ดูเหมือนเขาจะตอบตัวเองมากกว่า
ในทางตรงกันข้าม ทางด้านแก๊งค์เสื้อคลุมที่นำมาโดยคนแคระเฒ่า พวกมันต่างเชียร์หัวหน้าของตนด้วยเสียงกึกก้องอย่างตื่นเต้น การที่มีแก๊งค์เสื้อคลุมจำนวนมากในพื้นที่คนดูของสนามประลองทำให้เป็นภาพที่แปลกตาพอสมควร
ในสนามประลอง ลมอันแสนรุนแรงยังคงพัดต่อไปเป็นเนื่อง แต่ท่วงทำนองของการต่อสู้ยิ่งกลับดูเหมือนถูกเร่งเร้าเข้าไปอีก เรก้าถอยหลังไปอย่างช้าๆ แต่ทวงท่าการป้องกันของมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย ทำให้ส่วนอื่นๆของมันยังสามารถถูกโจมตีได้ แต่มันคือผู้ใด เบอร์ล็อก ผู้มีความสามารถด้านการป้องกันและความอดทน หากเป็นคนอื่น มันคงไม่ปราณีแแล้ว
เมื่อเรก้าถอยหลัง จู่ๆก็ได้มีเสียง “ตู๊ม!” และไฟสีแดงก็ได้ปรากฏบนร่างกายของมันพร้อมๆกับที่ร่างของมันที่หายไป เฉินรุยโจมตีพลาด เรก้าเองก็ได้ปรากฏที่ด้านหลังของเขาในทันที หมัดไฟของมันได้ชกไปในทันที ดูเหมือนการตอบโต้ครั้งแรกของเรก้าจะเผยออกมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม หมัดนั่นยังคงพลาด เฉินรุยได้พลิกตัวและสร้างระยะห่าง 6-7 เมตรด้วยความเร็วสูง
ตระกูลของมารผู้ยิ่งใหญ่มีความสามารถพื้นฐาน 3 อย่าง: อย่างแรกคือความเชี่ยวชาญอาวุธ โดยเฉพาะอาวุธอย่างเคียว นั่นเป็นเหตุผลที่พวกมันถูกเรียกว่า มัจจุราช
อย่างที่สองคือ เทเลพอร์ต เฉินรุยเองก็ได้เห็นสิ่งนี้ในการประลองเวหา ในคราวที่อลันร่วงลงมาจากไวเวิร์น มันก็ได้ใช้เทเลพอร์ตกลางอากาศและกลับสู่พื้นอย่างปลอดภัย ยิ่งมารระดับสูงเท่าใด. ระยะของการเทเลพอร์ตและระยะเวลาการใช้ก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างที่สามคือ เพลิงมาร มันไม่ได้มีไว้ใช้เผาศัตรู แต่มันมีไว้เร่งพลังงานของผู้ใช้ ผลและระยะเวลาการใช้เพลิงมารจะแปรผันกับพรสววรค์และความแข็งแกร่งของผู้ใช้
แต่เรก้าก็ประหลาดใจมาก หลังจากที่มันใช้เพลิงมารแล้ว แต่มันกลับไม่สามารถตามความเร็วของฝ่ายตรงข้ามได้ทัน ในทางกลับกัน ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่เหนื่อยหอบหรือส่งสัญญาณความอ่อนเพลียใดๆเลย แม้จะต้องรับการโจมตีอันแสนว่องไว
“ถ้ามองเพียงแค่ความเร็วอย่างเดียวแล้ว” รอยซ์ที่อยู่ในที่นั่ง VIP ก็ได้มองและพูดขึ้นมา “หมายเลข 64 ก็เข้าใกล้ขั้นมารระดับสูงแล้ว ข้าไม่เข้าใจจริงๆเลยว่ามันฝึกฝนเช่นไร ครานี้การที่เรก้าจะชนะคงเป็นเรื่องยากมากขึ้น”
อรัคก็ไม่ได้พูดอะไรเลย ดวงตาของมันในตอนนี้ราวกับมีเปลวไฟที่กำลังลุกโชนขึ้นมา เมื่อเดือนก่อน หมายเลข 64 เป็นเพียงตัวตนที่ไร้ซึ่งพลังใดๆ มันไม่คิดเลยว่าพลังของหมายเลข 64 จะก้าวข้ามขั้นได้ถึงเพียงนี้
แม้ในตอนนี้มันจะแข็งแกร่งไม่มากนัก แต่นั่นเป็นเพียงเวลาเดือนเดียว เพียงเดือนเดียว เอกิลสามารถข้ามขั้นมาถึงขั้นนี้ได้เช่นไร? ใบหน้าของมารผู้ยิ่งใหญ่แสยะยิ้มอย่างแปลกประหลาด มันยกศีรษะขึ้นและกระดกไวน์ทั้งหมดที่อยู่ในแก้วทันที
“ได้แต่หนีอย่างเดียว เจ้าไม่มีความกล้าที่จะรับการโจมตีตรงๆเลยหรือ?” เรก้าในตอนนี้สบถออกมาอย่างรังเกียจ
ดูเหมือนว่านี้จะเป็นคำที่มันใช้ในการยั่วยุ ซึ่งเฉินรุยได้แต่ส่ายหัว เขาขี้เกียจเกินกว่าจะพูดอะไรออกไป เขายื่นมือและทำท่าทางไปทางเรก้า การกระทำดังกล่าวของเขาได้ทำให้มันรู้สึกโกรธมาก เพลิงมารบนตัวของเรก้ายิ่งลุกโชนขึ้นเข้าไปอีก มันกระโดดและพุ่งไปด้านบนตัวของเฉินรุยในทันที
ในคราวนี้ เฉินรุยคงไม่สามารถใช้ความเร็วในการหลบได้เป็นแน่ เพราะตัวมันพร้อมโจมตีใส่จุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของเขา แต่จู่ๆเรก้าก็ได้ทำหน้าประหลาด พร้อมกันนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็ได้ชนกัน
ผู้ชมทุกคนต่างเห็นว่าหมายเลข 64 สามารถเอามือมาปัดป้องได้ เขาสามารถป้องกันการโจมตีอันแสนรุนแรงของเรก้าที่เป็นเพลิงมารได้ เท้าของเขาขยับถอยไปเพียงน้อยนิด ร่างกายของเขายังคงสภาพเดิม "ฮ่า!" พื้นโดยรอบได้ปริแตกอีกครั้ง แสดงให้เห็นเลยว่าหมัดครานี้จะรุนแรงแค่ไหน
เฉินรุยนั่นต่อยไปตรงๆอย่างไม่ลังเล เรก้าได้ป้องกันการโจมตีนั่นได้ แต่ร่างกายของสั่นไหวเล็กน้อย ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งคู่จะมีพลังเท่าๆกัน ต่อมาทั้งสองก็ได้พลัดกันโจมตีเช่นนี้เรื่อยๆ มันเป็นเพียงการต่อสู้ที่น่าเบื่อๆจริงๆเหรอเนี่ย?
แต่จริงๆแล้วทุกคนต่างตะลึงงัน ชายเสื้อคลุมคนนี้ลึกลับมาก ไม่เพียงแต่จะมีความเร็วอันน่าอัศจรรย์ แต่ยังมีพลังทัดเทียมกับเรก้าเสียด้วยซ้ำ เสียงต่อสู้ยังคงดังสนั่นอย่างต่อเนื่อง พื้นใต้เท้าแทบจะปริแตกจนไม่มีที่ยืนกันอยู่แล้ว นี้มันไม่ใช่เพียงแค่การต่อสู้ที่ใช้กำลัง แต่มันยังต้องใช้พลังใจด้วย
นี้สิถึงจะเรียกว่าการต่อสู้! การมาสนามประลองวันนี้ไม่มีใครรู้สึกขาดทุนกันเลย ผู้ชมมากหน้าหลายตาต่างรู้สึกตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก ผู้ชมที่เป็นกลุ่มมารเสื้อคลุมต่างก็เชียร์ให้หมายเลข 64 ส่วนหลายต่อหลายคนก็เชียร์เบอร์ล็อค เสียงเชียร์ของพวกเขาเริ่มดังขึ้นและดังขึ้นเรื่อยๆ
เฉินรุยเองก็ไม่ตระหนักเลยว่าในระหว่างต่อสู้นี้ ร่างกายของเขาเริ่มมีชั้นแสงราวกับว่ามีอะไรบางอย่างจะผลิออกมา
"นับได้ว่ายอดเยี่ยม อย่างน้อยก็มีความแข็งแกร่งและความอดทนเทียบเท่ากับเรก้า นี้สิถึงจะเรียกว่าเป็นศึกระหว่างมารระดับกลางขั้นสูงที่เหมาะสม แต่เดี๋ยวก่อน หมายเลข 64 ผู้นี้มีความเร็วเข้าใกล้กับมารระดับสูง ทำไมเขาถึงเลือกวิธีการต่อสู้ที่ไม่ฉลาดเช่นนี้กัน?” รอยซ์ผู้เป็นมารระดับสูงสุดที่ชอบการวางกลยุทธกลับรู้สึกงงงวย
หลังจากที่ได้ฟังความคิดเห็นของรอยซ์ อลันก็รู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้นไปอีก: โชคดีที่ข้าส่งนาจิบไปขู่เขา ไม่อย่างนั้นเรก้าคงได้แพ้แน่นอน ครั้งนี้ข้าได้เดิมพันครั้งใหญ่แล้ว ผลตอบแทนที่ได้คืนมาย่อมต้องมหาศาล อีกทั้งเอกิลผู้นี้ยังเป็นมารที่แข็งแกร่ง บางทีตัวข้าควรหางานให้มันในตระกูลคารอน
"หินลับคม....?" อรัคหรี่ตาลงและตอบกับตัวเอง เขาดูเหมือนจะเข้าใจความตั้งใจที่แท้จริงของเฉินรุยแล้ว
เวลาเริ่มผ่านไปช้าๆ แต่ท่วงทำนองของการต่อสู้กลับไม่ได้เป็นตามนั้นเลย อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายในตอนนี้เริ่มหอบเล็กน้อยแล้ว เรก้าพยายามที่จะใช้ความอดทนของตัวมันเองเอาชนะคู่แข็ง แต่ตัวมันไม่คิดเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีความอดทนเหนือกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความกล้าหาญที่พร้อมจะเอาชีวิตเขาแลกนั่น แม้แต่ ‘เบอร์ล็อค’ อย่างมันก็ยังต้องกังวล
เพราะตัวเรก้าเองก็เป็นราชันย์ในหมู่มวลมารระดับกลาง ดังนั้นความแข็งแกร่งของมันจึงไม่ใช่สิ่งที่ถูกยกกล่าวอ้าง ทำให้มันรู้ดีว่าหากต่อสู้แบบนี้ต่อไป มีแต่มันที่จะแย่ลง พอเป็นเช่นนี้มันจึงได้ตะโกนออกมาและต่อยเข้าไปใส่เฉินรุยเต็มแรง ทั้งสองต่างกระเด็นไปคนละทาง แต่เรก้าก็ได้ใช้เทเลพอร์ตเพื่อปรากฏทางด้านหลังของเฉินรุย มันในตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิง มือทั้งสองของมันได้ก่อตัวเป็นกรงเล็บ ภายในอุ้งมือของมัน เปลวไฟได้ก่อตัวและมันก็ได้พุ่งไปหาเฉินรุย
นั่นคือ ‘ผลาญเพลิง’ ความสามารถของเรก้าที่ผสมผสานเข้ากับเทคนิคของมัน มันสามารถสร้างความเสียหายได้มหาศาล ซึ่งนี้แหละคือจุดกำเนิดของนามมัน “เบอร์ล็อค”
เฉินรุยไม่สามารถรับมันได้ดีนัก ตอนนี้เขาเหนื่อยมาก แถมพลังกายก็ยังไม่ฟื้นคืนกลับมา นอกจากนี้เขายังไม่มีอะไรไว้ผ่อนแรงด้วย ในขณะที่กำลังหมดหวัง เขาก็ได้หันไปรอบๆและใช้แขนของเขาตั้งท่าป้องกัน
เมื่อ ‘ผลาญเพลิง’ ปะทะเข้ากับตัวของเฉินคุย ความแข็งแกร่งของมันก็ได้ฉีกกระชากตัวเฉินคุยไป แม้กระทั่งเสื้อผ้าของเขา เมื่อเรก้าโจมตีเสร็จสิ้น ตัวมันก็วางมือขึ้นเหนือศีรษะอีกครั้ง นี้คือ ‘ผลาญเพลิง’ ลูกที่สองที่กำลังพุ่งไปหาเฉินคุย และมันก็ได้ส่งเสียงกังวานไปทั่วสนามประลองอีกครั้ง
มันต้องใช้โอกาสนี้ในการสังหารหมายเลข 64! เรก้าในคราวนี้ไร้ซึ่งพลังแล้ว ตอนนี้อุ้งมือของมันปรากฏ ผลาญเพลิง‘ 4 ลูก มันยิงออกไปราวกับปืนกล
เสียงระเบิดได้ดังขึ้นทั่วทั้งสนามประลอง มีหมอกควันจากฝุ่นมากมายปรากฏขึ้นไปทั่ว จนยากที่จะมองเห็นว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น
หลังจากนั้นพักหนึ่ง เรก้าก็ได้หยุดระเบิด มันในตอนนี้หอบหนักมาก เปลวไฟบนร่างกายของมันจางลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหน ตัวมันก็ยังคงมีขีดจำกัด ด้วยการใช้ ‘ผลาญเพลิง’ ต่อเนื่อง ความแข็งแกร่งที่เรก้ามีอยู่ก็แทบจะหมดลง มันอดไม่ได้ที่จะยิ้ม เพราะมันไม่คิดหรอกว่าจะมีมารระดับกลางตนใดที่สามารถรอดพ้นจากระเบิดของมันไปได้
ฝุ่นค่อยๆจางหายไปอย่างช้าๆ แต่ใบหน้ายิ้มของเรก้าก็พลันแข็งค้างไป ร่างๆหนึ่งค่อยๆปรากฏขึ้นในควันนั่น สมาชิกของแก๊งค์เสื้อคลุมและผู้สนับสนุนหมายเลข 64 ต่างส่งเสียงเชียร์ออกมา
แต่จริงๆแล้วสถานการณ์ของเฉินรุยก็ใช้ว่าจะดีนัก เขาในตอนนี้กำลังปรับสภาวะพลังดวงดาวของเขา เสื้อคลุมของเขาได้ถูกทำลายไปแล้ว และตอนนี้ก็เหลือเพียงบาดแผลที่เกิดจาก ‘ผลาญเพลิง’ พื้นดินใต้เท้าของเขาแตกแยกออก เหลือเพียงหลุมใหญ่บนสนามประลอง
อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับเฉินรุยเป็นเพียงบาดแผลภายนอก มันไม่ได้ส่งผลต่อกล้ามเนื้อหรือกระดูกของเขาเลย ซึ่งนี้คงเป็นผลมาจากสถานะอัลไคน์ ‘การฟื้นฟูร่างกาย’ เป็นแน่ ถ้าหากเป็นเขาเมื่อ 20 วันก่อน เขาคงได้ตายไปแล้ว
เฉินรุยก็ได้จัดการฉีกเสื้อคลุมที่เหลือออกไปทันที เขากระโดดขึ้นมาออกจากหลุม เขาเริ่มเดินเข้าไปหาเรก้าอย่างช้าๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ก้าวเร็วนัก แต่ทุกก้าวเสมือนกับได้เหยียบย่างบนหัวใจของ ‘เบอร์ล็อค’
หัวใจของเรก้าเริ่มสั่นด้วยความกลัว ตัวมันรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งกระดูก