ตอนที่แล้วบทที่ 48: สัญญาศึก! การท้าทายที่เหนือความคาดหมาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 50: พรสวรรค์ของคนแคระคาค่า

บทที่ 49: พันธมิตร! การสนับสนุนของมังกรพิษ


บทที่ 49: พันธมิตร! การสนับสนุนของมังกรพิษ

ความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเฉินรุยนั้นเทียบเท่ากับมารระดับกลาง ในขณะที่อรัคก็อยู่ในขั้นของมารระดับสูงมานานแล้ว กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ มารระดับกลางระยะแยกกำลังจะต้องปะทะกับมารระดับสูงระยะกลาง ความแตกต่างนั้นมากโข เสมือนท้องฟ้าและผืนดินบนพื้นโลก

แม้ว่าเฉินรุยจะทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มามากมายตั้งแต่เขามาที่อาณาจักรมาร แต่เขาก็ต้องพึ่งพาสติปัญญาและโชคของเขาพอสมควร แต่ตอนนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งจริงๆ!

“ท่านอรัค ข้าจำได้แล้ว!” คีธานลูบหัวของตัวเองและพูดว่า“ชื่อหมายเลข 64 คือเอกิล เขาเป็นผู้นำขององค์กรขนาดเล็กที่มีชื่อเรียกว่า แก๊งค์ผ้าคลุม”

"แก๊งค์ผ้าคลุม?" อรัคพยักหน้าและยิ้ม พร้อมกับมองดูเฉินรุยแปลกๆอย่างแปลกๆ "ยอดเยี่ยมเหลือเกิน! ข้าได้มีตัวต่อรองกับสมาชิกทั้งหมดในแก๊งค์ผ้าคลุมแล้วสินะ หากเจ้าล้มเหลวหรือหนีไป แก๊งค์เสื้อคลุมทั้งหมดจะต้องถูกแขวนคอในสนามประลอง”

เฉินรุยจึงพูดอย่างจริงจังไปว่า “ข้ายอมรับว่าการท้าทายของข้ามันยากมาก ดังนั้น จากนี้ไปข้าต้องการการฝึกและไม่ต้องการถูกรบกวนโดยใครเด็ดขาด! ข้ามีเพียงคำถามเดียวว่า หลังจากลงนามในสัญญานี้แล้ว ที่อยู่ของข้าจะถูกเปิดเผยภายในสองเดือนใช่ไหม?”

“ก็เขียนไว้อย่างชัดเจนแล้วในสัญญาว่าเวลานั้นหลังจาก 60 วันจะเป็นการเปิดเผยตำแหน่งของเจ้า และในระหว่าง 60 วัน ข้าจะไม่สามารถรู้ที่อยู่ของเจ้าได้”

เฉินรุยไม่มีทางเลือกอื่น ดังนั้นเขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ กัดนิ้วมือของเขาแล้วเขียนชื่อของเอกิลลงบนเปลวไฟด้วยเลือดสด ข้อความเลือดได้กลายเป็นคำทองคำและหายไปในเปลวไฟ อรัคก็ทำเช่นเดียวกันและทำสัญญาให้เสร็จสิ้น

คีธานที่อยู่ข้างๆก็ตกใจมาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าท่านอรัคจะทำสัญญาศึกกับมารระดับกลาง นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เกียรติของเขาเสื่อมเสีย

อรัคคิดอะไรบางอย่างและจากนั้นสัญญาก็ได้เลือนหายไป จากนั้นมันก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “เยี่ยม! ยังไงก็เถอะ ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเจ้าไม่เพียงพอที่จะเผชิญหน้ากับข้า แล้วเจ้าเองก็บอกว่าต้องการที่จะทำลายผนึกที่กักขังตัวเจ้าอยูใช่ไหม? เช่นนั้นตัวข้าจักช่วยเจ้าเอง! วันนี้ 'มือเปื้อนเลือด' แลนซ์เป็นเพียงมารระดับกลางระยะต้น คู่ต่อสู้ต่อไปของเจ้าคือ 'หมาป่าปราดเปรียว' เจสซี่ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในมารระดับกลาง ข้าจะให้เวลาเจ้า 10 วันในการฟื้นตัวจากบาดแผลและไปฝึกพิเศษมาซะ การต่อสู้จะเกิดขึ้นในอีกสิบวัน หากเจ้าแพ้ ข้าก็คงไม่ต้องบอกผลที่ตามมาหรอกนะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว” เฉินรุยก็ได้ถามไปอีกว่า “ถ้าอีก 2 เดือนเจ้าแพ้ล่ะ?”

แม้แผนดึงเวลาจะผิดแปลกไปบ้าง แต่มันก็สำเร็จดี ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของเขาแล้ว ตามสามัญสำนึกทั่วไป การให้ฝึก 2 เดือนเพื่อท้าทายอรัค ย่อมเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ถึงจะให้เวลา 2 ปีก็ตามเถอะ อย่างไรก็ตาม การที่มีระบบสุดยอดอยู่ก็เรียกว่าเหนือสามัญสำนักไปแล้ว ไม่เพียงแค่นั้น แต่เขายังมีปากรีโลและหัวใจอันแสนแข็งแกร่งของเขา

เช่นเดียวกับการต่อสู้กับแลนซ์วันนี้ มันทำให้เขาผ่านเส้นทางที่เต็มมาด้วยขวากหนามไปได้ ยิ่งเส้นทางไปยากเท่าใด โอกาสที่เขาจะผ่านมาได้ยิ่งมากเท่านั้น เนื่องจากเขาไม่เสมอได้ เขาก็ต้องยอมเสี่ยงทุกอย่างและต้องไม่ตายหใ้ได้

“ข้าจะแพ้งั้นเหรอ?” อรัคดูเหมือนกับได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุดในชีวิตของเขา คีธานที่อยู่ข้างๆก็หัวเราะออกมา “หากเจ้าสามารถปลดผนึกสิ่งที่ผนึกเจ้าได้และเอาชนะข้าได้ใน 2 เดือน สนามประลองนี้และชีวิตของข้าจะเป็นของเจ้าทั้งหมด! อย่างไรก็ตาม อย่าคิดที่จะหนีหายไปไหน แม้ว่าเจ้าจะไปสุดขอบอาณาจักรมาร ตัวข้าจักเด็ดหัวเจ้าหวนคืนมา!”

“นักรบที่แท้จริงจะต้องตายในสนามประลองเท่านั้น ไม่มีใครที่ตายจากการหลบหนี” เฉินรุยพูดเบาๆพร้อมกับออกไป

“ข้ารอความสนุกนั้นอยู่นะ เพราะฉะนั้นแล้ว อีกสองเดือนในสนามประลองข้าคอยที่จะตัดหัวเจ้าอยู่” รอยยิ้มของอลัคนั้นดูโหดร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความชื่นชมในสายตาของเขาก็มากเหมือนกัน "เดี๋ยวก่อน!"

เมื่อเฉินรุยหันกลับมา เขาก็กำลังเห็นมารระดับสูงโบกมือให้เขา จากนั้น รูปปั้นหินเรืองแสงสูงกว่า 1 เมตรได้ลอยขึ้นอย่างช้าๆและบินไปหาเขา เขาจับมันมาอย่างรวดเร็วด้วยมือทั้งสองของเขาและเขาก็ประหลาดใจมาก

“นี่คือสิ่งที่เจ้าสมควรได้รับ!” อรัคไม่ได้สนใจเขาอีกแล้วนั่งลงและยกแก้วไวน์ขึ้น

หลังจากที่เฉินรุยออกไป คีธานก็พยายามรวบรวมความกล้าและถามไปว่า“ท่านอรัค ตอนนี้ท่านสามารถฆ่าเอกิลได้อย่างง่ายดาย ไฉนท่านถึงลดตัวไปทำสัญญาศึกกับผู้ไร้ความสามารถคนนี้กัน?”

แก้วไวน์ของอรัคหยุดหมุนและประกายตาของมันก็ได้เต็มไปด้วยม่านตาสีเลือด เสียงของมันก็ดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก “คีธาน เจ้าเป็นผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ของข้าและเจ้าก็ติดตามข้ามาเกือบ 100 ปีแล้ว เจ้าควรรู้ว่าจะถามอะไรและไม่ควรถามอะไร”

ลิชดูกลัวเป็นอย่างมาก มันรู้ว่ามันไม่ควรพูดอย่างนั้นและก็รีบโค้งคำนับ “ขออภัยอย่างสุดซึ้งท่านอรัค คีธานผู้นี้ประจักษ์แจ้งเรื่องราวทุกสิ่งแล้ว”

แม้ว่ามันจะดึกแล้ว แต่อาการบาดเจ็บของเขาก็หนักไม่เบาเลย อีกทั้งเฉินรุยยังไม่มีเวลาว่างมาอยู่เฉยๆแล้วด้วย พอเขากลับมาถึงห้องทดลอง เขาก็ไม่ได้หยุดพักและขี่ไวเวิร์นตรงไปที่ทะเลสาบสีฟ้า

ตลอดทาง เฉินรุยก็ได้เข้าไปยังระบบสุดยอด ค่าประสบการณ์ในแถบสถานะพุ่งสูงถึง 6% ในที่สุด เขาก็ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดในร่างกายมนุษย์สามมิติของหน้าจอระบบ ในส่วนที่ผิดปกติคือลูกบอลแสง“อัลไคน์” ที่ส่องสว่างเป็นอย่างมาก ทุกส่วนของร่างกายมีออร่าของแสงเป็นศูนย์กลาง มันปรากฏอย่างคลุมเครือเหมือนกับควันสีเขียว โครงกระดูกบางๆก็ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นภาพร่าง

การเปลี่ยนแปลงของ "โครงกระดูก" ในภาพนี้หมายความว่าอย่างไร? เฉินรุยเองก็สับสน หลังจากการต่อสู้กับแลนซ์ เขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในร่างกายของเขา ราวกับว่าการใช้พลังงานนั้นราบรื่นขึ้นเป็นอย่างมาก ปากรีโลพูดถูก ยิ่งการต่อสู้อันตรายเท่าใด ความแข็งแกร่งยิ่งพัฒนาเร็วขึ้นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ครั้งต่อไปคงยากกว่านี้แน่นอน นอกจากจะต้องเผชิญหน้ากับอรัคในอีกสองเดือนแล้ว "หมาป่าปราดเปรียว" เจสซี่ก็เป็นคู่ต่อสู้ที่แสนจะน่ากลัว ผู้ที่สามารถอยู่รอดได้ในสนามประลองนั้นล้วนแต่เป็นผู้แข็งแกร่ง อีกทั้งอรัคยังบอกว่าเจสซี่เป็นมารที่แข็งแกร่งที่สุดในมารระดับกลาง ความแข็งแกร่งของเจสซี่จึงเป็นของจริงแน่นอน

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเฉินรุยที่เทียบเท่ากับมารระดับกลางระยะแรก ความอันตรายที่จะต้องเผชิญคงมากโข

นอกจากเรื่องนี้แล้ว คุณภาพของรูปปั้นที่ได้รับมาก็สูงอย่างมาก มันได้รับการดูดซับมาหมดแล้ว ระหว่างที่เฉินรุยบินเหนือทะเลสาบสีฟ้า แม้ว่าของสิ่งนี้จะเป็นต้นเหตุแห่งหายนะ แต่ค่าออร่าที่ให้มาก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย มันมากกว่า 16,000 จุดเลย ตอนนี้ เขามีออร่ารวมมากกว่า 21,000 จุด มันสามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้เยอะแยะ พื้นที่การฝึกอบรมก็เป็นสถานที่ๆใช้ 'ได้คุณภาพ' มากที่สุด

สำหรับตอนนี้ เขาต้องฟังความเห็นของมังกรพิษก่อน จากนั้นก็ค่อยเริ่มทำการฝึกอย่างเร่งด่วน

หลังจากลงจากหลังไวเวิร์นแล้วพร้อมกับเดินไปไม่กี่ก้าว เฉินรุยก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหลังของเขา เขาขยับไปด้านข้างเล็กน้อยและหลบการโจมตี แต่ก็ล้มลงในทันที ในขณะที่เขาล้ม เขาพยายามที่จะกวาดเท้าของเขา แต่คนที่ด้านหลังของเขาเร็วกว่าและคว้าเท้าของเขาไว้ เฉินรุยใช้ประโยชน์จากแรง โดยใช้ร่างของเขาเป็นแกนและหมุนตัว ชายคนนั้นไม่สามารถกันได้ทันและเท้าอีกข้างหนึ่งของเฉินรุยก็ได้เตะชายคนนั้นขณะปั่น ชายคนนั้นตะโกนและโจมตีระลอกที่สองโดยที่เฉินรุยไม่รู้ตัวเลย

"ช่างน่าแปลก ดูเหมือนเจ้าจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก" ด้านหลังของเขาเป็นเสียงของปากรีโล “ความแข็งแกร่งและความเร็วในการตอบโต้ของเจ้าดีขึ้นมาก แต่การกระทำของเจ้ากลับดูช้าลงเมื่อกำลังหมุนตัว เจ้าบาดเจ็บหรือ?”

“รู้ด้วยงั้นเหรอ? งั้นเจ้าก็คงเป็นมังกรพิษแน่นอน แม้แต่ดวงตาของเจ้าก็โคตรอันตรายเลยแฮะ” เฉินรุยยิ้มอย่างขมขื่น “คราวนี้การบาดเจ็บของข้าไม่เบาเลย ดูเหมือนจะมีกระดูกสองชิ้นหัก แต่เจ้าก็รู้เกี่ยวกับร่างกายของข้าดี บางทีอาจจะฟื้นตัวได้ในสองสามวัน”

ปากรีโลขมวดคิ้วและถามไปว่า“เจ้าสู้กับใครมา? ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?”

หลังจากที่เฉินรุยอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว มังกรพิษก็ด่าในทันที“ด้วยพลังมารระดับกลางระยะต้น เจ้ากล้าท้าทายมารระดับสูงเลยงั้นเรอะ? ทั้งยังเซ็นสัญญาศึกงี่เง่านั่นด้วยอีก? อย่าลืมว่าชีวิตของเราเชื่อมโยงกัน เจ้าคิดที่จะฆ่าข้าไปด้วยหรือไง?”

“ข้าไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้น แต่สถานการณ์นั้นอันตรายเกินไป ข้าจึงได้แต่ต้องทำเช่นนั้น” เฉินรุยยักไหล่ “แต่ว่านั่นก็เพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของข้านะ แล้วก็เพื่อที่จะปลดผนึก 'กุญแจแสงและความมืด' โดยเร็วที่สุดไม่ใช่หรือไง? ตอนนี้เสียใจไปก็ไม่ได้อะไรแล้ว มาสร้างโปรแกรมการฝึกอบรมแบบฉุกเฉินที่จะแข็งแกร่งได้ในระดับมารระดับสูงภายในสองเดือนเถอะ”

“จากระดับกลางไปสู่มารระดับสูงภายใน 2 เดือนงั้นเหรอ?” ทันใดนั้นดวงตาของปากรีโลก็เบิกกว้าง “ถ้ามันง่ายมากอย่างนั้นอิมป์จำนวนมากคงเป็นมารระดับสูงกันแล้ว! ใช้ส้นทรีนคิดหรือไงฟร๊ะ! หาวิธีฆ่ามารระดับสูงยังจะดีซะกว่า!”

“ปากรีโล ฟังข้านะ ข้าคิดว่านี่แหละจะเป็นโอกาส ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนพูดเองหรือไงว่าการต่อสู้คือการพัฒนาฝีมือที่เร็วที่สุด? เจ้าสังเกตเห็นไหมว่าความแข็งแกร่งในตอนนี้ของข้าดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับเมื่อคืน คู่ต่อสู้ของข้าที่ข้าไปต่อสู้มาเป็นถึงมารระดับกลางระยะกลาง ถ้าข้าชนะคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่าข้าได้ ความแข็งแกร่งของข้าก็จะมากยิ่งขึ้น การต่อสู้ถึงจะอันตราย แต่หากมองในมุมมองที่ต่างออกไป มันก็เหมือนกับเป็นการผลักดันข้าไปอีก! ดังนั้น ข้าจะต้องเสี่ยงและต่อสู้จริงๆ”

ในขณะที่เฉินรุยกำลังพูด ดวงตาของเขาก็ราวกับมีแสงเปล่งประกาย“ข้าเกือบจะตายในสนามประลองวันนี้แล้ว แต่ข้าก็ได้รับมามากเหมือนกัน นอกจากนี้ ข้าได้เข้าใจสิ่งต่างๆมามากมาย หากไม่มีความกล้าหาญและจิตวิญญาณการต่อสู้ แม้ว่าจะมีมรดกของ…ปรมาจารย์ข้า ข้าก็จะเป็นเพียงคนที่พึ่งพาเพียงโชคและความเฉลียวฉลาดเท่านั้น เช่นนั้นข้าจะไปยังบึงคืนสงบได้เช่นไร? ข้าจะไปหามังกรแฟรี่ลอร่าได้เช่นไร? ไม่เพียงแต่เพื่อเจ้า แต่เป็นเพื่อตัวข้าเหมือนกัน ข้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้น ข้าจะต้องกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งจริงๆ!”

เมื่อเปรียบเทียบกับภูเขาและเทือกเขามากมายบนเส้นทางของเขา อรัคก็เป็นเพียงยอดเขาเล็กๆสำหรับเฉินรุย หากเขาไม่สามารถเอาชนะได้ เขาจะก้าวข้ามผ่านยอดเขาสูงในอนาคตได้เช่นไร

แม้ว่ามันจะก้าวข้ามได้ยาก แต่แรงผลักดันก็สามารถช่วยเขาได้เช่นกัน

มังกรพิษจึงได้กล่าวอย่างเหยียดหยามไปว่า “ทุกคนล้วนต้องการเป็นคนแข็งแกร่ง แต่เส้นทางนี้เต็มไปด้วยภัยแห่งความตายตลอดเวลา มีไม่กี่คนที่รอดชีวิตและกลายเป็นคนแข็งแกร่งอย่างแท้จริง! แล้วเจ้าไม่กลัวตายหรือไง? จงไตร่ตรองให้แน่ชัด!”

“ปากรีโล ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็รู้ดีหรือไง” เฉินรุยไม่ขยับไปไหน “ข้าได้ตัดสินใจแล้วว่า แม้จะมีความตายรออยู่ข้างหน้า ข้าก็จะไม่ถอย ข้าไม่ต้องการเป็นหุ่นเชิดของโชคชะตาอีกต่อไป ข้าต้องการที่จะเผชิญกับมัน!”

ดวงตาของมังกรพิษค่อยๆดูเกรี้ยวกราดมากขึ้นและมันก็มองดูมนุษย์ผู้นี้แบบที่มันไม่เคยมองมาก่อน จากนั้นมันก็ได้ถามอย่างเยือกเย็นไปว่า “ช่างกล้าหาญเสียจริง แล้วเจ้ามั่นใจใช่ไหมว่าต้องการแบบนี้?”

“มนุษย์เราได้กล่าวว่า คนขี้ขลาดจักต้องตายนับพันครั้ง ก่อนที่จะตายจริง เพียงแต่คนที่กล้าหาญนั้นจะตายเพียงครั้งเดียว ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลอะไร สัญญาชีวิตสามารถถูกลบล้างได้หรือไม่? แม้จะไม่มีสัญญาอยู่ ข้าก็จะช่วยเจ้าไปยังบึงคืนสงบพร้อมลบผนึกอยู่ดี ถ้าเจ้าไม่เชื่อใจ…”

“ถ้าเจ้าไม่ไปถึงระดับกึ่งเทพก็ไม่สามารถลบพลังของสัญญาได้หรอก! นอกจากนี้ ข้ากังวลเรื่องความโลภของเจ้ามากเสียอีก เพราะฉะนั้นข้าจะไม่ลบสัญญาเด็ดขาด!” มังกรพิษขัดจังหวะในทันที “ยังไงตัวเจ้าก็เลือกแล้ว ท่านปากรีโลผู้นี้พร้อมจะรับความเสี่ยงไปกับเจ้า! ข้าอยากจะรู้เหลือเกินว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร! นอกจากนี้ข้าไม่เพียงแต่ตระหนักว่าเจ้าจะเป็นคนโลภและน่ารังเกียจ แต่ยังเป็นคนบ้าอีกด้วย! ข้าไม่เข้าใจจริงๆเลยว่าข้ามีพันธมิตรเช่นนี้มาได้ยังไง!”

"ยังไงก็เถอะ เจ้าตัดสินใจแล้ว ก็ลองกันดูสักหน่อยแล้วกัน ถ้าเจ้าทำไม่ได้จริงๆ ข้าก็มีวิธีจัดการกับมันอยู่!” มังกรพิษพูดขึ้นมาอย่างลึกลับ

แม้ว่าปากรีโลจะไม่ได้พูดตรงๆ แต่เขาก็สนับสนุนและไว้วางใจเฉินรุยมาก คำว่า "พันธมิตร" ยังกระตุ้นเฉินรุยอยู่ แสดงให้เขาเห็นว่ามังกรผู้หยิ่งทระนงตนนี้ไว้ใจเขามากเพียงใด แน่นอนว่าปากของเขาช่างแสนรั้นจนไม่กล้าพูดความในใจตรงๆออกมา ช่างเป็นมังกรที่ซึนเดเระเสียเหลือเกิน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด