ตอนที่แล้วบทที่ 41: วางแผนให้ครอบคลุม! นักยุทธศาสตร์คนใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 43: แก๊งค์ผ้าคลุม! คนแคระทมิฬข่มขู่ท่านอาจารย์อันเลื่องลือ

บทที่ 42: วัสดุเวทมนตร์! นักบลัฟระดับมหาเทพ


บทที่ 42: วัสดุเวทมนตร์! นักบลัฟระดับมหาเทพ

หลังจากเฉินรุยออกจากห้องประชุมไปแล้ว เขาก็ไม่ได้กลับไปที่ห้องทดลองทันที แต่เขากลับไปที่ร้านขายของเวทมนตร์ของโจเซฟ จากศิลาเถาวัลย์ที่ได้ทดลองมา มันคงจะมีวัสดุเวทมนตร์ชิ้นอื่นที่สามารถให้ค่าออร่าได้เยอะกว่านี้ เขาต้องการดูว่ามีของชิ้นไหนบ้างที่สามารถให้ค่าออร่าได้

เชียได้ประกาศเมื่อวานนี้เกี่ยวกับการแต่งตั้งเขาเป็นเลขานุการ ดังนั้นจึงมีมารจำนวนมากตลอดทางมองเขาอย่างประหลาด แต่เฉินรุยก็คุ้นเคยเรื่องนี้นานแล้ว

หลังจากแพ้การต่อสู้เวหา โจเซฟก็ได้ออกจากเมืองพระจันทร์ดับและไปที่ดินแดนจ้าววิญาณสีชาด บุคคลที่ดูแลร้านเวทมนตร์ตอนนี้เป็นหนึ่งในมารผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ด้านหลังโจเซฟที่เฉินรุยเคยเห็น รอยซ์

เฉินรุยเรียนรู้จากแซลลี่ว่า รอยซ์เป็นมารสาวชั้นสูง วาชาซ่าและอรัคต่างก็เป็นมารของโจเซฟ โจเซฟไม่เคยเคลื่อนไหวอะไรเลย หากเกิดปัญหาอะไรก็จะให้ทั้งสามตนนี้จัดการ อย่างไรก็ตาม เฉินรุยรู้ดีว่าพละกำลังของโจเซฟน่ากลัวกว่าพวกเขาอีก

ซึ่งรอยซ์ไม่เพียงแข็งแกร่ง แต่เขายังฉลาดมากด้วย เขาเป็นผู้ช่วยที่มีค่าที่สุดของโจเซฟ ในการเปรียบเทียบหน้าที่กันแล้ว วาชาซ่าจะเป็นผู้คุ้มกัน คราวนี้นางกลับไปที่ดินแดนจ้าววิญญาณสีชาดพร้อมกับโจเซฟ ในขณะที่อรัคเป็นบุคคลที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องพื้นที่ประลอง

การมาถึงของเฉินรุยทำให้รอยซ์ประหลาดใจเล็กน้อย รอยซ์เองก็ได้ไปที่ศึกชิงเวหาเมื่อวานนี้เช่นกัน ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารอยซ์นั้นรู้ว่าเจ้านายของตนอย่างโจเซฟต้องการฆ่ามนุษย์ผู้นี้ ว่าแต่ทำไมมนุษย์คนนี้ถึงมาคนเดียวกัน?

“ท่านรอยซ์” เฉินรุยทักทาย แต่รอยซ์ตอบกลับไปอย่างดูถูกเหยียดหยามมนุษย์ผู้ไร้ซึ่งพลัง เขาดูหยิ่งทระนงและไม่ตอบอะไรกลับไปเลย

เฉินรุยไม่ได้คิดอะไรมากนักและจากนั้น เขาก็ได้พูดไปว่า“ท่านอาจารย์อัลดาซกำลังต้มยาวิเศษ ดังนั้นท่านจึงส่งข้ามาที่นี่ในวันนี้เพื่อค้นหาวัสดุเวทย์มนตร์”

เขารู้ว่าตัวตนของเขาในฐานะเลขานุการสามารถทำให้มารธรรมดาตกใจกลัวได้เลย แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคนแข็งแรงอย่างรอยซ์ การใช้ชื่อของอัลดาซคงจะดีเสียกว่า

แน่นอนว่ารอยซ์ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจและก็ได้พูดขึ้นมาว่า “การเล่นแร่แปรธาตุและวัสดุเวทมนตร์อยู่ชั้นนี้ ชั้นสองเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ ดูเองได้เลย”

ร้านของโจเซฟเหมาะสมที่จะเรียกว่าร้านประหลาดมากกว่าของอลิซมาก ของแต่ละชิ้นว่างอยู่บนชั้นตามหมวดหมู่ “คนขายของ” เป็นลิชและมีข้ารับใช้เป็นคนแคระทมิฬ ซึ่งทำหน้าที่เป็น“ผู้ช่วยขาย”

ในไม่ช้า รอยซ์ก็ได้ยินคนแคระทมิฬเดินมารายงานอะไรบางอย่าง ดูเหมือนว่าเฉินรุยจะถามชื้อวัสดุทุกอย่าง อย่างล่ะชิ้น เขาสงสัยมากและก็ได้ถามไปว่า “เจ้ากำลังทำอะไร?”

เฉินรุยสัมผัสกับวัสดุทุกชิ้นและจดลงในสมุด เขาก็ได้ตอบกลับไปว่า “ข้าต้องการตรวจสอบความบริสุทธิ์และความหนาแน่นของวัสดุพวกนี้ อาจารย์กล่าวว่า การเป็นนักปรุงยาจะต้องมีความรู้ ห้ามเลอะเทอะเด็ดขาด”

รอยซ์เองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงยามากนัก เมื่อเห็นว่าเฉินรุยพูดอย่างจริงจัง เขาก็ไม่ได้สงสัยอะไรอีก หลังจากเฉินรุยพยายามดูทุกอย่าง เขาก็ได้เดินไปหารอยซ์ เฉินรุยดูลังเลที่จะพูดอะไรบางอย่างออกไป แต่ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นมาว่า“อาจารย์ของข้าได้เอ่ยคำร้องขอออกมาเล็กน้อย ท่านต้องการให้ข้ามาพบกับท่านโจเซฟ เพียงแต่ช่างโชคไม่ดีนัก ท่านโจเซฟออกจากเมืองพระจันทร์ดับไปแล้ว ข้าไม่แน่ใจว่าสามารถให้ท่านรอยซ์ตัดสินในนามของท่านโจเซฟได้หรือไม่?”

ซึ่งตัวรอยซ์เองก็ไม่กล้าหาเรื่องคนที่มาปฏิบัติหน้าที่ให้กับอัลดาซ ผู้ฆ่าอัจฉริยะด้วยพิษ“บอกข้ามาก่อนว่าท่านผู้นั้นเอ่ยคำขออะไร”

“สิ่งที่อาจารย์บอกมาือท่านพอจะช่วยแบ่งส่วนเล็กๆของพวกวัสดุให้เลือกสำหรับการทดลองได้หรือไม่ ไว้เราจะชื้อหลังจากที่เราทดสอบวัสดุพวกนั้นแล้ว” เฉินรุยเห็นว่ารอยซ์ขมวดคิ้ว ดังนั้นเขาจึงพูดเสริมไปว่า“อาจารย์บอกว่า ถ้าท่านตกลง เราจะขายยาวิเศษให้ร้านขายของท่านโจเซฟในราคาต่ำที่สุด เมื่อการทดลองสำเร็จ”

“ขอโทษที แต่ท่านปรมาจารย์กำลังปรุงยาเวทมนตร์ชนิดใดกัน?” คำพูดของเฉินรุยดึงดูดความสนใจของลิชแล้วเขาก็เดินเข้ามาด้วย ลิชเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความสามารถทางเวทมนตร์ ดังนั้นเขาจึรู้สึกสนอกสนใจเป็นพิเศษ

เฉินรุยมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง เพื่อที่จะดูว่าคนแคระทมิฬนั้นอยู่ไกลๆหรือเปล่า จากนั้นเขาก็พูดอย่างลึกลับออกมา่วา“นี่เป็นการทดลองลับมากๆ ฟังเสร็จก็เก็บเป็นความลับด้วยนะ ดูเหมือนว่าอาจารย์กำลังทดลองยาชนิดหนึ่งที่สามารถเพิ่มพูนจิตวิญญาณได้อย่างมาก โดยไม่มีผลข้างเคียงเลย ในตอนนี้เพิ่งอยู่ขั้นเริ่มต้นเท่านั้น ส่วนใหญ่ท่านอาจารย์จะประสบปัญหาในการปรับปรุงความบริสุทธิ์ของยาและลดผลข้างเคียง ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องลองใช้วัสดุต่างๆอย่างเร่งด่วน”

อันที่จริง เขาแค่เห็นว่ายาระดับสูงมันจะเป็นยังไง จากนั้นเขาก็แค่บลัฟเท่านั้น

“ยาวิญญาณ…ไม่มีผลข้างเคียงหรือ?” ลิชตกใจอย่างมากและพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “มันเป็นจริงได้ด้วยรึ ยาวิญญาณแบบนั่น? คงจะมีเพียงปรมาจารย์ในตำนานเท่านั้นแหละที่ทำแบบนั้นได้! ท่านปรมาจารย์อัลดาซไปถึงระดับนั้นแล้วงั้นเหรอ?”

เฉินรุยไม่ต้องการพูดเกินจริงจากคำโกหกของเขา ดังนั้นเขาจึงอธิบายไปว่า“มันเพียงอยู่ในช่วงทดลองเท่านั้น ตัวต้นแบบก็ได้ล้มเหลวหลายครั้ง ท่านอาจารย์ยังต้องการปรับวัสดุบางอย่างอยู่ ดังนั้นจึงได้ส่งข้ามาที่แห่งนี้ กระนั้น วัสดุบางอย่างที่นี่มีราคาแพงเกินไป นั่นเป็นสาเหตุที่เราได้มาเอ่ยคำขอร้องให้ท่านโจเซฟได้รับรู้”

อย่างไรก็ตาม นับพันๆปีมานี้ มีปรมาจารยหลายคนอยากจะเลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์ระดับสูง เมื่อถึงเวลา เขาก็แค่บอกว่ามันล้มเหลวก็สิ้นเรื่อง

แต่ลิชผู้นี้ดูตื่นเต้นเสียจริง เพราะยาแบบนั้นจะสร้างได้ 'จริง' จากปรมาจารย์ในตำนานเท่านั้นจริงๆแหละ ซึ่งในพันปีมานี้ก็ไม่มีปรมาจารย์แบบนั้นเลยในอาณาจักรมาร ยาชนิดนี้ก็ได้จางหายไปและโผล่มาเพียงแค่ในบันทึกเท่านั้น อัลดาซเองก็เป็นตัวตนที่คนส่วนใหญ่ไม่สังเกตเสมอมา แต่หลังจากการท้าทายศึกชิงปรมาจารย์ เขาก็ได้เอาชนะอัจฉริยะด้วยพิษไปอย่างง่ายดาย จนมันทำให้เขาได้เฉิดฉายแสงที่อยู่ในตัวของเขาออกมา ตอนนี้เขากำลังจะเริ่มท้าทายจุดสูงสุดของการปรุงยาแล้ว!

แม้ว่าอัลดาซจะล้มเหลวหลายครั้ง แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าเขากำลังเข้าใกล้สู่จุดสูงสุดก็ปฏิเสธไม่ได้ นอกจากนี้แล้ว ถ้าหากว่าปรมาจารย์ดาร์คเอลฟ์ผู้นี้สามารถสำเร็จได้ล่ะ?

ถึงแม้ว่าอรยซ์จะไม่เข้าใจเรื่องการปรุงยา แต่เขาก็รู้ดีว่าปรมาจารย์ระดับสูงเป็นยังไง หากอัลดาซสามารถข้ามคอขวดและประสบความสำเร็จในการก้าวสู่การเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คนแรกของอาณาจักรมารมานานนับพันปีได้แล้ว แม้แต่ทัศนคติของเจ้าชายออบซิเดียนที่มีต่ออัลดาซก็คงต้องเปลี่ยนไปอย่างมาก สำหรับวัสดุที่มนุษย์เลือก แม้ว่าจะมีของมีค่าอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่มันกล่าวมา

“สำหรับเรื่องนี้ ข้าสามารถลงสัญญาในนามของโจเซฟได้! กูกิส มอบวัสดุเวทย์มนตร์ทุกชิ้นที่ท่านปรมาจารย์ต้องการให้ชายคนนี้ทันที ไม่ใช่แค่ชิ้นส่วน แต่เป็นทั้งหมด!” รอยซ์ค่อนข้างฉลาด เขาได้ตวงถึงผลดีผลเสียที่กำลังจะได้ในทันที นอกจากนี้ โจเซฟยังเคยพยายามดึงอัลดาซมาเข้าร่วมด้วย ดังนั้นรอยซ์จึงตกลงทันที

“เลือกมายอดเยี่ยมมากเลยขอรับ” ลิชกูกิสเองก็อยากจะเห็นผลงานของท่านปรมาจารย์เช่นเดียวกัน มันพยักหน้าและเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อเอาของมาให้ทันที แน่นอนว่าลิชได้เลือกวัสดุที่สมบูรณ์ไปด้วยคุณภาพที่ดีเยี่ยม มากเสียยิ่งกว่า "ชิ้นส่วน" ที่เฉินรุยเคยคิดจะขอมาเสียอีก

แม้ว่าว่ารอยซ์จะพูดไปว่า“มนุษย์ผู้นี้” แต่คำพูดของเขาก็ไม่ได้สุภาพมากขนาดนั้น ซึ่งเฉินรุยตื่นเต้นมากจนไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย “ขอบคุณท่านมาก! ข้าจะบอกถึงความมีน้ำใจและความเมตตาของท่านต่ออาจารย์ให้รับรู้!”

"การทดสอบตัวอย่าง" เป็นเพียงความคิดแผลงๆเท่านั้น ใครจะรู้ว่าอยู่ดีๆเขาดันได้มากขนาดนี้กัน ดีใจเหลือเกินที่เขาตรวจสอบมาจาก 'แปลงออร่า' ว่าชิ้นไหนให้ออร่ามากที่สุด แม้ว่าเฉินรุยจะยังอยากได้วัสดุเวทมนตร์มากมายบนชั้นวางของ แต่เขาก็รู้ดีว่าไม่ควรโลภมากเกินไป ถ้าเขาโลภมากเกินไป ผลอาจจะแตกต่าง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสิ่งที่ได้มาต่างหาก ยาวิญญาณเป็นเพียงการบลัฟเท่านั้น

ตอนนี้เขาได้ใส่วัสดุเวทมนตร์กว่า 30 ชนิดไว้ในกระเป๋าแล้ว ซึ่งมันโคตรของโคตรหนัก เฉินรุยขอบคุณลิชพร้อมกับแกล้งทำเป็นว่าของในกระเป๋ามันหนักมากๆ

หลังจากเฉินรุยจากไป รอยซ์ก็ได้พูดกับกูกิสว่า“ขึ้นไปชั้นบนทันทีและติดต่อกับท่านโจเซฟด้วยศิลาเวทมนตร์ รายงานต่อท่านเกี่ยวกับเรื่องที่อัลดาซกำลังทดลองยาระดับตำนาน! ต้องเก็บเป็นความลับและอย่าให้รั่วไหลเด็ดขาด! เราจะต้องรอคำสั่งจากท่านโจเซฟเสียก่อน”

"ครับท่าน" กูกิสไม่กล้าที่จะพูดอะไรและขึ้นไปชั้นบนตามคำสั่ง

เฉินรุยแบกกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่และเดินไปที่ห้องทดลองในขณะที่พยายามคงสติไม่ให้ตัวเองตื่นเต้นมากเกินไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเดินไปครึ่งทาง เขาก็รู้สึกว่าเขากำลังถูกจ้องมองอยู่ เฉินรุยคิดในใจของเขา ตามที่ดูมา รอยซ์กับกูกิสเป็นพวกที่ไม่น่าจะส่งใครมาติดตามเขา คงจะต้องเป็นพวกโจรอย่างแน่นอน จากนั้นเขาก็ได้คิดอะไรสักอย่างและเดินไปในที่ๆดูไม่มีคนอยู่

คนที่อยู่ข้างหลังเขาก็เดินตามมาอย่างใกล้ชิด เมื่อเดินเข้าไปในตรอกที่เงียบสงบแล้ว มนุษย์ที่อยู่ข้างหน้าเขาก็ได้หายตัวไปในทันใด มารผู้นี้ผงะและเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง มันผู้นี้คือคนแคระทมิฬที่สวมเสื้อคลุมตัวเล็กๆอยู่ มันมองไปรอบๆและจู่ๆ ก็ได้มีเสียงที่ดังขึ้นจากหลังเขา “เจ้ากำลังตามหาอะไรอยู่งั้นรึ?”

คนแคระทมิฬผู้นี้ตกใจมาก เมื่อเขาหันหลังกลับมา เขาเห็นว่าเป้าหมายที่เขาติดตามกำลังมองดูตัวเขา ในขณะที่สัมภาระขนาดใหญ่ก็วางอยู่บนพื้น

“ท…ท่านเลขา!” คนแคระผู้นี้โค้งคำนับจริงๆ ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนประจบ

เป็นครั้งแรกเลยที่เฉินรุยได้มีคำนำหน้าชื่ออย่าง“ท่าน” ซึ่งเขาก็รู้สึกแปลกๆเล็กน้อย แม้ว่าเลขาจะเป็นเพียงตำแหน่งเสมือน แต่เขาก็ยังเป็นข้ารับใช้ของเจ้าหญิง ซึ่งก็ถือว่าสูงส่งสำหรับพวกคนแคระทมิฬและอิมป์

ดูเหมือนว่าคนแคระผู้นี้จะรับรู้เรื่องนี้ดี แม้ว่าเฉินรุยจะไม่รู้ว่าเจตนาของคนแคระทมิฬคืออะไร แต่เฉินรุยก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ เฉินรุยจึงถามไปว่า “เจ้าติดตามข้ามาตลอด เจ้าพยายามจะทำอะไร?”

เมื่อเห็นว่าการแฝงตัวของมันถูกเปิดเผยไปแล้ว คนแคระทมิฬผู้นี้ก็ตกใจมากและรีบพูดปกป้องตัวไปว่า “ท่านเข้าใจผิดแล้ว! ข้าเห็นว่าท่านกำลังถือของหลายอย่างอยู่ ข้าแค่อยากจะช่วยเท่านั้น เพียงแค่เหรียญคริสตัล 5 เหรียญเท่านั้น นูนูผู้นี้จะช่วยส่งของไปยังห้องทดลองให้เอง”

พนักงานยกกระเป๋าเหรอ? เฉินรุยมองดูร่างเล็กๆของคนแคระพร้อมกับส่ายหัวแล้วพูดไปว่า“ไม่เป็นไร ข้าสามารถถือมันเองได้”

“ท่าน ถ้า 5 เหรียญแพงเกินไป แค่สี่ก็ได้…” คนแคระทมิฬก้าวมาข้างหน้าอย่างรวดเร็วและลดราคาอย่างต่อเนื่อง“เหรียญคริสตัลขาว 2 เหรียญ ต่ำกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

ในขณะที่มันพูด จู่ๆคนแคระผู้นี้ก็ได้โบกผงขาวใส่เฉินรุย เฉินรุยได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากห้องทดลองมามาก เขาบอกได้เลยว่ามันเป็นกลิ่นของดอกงงงวย มันจะทำให้คนที่สูดดมสูญเสียความแข็งแกร่งไปชั่วขณะ เฉินรุยทำเหมือนกบัว่าเขาได้รับผลกระทบจากมันและล้มลงไปกับพื้นทันที

“เลขานุการบ้าบออะไร? ไอ้มนุษย์โง่เอ้ย!” คนแคระทมิฬผู้นี้มีความสุขมาก มันคว้ากระเป๋าของมันและจู่ๆ ก็ได้มีอะไรบางอย่างรัดคอของมันแน่น ร่างของมันถูกตรึงกลางอากาศ มันหายใจไม่ออกและกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด