บทที่ 33: ชัยชนะแรก!! อาเธน่าและสิบแปดมงกุฏ
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 33: ชัยชนะแรก!! อาเธน่าและสิบแปดมงกุฏ
ในวันถัดมา การประลองเวหาก็ได้เริ่มขึ้น เดิมทีเจ้าหญิงใหญ่เชียได้ชัยชนะมาอย่างล้นเหลือในการประลองเวหาอันแสนน่าเบื่อแห่งเมืองพระจันทร์ดับ เพราะจู่ๆมันก็ได้กลายเป็นการเดิมพันส่วนตัวระหว่างอลิซและโจเซฟซะงั้น อย่างไรก็ตาม วันนี้สนามประลองกลับเต็มไปด้วยผู้คน มันเป็นผลมาจากทริคของโจเซฟ เขาจงใจที่จะบีบคั้นเกียรติของเมืองพระจันทร์ดับโดยใช้น้ำมือของฝูงชน
อัลดาซ ซึ่งไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนมาเป็นเวลานานก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ที่นั่งวีไอพีพร้อมกับอลิซ ในฐานะผู้สนับสนุนของเฉินรุย ทุกคนในตอนนี้ต่างก็กำลังพูดถึงเรื่องของอัลดาซ ส่วนใหญ่ต่างพูดถึงการกระทำที่แสนกล้าหาญของเขาในการฆ่าอัจฉริยะจากเมืองหลวงที่มาท้าทายเขาด้วยตดของเขา แม้ว่ามันจะผ่านมาสักพักแล้ว แต่ปรมาจารย์ดาร์คเอลฟ์ผู้นี้ยังคงรู้สึกอายมาก
แล้วในคราวนี้ ดินดินวิญญาณสีชาดก็ได้ส่งคนพิเศษมาเป็นพยานในการแข่งขันครั้งนี้ ตัวแทนของเจ้าหญิงเชียคือ ตาแก่เกาส์ ด้วยฐานะชนชั้นสูง ตัวเชียจึงมีสถานะและศักดิ์ศรีเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว อีกทั้งตัวเจ้าวิญญาณสีชาด จอชก็ไม่ได้เข้าร่วมงานด้วยตัวเอง นางเองก็ไม่จำเป็นต้องมา ด้วยการตอบกลับแบบนี้ จึงเห็นได้ชัดว่าตัวเชียเองก็ไม่ได้มองผลการแข่งขันศึกชิงเวหานี้ในทางที่ดีเท่าไหร่นัก
ในความเป็นจริง แทบจะไม่มีใครมองว่าเจ้ามนุษย์ฝึกหัดนี้จะสามารถเอาชนะได้ แม้ว่าการต่อสู้บนท้องฟ้าจะไม่ได้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของตัวคน แต่ความสามารถในการฝึกฝนสัตว์ร้ายจำเป็นต้องพึ่งพาความแข็งแกร่ง ซึ่งมนุษย์ผู้นี้อ่อนแอมาก ไม่ว่าเขาจะบินได้หรือไม่นั้นไม่ใช่ปัญหาหรอก ปัญหาอยู่ที่การต่อสู้ต่างหาก ครั้งก่อนที่มนุษย์ผู้นี้ชนะมาได้ นั้นก็เพราะเขาได้รับความช่วยเหลือจากปรมาจารย์อัลดาซ ตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้าด้วยตัวเอง จึงไม่มีทางหรอกที่เขาจะสามารถเอาชนะได้
ในขณะที่เหล่ามารต่างมั่นใจมนุษย์จะต้องแพ้ไปอย่างแน่นอน ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็สงสัยว่าทำไมเจ้าหญิงเชียหรือเจ้าหญิงอลิซถึงยอมให้คนอ่อนแอแบบเขานั้นเป็นตัวแทนของเมืองพระจันทร์ดับ? หรือว่าเจ้าหญิงทั้งสองวางแผนที่จะทำให้เป็นแบบนี้กันนะ?
“ทุกคนที่มาชมการแข่งขันไม่เพียงจะชมฟรี แต่พวกเขายังได้รับเงินอีก 1 เหรียญคริสตัลม่วงด้วยงั้นเหรอ? โจเซฟนี้ใจกว้างชะมัดยาก” เฉินรุ่ยพูดอย่างอิจฉา "คงจะดีกว่านี้ถ้าข้าได้เงินทั้งหมดของเขามา"
สําหรับเขาแล้ว เงินคือออร่า เงินคือค่าประสบการณ์และเงินคือพลังงาน
ซึ่งอลิซที่เห็นด้วยกับคำพูดของเฉินรุยก็พยักหน้าด้วย พวกเขานั้นเจรจาเรื่องของรางวัลกัน สื่อให้เห็นเลยว่าพวกเขามั่นใจว่าตัวเองต้องชนะ
โจเซฟที่เห็นผู้คนเต็มเวทีก็รู้สึกพอใจมาก เหล่ามารนั้นชอบคนแกร่ง อีกทั้งในการแข่งขันครั้งนี้พวกเขายังได้ของฟรีด้วย จึงเป็นธรรมดาที่จะมีคนดูมากมาย แน่นอนว่าผลลัพธ์ของวันนี้ ท่านอุปราชออบซิเดียนที่อยู่ไกลแสนไกลจะต้องพึงพอใจแน่
หลังจากคำปราศรัยต้อนรับและพูดเปิดงานจบแล้ว อลิซก็เดินไปที่ใจกลางเวทีและพูดออกมาด้วยเวทย์มนต์ขยายเสียง
“วันนี้เป็นการแข่งขันกระชับมิตรระหว่างดินแดนเจ้าวิญญาณสีชาดและดินแดนพระจันทร์ดับ”
อลิซพูดจากนั้นนางก็วางมือลงบนเอวของนางแล้วชี้ไปที่โจเซฟที่ที่นั่งวีไอพีด้วยนิ้วมือเรียวยาว จากนั้นนางก็พูดขึ้นมาอย่างเสียงดัง “วันนี้ โจเซฟ เจ้าหน้าที่การเงินเป็นตัวแทนของเจ้าวิญญาณสีชาด ผู้เป็นของพ่อของเขา ในขณะเดียวกันทางฝั่งเมืองพระจันทร์ดับมีตัวแทนคือ เด็กฝึกหัดของอาจารย์อัลดาซ เฉินรุยจะเป็นตัวแทนของพวกเรา! เราจะทุบหน้าพวกมันให้ละเอียด! การแข่งขันยังคงใช้กฏตามเดิมคือสามรอบ แต่อะไรบางอย่างจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย อันดับแรกคือ ฝ่ายของเราจะเป็นคนแรกที่เล่นรอบเดียวในเกมแรก อีกฝ่ายจะมีอิสระในการเลือกผู้เข้าแข่งขันได้เต็มที่ แต่ในเกมที่สอง เจ้าจะต้องเลือกผู้ลงแข่งก่อน ในเกมที่สาม เราจะใช้ผู้เข้าแข่งขันคนเดิมและห้ามเปลี่ยนคน พวกเจ้าที่มาจากวิญญาณสีชาดกล้ารับคำท้าทายนี้หรือไม่?”
ผู้ชมที่อยู่รอบสนามต่างก็ตะโกนคำเดียวกันว่า “เจ้ากล้าไหม?”
ผู้ลงแข่งขันงั้นเหรอ? โจเซฟไตร่ตรองในใจ จากนั้น อลันก็ได้ถามขึ้นมาว่า “พวกเราทำอะไรกันอยู่ตอนนี้? ข้าไม่ต้องการที่จะไปปะทะกับอาเธน่านะ เจ้าช่วยทำให้ข้าได้แข่งกับเฉินรุยได้ไหม? ข้าจะได้คร่าชีวิตมันด้วยมือของข้าเอง!”
“วางใจได้เลย ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของข้า มนุษย์คนนั้นจะต้องตายอย่างแน่นอน!” ตาของโจเซฟในตอนนี้เผยให้เห็นถึงแววตาดูถูก “ถ้าการคาดการณ์ของข้าถูกต้อง พวกมันคงจะเล่นลูกเล่นในการเลือกตัวผู้ลงแข่งขัน หากพวกมันชนะไปทั้งสองรอบ มนุษย์จะไม่ต้องเข้าร่วมการแข่งขัน ดังนั้นอย่างน้อยเราก็ต้องเอาชนะหนึ่งรอบ แล้วรอบสุดท้ายเจ้าจะเป็นคนสู้กับมนุษย์นั้น!”
“เจ้าช่างฉลาดจริงๆ!” อลันพยักหน้าอย่างมีความสุข ในขณะที่ดวงตาขอมันจ้องไปที่เฉินรุยด้วยดวงตาอาฆาต
โจเซฟยืนขึ้นแล้วพูดว่า “เอาล่ะ เราจักทำตามข้อเสนอของเจ้าหญิงอลิซ เล่นสามรอบ แต่ข้ามีเงื่อนไขเดียว ผู้เล่นแต่ละคนสามารถลงแข่งได้เพียงเกมเดียวเท่านั้นและไม่สามารถลงแข่งซ้ำได้”
ข้อเสนอของโจเซฟคือการป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายใช้อาเธน่าที่แข็งแกร่งที่สุดลงแข่งมันทุกตา อลิซยอมรับข้อตกลงและตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น “ข้าขอประกาศว่าการแข่งขันศึกชิงเวหาได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว! ก่อนอื่นเราขอเชิญนักแข่งที่แกร่งที่สุดในดินแดนพระจันทร์ดับ ลูกสาวนายพลคนแรกของอาณาจักร จอร์จ เวลส์ อาเธน่า เวลส์!”
อาเธน่าเป็นผู้มีชื่อเสียงในเมืองพระจันทร์ดับและเป็นกำลังหลักในการแข่งขันศึกชิงเวหาครั้งก่อนๆ ผู้ชมต่างก็ตะโกนชื่อของนางออกมาอย่างเร่าร้อน
"ระวังตัวด้วยล่ะ!" แม้ว่าอาเธน่าจะไม่ได้พูดกับเขาหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่น่าอึดอัดใจเมื่อวานนี้ แต่เฉินรุยก็อดไม่ได้ที่จะเตือนนาง
ร่างของอาเธน่าหยุดอยู่กับที่ชั่วขณะ แต่นางก็ไม่ได้ตอบกลับมาและเดินตรงไปที่สนามแข่งขัน ทักษะฝึกสัตว์และความแข็งแกร่งของอาเธน่านั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก สำหรับการที่นางมาลงแข่งขันในรอบแรกนั้น มันก็เป็นสิ่งที่โจเซฟได้คาดการณ์ไว้แล้ว
โจเซฟสั่งลิชที่อยู่ข้างๆ จากนั้นลิชตนนั้นก็ได้พยักหน้าและเดินมาที่สนามแข่งขัน
“ดินแดนวิญญาณสีชาดส่ง ลีโอ มาในเกมแรก!”
พื้นที่ส่วนกลางของสนามแข่งขันมีขนาดใหญ่มาก การท้าทายปรมาจารย์รอบก่อนนั้นถือว่าเล็กทีเดียวพอเทียบกับพื้นที่แห่งนี้ ตอนนี้สนามแข่งขันเต็มไปด้วยพื้นที่โล่งๆ มันกว้างมากพอที่จะให้เหล่าสัตว์มารวิ่งไปมารอบๆได้เลย
ทั้งสองฝ่ายต่างก็ใช้กริฟฟิน พวกเขาบินขึ้นไปที่สูงในทันที เพื่อที่จะทำตามกฏแห่งเวทย์มนต์ แม้ว่ามันจะสูงบนท้องฟ้าถึง 100 เมตร แต่เฉินรุยก็ยังสามารถมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจนถนัดตา เขาสามารถเห็นได้เหมือนกับเหล่ามารที่มีดวงตาอันเฉียบแหลม
ซึ่งสิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้แตกต่างจากทักษะพื้นฐานที่นางแสดงให้เฉินรุยดูอย่างสิ้นเชิง แต่ก็คงเพราะเรื่องเวลาและข้อจำกัดต่างๆ นางจึงได้สอนเขาแค่เรื่องพวกนั้นเท่านั้น ตอนนี้ เฉินรุยได้เห็นการต่อสู้จริงๆแล้ว เขาเข้าใจถึงอันตรายของมันและรู้สึกตื่นเต้นมาก
ทั้งสองฝ่ายต่างควบคุมกริฟฟินโดยไม่มีอุปกรณ์พยุงใดๆ พวกเขาเริ่มโจมตีเข้าปะทะกันกลางอากาศ หากมีคนใดประมาท คนผู้นั้นย่อมตกลงก่อนเป็นแน่
ลิชตนนี้สามารถควบคุมเวทย์มนต์ธาตุเดี่ยวได้ แล้วพอควบรวมกับทักษะฝึกสัตว์แล้ว ลิชลีโอผู้นี้เรียกได้ว่ามีความสามารถพอสมควร อย่างไรก็ตาม อาเธน่านั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่า กริฟฟินในตอนนี้เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของร่างกายนาง นางสามารถโจมตีพาหนะของลิชได้อย่างอิสระจากทุกมุม แม้ว่ามันจะเพิ่งหลบหลีก แต่นางก็ยังสามารถพลิกกลับไปโจมตีได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ทักษะการฝึกฝนสัตว์มารอันยอดเยี่ยมของนางทำให้ผู้ชมรู้สึกเร่าร้อนอย่างมากและเสียงเชียร์ก็ได้ดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง
เฉินรุยเองก็เริ่มคิดได้ว่า ชัยชนะที่ได้สองปีติดต่อกันไม่ใช่เพียงเพราะชื่อเสียงของพ่อของนาง แต่ยังเป็นเพราะความแข็งแกร่งของนางด้วย แค่อาศัยทักษะการฝึกสัตว์ โจเซฟก็มิอาจจะทัดเทียมนางได้หรอก
ในขณะที่อาเธน่ากำลังถือไพ่เหนือกว่า กริฟฟินเของนางก็ได้เปลี่ยนวิถีการบิน จากที่อยู่ๆบินอย่างอาจหาญก็ได้บินอย่างขลาดเขลา ไม่ว่าอาเธน่าจะตะโกนเท่าใด แต่มันก็ไม่กล้าโจมตีเลย นอกจากนี้ หลังจากที่มันหยุดลงไปชั่วขณะ มันก็หันหลังและบินหนีไป ในทางกลับกัน สัตว์มารของลีโอราวกับถูกยากระตุ้น มันดุร้ายมากขึ้นและวิ่งไล่ตามพาหนะของอาเธน่า
พาหนะขอลีโอเริ่มเข้ามาใกล้และโจมตีใส่กริฟฟินของอาเธน่าอย่างเมามัน กริฟฟินของอาเธน่าทำได้เพียงกรีดร้องและบินหนีไป มันไม่มีความกล้าที่จะสู้กลับเลย เสียงเชียร์ในเวทีได้หายไปโดยพลัน ไม่มีใครคิดว่าอาเธน่าที่จะชนะแน่ๆกลับดูเหมือนกำลังจะแพ้
ที่ที่นั่งวีไอพี ตาแก่เกาส์กำลังมองที่สนามโดยไม่สนใจอาการตื่นเต้นของทูตที่มาจากดินแดนวิญญาณสีชาดเลย เปลือกตาของเขาแคบลงและมองไปที่สนามด้วยแววตาเย็นเหยียบ
เมื่อเห็นว่าพาหนะของอาเธน่ากำลังสั่นและจะร่วงลง อาเธน่าก็ได้แต่ตะโกนออกมาและกลายร่างเป็นร่างมาร ม่านตาสีแดงของนางกระพริบถี่ๆ และร่างของนางในตอนนี้ก็เปล่งประกายราวกับเปลวไฟ เมื่อเปลวไฟอยู่บนหลังกริฟฟิน มันก็ไม่ได้ไหม้อะไร แต่กลับเป็นการผสานร่างกริฟฟินไว้ กริฟฟินของลีโอนั้นกลัวเพลิงมาก จึงไม่ได้เข้าใกล้ไปโจมตีอีก
จากด้านล่าง โจเซฟนั้นมองเห็นลีโอและกริฟฟินของเขาที่กลัวเปลวไฟ ทันใดนั้นรูม่านตาของเขาก็หดลง ใช่แล้วว่านั้นคือทักษะหยุดระงับ! โดยเป้าหมายคืออาเธน่า...
แต่เมื่อเปลวไฟของอาเธน่าหายไป พาหนะกริฟฟินของอาเธน่าก็ได้ดึงความกล้ากลับมา มันหันหลังกลับและพุ่งเข้าไปหาลีโอ ส่วนพาหนะของลีโอได้สูญเสียจิตวิญญาณการต่อสู้ไปหมดแล้ว ดังนั้นสถานการณ์ตอนนี้จึงตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง ผู้ชมมากมายต่างโห่ร้องดังออกมาด้วยความยินดี
อาเธน่าที่ดูโมโหมากก็ได้สั่งการกริฟฟินของนางโจมตีอย่างบ้าคลั่ง กริฟฟินของลีโอยังคงร้องออกมาอย่างต่อเนื่องและท้ายที่สุดมันก็ร่วงลงไป ลีโอไม่สามารถรักษาสมดุลได้และเขาก็ตกลงมาจากที่สูงสี่ถึงห้าเมตร แน่นอนว่าร่างกายโครงกระดูกของเขาไม่สามารถทนรับแรงกระแทกไหว กระดูกขาทั้งสองข้างของเขาหักทันที แต่โชคดีที่เขายังมีชีวิตอยู่
กริฟฟินที่ได้รับชัยชนะยังคงลอยอยู่ในอากาศและเสียงอันแสนโกรธเกรี้ยวของอาเธน่าก็ดังขึ้นมา “เจ้าคนน่ารังเกียจ เจ้าใช้เวทย์มนต์โกง! หากข้าไม่ได้ใช้ไฟมารเพื่อยกเลิกเวทย์มนต์ความกลัวของเจ้า แผนการอันสกปรกของเจ้าคงสำเร็จ!”
“ไม่ใช่แค่เวทย์มนต์ความกลัว แต่ยังใช้เวทย์มนต์กระหายเลือดใส่กริฟฟินด้วย!” เสียงแหบห้าวของตาแก่เกาสน์ดังขึ้นผ่านเวทย์ขยายเสียง “ดูเหมือนว่าจะมีเวทย์มนต์ตกค้างที่ร่างของกริฟฟินอยู่”
เวทย์มนต์ความกลัวสามารถทำให้เป้าหมายหวาดกลัวจนต้องหลบหนีไปไกล ในขณะที่มนต์กระหายเลือดเป็นเวทย์มนตร์เพื่อเสริมพลังการต่อสู้และกำลังใจ
ผู้ชมจึงตระหนักได้ในทันทีว่าทำไมกริฟฟินของอาเธน่าทำตัวแปลกๆก่อนหน้านี้ พอผ่านไปสักพัก เหล่าผู้ชมก็ได้ส่งเสียงออกมาดังก้อง "ไร้ยางอาย! น่ารังเกียจ! ต่ำช้า!"
นางนั้นไม่จำเป็นต้องตะโกนให้มากความ เพราะนางเป็นตัวแทนขององค์หญิง ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นการเสียมารยาท ดังนั้นนางจึงให้ผู้ชมเป็นผู้ด่าแทน
“ลีโอ เจ้าถึงกับกล้าเล่นสกปรกเพื่อที่จะเอาชัยชนะมา เจ้าทำให้ตระกูลอัลวินของเราขายหน้า!” ร่างของโจเซฟปรากฏตัวต่อหน้าลิชที่สั่นเทา ตัวมันได้แต่สั่นกล้าโดยมิอาจจะทำอะไรได้
ก่อนที่ลีโอจะได้พูดอะไร ร่างกายของโจเซฟก็ได้เปล่งแสงสีแดง นิ้วทั้งห้าของเขาบีบไปทางลิชและหัวของมันก็ระเบิด
ทันทีที่ผู้ชมเห็นว่าโจเซฟจัดการคนขี้โกงเสร็จแล้ว ฝ่ายดินแดนพระจันทร์ดับก็ได้รับชัยชนะแรกและกำลังใจอย่างล้นเหลือ มีเพียงแค่คนบางคนเท่านั้นรวมถึงเฉินรุยด้วยที่ยังคงรังเกียจคนขี้โกง: เพราะเห็นได้ชัดว่าไอ้โจเซฟมันฆ่าเพื่อป้องกันไม่ให้ความลับการโกงของแผนที่ตนคิดเผยออกมา ลีโอผู้น่าสงสาร การตายของเขาช่างไม่ยุติธรรมยิ่งนัก
โจเซฟเหลือบมองไปที่อาเธน่าพร้อมกับกล่าวว่า“ขอแสดงความยินดีด้วย อาเธน่า ข้าไม่รู้มาก่อนเลยว่าเจ้าได้กลายเป็นมารระดับสูงแล้ว ดูเหมือนว่าเผ่ามารที่ยิ่งใหญ่ของเราจักมีอัจฉริยะเพิ่มอีกคนเสียแล้ว”
มารระดับสูง! อาเธน่าอายุเพียง 19 ปี แต่นางกลับมาถึงขั้นนี้แล้ว ซึ่งการที่นางสามารถทะลายข้อจำกัดของมารระดับสูงได้ก็มีโอกาสที่อนาคตนางจะกลายเป็นระดับราชามารหรือจ้าวมารใช่ไหม?
อลันเองก็ถึงกับตะลึง เขารู้สึกว่าระยะห่างระหว่างตัวเขากับอาเธน่าเริ่มห่างออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ