บทที่ 27: ร้านค้าละเมิดลิขสิทธิ์ของเจ้าหญิง
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 27: ร้านค้าละเมิดลิขสิทธิ์ของเจ้าหญิง
เฉินรุยตื่นเต้นมากและก็ได้ถามขึ้นมาว่า "มีแร่กึ่งเสียพวกนี้อีกไหม? แล้วพวกมันมีราคาเท่าไหร่? ข้าคิดว่านี้คือสิ่งที่ปรมาจารย์ต้องการ "
"แร่เหล็กธรรมดาพวกนี้มีคุณภาพต่ำมาก ข้าจึงไม่ได้มีมากเท่าไหร่นัก ข้ามีพวกมันเพียงแค่ 2 ถึง 3 ชิ้น น้องชาย ร้านตีเหล็กเคิกมีพวกมันอยู่หลายชิ้น หากเจ้าต้องการ ข้าสามารถขายพวกมันให้กับเจ้าในราคาถูกได้" ซัคอดไม่ได้ที่จะถามถึงบางสิ่งบางอย่าง "ว่าแต่เจ้ายังมีผงนั้นเหลืออีกไหม? ด้วยสิ่งนั้น มันสามารถทำให้ข้าลดพวกแร่เสียได้มากเลยทีเดียว"
จริงๆแล้วในเมืองแห่งนี้เป็นของสองพี่น้องช่างตีเหล็ก ซึ่งผงนี้มันไม่ได้มีคุณสมบัติแบบนั้นจริงๆ ตัวเฉินรุยจึงไม่สามารถเอามันให้เขาได้และเขาก็ได้แต่บอกไปว่า "นี้เป็นผงลึกลับของปรมาจารย์ และมันก็ยังเป็นพิษสูง ข้าไม่สามารถให้มันกับคนภายนอกได้ อย่างไรก็ตาม ข้าสามารถช่วยท่านทำลายคริสตัลที่เหลือได้"
พอเห็นว่ามนุษย์ผู้นี้ช่างใจดียิ่งนัก มันก็ทำให้ซัครู้สึกมีความสุข ในสายตาของเขา เขารู้สึกว่าเฉินรุยนั้นพิเศษมาก ช่างเป็นมนุษย์ที่ดีจริงๆ! ดูเหมือนว่าข่าวลือในดินแดนมารจะไม่ถูกต้อง มนุษย์ทุกคนไม่ได้น่ากลัว อย่างน้อยมนุษย์ผู้นี้ก็ไม่ได้แย่
จากนั้นซัคก็ได้บอกให้คาร์คานรีบไปนำแร่เสียจากร้านช่างตีเหล็กอีกแห่ง รวมทั้งหมดแล้วก็ 7 ชิ้น
มนุษย์ผู้ "ไม่แย่" นั้นรู้สึกมีความสุขมาก เพราะ 1 ชิ้นมันก็เทียบเท่ากับ 25 ออร่า! แล้วนี้ยังมีอีก 7 ชิ้นอีก!
ซึ่งไม่นานนัก แร่เสียของร้านช่างตีเหล็กทั้งสองร้านก็หมดเกลี้ยง ตัวคริสตัลเองก็ให้ค่าออร่าแตกต่างกันไปด้วย ในตอนนี้ เฉินรุยมีค่าออร่าทั้งหมด 175 จุด ไม่ว่าใครก็รู้ว่าเขาต้องสุขใจมากในตอนนี้
พอลองฟังข้อมูลส่วนหนึ่งจากซัคแล้ว เฉินรุยก็รู้ว่าแร่พวกนี้ได้จากเหมืองแร่ของภูเขาซีหลาง ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งแร่พระจันทร์ดับ แต่มันอันตรายมาก มีข่าวลือว่ามีสัตว์มารที่น่ากลัวอยู่ลึกในเหมือง มันถูกกักขังและก็ได้คร่าชีวิตคนงานเหมืองไปเป็นจำนวนมาก หลายปีผ่านไป อัตราการผลิตแร่ก็ต่ำลงต่ำลง แม้เจ้าหน้าที่เหมืองแร่คนก่อน ทิม ที่ได้ไปตรวจสอบก็ได้หายตัวไป อีกทั้งร่างของเขาก็ไม่มีใครพบเลย
ซึ่งในอดีต มีคริสตัลจำนวนมากและแร่เสียถูกทิ้งอยู่ในเหมือง แล้วในตอนนี้ พอมีสัตว์มารร้ายใต้ดินอาละวาด ทรัพยากรแร่จึงหาได้ยากยิ่งกว่าเดิม ซัคไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากชื้อแร่กึ่งเสียพวกนี้ แม้แต่แร่กึ่งเสียพวกนี้ยังเริ่มขาดแคลนมากขึ้นเลย
ซึ่งเฉินรุยก็แอบจำชื่อภูเขาซีหลางไว้ แม้มันจะเป็นสถานที่อันตรายมาก แต่หากบางทีเขาคุ้นเคยกับเมืองพระจันทร์ดับและมีระดับออร่ามากพอแล้ว เขาจะต้องหาทางไปเหมืองแห่งนั้นแน่
"ซัค ข้าชอบทำธุรกิจกับคนที่ตรงไปตรงมาอย่างท่านมาก จะว่าไงหากท่านไปรวบรวมคริสตัลกับแร่กึ่งเสียพวกนี้มามากขึ้น ข้าจะช่วยท่านจัดการแร่พวกนี้เอง ส่วนราคา ... "
ก่อนที่จะเฉินรุยจะพูดจบ ซัคก็พูดขึ้นมาแทรก "ในเรื่องของราคา ข้าคิดกับเจ้าเพียงแค่ 10 เหรียญคริสตัลขาวต่อชิ้น ว่าไงละ? วันนี้ข้าจะปัดเศษขึ้นให้เจ้าและก็ให้เจ้า 1 เหรียญคริสตัลม่วง "
ในตอนแรก เฉินรุยคิดจะชื้อแร่ราคาถูก แต่ใครจะรู้ว่าซัคจะจ่ายให้เขาแทน ช่างเป็นเซนทอร์ที่ดีอะไรขนาดนี้! ดูเหมือนว่าข่าวลือของดินแดนมนุษย์จะไม่ถูกต้อง มารทุกตัวใช่ว่าจะเลวร้ายไปซะทีเดียว อย่างน้อยเซนทอร์ตัวนี้ก็ไม่ได้แย่
ในตอนนี้ ทั้งมนุษย์และเซนทอร์ต่างก็คิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนดี
เฉินรุยได้ทำธุรกิจโดยไม่ต้องเสียเงินสักแดงเดียว เขาบอกซัคที่ว่าให้เขาไปแจ้งที่ห้องทดลองเมื่อใดก็ตามที่ซัคมีแร่ เขาอยู่ที่นั่นตลอดเวลาอยู่แล้ว
"เราก็เหมือนกับเหล่าเซนทอร์ ตัวข้าก็ตรงไปตรงมาเช่นเดียวกัน!" พอได้ยินแบบนั้น ตัวเซนทอร์ก็ยิ่งรู้สึกดีกับมนุษย์ตรงหน้าเขาขึ้นไปอีก เขาทุบไปที่หน้าอกของเขา "จากนี้ไปเจ้าจะเป็นเพื่อนของข้า! ข้ามีเพื่อนมากมายในเมือง เพียงบอกชื่อของข้าก็พอ หากเจ้ามีปัญหา!"
จากนั้นมนุษย์ผู้นี้ก็ได้ถูกส่งไปที่หน้าประตูโดยซัคผู้รุ่มร้อนจากอะไรก็ไม่รู้ คาร์คาน อิมป์ในร้านช่างตีเหล็กก็ได้แต่มองด้วยความอิจฉา ส่วนแซลลี่ก็ยังคงเดินอย่างภาคภูมิใจตามด้านหลังเจ้านายตน
เฉินรุยในตอนนี้ก็อารมณ์ดีเช่นกัน: การเดินทางมาครั้งนี้คุ้มค่ายิ่ง เขาได้มาถึง 175 ออร่า! เขาสามารถใช้ 'ยิงแสง' ได้ถึง 17 ครั้ง ซึ่งมันก็คงไม่ดีเท่าไหร่นักหากจะใช้มันวันละสองครั้ง เพราะมันใช้ค่าพลังงานดวงดาวไปเยอะมากในแต่ละครั้ง
"อ้อจริงสิ แซลลี่ ไม่ใช่ว่าตอนแรกเจ้าบอกว่ามีร้านขายของแปลกๆอยู่งั้นเหรอ? งั้นก็ไปดูที่นั่นกัน!"
อิมป์ลังเลครู่หนึ่งและก็ดูเหมือนมันกำลังจะคิดอะไรบางอยู่ เขายิ้มและพูดว่า "ท่านเดินตามข้ามาเลยขอรับ นายท่าน ท่านจะต้องประหลาดใจกับร้านค้านั้นแน่"
เฉินรุยเดินตามอิมป์ไปจนถึงหัวมุมและก็เห็นร้านที่ตั้งอยู่ท้ายสุดของถนน ตึกของร้านค้ามีสองชั้น ลักษณะของมันคล้ายกับที่พัก
จากนั้นเฉินรุยก็เดินไปพร้อมกับอิมป์ พวกเขาจ้องหน้ากันและกันแล้วก็เดินเข้าไป คนที่รอพวกเขาอยู่คือ มัจจุราชหญิง ร่างกายของนางก็ดูดีพอสมควร ใบหน้าของนางดูไม่น่าเกลียดนัก แต่ท่าทีของนางดูดุร้าย
เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นลูกจ้างของร้านค้าแห่งนี้ พอเห็นเฉินรุยและแซลลี่เข้ามา ไม่เพียงแต่นางจะไม่ได้ทักทาย แต่นางกลับมองพวกเขาอย่างเย็นชา เฉินรุยไม่ได้สนใจนักและก็เริ่มมองดูสินค้าในร้าน
อย่างที่แซลลี่บอก ร้านนี้ขายของแปลกจริงๆ ตุ๊กตาที่ดูเหมือนกับสัตว์มาร กิ๊บติดผมแสนสวยงาม หมอนนอน แก้วมังกรหยกแสนอร่อย ลูกปัดแปลกๆ … แต่พวกมันไม่ใช่สิ่งที่เฉินรุยต้องการ ยิ่งกว่านั้น พวกมันมีราคาสูงมาก แก้วมังกรหยกในร้านนี้มีราคาอยู่ที่ 50 เหรียญคริสตัลสีม่วง ส่วนตุ๊กตานั้นมีราคาถึง 10 เหรียญคริสตัลสีดำ นี่เป็นร้านค้าโคตรจะไร้ยางอาย!
ในที่สุด เฉินรุยก็พบเข้ากับหินสีเขียวตรงมุมที่ดูมีประโยชน์ เขาเปิดใช้งานทักษะแปลงออร่าและตรวจสอบมันทันที ก่อนที่มือของเขาจะแตะก้อนหิน จู่ๆก็ได้มีเคียวอันเย็นเชียบเข้ามาขวางหน้าเขารวดเร็วเร็วปานสายฟ้าฟาด
มัจจุราชหญิงคนนี้แข็งแกร่งมาก! แม้แต่กลุ่มของเดงคิก็ไม่สามารถเทียบกับนางได้!
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้ 'ดวงตาวิเคราะห์' แต่เฉินรุยก็คาดเดาความแข็งแกร่งของนางจากการโจมตีของนางได้ ถึงเขาจะระวังตัว แต่เขาคงไม่มีทางหลบการโจมตีด้วยความเร็วสูงแบบนี้ได้หรอก
จากนั้นมัจจุราชหญิงก็ได้เย้ยหยยันแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า " ดูได้ แต่ห้ามจับ!”
บริการลูกค้าแย่อะไรขนาดนี้! ไม่รู้หรือไงว่าลูกค้านะคือ... พระเจ้ามาร?
เฉินรุยโกรธมาก นี่มันทำให้เขาสูญเสียออร่าอันมีค่าไปเลยนะ! แม้ว่าเขาจะมีแต้มร้อยกว่า แต่เขาก็ยังต้องใช้ออร่าสำหรับหลายๆอย่าง ดังนั้นเขาจะต้องใช้พวกมันอย่างระมัดระวัง
ในขณะนั้นเอง จู่ๆก็ได้มีเสียงอันทรงเสน่ห์ดังขึ้นมาจากชั้นบน “ท่านจะไม่เสียใจอย่างแน่นอนกับการชื้อหมากรุกเจ้าหญิงสองชิ้นนี้ ลองมาดูอีกทีเถอะค่ะ”
แบบนี้สิถึงจะเป็นสิ่งที่พนักงานขายควรทำ เฉินรุยรู้สึกว่าเสียงนี้ฟังดูคุ้นมาก ทันใดนั้นเขาก็เห็นหญิงสาวสวยที่มีรูปร่างอันแสนเย้ายวนใจอยู่ที่หัวบันได ลูกค้าเซ็นทอร์ตัวผู้ที่กำลังเดินลงบันไดชั้นล่างก็มองย้อนกลับไปพร้อมกับแสดงสีหน้าลังเลใจ
เมื่อเฉินรุยเห็นคนขายสาว เขาก็ตะลึงและได้พูดโพล่งออกไป "เคีย!"
ดูเหมือนว่าพนักงานขายสาวผู้นี้จะเป็นสาวใช้ของเจ้าหญิงน้อย เคีย ซัคคิวบัสผู้ "แสนจะดึงดูด" ในความคิดของเฉินรุย!
พอมีคนเรียกชื่อของนาง นางก็มองหาไปทั่วจนเห็นเฉินรุย ซึ่งเคียในตอนนี้ที่เป็นสาวใช้ของเจ้าหญิงน้อยก็หลงใหลในฝีมือทำอาหารของเฉินรุยด้วย ความประทับใจของนางที่มีต่อมนุษย์ผู้นี้ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เมื่อนางเห็นเฉินรุย นางก็ยิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์ "เจ้านี้เอง!"
เซนทอร์ที่เห็นเทพธิดาในหัวใจของตนยิ้มให้กับมนุษย์ก็ได้แต่รู้สึกอิจฉามาก เขาเดินเข้าไปหาเฉินรุยพร้อมกับพูดอย่างดุร้าย "ข้า ท่านโอบามา ขอเตือนให้เจ้าอยู่ห่างจากคุณเคียซะ! ไม่อย่างนั้นละก็...."
เฉินรุยในตอนี้ไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เขานั้นไม่สนใจอะไรคนแบบนี้หรอก แต่ชื่อของเซนทอร์ตัวนี้ก็ได้ทำให้เขาตกใจเล็กน้อย คนๆนี้....เขาก็มาด้วยงั้นเหรอ? แต่พอดูจากรูปลักษณ์ของเขาในตอนนี้แล้ว ควรจะเรียกเขาว่า คลินตันหรือแบร์ลุสโกนีจะดีกว่า
จากนั้นมัจจุราชสาวก็ได้โผล่ออกมา นางเคาะอาวุธลงกับพื้นดินและตะโกนออกมา "ไสหัวออกไป!"
ท่านโอบามาได้แต่กระทืบเท้าและสินค้าที่เขาเพิ่งซื้อก็ได้กระจัดกระจายไปทั่วพื้น จากนั้นเขาก็ได้หยิบพวกมันขึ้นมาอย่างเร่งรีบ
เฉินรุยนั้นได้มองไปที่โอบามาโดยไม่ตั้งใจ จากนั้นสายตาของเขาก็ได้แข็งค้าง ดูเหมือนว่านั่นจะเป็น ... เส้นทางฮัวหยงอย่างงั้นเหรอ?
ยังไงก็เหอะ โจโฉ กวนอูและจูล่งได้กลายเป็นสาวงามงั้นเหรอ?
ละเมิดลิขสิทธิ์เห็นๆ! นี่เป็นการละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาเลยนะ!
เดี๋ยวก่อนนะ หมากรุกเจ้าหญิงอย่างงั้นเหรอ? เฉินรุยรู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นฝีมือของเจ้าหญิงน้อย!
ท่านโอบามาได้หยิบของที่เขาชื้อขึ้นมา โดยที่เขาไม่กล้าจะพูดอะไรและก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว
"เคีย เจ้าเปิดร้านเช่นนี้ขึ้นเมื่อไหร่กัน?" เฉินรุนเดินขึ้นไปชั้นบนแล้วก็ถามขึ้นมา มัจจุราชสาวสังเกตเห็นว่าเคียและชายหนุ่มกำลังเข้าใกล้กัน ดังนั้นนางจึงเข้ามาขวางเขาไว้ ส่วนแซลลี่ทำได้เพียงยืนมองจากชั้นล่างเท่านั้น มันนั้นกลัวที่จะขึ้นไป
เคียก็ได้แต่ส่ายหัว "ร้านนี้เป็นร้านค้าของเจ้าหญิงน้อย"
เขาว่าแล้วไง! อลิซไปเป็นนักธุรกิจตอนไหนกัน? ว่าแต่มันเป็นเรื่องจริงหรือเนี่ย?
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ร้านค้าแห่งนี้จะเต็มไปด้วยของแปลกๆ ไอ้ร้านแบบนี้มีลูกค้าจริงๆงั้นเหรอ?
เฉินรุยมองไปที่เคียที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติก็ได้คิดได้ในทันที: กับดักน้ำผึ้งอันแสนหอมหวาน!
โลลิตัวน้อยผู้นั้นน่ารังเกียจเกินไปแล้ว จริงๆแล้วนางแค่อาศัยความสวยของเคียก็เท่านั้นแหละ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมนางถึงต้องจ้างมัจจุราชสาวแสนน่ากลัวมาด้วย หากไม่มีการคุมเข้ม อาจจะมีพวกนิสัยเสียบางคนทำอย่างที่พวกมันต้องการ
อย่างไรก็ตาม ร้านค้าในเมืองพระจันทร์ดับหรืออาณาจักรมารต่างก็ต้องการให้มีลูกค้าเข้า แม้ว่าอลิซจะฉลาด แต่นางก็ไม่ได้คิดนอกกรอบมากเกินไป หากนางใช้วิธีการทางธุรกิจและโปรโมชั่นที่เฉินรุยได้เรียนรู้ในชีวิตที่ผ่านมาละก็ ธุรกิจของร้านคงจะไม่เป็นเช่นนี้
เฉินรุยมองดูสินค้าบนชั้นสองและก็พบเข้ากับหมากรุกเจ้าหญิง อันที่จริง มันเป็นเส้นทางฮัวหยงที่ถูกคิดขึ้นมาใหม่ มันได้เปลี่ยนเป็นเนื้อเรื่องของมารสาวแสนสวยสุดเซ็กซี่ที่พยายามหนีจากพวกนิสัยเสียหรือมารหนุ่มกล้ามแน่นที่พยายามหนีจากเหล่ามารสาวสุดเซ็กซี่
เฉินรุยรู้สึกสลดใจเป็นอย่างมาก ผู้สร้างเส้นทางฮัวหยงจะต้องหลั่งน้ำตาแน่นอนถ้าเขาได้เห็นสิ่งนี้
“หมากรุกเจ้าหญิงนี้…เจ้าหญิงน้อยเป็นคนสร้างมันขึ้นมาใช่ไหม?”
เคียที่เห็นว่าเขากำลังตื่นเต้นอยู่ก็ได้พยักหน้า "เจ้าหญิงทรงปราดเปรื่องเป็นอย่างมาก ไม่มีใครอยากซื้อรูปลักษณ์เดิมของมันหรอก ดังนั้นพวกเราจึงได้เปลี่ยนแปลงจนขายออกไปได้หลายชุด ... แต่เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกสุขใจขนาดนั้นก็ได้นะ "
นี้เขาดูมีความสุขหรือไง? เฉินรุยในตอนนี้นั้นมี "ความสุข" มากจนพูดไม่ออก
มีของหลายสิ่งหลายอย่างที่อยู่บนชั้นสอง ไม่เพียงแค่จะมีหมากเจ้าหญิงที่ละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ยังมีหนังสือบางเล่มอยู่ด้วย บางเรื่องก็เป็นเรื่องราวที่เฉินรุยเล่าให้อลิซฟังอย่าง "ราชามารและเจ้าหญิง: ฉบับเต็มล่าสุด "ก็มีอยู่ ซึ่งบนชั้นสองมีแต่ของละเมิดลิขสิทธิ์อยู่มากมาย ดูเหมือนว่าการละเมิดลิขสิทธิ์โลลิน้อยผู้นี้จะมากเกินไปแล้ว ดูเหมือนว่านางจะจดจำสิ่งต่างๆที่นางฟังมาจากเขา แต่นางคงไม่มั่นใจว่าหนังสือของอาณาจักรมารนั้นใช้การพิมพ์เอาหรือทำด้วยเวทย์มนต์ มันจึงมีการทำด้วยวิธีทั้งสองแบบปนๆ กันไป
ซึ่งหนังสือพวกนี้ก็ดูปกติดี แต่พอเห็นชื่อหนังสือมันก็ได้แต่ทำให้เฉินรุยรู้สึกถึงเหงื่ออันเย็นยะเยือก
"พวกผู้ชายทั้งหมดเป็นสัตว์ป่า!" "ภาคหนึ่ง: "เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์ "" ภาคสอง: ยิ่งกว่าสัตว์ป่า" " เวทมนตร์! เพียงจ้องมองก็ตั้งครรภ์ " " ใครบอกว่าผู้ชายแข็งแกร่งกว่าผู้หญิง ลองให้พวกมันตั้งท้องดู "...
เฉินรุยเข้าใจหนึ่งในเหตุผลที่เจ้าหญิงน้อยมีหัวใจอันด่ำมืดและก็โตก่อนไวแล้ว
หนึ่งในนั้นคือการมาบริหารร้านค้านี้ นี่เป็นอะไรที่ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเด็กมากเลยนะ!
แม้ว่าเขาจะสะเทือนใจมาก แต่เฉินรุยยังรู้สึกสนใจที่จะเปิดร้านค้าเริ่มธุรกิจอยู่ เคียบอกเขาว่า ในตอนที่เจ้าหญิงเชียได้มาดูแลเมืองพระจันทร์ดับ นางต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก โดยเฉพาะเรื่องเงิน จะให้กล่าวเลยก็คือ เชียได้ขายสมบัติบางส่วนของราชวงศ์และก็คอลเลกชันส่วนตัวของนางด้วย ในท้ายที่สุด มันก็ทำให้นางผ่านสถานการณ์พวกนั้นมาได้
ร้านค้าที่นางขายของพวกนั้นไปก็ถูกทิ้งไว้ให้อยู่ในสภาพเช่นนี้ หลังจากนั้น อลิซที่เบื่อมากก็มารับหน้าที่ดูแลร้านแห่งนี้ นางมักจะขายของต่างๆมากมายจนมีเงินเข้ากระเป๋าบ้างเป็นบางที เคียเองก็มาช่วยเหลือเป็นครั้งคราวเช่นกัน ตามที่ฟังมาจากเคีย ร้านได้เปิดมาเป็นเวลาสองเดือนแล้ว แต่อลิซไม่เคยที่จะขอเงินจากพี่สาวของนางเลย
แม้ว่าเรื่องราวพวกนี้จะดูน่าเบื่อและไม่น่าสนใจเลย แต่เฉินรุยกลับสังเกตเห็นถึงความหม่นหมองภายใต้เรื่องราวพวกนี้ เชียนั้นมีประสบการณ์มากเกินกว่าที่จะทำเพียงแค่การเปิดร้านขายของ นางจึงเหมือนกับถูกบังคับให้ต้องขายสมบัติของตระกูลไป แต่นางก็ไม่ได้ขี้เหนียวเท่าไหร่นัก ดูจากการที่นางปฏิบัติต่ออัลดาซสิ ส่วนตัวอลิซก็เป็นคนมีเหตุผลมาก แม้ว่านางจะดูชั่วร้ายอยู่บ้างบางที แต่หากพี่สาวของนางประสบปัญหาเมื่อไหร่ นางก็จะสามารถช่วยพี่สาวของนางเสมอ
จากสถานการณ์ของร้านนี้ มันก็ดูเหมือนว่าโลลิตัวน้อยฉลาดมากจิรงๆ เพียงแต่ช่างโชคร้ายที่นางเป็นเพียงมือสมัครเล่นในวงการธุรกิจเท่านั้น
เฉินรุยนั้นกำลังคิดไปเรื่อยๆ จากนั้นก็ได้มีเสียงดังขึ้นมาจากชั้นล่าง ซึ่งแซลลี่ก็ได้เป็นคนตะโกนออกมาว่า "เจ้าหญิงอลิซ!"
อ่า โลลิตัวน้อยมาที่นี่แล้ว!