ตอนที่แล้วบทที่ 57: ร้านค้าปลีกของเจ้าหญิงที่ดูจะมีแววรุ่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 59: จูบแรก! "เหยื่อ" ของหนังสือสุดแสนจะเลวร้าย

บทที่ 58: การโต้กลับ! การลอบโจมตีของโลลิ


บทที่ 58: การโต้กลับ! การลอบโจมตีของโลลิ

หลายวันมานี้เฉินรุยได้ขี่ไวเวิร์นที่เหมือนเฮลิคอปเตอร์มามากแล้ว พอได้มาขี่แรดสามเขาที่เหมือนรถจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัว หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง แรดสามเขาก็ได้วิ่งมาถึงปลายทาง

สถานที่แห่งนี้เป็นที่ซึ่งแก้วมังกรหยกเกิดและมันก็ไม่ไกลจากจุดที่ปากรีโลชอบอยู่มากนัก เฉินรุยกลัวว่ามังกรพิษจะมาหาหรืออลิซไปเจออะไรสักอย่าง ดังนั้นเขาจึงจงใจกล่าวเสียงดังไปว่า "เจ้าหญิงน้อย เราอยู่แค่ที่นี่เถอะ ข้าจำได้ว่าแก้วมังกรหยกน่าจะอยู่แถวๆส่วนนี้ใช่ไหม?"

"เจ้าจะเสียดังเพื่ออะไรกัน?" อลิซกระโดดข้ามแรดสามเขาด้วยความไม่พอใจ "หรือว่าเจ้าซ่อนอะไรไว้ที่นี่แล้วกลัวข้าหาเจองั้นหรือ?"

ใช่นางพูดถูกทุกอย่างเลย! เฉินรุยในตอนนี้เริ่มรู้สึกถึงเหงื่อที่ไหลออกมา: ทักษะในการใช้เหตุและผลของนางช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!

โชคดีที่อลิซไม่ได้ถามอะไรต่อ นางเลือกที่จะพูดถึงอย่างอื่นแทน "ทําไมเราไม่กินบาร์บีคิวอีกครั้งงั้นเหรอ? เหมือนครั้งก่อนที่เรามาที่ทะเลสาบสีฟ้าไง"

เฉินรุยไม่ได้มีอารมณ์มาปิกนิก ดังนั้นเขาจึงส่ายหัวของเขาและกล่าวว่า"ไว้ครั้งหน้าล่ะกัน ตอนนี้เรามาเก็บแก้วมังกรหยกกันดีกว่า"

"ข้าหมดแรงแล้วอะ ถ้าจะทำอะไรตอนนี้ข้าก็ทำได้ยากมากเลย" อลิซกล่าวพร้อมกับใบหน้าบึ้งตึง "เจ้าเกลียดการอยู่กับข้าเพียงลำพังจริงๆงั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เจ้าก็มารวบรวมสมุนไพรกับอาเธน่าตั้งสองครั้งงั้นเหรอ?"

นางพูดและก็ทำท่าทีเหมือนคิดอะไรบางอย่างพร้อมกับมองอย่างสงสัย "เจ้าและอาเธน่าซ่อนอะไรจากข้ากันแน่? ทําไมนางถึงดูแปลกไปทุกครั้งทุกทีที่พูดถึงเจ้า?"

"ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ!" เฉินรุยรู้ว่าอาเธน่ากังวลเกี่ยวกับเรื่องพิษมากที่สุด ดังนั้นโลลิตัวน้อยคงสังเกตถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ

“ไม่ มันต้องมีบางอย่างผิดปกติ!” อลิซมองที่เฉินรุยด้วยความสงสัย "ข้ารู้ว่าพวกเจ้ามีอะไรบางอย่างแปลกๆไป นางหน้าแดงมากกว่าเดิมหลายครั้ง เหมือนกับข้าไม่รู้จักนางมาก่อน เจ้าไปหลอกอาเธน่า...ใช่ไหม? "

อะไรฟร๊ะเนี่ย! มันเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของตัวเขาด้วย ดังนั้นเฉินรุยจึงส่ายหัวอย่างรวดเร็วพร้อมกับกล่าวว่า "ข้าจะไปกล้าทำอย่างนั้นได้ยังไง? เจ้าเกินไปแล้วนะ! ยังไงก็เถอะ ไม่ใช่ว่าเจ้ามี 'อ่านจิตใจ' อย่างงั้นเหรอ? ทําไมเจ้าถึงไม่ใช้มันกับข้าเล่า!"

"อ้อ 'อ่านจิตใจ' เหรอ? นั่นมันแค่เรื่องที่ข้ากุขึ้นมาเอง “โลลิน้อยยิ้มเหมือนกับจิ้งจอกตัวน้อยและพูดไปว่า”ให้ข้าเดานะ เจ้าคงไปฟังมาจากอาเธน่าสินะ?"

พอเห็นท่าทางของอลิซ เฉินรุยก็รู้สึกกังวลอย่างเห็นได้ชัด

"ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนที่ข้าพูดว่าข้าใช้ 'อ่านจิตใจ' ได้ ตัวเจ้าดูจะกังวลมากเลยนะ"อลิซคิดและก็ดูเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ "คงจะเกี่ยวกับมรดกของปรมาจารย์ใช่ไหม? หรือว่า... มีบางอย่างผิดปกติกับมรดกของปรมาจารย์? เจ้าเล่าเรื่องเก่งนี้ มันอาจจะเป็นว่า...ความป่าเถื่อนในยุคอดีตและเรื่องมรดกของปรมาจารย์เป็นเพียงเรื่องเล่าที่พี่ชายสร้างขึ้นใช่ไหม?"

เฉินรุยในตอนนี้รู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง: ตรงเกินไปแล้ว! ทำไมถึงสังเกตได้ดีมากขนาดนี้! นั่นคือความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาเชียวนะ

"เจ้าหญิงน้อย เจ้าเข้าใจผิดแล้วล่ะ! ถ้าไม่มีมรดกของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ ข้าจะทำอะไรหลายๆอย่างได้ยังไง? ทั้งความต้านทานพิษและยังทักษะฝึกสัตว์ก็ด้วย?"

"'งั้นมันก็คงเป็นความสามารถของเจ้าตั้งแต่แรกหรือความสามารถที่เจ้าได้รับหลังจากมาถึงดินแดนมาร แต่เจ้าจงใจซ่อนพวกมันไว้... ข้าคิดว่าเจ้าคงรอเปิดเผยมันออกมาหลังจากที่มีความแข็งแกร่งอย่างอาเธน่าใช่ไหม?" โลลิตัวน้อยทําให้ตาแคบลงและมองเฉินรุยราวกับเป็นเจ้าหน้าที่ของซีไอเอ

เฉินรุยกังวลโคตรๆ เหงื่อเย็นเหยียบได้ไหลไปทั่วร่างของเขา โลลิตัวน้อยเคยแอบตามเขามางั้นเหรอ? หรือว่านางจะเป็นเชอร์ล็อค โฮล์มส์กลับชาติมาเกิด?

ดูเหมือนว่าทักษะเหตุผลและการสังเกตเป็นความสามารถที่ซ่อนอยู่ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของตระกูลลูซิเฟอร์...ในแง่ของเรื่องพวกนี้ ดูเหมือนว่าโลลิตัวน้อยจะเก่งกว่าพี่สาวของนางเองที่มักจะเข้าใจผิดเสมอ

"ฉะนั้นแล้วก็สารภาพมาซะ!" พออลิซขึ้นเสียง เฉินรุยก็ตกใจอย่างมาก "เจ้าคิดอะไรไม่ดีกับข้าหรือเปล่า?"

ดูเหมือนมันจะเป็นการเดาไปในทางแย่ๆอีกแล้วซะงั้น! เxี่ยไรเนี่ย! เฉินรุยเช็ดเหงื่อตัวเองช้าๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้โลลิตัวน้อยสงสัยความลับอันแสนยิ่งใหญ่ของเขา เขาจึงต้องพูดอะไรบางอย่างออกไป "งั้นคงถึงเวลาที่ข้าต้องพูดความจริงแล้วสินะ! ข้านั้นชอบพอในบางสิ่งบางอย่าง...ต่อเจ้าหญิงน้อย ทุกครั้งที่ข้ามองเจ้า มันทําให้ข้าคิดถึงน้องสาวของข้าในโลกมนุษย์ ในขณะที่ชีวิตเล็กๆของข้าตอนนี้อยู่ในมือของเจ้าหญิงน้อย ข้าก็ไม่กล้าพูด เพราะกลัวถูกตำหนิจากเจ้า”

“มันเป็นอย่างงี้เองสินะ…” ดวงตาของอลิซเบิกกว้างและมองเฉินรุยอย่างประหลาดใจ ดวงตาสีม่วงอันแปลกประหลาดของนางสั่นไหวครู่หนึ่งและค่อยๆจางลง ในขณะที่นางก้มศีรษะลงไป

“งั้นในใจของเจ้าข้าก็เป็นเพียงน้องสาวสินะ…”

โลลิน้อยก้มศีรษะของนางและร่างกายที่สั่นเทาเล็กน้อยของนางดูราวกับจะร้องไห้ ทันใดนั้นนางก็เงยหน้าขึ้น แต่ดวงตากลับไม่ได้เต็มไปด้วยคราบน้ำตาจริงๆ นางดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “คำนั้นมัน…ทำไมข้าถึงจำไม่ได้นะ…เดี๋ยวก่อน ขอข้าหาอะไรมาอ้างอิงเสียก่อน”

หลังจากอลิซกล่าวเสร็จ นางก็ได้หยิบหนังสือสองสามเล่มออกมาจากกำไลมิติของนางพร้อมกับอ่านมันอยา่งจริงจัง เฉินรุยผู้ซึ่งงุนงงอยู่ก็ยื่นหน้าไปอ่านหน้าปกของ “ข้อมูลอ้างอิง” ที่นางยกขึ้นมานี้

“คำสารภาพของโลลิคอน”

“พี่ชายและน้องสาวที่มีความสัมพันธ์เป็นการกระทำที่ผิดประเวณี”

“พี่ชาย เราทำอย่างนี้ไม่ได้นะ”

……

เมื่ออ่านชื่อหนังสือทั้งสามเล่ม เหงื่อเย็นเหยียบของเฉินรุยก็ไหลลงมาราวกับแม่น้ำ ปรากฎว่าหนังสือแย่ๆพวกนั้นไม่ได้ถูกทำลาย แต่ถูกซ่อนไว้โดยตัวเจ้าหญิงน้อยเอง

“อลิซ!” เฉินรุยคว้าหนังสือที่อยู่ในมือนางออกมาทันที “อย่าอ่านหนังสือแบบนี้เชียวนะ! ไม่งั้นข้าจะเอามันไปให้กับเจ้าหญิงใหญ่!”

“เจ้ากล้าเหรอ!” อลิซมองค้างไปที่เขาขณะที่ถือหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า "เวทมนตร์! ใครก็ตามที่จ้องจักตั้งครรภ์” ร่างกายทั้งหมดของเฉินรุยกลายเป็นหินในทันทีและหนังสือที่เขาคว้ามาก็ได้ถูกส่งคืน

อลิซเก็บหนังสือทั้งหมดไว้ในสร้อยมิติของนางอย่างชำนาญ “ฮึ่ม! หากเจ้ากล้าที่จะพูดเรื่องของข้า ข้าก็จะบอกพี่สาวของข้าว่าเจ้าคิดอะไรที่ไม่ดีกับข้า!”

ร่างกายของเฉินรุยตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อ เพราะตอนนี้เรื่องความเข้าใจผิดของเชียยังไม่ได้รับการแก้ไขเลยด้วยซ้ำ ถ้าอลิซไปบอกล่ะก็ เรื่องราวคงจะยุ่งเหยิงโคตรๆ เขากลัวว่ามันจะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่แล้วเขาจะกลายเป็นผู้รับเคราะห์น่ะสิ

“เจ้าหญิงอลิซ เจ้าทำแบบนี้กับข้าไม่ได้นะ!” เฉินรุยได้แต่ยอมรับความพ่ายแพ้ “ข้ากลัวว่าเจ้าจะทำอย่างนั้นจริงๆนะ ได้โปรดให้สัญญากับข้าทีว่าเจ้าจะไม่บอกเรื่องนี้กับเจ้าหญิงใหญ่ งั้นเอางี้เป็นไง ข้าจะเริ่มปิคนิคเลยเอาไหม?”

“ไม่ใช่ว่าเจ้าพูดช้าเกินไปหรือไง?” โลลิตัวน้อยยิ้มหวานๆและใบหน้าที่น่ารักของนางก็ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันใด “แล้วก็อย่าเรียกข้าว่าเจ้าหญิงน้อยอีก ข้าชอบให้เจ้าเรียกชื่อข้าตรงๆมากกว่า”

ประโยคนี้มาจากหนังสือแย่ๆพวกนั้นเหรอ? เฉินรุยรู้ว่าเขาไม่สามารถต่อกรกับโลลิน้อยคนนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่พยักหน้า

เมื่อเห็นเขาตกลง อลิซก็กระโดดไปมาอย่างมีความสุข

“พี่ชาย ไปหาแก้งมังกรหยกที ข้าจะเตรียมอุปกรณ์ปิกนิกที่นี่เอง”

คำว่า "พี่ชาย" จากโลลิตัวน้อยฟังดูนุ่มนวลมาก มันดูเป็นธรรมชาติและปราศจากการเสแสร้งอย่างสิ้นเชิง ดูเหมือนว่าการแสดงของนางจะดีขึ้นและดีขึ้นพอสมควร ซึ่งเฉินรุยคงต้องยอมรับว่านางเก่งมาก

แก้วมังกรหยกเติบโตบนเนินเขาฝั่งตรงข้าม เมื่อเฉินรุยหยิบตะกร้าและเริ่มเดินไป เขาก็รู้สึกตัวว่ามีคนตามเขามาอยู่ จากการย่างก้าวคงไม่ใช่ปากรีโล เขาตั้งใจแกล้งทำเป็นกำลังเก็บบางอย่างและก็โผล่หัวขึ้นมา พอมองไปรอบๆ เขาก็เห็นร่างเล็กๆเข้าไปซ่อนหลังก้อนหินอย่างรวดเร็ว ดันเป็นอลิซซะได้!

ว่าแต่ทำไมโลลิตัวน้อยถึงต้องมาตามเขากัน? หรือว่านางพบอะไรบางอย่างกันนะ? หรือนางต้องการที่จะแกล้งเขา?

ความคิดนับไม่ถ้วนได้บินผ่านหัวของเขา แต่เขาก็ทำเป็นไม่สนใจและก้าวต่อไป เทคนิคการติดตามของอลิซดูมือสมัครเล่นมาก บางครั้งนางก็ส่งเสียงขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ กระนั้นชายหนุ่มผู้ถูกติดตามก็ทำเพียงหันกลับไปมอง เขายังคงเดินตามทางไปและทำเป็นว่าไม่พบอะไรผิดปกติ

แก้วมังกรหยกนั้นเติบโตขึ้นบนต้นไม้ คล้ายพุ่มไม้ที่มีผิวสีส้มหนาๆ เฉินรุยนั่งยองๆแล้วเริ่มหยิบแก้วมังกรหยกขึ้นมา ภายใต้ผลของ 'ดวงตาวิเคราะห์' เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าโลลิตัวน้อยซ่อนตัวอยู่ไกลๆและกำลังเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ

ไม่นานนัก อลิซก็ได้พุ่งมาอยู่ที่ต้นไม้ข้างหลังเขา เฉินรุยคิดว่าโลลิตัวน้อยต้องการจะแกล้งเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ทำเป็นรู้ว่าเขารู้ตัว จากนั้นเอง เมื่ออลิซมาถึงที่หลังของเขา เขาก็รู้สึกถึงลมกระโชกแรงกระแทกศีรษะของเขาอย่างรวดเร็ว

ประสาทการตอบสนองต่อการต่อสู้ของเฉินรุยได้ถูกกระตุ้นทันที ลอบโจมตีงั้นเหรอ?

ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขามาถึงมารระดับกลาง เขาจึงสามารถรับรู้ได้ในทันที แม้ว่าอลิซจะใช้ 'เปลวเพลิงทมิฬ' แต่นางก็สู้เขาไม่ได้แน่นอน ในขณะนั้น เฉินรุยก็คิดที่จะเลือกว่าจะหลบหรือจะไม่เคลื่อนไหวดี

“ตู๊ม!” มนุษย์ที่กำลังเก็บผลไม้อยู่ก็ได้รับแรงกระแทกจากด้านหลังและได้หมดสติลงไปกับพื้น

อลิซที่เป็นผู้กระทำผิดถึงกับผงะ นางทิ้งไม้ท่อนหนึ่งที่อยู่ในมือลงกับพื้นแล้วหันไปหาร่างของเฉินรุยอย่างกังวลใจ

“เฉินรุย!” เจ้ายังตายไม่ได้นะ! ข้าไม่ได้ตั้งใจ ... ”

ไม่ตั้งใจ แต่ยังลอบโจมตีเนี่ยนะ? เฉินรุยแสร้งทำเป็นเป็นลมและก็ได้แต่ต่อว่าในใจ ด้วยสถานะร่างกายของเขาในปัจจุบันระดับอัลไคน์พร้อมกับการป้องกันของพลังดวงดาว เขาจึงไม่ได้รับความเสียหายมากนัก ถึงแม้ว่าการจู่โจมครั้งนี้จะไม่เบาเลยก็ตามที อย่างไรก็ตาม ไม้ท่อนนี้ดูเหมือนจะมีอะไรพิเศษ มันทำให้เขารู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย

เมื่อปิดตาลง เฉินรุยก็รู้สึกได้ถึงไออุ่นจากมือเล็กๆของอลิซที่แตะที่หน้าผากและตรวจดูลมหายใจของเขา นางถึงขนาดวางหัวของตัวเองไว้ที่หน้าอกของเขาเพื่อฟังเสียงหายใจ หลังจากยืนยันว่าเฉินรุยไม่ตาย นางก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“ไม้มึนงงยังคงมีประโยชน์มากเลย ช่างน่าเสียดายที่ใช้ได้ไม่กี่ครั้งเท่านั้น ครั้งหน้าข้าจะให้เฒ่าเกาสน์ทำให้ข้าอีกชิ้นล่ะกัน” โลลิน้อยพูดกับตัวเอง นางหมอบลงพร้อมกับหันไปรอบๆและเริ่มสำรวจร่างกายของเขา

นางกำลังค้นหาอะไรบางอย่างอยู่งั้นเหรอ? เฉินรุยเริ่มรู้สึกผิดปกติ เขาไม่มีสมบัติอยู่ในตัวเขาเลยนะ แม้ว่าเขาจะมี เขาก็ต้องซ่อนไว้ในช่องเก็บของอยู่แล้ว ในขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่ ทันใดนั้นท้องของเขาก็ได้จมลง อลิซตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนตัวเขา

แม้จะไม่ลืมตา แต่เฉินรุยก็รู้สึกได้เลยว่านางกำลังกางขาอยู่... ดูเหมือนว่าท่าของนางมันจะดู...แปลกๆไปหน่อย

ต่อจากนั้น อลิซก็ได้ค่อยๆเอนกายลงและร่างกายของนางก็เริ่มเข้ามาชิดใกล้ ลมหายใจอันแสนอบอุ่นของนางกำลังเข้ามาใกล้ใบหน้าของเขา นางดูเหมือนจะประหม่าเล็กน้อยเหมือนกัน เฉินรุยรับรู้ได้ถึงกลิ่นหอมจางๆจากร่างกายและอุณหภูมิที่อบอุ่นของนาง ซึ่งมันทำให้หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง

โลลิตัวน้อยกำลังพยายามทำอะไรเนี่ย?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด