บทที่ 55: หินลับคม
บทที่ 55: หินลับคม
แม้ว่าเฉินรุยจะยังคงไม่ได้ลำบากอะไร แต่เขาก็รู้ดีว่าเจสซี่คงไม่สามารถทำแบบนี้ได้เรื่อยๆแน่นอน และสุดท้ายมันก็คงจะต้องใช้ไพ่ลับออกมา ต้องขอบคุณการฝึกฝนที่แสนโกงของปากรีโล ที่ต่อให้ความเร็วของเจสซี่แม้จะเร็วกว่าเขามาก แต่การฝึกของมังกรพิษก็เลยไม่ทำให้เขากดดันต่อความเร็วระดับนี้เลย ดังนั้นแล้ว แม้ว่าเฉินรุยจะดูทุลักทุเล แต่เขาก็ยังสามารถหลบหลีกการโจมตีของดาร์คเอลฟ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แน่นอนว่าหลังจากเจสซี่ได้ใช้ไพ่ตายแล้ว ตัวเขาก็จะอ่อนแอลงดั่งเช่นแลนซ์ที่ใช้ความสามารถ 'บ้าคลั่ง' ซึ่งเฉินรุยก็รอเวลานี้มาตลอด ในขณะที่เขากำลังจะโจมตีใส่ เจสซี่ก็ได้ตะโกนพร้อมกับกระโดดและพุ่งลงมาแทงด้วยกริชคู่ แม้ว่าการโจมตีทางอากาศแบบนี้จะดูรุนแรง แต่มันก็ง่ายมากที่จะสวนกลับไป เพราะมันไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางได้ในทันที และแน่นอนว่ามันเป็นการโจมตีที่แสนจะไม่ชาญฉลาดเลยสำหรับสายความเร็วอย่างเจสซี่
อย่างไรก็ตาม เจสซี่ที่อยู่กลางอากาศจู่ๆก็ได้กลายเป็นภาพเบลอและกลายเป็นเจสซี่ห้าคน พร้อมกับพุ่งเข้าหาเฉินรุยพร้อมกัน เฉินรุยผงะในทันที เขารู้ว่า 4 ใน 5 จะต้องเกิดจาก 'ภาพติดตา' อย่างไรก็ตาม ในขณะที่แต่ละร่างมี "กายาไฟฟ้า" ตัวเฉินรุยก็ไม่สามารถแยกออกได้เลย ดังนั้นเฉินรุยจึงได้แต่ต้องรีบหลบ ความเร็วของเจสซี่ 5 คนนั้นสูงอย่างมากและล้อมรอบเฉินรุยไว้ตรงกลาง ไม่มีทางเลยที่เฉินรุยจะสามารถหลบหนีจากกริชนับ 10 ได้
นี้แหละคือการโจมตีครั้งสุดท้ายของเขา มันจะตัดสินได้เลยว่าเขาจะได้รับชัยชนะหรือพ่ายแพ้ไป
ผู้ชมทุกคนต่างก็มองเห็นร่างทั้ง 5 พุ่งเข้าใส่หมายเลข 64 ที่อยู่ตรงกลาง หลังจากนั้นก็ได้มีร่างหนึ่งบินไปทางด้านหลังและตกลงสู่พื้น
ร่างนั้นคือ 'หมาป่าปราดเปรียว' เจสซี่ผู้เพิ่งจะแยกร่างเป็นห้าคน และในตอนนี้ดาร์คเอลฟ์ผู้นี้ก็ไม่มีกริชบนมืออีกแล้ว มันได้แต่กุมบาดแผลที่อยู่บนร่างกายของมัน ดูเหมือนมันจะได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก
ร่างสายฟ้าทั้งห้าของมันกลับถูกจัดการลงด้วยศัตรูของมัน! ดวงตาของเจสซี่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อ
ไม่เพียงเท่านั้น หน้าอกของเขามีรอยกดของหมัด 5 จุดในที่เดียวกัน การโจมตีที่น่ากลัวของเฉินรุยได้ทำลายการโจมตีของดาร์คเอลฟ์ไปอย่างสิ้นเชิง
ในระหว่างการต่อสู้ เจสซี่ได้เค้นโจมตีใส่ศัตรูไปและหมายเลข 64 ก็ไม่สามารถสวนกลับได้ อย่างไรก็ตาม ในนาทีสุดท้าย เจสซี่กลับพ่ายแพ้ด้วยการโจมตีอย่างรุนแรงเพียงครั้งเดียว เมื่อเขาเคลื่อนไหว เขากลับสามารถหยุดการโจมตีของ “หมาป่าปราดเปรียว” ด้วยการใช้ความรวดเร็ว!
หน้ากากหมายเลข 64 ดูไร้ความรู้สึกมาก เขาเอากริชออกจากไหล่และเอากริชบนตัวออกไป เขาไม่แม้แต่จะห้ามเลือดและก็เดินไปหาเจสซี่อย่างช้าๆ
เจสซี่มองไปที่ชายที่สวมหน้ากากกำลังเดินเข้ามาใกล้และดวงตาของเขาก็เริ่มที่จะมืดลงเรื่อยๆ เขาไม่ได้ร้องขอความเมตตาดั่งเช่นแลนซ์เลย ตัวเขาเองได้แต่ถามไปว่า “เจ้าสามารถตอบโต้ 'ภาพติดตา' ของข้าได้ยังไง?”
หมายเลข 64 ไม่ได้ตอบอะไร เจสซี่เข้าใจว่าคู่ต่อสู้ของเขาไม่ต้องการพูด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอีก เพียงรอคอยให้ตัวเองถูกฆ่าอย่างเงียบๆ นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาก้าวเท้าเข้ามาในสนามรบเพื่อต่อสู้ ดาร์คเอลฟ์ผู้นี้ก็ละทิ้งชีวิตและความตายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หมายเลข 64 สามารถมองเห็นข้อบกพร่องของการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของมันได้และก็ได้โต้กลับจังหวะนั้น ซึ่งนั้นสามารถแสดงให้เห็นถึงความรวดเร็วและแข็งแกร่งของหมายเลข 64 ได้อย่างแน่ชัด
แม้ว่าจะมีบางอย่างในใจของมันและมันก็ไม่อยากตายเช่นนี้ เพียงแต่ว่าตัวมันไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว
ผู้ชมต่างตกใจและตะโกนให้หมายเลข 64 ฆ่าดาร์คเอลฟ์ ไม่ว่าจะคนที่ลงข้างดาร์คเอลฟ์หรือไม่ลงข้างต่างก็ส่งเสียงเชียร์ไปในทางเดียวกัน เพราะพวกเขาเห็นแต่เพียงผู้ได้รับชัยชนะเท่านั้นที่จะเหนือกว่า ผู้ชนะคือราชา นี่คือเวทีและนี่คืออาณาจักรมาร
“การโจมตีของเจ้าควรที่จะรุนแรงกว่านี้สิ” เสียงแหบแห่งของหมายเลข 64 ดังขึ้น ผู้ชมที่ได้ยินหมายเลข 64 พูดก็เริ่มเลิกตะโกนและรอเขามอบความปราชัยให้แก่ศัตรู
เจสซี่พูดอย่างภูมิใจไปว่า“ตอนนี้มันเพียงอยู่ในระดับสุดยอด ตัวข้ายังไม่สามารถไปถึงระดับปรมาจารย์ได้ หากการโจมตีนี้สมบูรณ์ คนที่ตายจะต้องเป็นเจ้าแน่นอน”
หมายเลข 64 เงียบอีกครั้ง จากนั้นเขาพูดเบาๆไปว่า “งั้นข้าก็จะรอให้มันสมบูรณ์”
มารหลายตนที่เฝ้าดูการต่อสู้ที่สนามประลองก็เห็นว่าหมายเลข 64 ได้ปล่อยเจสซี่ไป พวกเขาจึงรีบตะโกนอย่างอารมณ์เสียออกมา
เจสซี่ที่เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ฆ่าเขาก็ถึงกับงุนงง เขาโพล่งออกมาทันทีว่า “ทำไมกัน?”
“ข้าไม่ได้เห็นอกเห็นใจศัตรูของข้า” คำตอบของหมายเลข 64 เหมือนกับวาจาของมารเป็นอย่างมาก “ที่ข้าทำอย่างนี้ก็เพียงเพื่อรอเก็บเกี่ยวหินลับคมเท่านั้น”
อรัคเองก็ได้ยินบทสนทนาของเฉินรุยและดาร์คเอลฟ์ดี เมื่อเขาได้ยินคำว่า 'หินลับคม' ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายไปด้วยแสงและรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็แสดงออกมาอย่างชัดเจน
"หินลับคม?" เจสซี่ปิดบาดแผลของมันพร้อมกับลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ จากนั้นมันก็พูดอย่างเยือกเย็นพร้อมกับหันหลังกับไป "แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ!"
หมายเลข 64 ไม่ได้มองกลับไปที่เจสซี่และเขาก็ไม่ได้สนใจเสียงก่นด่าของเหล่าผู้ชมด้วย เขาเพียงมองไปทางที่นั่ง VIP และสบตาเข้ากับอรัค
เมื่อรู้สึกถึงความเชื่อมั่นอันแรงกล้าที่อยู่ในดวงตาของอีกฝ่าย มารผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้แต่ยิ้มเยาะในใจ ทันใดนั้น ตัวมันก็ได้ลุกขึ้นยืนและส่งเสียงไปทั่วเวที “การต่อสู้ครั้งนี้ หมายเลข 64 ได้รับชัยชนะ! อีก 20 วันหลังจากนี้ หมายเลข 64 จะท้าทายผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดามารระดับกลาง 'บัลร็อก' เรก้า!”
หินลับคมเหรอ? หากเจ้าต้องการ ข้าก็จะจัดให้! จากนั้นเจ้าก็จะได้แข็งแกร่งสมใจอยาก!
ผู้ชมทุกคนตื่นเต้นแทบทุกคน มันโคตรจะตื่นเต้นเลย!
ถึงแม้ในวันนี้หมายเลข 64 จะสามารถเอาชนะเจสซี่ไปได้ แต่เรก้าล่ะเป็นยังไง? ราชาในหมู่มารระดับกลางแห่งสนามประลองแห่งนี้! มารระดับกลางที่แข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ไม่ไกลจากการเป็นมารระดับสูง!
เป็นเวลานานแล้วที่ไม่มีใครกล้าท้าทายมารระดับกลางเรก้าผู้นี้ แต่ก็คงไม่มีอะไรเทียบได้กับการท้าทายอรัคอยู่ดี ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าฝ่ายตรงข้ามคนต่อไปของหมายเลข 64 จะเป็นราชาแห่งมารระดับกลาง!
นั่นจะต้องเป็นการประลองที่ดุเดือดเป็นแน่แท้!
เจสซี่ตกใจมากและเขาก็เริ่มที่จะเดินต่อไป เขาหันกลับมามองหมายเลข 64 ด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
หมายเลข 64 ที่ได้ยินคำประกาศของอรัคก็เพียงแต่ยืนนิ่งๆ บางทีหน้ากากนั้นอาจสามารถปกปิดอารมณ์ได้ แต่เจสซี่สามารถรู้สึกได้เลย: ชายสวมหน้ากากผู้นี้ไร้ซึ่งความกลัว
จากนั้นหมายเลข 64 ก็ได้พูดอะไรบางอย่างออกมา มันไม่ได้เป็นการปฏิเสธหรือโมโหต่อการจัดแข่งอัน“ไร้เหตุผล” ของอรัค เสียงแหบห้าวของเขาดูเหมือนจะสงบเป็นพิเศษ “ข้าคิดว่าข้าควรจะได้รับเงินของข้าคืนแล้วนะ”
ซัคคิวบัสขยิบตาและเดินไปอย่างเย้ายวนใจ "นี่คือเงินรางวัลและเงินเดิมพันที่ท่านชนะในวันนี้ค่ะ ข้าน่ะชอบคนที่แข็งแกร่งมากเลยนะคะ ท่านสนใจที่จะเล่นเกมที่มีชื่อว่า 'ผู้พิชิต' บนเตียงกับข้าไหมคะ? ไม่ต้องจ่ายอะไรเลยนะ"
เฉินรุยรับกระเป๋าเงินจำนวนมากมาและมองดูซัคคิวบัสที่เย้ายวนด้วยวิธีที่แปลกๆ ผู้พิชิตเหรอ? ทำไมฟังดูคุ้นๆจังนะ? ถึงกระนั้น เขาก็ไม่สามารถที่จะเล่นเกม "ฟรี" นี้ได้ แม้เขาจะอยากก็เถอะ
ชัยชนะในวันนี้ได้ทำให้เฉินรุยมั่นใจมากยิ่งขึ้น แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่กังวลเลย จากนั้นเขาก็ได้หยอกซัคคิวบัสสาวไปว่า “บางทีครั้งหน้าเจ้าควรแต่งตัวให้มิดชิดกว่านี้นะ หากเจ้าใส่ชุดประจำตัว ข้าอาจจะสนใจอยู่”
เดี๋ยวก่อนนะ! ชุดประจำตัวของซัคคิวบัส มันก็...ใช่แบบของเคียใช่ไหม? คงงั้นแหละนะ ว่าแต่เจ้าหญิงจะให้ซัคคิวบัสสาวกับเขาอีกสองเดือนให้หลังจากนี้จริงๆงั้นเหรอ? เอ๊ ข้าคิดบ้าอะไรเนี่ย...สงสัยเป็นพลังเสน่ห์แน่นอนเลย!
เฉินรุยส่ายหัวอย่างแรงพร้อมกับลบความคิดที่อยู่ในหัวออกไปทั้งหมดและก้าวเดินต่อไป
ซัคคิวบัสสาวได้แต่ตะลึง นางต้องการที่จะตามตื้อเขา แต่เขากลับพูดเกี่ยวกับชุดเครื่องแบบ นอกจากนี้เขายังส่ายหัวและก้าวเดินไปอย่างไร้สติอีก
หลังจากเฉินรุยเดินออกมาจากสนามประลองแล้ว เขาก็ตรงไปที่ถนนทันที ความเร็วตอนนี้ของเขารวดเร็วอย่างมาก เขาเดินผ่านถนนหลายสายในพริบตาและมาถึงสถานที่ที่เงียบๆจุดหนึ่ง ก่อนที่เขาจะหยุดลง
“ทำไมเจ้าถึงตามข้ามา?” เฉินรุยหันหลังกลับไปถาม
ดาร์คเอลฟ์เจสซี่ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังและก็ได้พูดขึ้นมา "ข้าแพ้ไปแล้ว ทำไมเจ้าถึงต้องการให้ข้าเป็นหินลับคมของเจ้าอีก?"
เฉินรุยยักไหล่และตอบไปว่า "ข้าเพียงพูดเพื่อให้บางคนได้ยินเท่านั้น เจ้าจะเชื่อไหมล่ะ?"
"ฮึ่ม! เจ้าคิดว่าข้าเป็นเด็กหรือไง? จุดประสงค์ของเจ้าคืออะไรกันแน่?” เจสซี่ส่ายหัวพร้อมพูดอย่างเหยียดหยัน
เฉินรุยได้แต่ถอนหายใจ เขาพูดความจริงไป แต่เจสซี่กลับไม่เชื่อซะงั้น เขาคงต้องหาวิธีจัดการแบบพิเศษสินะ
“หินลับคมก็เป็นเพียงหินลับคม เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว เจ้าจะแข็งแกร่งกว่านี้ได้ใช่ไหม?”
"แน่นอนว่าข้าทำได้!" เจสซี่ตอบอย่างหนักแน่น “แต่ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อน หากเจ้าพลาดเพียงครั้งเดียว ฐานะหินลับคมของเจ้าก็จะไม่เหลืออีกต่อไป!”
"เจ้าน่ะเคยเห็นหินลับคมที่แตกสลายหรือเปล่า?" เฉินรุยตอบห้วนๆพร้อมกันเดินจากไป กระนั้นดาร์คเอลฟ์ก็ยังติดตามไปอย่างใกล้ชิด
ไอ้บ้านี้มันอะไรเนี่ย!
“ทำไมเจ้าถึงตามข้ามาอีก?”
ดาร์คเอลฟ์ก็ตอบกลับไปทื่อๆว่า “ถ้าหินลับมีดทิ้งห่างจากมีด มันจะยังเป็นหินลับมีดได้เช่นไร?”
โว้ย ถึงแกจะหนีไปจากข้า แกก็ยังเป็นดาร์คเอลฟ์อยู่เหมือนเดิมนั้นแหละ เฉินรุยพูดไม่ออกและก็ได้แต่คิดในใจ
พอมีเจสซี่มาตามติด ตัวเขากลับไม่สามารถกลับไปยังห้องทดลองได้แน่ๆ แถมคนๆนี้มันยังเร็วปานจรวด ไม่มีทางหรอกที่เขาจะหนีไปไหนได้ พอคิดไรไม่ออก เขาก็ตรงดิ่งมาที่แก๊งค์เสื้อคลุม
คนแคระเฒ่าดิดิตกใจมากที่เห็นเฉินรุย (เอกิล) เปียกชุ่มไปด้วยเลือด “นายท่าน บาดแผลของท่านมัน…”
หลังจากที่ดิดิพูดจบ เขาก็มองเห็นดาร์คเอลฟ์แสนหล่อเท่ห์อยู่ข้างหลังเจ้านายของตัวเขา เขาก็จำได้ทันทีว่ามันคือ "หมาป่าปราดเปรียว" เจสซี่ คนแคระเฒ่าตกใจจนวิญญาณออกจากร่าง เขาแทบจะพูดอะไรไม่ออกเลย
“ดิดิ เอาเสื้อคลุมตัวใหม่มาให้ข้าที” คำพูดของนายท่านของเขาทำให้ดิดิรู้สึกตัวและรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที
“นี่คือแก๊งค์เสื้อคลุม ข้าเป็นผู้นำนามว่า เอกิล” เฉินรุยแนะนำตัวเองเสร็จสรรพพร้อมกับเอาโพชั่นออกมาสองขวด เขาดื่มเองขวดหนึ่งและยื่นไปให้ดาร์คเอลฟ์หนึ่งขวด
เจสซี่คว้ามันมาพร้อมกับถอดผ้าคลุมออก จากนั้นก็ดมกลิ่นและรับรู้ว่ามันเป็นโพชั่นรักษา เขาลังเลอยู่พักหนึ่งและก็ได้ดื่มมันไปจนหมด ผลของยารักษานี้สูงอย่างน่าประหลาดใจ มันแตกต่างจากสินค้าทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ดาร์คเอลฟ์รับรู้ได้เลยว่าบาดแผลสาหัสของตัวมันค่อยๆหายไป ในสายตาของมันเต็มไปด้วยอารมณ์อันแสนซับซ้อน
คนแคระเฒ่าก็รีบกลับมาพร้อมเสื้อคลุมอย่างเร่งรีบ เฉินรุยถอดเสื้อคลุมที่เต็มไปด้วยเลือกออกและสวมเสื้อคลุมอันใหม่ ดูเหมือนว่าคราวหน้าเขาน่าจะเก็บพวกเสื้อคลุมและหน้ากากไว้ในช่องเก็บของ
เจสซี่เองก็สังเกตว่าบาดแผลที่น่ากลัวที่อยู่ตามตัวของ "เอกิล" ได้หายเป็นปกติ แถมบาดแผลบางส่วนก็ได้หายไปแล้ว มันเป็นผลของโพชั่นรักษาเหรอ? หรือว่า...
“หากเจ้าต้องการเป็นหินลับคม ก็จงอยู่ในแก๊งค์เสื้อคลุม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะให้เจ้าท้าทายข้าเดือนละครั้ง”
คนแคระเฒ่าใจมากกว่าเดิมอีก: หากเป็นไปดั่งนี้ แสดงว่าเจสซี่พ่ายแพ้ต่อนายท่านงั้นหรือ?
ซึ่งนี้ก็เป็นเพียงวิธีการแก้ไขของเฉินรุย เนื่องจากเขาวางแผนไว้แล้วว่าจะใช้แก๊งค์เสื้อคลุมเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับเอกิล ดังนั้นเขาจึงต้องหาใครสักคนที่แข็งแกร่งมาคอยคุม พลังของเจสซี่ไม่สามารถที่จะดูถูกได้เลย เนื่องจากเจสซี่เองก็มาที่นี่ด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางพูดจาด้วยดีอย่างแน่นอน
คิ้วของเจสซี่ขมวด ดูเหมือนว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งในใจลึกๆของเขาย่อมไม่ปฏิเสธ
(1) เกมผู้พิชิต ก็อ้างอิงมาจากชื่อเกมออนไลน์ในจีนนั้นแหละ