ตอนที่แล้วลูกเขยพ่อมารร้ายตอนที่ 60
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 62 แรงโน้มถ่วง 4 เท่า

ลูกเขยพ่อมารร้ายตอนที่ 61


บทที่ 61: การค้นพบที่ไม่คาดคิด

เมื่อเข้าไปในโกดังใต้ดิน เฉินรุยก็รู้แล้วว่าทำไมซิลวาถึงลังเล ศิลาเรืองแสงถูกเก็บไว้ในกล่องหลายแห่งในโกดัง แต่จริงๆแล้วมีมารหลายสิบตนถูกขังอยู่ในคุกข้างคลังสินค้าด้วย ในบรรดามารเหล่านี้มี ซัคคิวบัส ดาร์คเอลฟ์ เซ็นทอร์และมารสาวระดับสูงสองตน ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิงและเด็ก พวกนางทุกตนล้วนแล้วแต่เปลือยกาย มือถูกแม่กุญแจติดไว้อยู่และไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้

เฉินรุยจำได้ในทันทีถึงเรื่องที่เชียเคยพูดว่ามีเด็กกับผู้หญิงหายตัวไปในเมืองพระจันทร์ดับ เขาคิดและก็รู้ได้เลย จากนั้นเขาก็พูดอย่างใจเย็นไปว่า “ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าจะได้รับเงินมามากมาย กลับกลายเป็นว่าธุรกิจศิลาเรืองแสงเป็นแค่เรื่องบังหน้า มารเหล่านี้จะถูกขายที่ไหน? ราคาเท่าไหร่?”

ซิลวาเห็นว่าเอกิลดูเหมือนจะสนใจ มันจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วตอบไปว่า “ท่านช่างเป็นคนที่เข้าใจผู้อื่นจริงๆ มารเหล่านี้จะถูกนำไปค้าขายที่ดินแดนลาวาสีคราม เนื่องจากราคาประมูลที่สูงมาก ถ้าหากท่านยินดี มันจะกลายเป็นแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของแก๊งค์เสื้อคลุมของเรา...”

ดินแดนลาวาสีคราม! เดิมเฉินรุยคิดว่าคงเป็นฝีมือของจ้าววิญญาณสีชาด แต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นอย่างนี้ เขารับรู้ได้ถึงปัญหาในทันที ดินแดนลาวาสีครามอยู่ทางใต้ของเมืองพระจันทร์ดับ ทางที่นั่นเต็มไปด้วยพวกโจรและไม่สามารถจะผ่านไปได้เลย แล้วมารพวกนี้จะถูกขนส่งไปทางนั้นได้ยังไง?

ทางด้านซิลวาดูจะชื่นใจมาก มันเชื่อว่าตัวเองได้เป็นสมาชิกแก๊งค์เสื้อคลุมแล้วและหวังว่าธุรกิจนี้จะไปต่อได้ ตัวมันนั้นแค่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ ดังนั้นมันจึงได้แต่พูดประจบ "มีผู้หญิงพรหมจารีค่อนข้างน้อยในหมู่ผู้หญิงเหล่านี้ หากท่านชอบ เชิญท่านเพลิดเพลินได้ตามที่ต้องการเลย! จากประสบการณ์ส่วนตัวของข้าสาวน้อยเผ่าดาร์คเอลฟ์คือที่สุด ท่านควรต้องลอง ตัวข้ามั่นใจเลยว่า... "

"สาวน้อยเผ่าดาร์คเอลฟ์? อะไรนะ?" พอได้ยินคำพูดของซิลวา ตัวเฉินรุยก็จ้องมองอย่างอาฆาตพร้อมกับกล่าวไปว่า "ตัวข้าเองก็อยากจะมีส่วนร่วมกับธุรกิจที่เจ้าบอกอยู่นะ แต่ข้าไม่คิดเลยว่าเรื่องนี้จะช่างบังเอิญนัก ราวกับโอกาสที่พระเจ้าทรงประทานให้ แต่จากที่ข้ารู้มา ทางไปดินแดนลาวาสีครามมีโจรอยู่มากมาย มันเป็นเส้นทางที่ไม่สามารถจะผ่านไปได้เลย เจ้าไม่ควรที่จะมาโกหกข้า!"

ก่อนที่จะจัดการปัญหานี้ เขาคงต้องเคลียร์เรื่องอื่นเสียก่อน

"ไม่นะขอรับ!" ซิลวาจึงอธิบายอย่างรวดเร็วไปว่า “มีตราสัญลักษณ์อยู่ในของที่ข้าเพิ่งจะให้ท่านไปด้วยขอรับ ตราบใดที่ท่านแสดงตราสัญลักษณ์ โจรเหล่านั้นจะปล่อยให้ท่านผ่านทางได้”

ตราสัญลักษณ์? เฉินรุยเปิดช่องว่างมิติและลองค้นหามันดู เขาค้นหาไปทั่วและพบกับตราสัญลักษณ์สีเงินอยู่บนมือ ตราสัญลักษณ์มีรูปมังกรสีดำสองหัวอยู่ “เจ้ากำลังพูดถึงตรานี้หรือไม่? เจ้าได้สิ่งนี้มาจากไหน?”

ซิลวานั้นเห็นชัดเลยว่าเอกิลไม่ได้ใช้อุปกรณ์มิติที่อยู่ในตัวเลย จู่ๆตรานั้นมันก็ปรากฏจากอากาศ มันยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าเอกิลจะต้องมีเวทมนตร์มิติที่สาบสูญอยู่กับตัวอย่างแน่นอน ดังนั้นตัวมันจึงไม่กล้าโกหกและตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ก่อนหน้านี้ข้าเคยลักลอบใช้สมุนไพรที่ดินแดนลาวาสีคราม จากนั้นก็ได้พบเข้ากับมารสะดับสูงนามว่า ลาวัท เขาผู้นั้นได้มอบตราสัญลักษณ์และธุรกิจการค้ามนุษย์ข้าก็ได้รับยินมาจากคนผู้นั้น เมื่อข้าพบโจรบนท้องถนน ข้าเพียงเอ่ยนามของลาวัทและชูตราสัญลักษณ์ออกมา แน่นอนว่านี้ย่อมเป็นข้อเสนอสุดแสนจะดีงาม ไม่มีการดักปล้นหรืออะไรเลย มันเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยความปลอดภัย นั้นทำให้ธุรกิจการค้ามารของข้าจะทำทุกๆครึ่งปี ข้อตกลงครั้งก่อนก็เพิ่งจะ 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นเชิญท่านเพลิดเพลินกับสตรีที่ท่านต้องการเลย แม้ว่าพวกมันจะตายก็ไม่เป็นไร”

พอได้ยินเช่นนั้น เฉินรุยก็ได้ถามรายละเอียดเพิ่มเติมอีก มันทำให้เขาทราบว่าโจรพวกนี้มาจากดินแดนลาวาสีคราม เมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆแล้ว ดูเหมือนโจรพวกนี้จะถูกส่งมาจากใครบางคน พอพิจารณาจากข้อมูลที่เชียให้มา เจ้าถิ่นดินแดนลาวาสีครามก็คือเจ้าชายกริมม์ พวกเขาเป็นหนึ่งในกองกำลังที่สนับสนุนเมืองพระจันทร์ดับอย่างลับๆ เขาไม่เคยคิดเลยว่ามารที่คอยช่วยเหลือจะมีอะไรอยู่เบื้องหลังด้วย

การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้นแยกออกจากทรัพยากร การก่อสร้างและจำนวนประชากร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ดินแดนลาวาสีครามได้ให้การสนับสนุนกับเชีย แต่พวกเขากำจัดสมุนไพรและทรัพยากรจำนวนมหาศาลไปอย่างเงียบๆด้วยวิธีการแบบนี้ ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ส่ง "โจร" เพื่อปิดกั้นเส้นทางการค้าอย่างโจ๋งครึ่มและทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามจุดประสงค์ของจักวรรดิ ซิลวาน่าจะไม่ใช่คนเดียวที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายในเมืองพระจันทร์ดับ ดินแดนลาวาสีครามดูเหมือนจะได้รับประโยชน์มากมาย และเหมือนจะชั่วร้ายอย่างไร้ปราณียิ่งเสียกว่าฝ่ายจ้าววิญญาณสีชาดด้วยซ้ำ

มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลยและมันก็สำคัญเป็นอย่างมาก

หลังจากที่เฉินรุยตรวจสอบข้อมูลจำนวนมากจากซิลวา เขาก็ถามอย่างอดทนไปว่า “งั้นก็มีอีกอย่างหนึ่งที่ข้าต้องถาม มีอะไรบ้างที่เจ้ายังไม่บอกข้า?”

ซิลวาไตร่ตรองสักพัก จากนั้นมันก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ข้าแน่ใจว่าไม่มีอีกแล้ว ข้าพูดทุกสิ่งที่ข้ารู้ไปหมดสิ้น ข้าไม่กล้าซ่อนท่านแน่นอน และตัวข้าจักพยายามทำหน้าที่ของข้าให้แก๊งค์เสื้อคลุมก้าวไปอีกระดับได้ ท่านโปรดมั่นใจ!”

"ยอดเยี่ยมเหลือเกิน!" เฉินรุยพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ประโยคต่อไปทำให้ซิลวาได้แต่ยิ้มแข็งค้าง “น่าเสียดายที่ตอนนี้เจ้าไม่มีค่าแล้ว”

นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ซิลวาได้ยินในชีวิตของมัน

ถนนหมายเลข 4 ในเขตตะวันออกเฉียงใต้เป็นดินแดนของซิลวาเสมอ มันถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกองกำลังที่ใหญ่ที่สุดในเขตตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม หลังจากการเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้ผ่านไป บ้านเก่าของซิลวาได้เปลี่ยนเป็นของเจ้าขององค์กรขนาดเล็กที่มีนามว่าแก๊งค์เสื้อคลุม คนของซิลวาจำนวนหนึ่งก็กลายเป็นของแก๊งค์เสื้อคลุมด้วย

น่าแปลกที่นาจิบ หัวหน้ากฎหมายและความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก ตัวมันเองก็ให้การสนับสนุนแก๊งค์เสื้อคลุมอย่างเงียบๆ ในความเป็นจริง นาจิบต่างหากที่ได้รับผลประโยชน์มากมาย

หลังจากที่เฉินรุยได้กำจัดกาอูด้วย 'ยิงแสงสว่าง' เจสซี่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งเฉินรุยมอบเหรียญคริสตัลสีดำจำนวน 300 เหรียญให้กับเขา เจสซี่ก็ได้ถามไปว่า “เจ้านั้นต้องการหินลับคมหรือเพียงแค่สงสารข้ากันแน่?”

เฉินรุยไม่สามารถอธิบายอะไรได้มากมายและไปถามคืนไปว่า“ตอนนี้เจ้าสูญเสียความกล้าหาญที่จะเป็นหินลับคมของข้าแล้วงั้นหรือ?”

ประโยคนั้นทำให้ดาร์คเอลฟ์ลืมตาตื่นและตัดสินใจอย่างแน่วแน่“ในเวลานี้ของเดือนถัดไป ข้าจะกลับมาท้าทายเจ้า!”

"ดี! งั้นเจ้าก็ไปพักที่แก๊งค์เสื้อคลุมวะ” เฉินรุยพยักหน้า เพื่อจัดการกับคนแบบนี้ เขาคงต้องยั่วสักหน่อย แถมนอกจากนี้ยังเหมือนกับได้มือดีมาอยู่ในแก๊งค์อีก

“แต่เจ้าจงอย่านิ่งนอนใจกับเพียงแค่การกำจัดกาอูได้ บัลร็อค เรก้าถือได้ว่าเป็นราชาแห่งมารระดับกลาง ตัวตนที่อ่อนแออย่างกาอูหาเปรียบได้ การกระทำของเจ้าเมื่อครู่ทำได้เพียงให้มันขยับเล็กน้อยได้เท่านั้น การโจมตีและความสามารถในการป้องกันของเรก้าเรียกได้ว่าเข้าขั้นน่ากลัว หากเจ้าพึ่งพาความเร็วอย่างเดียว เจ้าก็มิอาจจะชนะมันได้หรอก หากเจ้าต่อสู้ซึ่งๆหน้า ตัวเจ้าก็จะตายเพียงในไม่กี่นาที”

เจ้านี้กำลังเตือนเขางั้นเหรอ? เฉินรุยมองดาร์คเอลฟ์พร้อมกับแสยะยิ้ม“บางทีเจ้าอาจจะพูดถูก แต่นั่นมันก็แค่ข้าในตอนนี้”

ดาร์คเอลฟ์ก็เพียงแค่ตอบ "ฮึ่ม" ไปอย่างเยือกเย็น

เฉินรุยไม่ได้ใช้เวลามากเกินไปกับแก๊งค์เสื้อคลุมนัก เขาพูดคุยกับเจสซี่และคนแคระเฒ่า จากนั้นก็กลับมาที่ห้องทดลองในพระราชวัง แม้ว่าแก๊งค์เสื้อคลุมจะเข้ามาแทนที่ซิลวา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถมีส่วนร่วมในการค้ามารได้ ผู้หญิงและเด็กๆที่ถูกจับมาต่างถูกส่งกลับคืนดั่งเดิม

รากฐานของซิลวานั้นหนาแน่นมาก มันมีกำลังคนและอาณาเขตมากมาย ด้วยความสามารถของเฉินรุย เขาสามารถใช้ประโยชน์จากเงื่อนไขเหล่านี้ได้อย่างดี ไม่ว่าจะใช้พัฒนาธุรกิจหรืออะไรก็ตาม ยังไงก็เถอะ นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว ตอนนี้เขาต้องเอาตัวรอดจากการทดสอบ 2 เดือนนี้ให้ได้ก่อน

การเก็บเกี่ยวของจากบ้านซิลวาก็ถือว่าดีพอสมควร อย่างน้อยอาการบาดเจ็บพอเทียบกันแล้วก็ถือว่าเล็กน้อย กองศิลาเรืองแสงนั้นให้ค่าออร่ากับเขาถึง 30,000 จุด เมื่อรวมกับวัสดุเวทมนตร์อื่นๆที่เหลืออยู่ในคลังสินค้าและออร่าเดิม 9,000 จุด ตอนนี้เขาก็มีถึง 70,000 จุด นอกจากนี้เหรียญคริสตัลดำที่เหลือเขาก็ไม่นับ แต่โยนให้คนแคระเฒ่าไปเลย

ตอนนี้เหลือน้อยกว่า 20 วันแล้ว ถ้าเฉินรุยต้องประลองตอนนี้ เขาต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน เจสซี่บอกว่าความแข็งแกร่งของเรก้า เทียบเท่ากับราชาแห่งมารระดับกลาง มันจะไม่เหมือนกับการต่อสู้ในวันนี้ที่จบลงไปง่ายดายอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น 'ยิงแสงสว่าง' สามารถใช้ได้วันละสองครั้งเท่านั้น การที่จะยิงแสงสว่างไปแต่ละครั้ง พลังดวงดาวจะหายไปครึ่งหนึ่ง พอเป็นเช่นนี้แล้ว เขาจึงต้องใช้กฏเวลาของสนามฝึกฝนอย่างเต็มที่

ในช่วงที่ว่างและพักฟื้น เฉินรุยก็จะไม่ปล่อยเวลาเสียเปล่าโดยเอาไปใช้กับ "ศูนย์แลกเปลี่ยน" ที่อยู่ในบัลลังก์ ตอนนี้เขามี 70,000 ออร่าพร้อมกับเงินประมาณมากกว่า 100,000 เหรียญคริสตัลสีดำ ซึ่งใช้ 1000 ออร่าไปกับการเปิดศูนย์แลกเปลี่ยนและดูเหมือนมันจะไม่สำคัญอะไรเลย

มันแตกต่างจากคลังสินค้าหรือสนามฝึกไปอย่างสิ้นเชิง ตัวศูนย์แลกเปลี่ยนดูลึกลับและงดงาม หลังจากเข้าสู่ศูนย์แลกเปลี่ยนแล้ว หน้าจอแสงก็จะปรากฏขึ้น: ผู้สะสมดวงดาว แลกเปลี่ยนระดับ 1 ดาว มีหลายส่วนที่ดูสำคัญ แต่หลายๆส่วนต่างเป็นสีเทา ยกเว้นหมวดหมู่ยา ดูเหมือนว่าระดับ 1 ดาวจะสามารถแลกเปลี่ยนได้เพียงแค่ยาเท่านั้น

หน้าแรกคือ ยาสติ ยารักษา ยาแก้พิษ ฝุ่นฟื้นคืนพลังกาย ฝุ่นฟื้นคืนวิญญาณและสินค้าทั่วไปอื่นๆที่สามารถปรุงได้ตามปกติ ต่อไปจากนั้นก็คือ ยาสีขาวที่สามารถปรุงได้โดยระดับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นอย่าง ยาเสริมแกร่ง ยาก้าววายุ ยากำแพงเหล็ก ยาวิญญาณและอื่นๆ แล้วก็มียาคุณภาพสูงอีกมากมาย

หลังจากที่เปิดหน้าไปเรื่อยๆ เขาก็พบเข้ากับยา 10 ขวดในหน้าสอง ทั้งหมดนี้ต่างเป็นยาสีดำ ชื่อของพวกมันก็ทำให้เฉินรุยประหลาดใจเสียจริง:

ยาเสริมแกร่ง ที่แท้จริง! ยาก้าววายุ ที่แท้จริง! ยาวิญญาณ ที่แท้จริง! ยากำแพงเหล็ก ที่แท้จริง! ยาผสานพสุธา ที่แท้จริง! ยาผสานวารี ที่แท้จริง! ยาผสานเปลวเพลิง ที่แท้จริง! ยาผสานวายุ ที่แท้จริง ยาผสานความมืด ที่แท้จริง ยาผสานแสงสว่าง ที่แท้จริง!

ถ้ายาเป็นสีขาวก็แสดงถึงระดับปรมาจารย์ แต่หากเป็นสีดำมันจะแสดงถึงช่องว่างที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ยาระดับยอดปรมาจารย์!

อาณาจักรมารไม่ได้มียอดปรมาจารย์โผล่ขึ้นมานับพันๆปีแล้ว หากยาดำ 1 ใน 10 พวกนี้หลุดออกมา ไม่เพียงแต่วงการยาเท่านั้น แต่วงการเล่นแร่แปรธาตุและอาณาจักรมารทั้งหมดจะต้องถึงกับตื่นตะลึง

เมื่อเทียบกับยาปรุงสีขาวแล้ว ยาพวกนี้ดูเหมือนจะมีคำว่า 'จริง' เสริมต่อท้าย ยาเสริมแกร่งพวกนี้ต่างก็ให้ผลเสริมแกร่งคล้ายกัน แต่ผลของมันจะแตกต่างกันพอสมควร ตัวอย่างเช่น ยาเสริมแกร่งสามารถเพิ่มความแข็งแรงได้ 30% และนาน 10 นาที หลังจากผ่านไป 10 นาที เราจะเข้าสู่ภาวะอ่อนแอ ซึ่งเป็นผลข้างเคียง หลังจากการบริโภค 1 ขวดจะต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมงก่อน เพื่อที่จะบริโภคขวดอื่น มิฉะนั้นจะไม่ได้ผล

ส่วนยาเสริมแกร่ง ที่แท้จริงจะมีประสิทธิภาพและผลยาวนานกว่า มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ 60% และมันจะคงอยู่นาน 20 นาที หลังจากหมดเวลาแล้ว มันจะไม่มีผลข้างเคียงและระยะเวลาที่ต้องรอแทบจะไม่ถึงชั่วโมง

ยา "แท้จริง" ดูเหมือนจะอยู่ในระดับปรมาจารย์จริงๆ ซึ่งนอกจากนี้ยังมี ยา 'นิรันดร์' ที่สามารถเพิ่มความสามารถได้ถาวร และยังมียาอื่นๆมากมายที่แทบจะหาไม่ได้ที่ไหนอย่าง ยายืดอายุและยาฟื้นคืนชีพ!

ยาเหล่านี้เพียงอย่างเดียวก็สามารถทำให้ตัวตนของเฉินรุยในฐานะผู้สืบทอดยอดปรมาจารย์เป็นไปได้แล้ว นอกจากนี้ มันยังเป็นของที่สามารถแลกได้ด้วยระดับเพียง 1 ดาว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด