บทที่ 57: ร้านค้าปลีกของเจ้าหญิงที่ดูจะมีแววรุ่ง
บทที่ 57: ร้านค้าปลีกของเจ้าหญิงที่ดูจะมีแววรุ่ง
ผลของป้ายโฆษณานั้นไม่เลว เฉินรุยเองก็แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้มากอยู่ เมื่อเขาเข้าใกล้ เขาก็เห็นว่าจำนวนลูกค้าที่เข้าและออกจากร้านเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเดินเข้าไปในร้านค้าปลีกของเจ้าหญิง การจัดเรียงสินค้าที่ยุ่งเหยิงก่อนหน้านี้ได้รับการปรับปรุงให้ดูมีระเบียบมากขึ้น คากูลีซึ่งครั้งหนึ่งเคยถือเคียวเพื่อขู่คนในตอนนี้ได้อยู่ใน "ห้องรักษาความปลอดภัย" ที่ด้านหลังและบริกรแผนกต้อนรับได้ถูกแทนที่ด้วยอิมป์กับซัคคิวบัส ด้วยความมีคารมคมคายของอิมป์และเสน่ห์ของซัคคิวบัส พวกเขาจึงสามารถดึงดูดลูกค้าได้อย่างธรรมชาติ ดูเหมือนว่าโลลิตัวน้อยจะฟังความคิดเห็นของเฉินรุยทุกอย่าง
พอเฉินรุยเข้ามา คากูลีก็เห็นเขา นางภักดีต่อเชียเหมือนพี่ชายของนาง คากูรอน เมื่อนางเห็นเลขานุการที่เจ้าหญิงทรงไว้วางใจ ตัวนางตอนนี้ก็หาได้มองเขาเป็นศัตรูเหมือนตอนที่พบกันครั้งแรกอีกแล้ว นางเพียงพยักหน้าเล็กน้อย เฉินรุยยิ้มให้คากูลีและก็ได้ขึ้นไปที่ชั้นสอง
แต่เพื่อที่จะให้ร้านบ่งบอกถึงตัวตนของอลิซ เฉินรุยจึงปล่อยให้ร้านค้าปลีกของเจ้าหญิงเน้นไปที่สินค้าที่มีคุณภาพสูงเป็นหลัก ผลิตภัณฑ์ของชั้นแรกนั้นมีไว้สำหรับผู้บริโภคระดับล่าง ในขณะที่ชั้นสองเป็นสินค้าหรูหราหรือเรียกได้ว่าโซน VIP ไม่เพียงแต่ผลิตภัณฑ์จะมีราคาแพงเท่านั้น แต่ยังมีเวทมนต์ป้องกันหลายชั้นที่เฒ่าเกาส์เป็นคนนำเสนอ ซึ่งมันช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงผู้คนที่มีเจตนาชั่วร้าย ดังนั้นมันจึงยิ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ดูลึกลับยิ่งขึ้นไปอีก
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในร้านค้าปลีกของเจ้าหญิงคือหมากรุกสองประเภท หนึ่งคือหมากรุกเจ้าหญิง ตามความต้องการของลูกค้า มันจึงถูกแบ่งออกเป็นรุ่นวิปลาสและรุ่นทั่วไป สิ่งที่ทำให้เฉินรุยรู้สึกละอายใจคือ ลูกค้านั้นดูท่าจะชื้อรุ่นวิปลาสมากกว่ารุ่นทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด อันที่สองไม่ใช่หมากข้ามเสียบ (เปลี่ยนชื่อจากหมุด) แต่มันคือ "ผลงานระดับปรมาจารย์" ที่สร้างโดยเฉินรุย ซึ่งมันก็คือหมากรุกผจญมาร จริงๆแล้วหมากรุกผจญมารมันก็คือหมากรุกต่อสู้สัตว์ แต่สัตว์พวกนั้นได้ถูกเปลี่ยนเป็นมารเท่านั้นเอง แล้วมันก็มีมารทั้งหมดแปดตัว ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือกษัตริย์ มารที่อยู่ตรงกลางนั้นค่อนข้างอ่อนแอ และมารที่อ่อนแอที่สุดคือซัคคิวบัส แต่ซัคคิวบัสสามารถยั่วยวนกษัตริย์ได้ กฎและชื่อบางส่วนก็ได้ถูกแก้ไขด้วยเช่นกัน เนื่องจากหมากรุกผจญมารเข้าใจง่ายและสามารถเล่นได้ระหว่างผู้เล่น 2 คน ความนิยมของมันจึงสูงกว่าหมากรุกเจ้าหญิงมาก จนมันกลายเป็นผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ของร้านค้าปลีกเจ้าหญิงเลยทีเดียวเชียว
แต่ขนาดก่อนหน้านี้เจ้าหญิงยังลอกความคิดของเฉินรุยไปแปรเปลี่ยนเป็นหลายอย่าง ในอนาคตคงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นที่คนอื่นๆจะมาก็อปไป ดังนั้นเฉินรุยจึงเสนอแนะนำแนวคิดของการสร้างแบรนด์ สินค้าทั้งหมดในร้านค้าปลีกเจ้าหญิงมีโลโก้เวทย์มนตร์พิเศษ ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้า
เจ้าหญิงหมากรุกและหมากรุกผจญมารถูกแบ่งออกเป็นเวอร์ชั่นปกติและหรูหราตามคุณภาพของช่างฝีมือที่สร้างพวกมันข้น รุ่นปกติมีราคาไม่แพงและมีเครื่องหมายการค้าเวทมนตร์ของร้านค้าปลีกเจ้าหญิงที่ด้านหลัง รุ่นหรูหราไม่เพียงแต่เหนือกว่าในด้านคุณภาพ แต่ยังมีงานฝีมือที่ดีอีกด้วย แต่นอกเหนือจากเครื่องหมายการค้าแล้ว มันยังมีลายเซ็นเวทมนตร์ส่วนตัวของอลิซอีก ซึ่งมันถูกมองว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด ราคาจึงสูงขึ้นไปพอสมควร
นอกเหนือจากหมากรุกสองประเภทแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆอยู่บนชั้นสอง สําหรับหนังสือที่ดูทำให้เสียสุขภาพจิตต่อหญิงสาว พวกมันทั้งหมดได้ถูกลบออกและถูกทําลายอย่างไม่ลังเลโดยฝีมือของอลิช
ผลิตภัณฑ์ที่แพงที่สุดคือคอลเลกชันของพระราชวงศ์ "รุ่นลิมิเต็ด" ซึ่งเป็นเพียงตุ๊กตา กิ๊บและของเล่นหรือชิ้นอื่นๆที่มีราคาสูงโคตร อย่างไรก็ตาม พวกมันเองก็ได้ถูกออกแบบอย่างประณีต มันไม่ได้มาพร้อมกับบรรจุภัณฑ์ที่สวย แต่ "ประวัติ" ของสินค้าเหล่านี้ยังได้ถูกกล่าวถึงขึ้นมาโดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น ตุ๊กตาที่ได้รับมาโดยเจ้าชายกริมม์ โดยพระเจ้าแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ให้เป็นการส่วนตัวและต่อมา อลิซก็ได้มันมาจากเจ้าชาย...
ซึ่งพอคิดดีๆ มันก็เหมือนกับอลิซเบื่อตุ๊กตานี้เลยเอามาวางขายอย่างไงอย่างงั้นเลย แล้วดันไม่มีใครมาสงสัยอะไรเรื่องพวกนี้ด้วยนะ
ปริศนาแท่งไม้เองก็มีขายนะ แต่ทางด้านรปแบบของมันได้มีการเปลี่ยนแปลงและกลายเป็นคอลเลกชันสุดแสนน่าอัศจรรย์โดยบ่งบอกว่าเป็นของที่ให้กับตระกูลลูซิเฟอร์ โดยนักเล่นแร่แปรธาตุระดับปรมาจารย์ในตำนาน มีเพียงสองชิ้นเท่านั้นในร้านและมันถูกติดแท็กด้วยราคาที่สูงมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพียงการโฆษณา แน่นอนว่าพอตัวราคาสินค้าแพงมากขึ้น จึงต้องมีเวทมนตร์ป้องกันที่แข็งแกร่งด้วย
แต่เดิมเมืองพระจันทร์ดับนั้นเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงและคึกคักเป็นพิเศษ ที่แห่งนี้จึงไม่ขาดเรื่องการค้าขายไปเลย อย่างไรก็ตาม พอเมืองแห่งนี้เริ่มค่อยๆตกต่ำในหลายปีที่ผ่านมา จึงทําให้หลายตระกูลได้หันไปซบดินแดนอื่นๆ แต่ความรุ่งเรืองในอดีตมิเคยขาดหายไป กุญแจสำคัญในตอนนี้มีเพียงการขาดสถานที่ขายและผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคเท่านั้น
ทั้งอลิซและเคียอยู่ที่ชั้นสองพร้อมกับผู้ช่วยขายของอย่างมารสาว 3 ตน อลิซนั่นนั่งอยู่ที่นั่นด้วยท่าที่หยิ่งยโสราวกับเจ้าของร้านสุดแสนจะเลิศเลอ ด้วยความที่นี้เป็นตัวตนของนางเอง นางจึงไม่จำเป็นต้องพูดอะไร นางเพียงแค่พูดอะไรบางอย่างกับลูกค้าและมันก็จะส่งผลดีเสมอ
เคียที่อยู่ตรงบันไดหน้าสุดก็ได้เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นเฉินรุย ตาของนางเปล่งประกายไปด้วยอารมณ์แปลกๆและมันก็ดูเหมือนจะไม่เป็นมิตรเล็กน้อย แม้ว่ามันจะเป็นการจ้องมองที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก แต่เฉินรุยก็ยังเห็น เขารู้สึกแปลกๆในหัวใจของเขา: มันคงไม่ใช่เวทมนตร์ของซัคคิวบัสใช่ไหม?
ตาของเคียจู่ๆก็ได้เปลี่ยนกลับไปพราวเสน่ห์ดั่งเดิม นางเข้ามาใกล้ๆและกระซิบว่า "ท่านเลขา ในที่สุดท่านก็มาเสียที"
เสียงอันลื่นหูดังขึ้นและกลิ่นหอมแปลกๆได้เข้าไปในจมูกของเขา มันเริ่มจะเร่งการหลั่งของฮอร์โมนเพศชายออกมา ความต้องการของเขาเพิ่มขึ้น เขารู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นที่สาธารณะนะเห้ย
พอคิดว่ามันเป็นความสามารถเสน่ห์ของซัคคิวบัสเหมือนกับที่สนามประลอง ตัวเขาก็เข้าใจว่าเคียจงใจที่จะใช้เสน่ห์ใส่เขาอย่างเจตนา อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนผลของมันจะมีประสิทธิภาพมากกว่าซัคคิวบัสที่สนามประลองเสียอีก ด้วยกําลังในปัจจุบันของเขา เขาจึงสามารถต่อต้านความรู้สึกนี้ได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่คิด ก่อนที่เขาจะได้พูอะไร เขาก็ได้ยินเสียงสุดประหลาดใจของโลลิตัวน้อย "เฉินรุย!"
"เจ้าทำงานของเจ้าเสร็จแล้วงั้นหรือ?" อลิซกระโดดเด้งขึ้นมาพร้อมกับกล่าวอีกว่า "วันนี้เจ้าจะอยู่ที่นี่เพื่อช่วยร้านของข้าใช่ไหม?"
แค่พบหน้ากัน โลลิตัวน้อยนี้ก็ต้องการจะจับตัวจับกังให้มาทำงานเสียแล้ว เฉินรุยก็ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ "ยังไม่เสร็จหรอก เมื่อไม่กี่วันก่อนข้ายุ่งมากๆ วันนี้ข้าเองก็เพิ่งจะพักผ่อนเสร็จ แต่ช่วงกลางคืนข้าคงยุ่งอีก แล้วข้าก็จะไม่ว่างแบบนี้อย่างน้อยก็เดือนครึ่ง"
"อย่างนี้มัน..." โลลิตัวน้อยรู้สึกผิดหวังมาก ดูเหมือนนางมีเรื่องอยากจะพูดอีกมากมายเลย นางมองลูกค้าที่อยู่ด้านข้างจากนั้นก็กวาดตามองมาที่เขาแล้วก็พูดไปว่า "แก้วมังกรหยกในร้านขายออกจะหมดแล้ว ข้าขอสั่งให้เจ้าไปกับข้าที่ทะเลสาบสีฟ้าเพื่อไปหาผลไม้ตอนนี้เลย!"
เฉินรุยคิดว่าการที่อยู่ที่นี่กับซัคคิวบัสสาวต่อก็อาจมีอันตรายทุกเมื่อ ดังนั้นเขาจึงตอบรับคำไป อลิซเองก็พูดอย่างมีความสุข“ไปกันเถอะ!”
"แค่เราสองคนเนี่ยนะ?" เฉินรุยตกใจ
"ใช่แล้ว อาเธน่ากําลังฝึกไฟมารอยู่ และร้านก็ต้องมีเคียคอยคุม" อลิซยิ้มแปลกๆ "หรือว่าเจ้า...กลัวข้าจะกินเจ้าทั้งเป็นเหรอ?"
"งั้นก็ไปตอนนี้เลย!" เฉินรุยกลัวว่าโลลิตัวน้อยจะพูดอะไรแปลกๆต่อหน้าลูกค้า ดังนั้นเขาจึงรีบออกมาอย่างรวดเร็ว
ทั้งสองคนได้อยู่บนแรดสามเขาและก็ได้มุ่งหน้าออกจากประตูเมืองไป อลิซไม่สามารถรั้งความอัดอั้นในใจของนางได้อีกต่อไป คําพูดของนางพ่นออกมาดั่งเช่นข้าวโพดคั่ว
ดูเหมือนว่า หลังจากที่เชียมาร่วมพิธีตัดริบบิ้นของร้านค้าปลีกเจ้าหญิง ธุรกิจก็กลับกลายเป็นดีขึ้นในทันที ตอนแรก ดูเหมือนจะมีเพียงขุนนางเท่านั้นที่มาคอยเยี่ยมชม แต่หลังๆก็มีคนหลากหลายประเภทมา คงเพราะแรงดึงดูดของหมากรุก โดยเฉพาะหมากรุกผจญมาร ลูกค้าค่อยๆเพิ่มขึ้นและเหล่ามารทั่วไปก็เริ่มที่จะเข้ามาตาม แบรนด์ของร้านค้าค้าปลีกเจ้าหญิงประสบความสําเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะรุ่นลิมิเต็ดของหมากรุกทั้งสองแบบ พอมองไปที่เหรียญคริสตัลเวทมนตร์ที่ได้ในแต่ละวัน โลลิน้อยก็ยิ้มกว้างถึงใบหูเลยทีเดียว
"ข้ามีข่าวดีด้วยนะ! 1 ของ 2 ปริศนาแท่งไม้ได้ถูกขายให้กับตระกู,เมลลอนไปแล้ว!"
เฉินรุยผงะในทันที ปริศนาแท่งไม้ที่ตั้งราคาสูงเสียดฟ้า กลับถูกขายไปแล้ว 1 ชิ้น อีกอย่าง ดันเป็นตระกูลเมลลอนด้วย! ว่าแต่ตระกูลเมลลอนไม่ใช่ว่าสนับสนุนโจเซฟงั้นเหรอ? ทําไมพวกเขาถึงสนับสนุนเรามากขนาดนี้กัน?
เฉินรุยทื่ฟังจากอลิซเรื่อยๆก็รู้ว่าตระกูลเมลลอนเป็นตระกูลช่าง แม้แต่ผู้เฒ่าผู้แก่ในตระกูลเองยังเป็นช่าง แต่สมาชิกหลายคนของตระกูลก็เริ่มที่จะขยายธุรกิจออกไปนอกเขตแดนพระจันทร์ดับ มารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในตระกูลคงเป็น คาร์ล เมลลอน ผู้ได้รับขนานนามว่าปรมาจารย์ช่าง เขาในตอนนี้กําลังทํางานให้จ้าววิญญาณสีชาด จอร์จ อัลวิน ตระกูลเมลลอนทุกฝ่ายต่างก็เอียงไปหาโจเซฟแทบทั้งสิ้น
"ปริศนาแท่งไม้ได้ถูกขายไปที่ 50,000 เหรียญคริสตัลสีดําเลยนะ!" เมื่อพูดถึงตอนนี้ ดวงตาของโลลิตัวน้อยก็เปล่งประกายและดูเหมือนจะมีรูปเงินบนดวงตาเฉยเลย "เจ้าสร้างหมากรุ่นรุ่นลิมิเต็ดอีกเถอะ ข้าว่าของพวกนี้จะต้องขายได้จำนวนมากแน่นอน"
"ไม่ได้" คําพูดของเฉินรุยความคิดอันไร้สาระของโลลิตัว้นอยไปในทันที "รู้ไหมทำไมปริศนาแท่งไม้ถึงได้ขายในราคาสูงเช่นนี้? ทําไมหมากรุกรุ่นลิมิเต็ดถึงต้องมีจำนวนที่น้อย? เพราะมันจะกลายเป็นราคาของความหายากไงล่ะ ลองเปรียบเทียบคนที่มีปริศนาแท่งไม้ที่เป็นรุ่นหรูหราและปกติดูสิ แค่ความแตกต่างด้านวัสดุ ลายเซ็นและงานฝีมือ ราคาก็แตกต่างกันไม่รู้กี่เท่าแล้ว ซึ่งหากดูเพียงราคา คงจะดูความแตกต่างได้ไม่มากเท่าไหร่ เมื่อปริมาณเพิ่มขึ้นมากเกินไป ความหายากก็จะลดลงและราคาก็จะตกลง เจ้าเข้าใจไหม?"
อลิซฉลาดและเข้าใจได้ทันที นางดูเหมือนจะรู้และดวงตาของนางตอนนี้ก็เต็มไปด้วยความชื่นชมเฉินรุย "โอ้ เช่นนี้เอง พี่ชายมนุษย์นี้น่ารังเกียจเสมอเลยนะ งั้นข้าเองก็จะ... เชื่อฟังเจ้าทุกอย่าง"
"แล้วเมื่อไหร่เจ้าจะให้ส่วนแบ่งรายได้กับข้า?" ดูเหมือนเฉินรุยเริ่มมีภูมิคุ้มกันกับโลลิตัวน้อยแล้ว เขานั้นแทบไม่สนใจคำร้ายแรงอย่างคำว่า "พี่ชาย" เลย
"การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเงินมันทำให้รู้สึกเจ็บปวดนะ " ดวงตาโตๆของโลลิตัวน้อยยังคงดูเปล่งประกายอีกเหมือนเดิม "พี่ชายในหัวใจของข้าไม่ใช่คนแบบนี้"
ปัญหาก็คือมันเป็นเรื่องเงินในกระเป๋าของเขาเฟ้ย....เฉินรุยไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงดีเลยในตอนนี้ โลลิตัวน้อยเองก็เลิกที่จะต่อล้อเขาแล้วพร้อมกับเปลี่ยนเรื่องคุย "เงินทั้งหมดได้ถูกนำไปโดยพี่สาวของข้าหมดแล้ว หากเจ้าต้องการ ก็ไปเอากับพี่สาวของข้าสิ นอกจากนี้...พี่สาวยังบอกว่า นางจะมองเคียให้เจ้าอีกสองเดือนหน้า"
ดูเหมือนว่าสัญญาของเชียจะเป็นความจริง แถมยังเอามาบอกอลิซด้วยเนี่ยนะ!
"ข้าได้บอกเคียแล้ว แต่ดูเหมือนนางจะไม่เต็มใจเลย"
เฉินรุยรับรู้ได้ทันทีว่าสายตาอันไม่เป็นมิตรของเคียและเจตนาที่ใช้เสน่หยั่วยวนเขาเมื่อตอนพบกันมันเพราะอะไร
“เคียนี้โง่จริงๆเลย การเป็นสาวใช้ของเจ้ามันแย่ตรงไหน?” โลลิตัวน้อยดูจะผิดหวังมาก นางชูนิ้วขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า "นางน่ะสามารถกินอาหารที่เจ้าทำได้ทุกวัน เมื่อนางเบื่อก็สามารถฟังเรื่องราวแสนสนุกจากเจ้าได้อีก พอไม่มีเงิน เจ้าก็จะจ่ายให้... "
เฉินรุยในตอนนี้หมดคำจะพูด นั่นเรียกว่าเป็นสาวใช้ได้ยังไง? ดูยังไงมันก็เป็นเจ้านายมากกว่าไม่ใช่เหรอไง!
ขณะที่โลลิตัวน้อยพูดเช่นนั้น นางก็ได้ทำตัวน่ารักอีก "พี่ชาย ทำไมไม่ให้ข้าเป็นสาวใช้ของท่านล่ะ?"
"เจ้าหญิงน้อย หยุดล้อเล่นได้แล้ว ข้าเริ่มกลัวท่านจริงๆแล้วนะ พอเถอะนะได้ไหม? ตอนนี้ก็รีบๆไปที่นั่นกันก่อนเถอะ" เฉินรุยรู้สึกตกใจไม่หายและกระตุกเชือกให้แรดสามเขาวิ่งไปไวขึ้น ดูเหมือนโลลิตัวน้อยก็คิดได้และตามเขาไปติดๆ
(หมากรุกต่อสู้สัตว์คือ Jungle เป็นบอร์ดเกมชนิดหนึ่ง)