ตอนที่แล้วบทที่ 21: พยายามที่จะเอาชนะ! เจตนาสังหาร!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 23: ชำระล้างร่างกาย! เริ่มต้นวิวัฒนาการ

บทที่ 22: ใช้ความผิดพลาดต่อยอดให้กลายเป็นทางที่ดี! สาวงามผู้เข้าใจผิด


กำลังโหลดไฟล์

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 22: ใช้ความผิดพลาดต่อยอดให้กลายเป็นทางที่ดี! สาวงามผู้เข้าใจผิด

ความกังวลของเชียไม่ได้ไร้เหตุผลซะทีเดียว ถ้าเฉินรุยสาบานตนจงรักภักดีต่อเจ้าชายออบซิเดียนจริงๆ ไม่เพียงแต่เขาจะเปิดเผยความลับของการท้าทายในวันนี้ แต่ยังรวมถึงพลังของปรมาจารย์ที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของเจ้าชายออบซิเดียนได้อีก

ในตอนแรก นางมีความตั้งใจที่จะเตือนเฉินรุย แต่นางก็รู้สึกไม่แน่ใจในขณะที่นางนั้นเริ่มพูดไปเรื่อยๆ จากเหตุการณ์ที่เจ้าชายออบซิเดียนส่งแซนโดรมา สถานการณ์ในปัจจุบันก็ค่อนข้างเลวร้ายพอสมควร นางไม่ต้องการที่จะให้มีข้อผิดพลาดอะไรอีกแล้ว พ่อของนางเคยสอนไว้ว่า หากใช้หมากไม่ได้ ก็จบอย่าให้ศัตรูใช้มันเช่นเดียวกัน!

เฉินรุยไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะกลายมาเป็นแบบนี้ เขาได้แต่ตะโกนออกมาว่า“เดี๋ยวก่อน! ถ้าข้าต้องการที่จะทรยศ ทำไมข้าถึงไม่ไปกับพวกเมืองหลวงพวกนั้นเลยกันละ?”

“บางทีเจ้าอาจทำสัญญาอยู่ในฐานะของสายลับ”

เหตุผลนี้มันช่างจะดีเลยใช่มั้ย? ทำไมสองพี่น้องสาวถึงโหดร้ายกับเขาแบบนี้! เมื่อเห็นว่าความตั้งใจที่จะสังหารเขาเพิ่มขึ้น เฉินรุยก็แย้งอย่างรวดเร็วว่า“ด้วยตัวตนของข้าในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่งของปรมาจารย์ ข้าจะได้รับการยกย่องจากเจ้าชายออบซิเดียนอย่างแน่นอนถ้าข้าไปที่เมืองหลวง! แล้วทำไมข้าถึงจะต้องมาเป็นสายลับในที่แห่งนี้กันละ?”

เชียเองก็พูดขึ้นมา“ใช่สิ ถ้าเป็นอย่างนั้นทำไมเจ้ายังอยู่ที่นี่?”

เฉินรุยหมดคำจะพูดเลย คำพูดนี้สามารถบอกถึงเหตุการณ์ได้แทบทุกอย่างเลย ถ้าเขาไม่ได้เป็นไอ้โง่ แล้วเขาเป็นอะไรกันเนี้ย?

หรือว่าเขาจะต้องบอกความจริงทุกอย่างไปกันนะ? บางทีตอนจบอาจจะเลวร้ายที่สุดก็ได้ ปากรีโลเองก็คงจะตายไปด้วย

“ใช่แล้ว ทำไมข้าถึงตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้กัน?” เฉินรุยพยายามที่จะดึงเวลาและหาข้อแก้ตัวก่อน “เจ้าหญิง ท่านไม่คิดว่ามันแปลกๆอย่างงั้นเหรอ?”

อาการเครียดของเขาไม่สามารถหลบจากสายตาอันแหลมคมของเจ้าหญิงน้ำแข็งได้เลย เชียมั่นใจมากว่าเขาต้องเป็นตัวปัญหาแน่ น้ำเดือดๆในบ่อเริ่มเดือดขึ้นไปอีกและในนั้นก็ได้มีสัตว์ประหลาดโผล่ออกมา ความเครียดของเฉินรุยเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน ดูเหมือนว่าเขากำลังถูกตรึงให้อยู่กับที่ด้วยแผ่นดินไหวของเจ้าหล่อน ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าหากเขาไม่ใช่เพราะอ้างถึงปรมาจารย์หรืออะไรตั้งแต่ตอนแรกๆ เขาคงจะตายไปนานแล้ว

ระบบสุดยอด ชักช้าอะไรขนาดนี้ฟ๊ะ! ใช้เวลาได้เปลืองชิบหาย!

“ท่านเจ้าหญิง! อย่าได้บังคับข้า!” เฉินรุยรู้ว่านี้เป็นช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย และเขาก็ได้แต่ตะโกนออกไปด้วยพลังทั้งหมดของเขา “ข้าไม่เคยคิดว่าจะต้องพูดแบบนี้ แต่สิ่งที่ข้าสงสัยก็ได้ชัดเจนแล้ว!”

หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ได้ขู่ว่าอลิซนั้นได้ถูก“ยาพิษ” อย่างไรก็ตาม หากเป็นอย่างนี้ตัวตนของมังกรพิษก็จะได้ถูกเปิดเผย สถานการณ์ของมังกรพิษตอนนี้คือถูกตราประทับผนึกไว้อยู่ แต่หากเขาไม่พูดอะไรเลย ตัวเขาก็จะตายในทันทีแน่นอน

พอเป็นอย่างนี้แล้ว เบเฮมอสก็ได้หยุดอยู่ที่อากาศพร้อมกับกำลังรอคอยคำสั่งอยู่ เฉินรุยทำท่าหยิบกระเป๋าหนังเล็กๆออกมาแล้วพูดเสียงดังว่า “สิ่งแรกที่ต้องอธิบายคือเคมพยายามล่อลวงข้าจริงๆ เขาชักชวนข้าให้ไปที่เมืองหลวงด้วยกันเพื่ออยากจะรู้สูตรที่สามารถสังหารแซนโดรได้ แม้ว่าสูตรนั้นจะเป็นของปลอม แต่การที่ข้าสืบทอดจากปรมาจารย์นั้นเป็นของจริง ข้าไปได้แน่นอน เพียงแต่ข้าไม่คิดที่จะไป!”

"ข้าสาบานเลยว่า ข้าไม่คิดที่จะทรยศหักหลังต่อราชวงศ์ขององค์หญิง! ทั้งนี้ ข้าก็ไม่ต้องการจะจากไปจากเมืองพระจันทร์ดับด้วย!"

น้ำเสียงที่หนักแน่นนี้ทำให้เชียเริ่มคิดอีกรอบหนึ่ง หากเป็นอย่างนี้แล้ว มนุษย์ผู้นี้ยังมีเหตุผลอะไรให้อยู่ยังที่นี่อีก? ทำไมเขาถึงทำสิ่งที่โง่เง่าช่นนี้ ด้วยการเผยสติปัญญาของเขาในการแข่งขันระหว่างการท้าทายปรมาจารย์นี้ด้วย?

“สิ่งที่ข้าจะพูดต่อไปนั้นเป็นเรื่องจริง ข้าเกรงว่าบางทีเจ้าหญิงอาจจะเกลียดข้าไปเลยก็ได้” เฉินรุยรู้สึกว่าแรงกดดันรอบตัวเขาน้อยลงมาก แต่มันอาจจะรุนแรงขึ้นอีกก็ได้ เขาแอบยิ้มอย่างขมขื่น พยายามใช้ถ้อยคำไพเราะที่สุดที่เขาจะคิด“สิ่งนี้มันเหมือน…มันเหมือนกับความรู้สึกบางอย่าง มันมาโดยไม่ได้บอกได้กล่าว มันไม่อาจจะควบคุมได้ ... มันเริ่มต้นขึ้นมาเมื่อข้า...”

เชียดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างและดวงตาของนางก็ดูแปลกๆมากขึ้น เมื่อเฉินรุยกัดฟันและเตรียมพร้อมที่จะบอกเหตุการณ์ที่ทะเลสาบสีฟ้า ทันใดนั้นนางก็พูดขึ้นมาว่า “เดี๋ยวก่อน! อย่าพูดออกมานะ!”

จิตสังหารโดยรอบได้หายไปในทันที น้ำค่อยๆตกลงมา แสงจันทร์ก็ได้กลายเป็นสีม่วงจางๆเหมือนเดิม

ทันใดนั้นเซียก็ได้เปลี่ยนความคิดต่อเฉินรุยไปอย่างสิ้นเชิง“เจ้าหญิง…”

เชียรู้สึกโกรธเล็กน้อย “อย่าพูดขึ้นมานะ! หยุดความปรารถนาแบบนั้นไว้”

ความปรารถนาแบบนั้นงั้นเหรอ? มันจะต้องเป็นเรื่องอันตรายที่เขากำลังเล่าสิ หรือว่านางจะไม่เข้าใจที่ข้าสื่อกัน?

ทันใดนั้นเอง สมองของเฉินรุยก็เริ่มตระหนักถึงเรื่องบางเรื่อง“นี่…”

“เฉินรุย ฟังข้า” ลมหายใจของเชียค่อยๆเป็นปกติและพูดอย่างสงบ“มันเป็นความผิดพลาดของข้า ข้าเข้าใจเจ้าผิดเอง ข้าคงทำได้เพียงขอโทษเจ้า ข้าสัญญาว่าเมื่อเจ้าประสบความสำเร็จ ข้าจะยกเคียให้กับเจ้า สำหรับตัวข้า…กับเจ้า มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก หากเจ้ายังจมปลักกับมันอยู่ ข้าก็ได้แต่ขอโทษเจ้าจริงๆ”

เมื่อเฉินรุยได้ยินประโยคสุดท้าย เขาก็คิดถึงตอนแรกที่เขามองไปที่นางอย่างไม่เหมาะสม และพอคิดถึงคำพูดของดาร์คเอลฟ์ในตอนนั้นอีก ในที่สุด เขาก็ตระหนักว่าเชียกำลังเข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อผิดจริงๆ

ช่างเป็นความเข้าใจผิดที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน!

ช่างมาในเวลาที่เหมาะสมซะด้วย!

ต้องขอบคุณทักษะการจินตนาการของตระกูลลูซิเฟอร์! ไม่อย่างนั้น เรื่องนี้มันก็คงจะจบลงไปนานแล้ว!

เนื่องจากถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้แล้ว มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรอีกที่เขาจะต้องพูดถึงภัยคุกคามในทะเลสาบสีฟ้า วิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้คือ การพยายามใช้ข้อผิดพลาดให้กลับมาเป็นเรื่องที่ดี ด้วยการพยายามครอบครองหัวใจนาง เพื่อที่จะไม่ทำให้นางสงสัยเขาอีกครั้ง

เฉินรุยรู้สึกโชคดีมากและเขาก็คิดเรื่องนี้เพียงผิวเผินเท่านั้น “ข้าสิที่ควรจะเป็นคนที่ต้องขอโทษ ข้าเป็นเพียงแค่มนุษย์ ผู้อ่อนแอที่ไม่มีพลัง แต่ข้าได้สร้างปัญญาให้กับเจ้าหญิง ในวันนี้ ข้าไม่แน่ใจว่าข้าจะสามารถเอาชนะพิษกลืนวิญญาณของแซนโดรได้หรือไม่ พลังของปรมาจารย์ไม่ได้มีอำนาจเหนือทุกสิ่งอย่าง ข้าคิดว่าตัวข้าจะตายไปเสียแล้ว ... แต่ในเวลานั้น ข้าก็รู้สึกว่าระยะทางที่ไกลที่สุดในโลกไม่ใช่ระยะห่างระหว่างชีวิตและความตาย แค่เพียงข้าได้ยืนอยู่ต่อหน้าท่าน แต่ท่านไม่รู้เลยว่าข้า…”

"หยุดนะ!" ตาของเชียนั้นดูเย็นชามาก “ข้าจะพูดอีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หากเจ้ากล้าพูดเช่นนี้อีกครั้ง ก็ตาย! หากเจ้ากล้าคิดอีกครั้ง ก็ตาย! หากการพูดคุยวันนี้ได้แพร่กระจายออกไป ก็ตายซะ!”

เชียได้เผยกลิ่นอายแห่งการสังหารออกมาขณะที่นางพูด แต่เมื่อเทียบกับจิตสังหารก่อนหน้านี้ มันก็เหมือนกับแกะที่กำลังสวมหนังหมาป่า เฉินรุยรู้สึกว่านางคงกำลังสับสนอยู่ นับตั้งแต่เขาบรรลุวัตถุประสงค์ของเขา เขาก็จะไม่ท้าทายคำพูดของเชียแน่นอน

ตาที่เย็นชาของเชียค่อยๆดูโดดเดี่ยวและเสียงอันแสนเย็นชาของนางก็ได้ดังขึ้นมา “ออกไปซะ ก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจ”

เฉินรุยซึ่งเป็นคนช่างสังเกตอยู่เสมอก็ได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะเขารู้ว่าตัวเขาได้ผ่านการทดสอบแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาอดไม่ได้ที่จะด่านักออกแบบระบบสุดยอดในใจของเขา ระยะทางที่ไกลที่สุดในโลกไม่ได้อยู่ที่ด้านหน้าของเจ้าหญิงหรอก แต่เจ้าหญิงคงคิดว่าข้าชอบนาง! ดูเหมือนว่าอีกเจ็ดถึงแปดชั่วโมงระบบสุดยอดบ้าๆนี้ถึงจะเริ่มต้นขึ้น!

เมื่อข้าผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านี้ไปแล้วละก็ ระบบสุดยอดนี้ก็จะแสดงพลังของมันออกมา จากนั้น ทุกสิ่งก็จะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แล้วข้าก็จะมีพลังแสนสุดยอด ไม่ว่านางจะมีพลังอำนาจเพียงใด นางก็คงได้แต่เพียงยอมรับความพ่ายแพ้เท่านั้น

"จากนี้ไป เจ้าเลือกที่จะอยู่หรือจากไปในเมืองพระจันทร์ดับก็ได้ ข้าไม่ห้ามเจ้าหรอก"

เสียงของเชียที่ดังขึ้นได้ทำให้เฉินรุยหยุดเดิน เมื่อเขามองกลับไป เชียก็ได้หันหน้าไปทางสระน้ำแล้ว หลังของนางยังคงสง่างาม แต่มันดูค่อนข้างโดดเดี่ยวเหลือเกิน เฉินรุยรู้เลยว่า ในการแสดงออกที่แสนเย็นชาของนาง ด้านในนั้นมันมีความอ้างว้างโดดเดี่ยวอยู่ภายใน

“ข้าจะอยู่” เฉินรุยหายใจลึกๆแล้วพูดขึ้นมาเบาๆ ไม่แน่ใจว่าเขาจะตอบนางหรือแค่พูดเตือนความจำตัวเอง จากนั้นเขาก็ได้เดินจากไป

เชียก็จ้องมองเพียงผิวน้ำด้านหน้าตนเอง นางยังคงอ้างว้างเหมือนเดิมเหมือนยามที่เขาเพิ่งมาถึงยังที่นี่

เมื่อกลับไปที่ห้องทดลองแล้ว ปรมาจารย์ดาร์คเอลฟ์ที่อยู่ภายใต้แสงไฟก็ดูจะอารมณ์ไม่ดีเลยสักนิด เมื่อใดก็ตามที่เขาคิดถึงฉากการปล่อยก๊าซพิษ อัลดาซก็อดไม่ได้เลยที่อยากจะฆ่าชายผู้นี้ที่เป็นคนต้นคิดเรื่องราวทั้งหมด ปัญหาคือ แม้แต่พิษของแซนโดรก็ไม่สามารถทำอะไรกับเฉินรุยได้ ดังนั้นเรื่องนี้จึงได้ฝังอยู่ในใจของเขา

อย่างไรก็ตาม ดาร์คเอลฟ์ผู้กำลังโกรธเกรี้ยวผู้นี้จัดการได้ง่ายกว่าเชียอย่างแน่นอน เฉินรุยได้อธิบายสาเหตุของการตายของแซนโดรโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากเท่าไหร่เลย แม้ว่าอัลดาซนั้นจะไม่พอใจต่อความคิดที่โง่เขลาของมนุษย์คนนี้ แต่เขาก็รู้สึกซาบซึ้งในความช่วยเหลือของเขาที่ช่วยฆ่าแซนโดร สิ่งเดียวที่ทำให้เสียใจก็คือ พิษกลืนวิญญาณ ไม่สามารถนำไปศึกษาต่อได้แล้ว

ในคืนนั้น เฉินรุยนอนไม่หลับเลย เพราะตัวเขากำลังรอระบบสุดยอดเริ่มต้นอยู่

เวลาผ่านไปทีละน้อย เมื่อเปลือกตาของเฉินรุยกำลังจะปิดลง ก็ได้มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น “ติ๊ง!” มันดังขึ้นมาในหัวของเขา

(การกลั่นวิญญาณกลับสู่ความว่างเปล่า! การฝังวิญญาณสำเร็จ! ปลดดาบอมตะ หมื่นดาบหวนคืน! เจ้าชายออบซิเดียนจะต้องตาย จักรวรรดิเลือดและเงาจักต้องถูกทำลาย คู่พี่น้องเจ้าหญิง ไซเรนและผู้หญิงที่แสนร้ายกาจนั้นจะต้องเป็นนางบำเรอของข้า! รวมอาณาจักรมารเข้าด้วยกัน ทำให้ใครอื่นไม่กล้าปฏิเสธตัวเขา เนื้อหาข้างต้นช่างเป็นเรื่องราวที่ดูแฟนตาซีเสียจริง ซึ่งมันก็ดูคล้ายคลึงกับสถานการณ์ของเขาในตอนนี้มาก

ซึ่งในตอนนี้มันก็ได้เด้งขึ้นมาอีกว่า "ระบบสุดยอดได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ท่านต้องการเข้าใช้งานเลยหรือไม่?"

อาการง่วงนอนของเฉินรุยได้หายไปทันทีและเขาก็ได้ยืนยันด้วยการกดคำว่า“ใช่”

หลังจากที่เขาตอบรับนั้นไป สมองของเฉินรุยก็ได้ดังขึ้น “บูม!” จากนั้นฉากแปลกๆก็ได้ปรากฏขึ้นมา

มันไม่มีท้องฟ้าหรือผืนดิน ทุกๆที่มืดมนไปหมด จิตสำนึกของเฉินรุยเหมือนกับกำลังลอยเคว้งอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง มันให้ความรู้สึกเหมือนกับนี้เป็นที่ๆไม่มีที่สิ้นสุดและสถานที่แห่งนี้ก็ดูราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตอะไรเลย มันเต็มไปด้วยความเงียบสงบราวกับความตาย

นี่เหรอคือระบบสุดยอดที่รอมาแสนนาน?

จากนั้นก็ได้มีเสียงดังขึ้นมาว่า “ได้รับดวงวิญญาณเริ่มต้น 100 ดวง ความต้องการที่จะเปิดใช้งานอารามพระเจ้ากาแล็คซีได้เข้าขั้นแล้ว ท่านต้องการเปิดใช้งานหรือไม่?”

อารามพระเจ้ากาแล็คซี? ชื่อนั้นฟังดูดีเลยทีเดียว เฉินรุยยืนยันด้วยความหวัง “ใช่!”

ฉากโดยรอบได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง เฉินรุยในตอนนี้กำลังอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ ห้องโถงนี้ดูโบราณและเรียบง่าย มีหมอกที่เป็นประกายจนดูเหมือนกับดาวอยู่ทั่ว มันทั้งดูลึกลับและน่าหลงไหล

ห้องโถงนี้ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ปิด พอมองลงมาจากบันไดแล้ว แค่ปรายตามองไปรอบๆก็รู้สึกเหมือนกับถูกดึงดูดเข้าไปเลย

เฉินรุยคิดว่าพอเขาเข้ามาที่อารามพระเจ้ากาแล็คซีและสำรวจแล้ว เขาก็จะออกไปในทันที ดูเหมือนว่า "หน้าต่าง" ของระบบสุดยอดนั้นใช้ง่ายมาก ไม่จำเป็นต้องใช้แป้นพิมพ์หรือเมาส์เลย เขาสามารถใช้ความคิดของเขาก็สามารถทำได้ทุกอย่างแล้ว

พื้นที่ในห้องโถงนั้นกว้างเกินจินตนาการ เสาปูนที่นูนออกมาและกระเบื้องสี่เหลี่ยมก็ทั้งสวยงามและงดงามอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ห้องโถงทั้งหมดนั้นว่างเปล่า ยกเว้นเพียงบัลลังก์โบราณตรงกลาง

เฉินรุยเข้ามานั่งตรงบัลลังก์และรู้สึกว่าห้องโถงนั้นโปร่งแสงขึ้นมา แล้วเขายังสามารถมองไปด้านนอกได้อีก

ในขณะนั้น แสงแปลกๆก็ได้กระพริบและหน้าจออันบางเฉียบที่ส่องประกายก็ได้แวววาวต่อหน้าต่อตาของเขา

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด