ตอนที่ 11 เสื้อกั๊กหนามและดาบวายุ
ตอนที่ 11 เสื้อกั๊กหนามและดาบวายุ
ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย
“20 เหรียญเงิน ชุดเกราะ 4 ชุด ดาบ 5 เล่ม แล้วก็เครื่องประดับ” วัตสันเหลือบมองของที่อยู่บนพื้น
ของที่เห็นอยู่เป็นของที่พวกของเวสลีย์วางทิ้งไว้ ของส่วนมากเป็นชุดเกราะหนักรวมไปถึงดาบยาว จากสัญชาตญาณที่มีวัตสันก็รู้ได้ทันทีว่าดาบที่เห็นทำมาจากเหล็กคุณภาพสูง หลังจากที่เหลือบมองทุกอย่างวัตสันก็หันไปมองผู้เป็นพี่ชาย วินเซนต์ยังคงสวมใส่เสื้อผ้าแบบไร้ชุดเกราะ “พี่ครับ ทุกคนต่างก็มีชุดเกราะติดตัว แต่ทำไมพี่ถึงไม่มีกัน? เป็นเพราะพี่มีร่างกายแข็งแกร่งจนไม่ต้องพึ่งพาชุดเกราะอย่างงั้นเหรอครับ?”
“แข็งแกร่งอย่างงั้นเหรอ? ฉันน่ะเป็นแค่นักรบระดับเหล็ก ยังไงซะฉันก็ต้องการชุดเกราะอยู่แล้ว ชุดเกราะแต่ละชุดมีราคาราวๆ 10 เหรียญเงิน พี่น่ะทำงานกับลิสท์มาเป็นเวลานาน แต่ถึงแบบนั้นก็เหลือเพียงแค่ 8 เหรียญเงิน พวกเวสลีย์ที่ทำงานมานานกว่ามาก พวกเขาตัดสินใจใช้เงินส่วนหนึ่งซื้อของพวกนี้ยังไงล่ะ” วินเซนต์ยิ้มอย่างขมขื่นก่อนที่จะมองไปที่ดาบในมือ
ดาบที่มีขนาดหนาพอๆ กับประตู มันเป็นดาบที่ไม่ได้ทำมาจากเหล็กชั้นดี เมื่อเทียบกับดาบเหล็กกล้าแล้วดาบสีดำของวินเซนต์มีความเปราะบางและแตกหักง่ายกว่ามาก
เป็นเพราะช่วงเวลาในการทำงานของเขาต่างจากคนอื่นๆ เวสลีย์และคนอื่นๆ ได้ทำงานให้กับลิสท์มาเป็นเวลากว่า 20 ปี เงินที่วินเซนต์มีอยู่ในตอนนี้ก็เพราะความขยันรวมไปถึงความประหยัด
“ถ้าเป็นอย่างงั้นผมจะทำชุดเกราะให้พี่เอง” วัตสันที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่งได้พูดออกมา การใส่ชุดเกราะที่เห็นอยู่ก็คงจะไม่มีประโยชน์มากมายอะไร วัตสันยังมีระบบฟิวชั่นอยู่กับตัว ตัวเขาสามารถรวบรวมชุดเกราะทั้ง 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของชุดเกราะได้
“นายสร้างชุดเกราะได้ด้วยอย่างงั้นเหรอ?” วินเซนต์เหลือบมองวัตสันอย่างประหลาดใจ
ในบรรดาอาชีพทั้งหลายที่มี อาชีพช่างตีเหล็กถือเป็นอาชีพที่หายากและน่านับถืออีกอาชีพหนึ่งในอาณาจักรมังกรศักดิ์สิทธิ์
ในตอนที่วินเซนต์ได้ซื้อดาบใหญ่ที่มี ในตอนนั้นตัวเขาได้เห็นกระบวนการตีเหล็กมากับตา ช่างตีเหล็กทั้งหลายล้วนแต่เป็นชายร่างใหญ่ผู้ทรงพลัง การสร้างอาวุธแต่ละครั้งจะต้องใช้ค้อนตีเหล็กกว่าหลายพันหลายหมื่นครั้งเพื่อที่จะสร้างอาวุธที่ดีขึ้นมาได้ การตีเหล็กอาจจะใช้เวลานานหลายวันจนไปถึงหลายเดือน วินเซนต์ไม่เคยคิดมาก่อนว่าน้องชายคนเล็กอย่างวัตสันที่ผอมแห้งจะมีทักษะการตีเหล็กได้
นอกจากการใช้เวทมนตร์ วัตสันยังเป็นนักรบระดับเงิน และเขายังมีทักษะการตีเหล็ก ทักษะที่วัตสันมีไม่เหมาะกับเด็กอายุ 10 ขวบแม้แต่เพียงนิดเดียว
อาวุธในโลกใบนี้ก็เหมือนกับระดับการฝึกฝนบ่มเพาะ มันถูกแบ่งออกเป็นระดับเช่นเดียวกัน อุปกรณ์ป้องกันที่มีระดับสอดคล้องกับอาวุธจะสามารถต้านทานการโจมตีกันได้ สำหรับนักสู้มืออาชีพ อาวุธเพียงแค่ชิ้นเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คนคนนั้นเป็นฝ่ายได้เปรียบ
ถ้าหากวินเซนต์มีดาบระดับทองแดงและชุดเกราะระดับทองแดงอยู่กับตัว ตัวเขาก็คงจะสามารถเอาชนะเวสลีย์และพรรคพวกได้ น่าเสียดายที่อาวุธระดับทองแดงมีค่ากว่า 100 เหรียญทอง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่วินเซนต์จะหาอาวุธแบบนั้นมาครอบครอง
“อย่าคิดมากไปเลยพี่ ผมพอมีความรู้อยู่นิดหน่อยน่ะ บางทีผมอาจจะสร้างชุดเกราะขึ้นมาก็ได้” วัตสันพูดอย่างถ่อมตัว
วินเซนต์ถอนหายใจเมื่อได้ฟังแบบนั้น ถ้าหากวัตสันสามารถสร้างชุดเกราะชั้นเลิศขึ้นมาได้ เมื่อถึงตอนนั้นตัวเขาก็คงจะคิดว่าวัตสันเป็นสัตว์ประหลาดอย่างสมบูรณ์แบบ
หลังจากที่ได้ฟังวัตสันโต้ตอบกลับมา วินเซนต์ก็ไม่คิดว่าน้องคนนี้จะเป็นช่างตีเหล็กจริงๆ มันฟังดูเหมือนกับวัตสันแค่ต้องการของเล่นเท่านั้น “ไม่ต้องห่วงไปหรอกวัตสัน ยังไงซะของพวกนี้ก็เป็นของคนอื่นอยู่แล้ว การจะอุปกรณ์ต่อสู้ขึ้นมาใหม่คงต้องใช้เตาหลอมเหล็ก พี่เองก็พอจะรู้จักช่างตีเหล็กอยู่บ้าง เอาไว้วันไหนพี่จะพานายไปรู้จักกับช่างตีเหล็กพวกนั้นเอง” การจะหลอมอุปกรณ์ต่อสู้เพื่อสร้างอุปกรณ์ชิ้นใหม่จะต้องอาศัยเตาหลอมอุณหภูมิสูง นอกจากนี้ยังต้องใช้ค้อนเหล็กเพื่อขึ้นรูปอุปกรณ์ หากไม่มีอุปกรณ์พวกนั้น แม้แต่ช่างตีเหล็กที่เก่งกาจที่สุดก็คงจะไม่อาจสรรค์สร้างอาวุธได้
“ตอนนี้ท่านพ่อยังไม่รู้เรื่องที่เวสลีย์ต้องการขโมยไก่หอมหวนห้าสี พี่จะต้องรีบไปบอกท่านพ่อก่อน! พวกเราจะต้องเสริมการป้องกันให้ได้มากที่สุด ถ้าหากไม่ได้ผลจริงๆ พวกเราคงต้องจ้างคนที่เชื่อใจได้ปกป้องไก่หอมหวนห้าสีซะแล้วล่ะ” วินเซนต์กังวลเกี่ยวกับไก่หอมหวนห้าสีมากที่สุด หลังจากที่พูดเสร็จตัวเขาก็รีบจากไป
เมื่อเห็นผู้เป็นพี่เดินจากไป วัตสันก็เริ่มนั่งลงกับพื้น
วินเซนต์คงจะคิดว่าวัตสันต้องการเตาหลอมเหล็ก แต่ระบบฟิวชั่นของเขามันเป็นอะไรที่สะดวกกว่านั้นมาก วัตสันไม่สามารถอธิบายอะไรเกี่ยวกับระบบให้ผู้เป็นพี่ฟังได้ สิ่งแรกที่วัตสันตั้งใจจะทำจากนี้นั่นก็คือการหลอมรวมชุดเกราะ แต่การจะมอบชุดเกราะชั้นเลิศให้กับวินเซนต์คงจะเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเกินไป เพราะแบบนั้นวัตสันจึงตั้งใจเว้นระยะเวลาไปพักหนึ่ง เมื่อถึงตอนนั้นตัวเขาจะแสร้งทำเป็นพบกับช่างตีเหล็กและได้ชุดเกราะมา
เมื่อมองชุดเกราะทั้งหลาย ทันใดนั้นก็มีข้อความปรากฏขึ้น
[ชุดเกราะระดับเหล็ก: เกราะเหล็กบริสุทธิ์]
[ผล: สามารถต้านทานการโจมตีจากผู้ที่มีความแข็งแกร่งระดับเหล็กได้]
[ต้องการที่จะฟิวชั่น?]
“ฟิวชั่น”
วัตสันพยักหน้า ในทันใดนั้นเองชุดเกราะหลายชิ้นที่อยู่ตรงหน้าก็ส่องแสงสว่างออกมา ท้ายที่สุดแล้วพวกมันก็หลอมรวมกัน เมื่อแสงจางหายไปวัตสันเห็นแต่เพียงชุดเกราะที่เต็มไปด้วยหนาม
[ฟิวชั่นสำเร็จ ได้รับเกราะระดับทองแดง: เสื้อกั๊กหนาม]
[เกราะระดับทองแดง: เสื้อกั๊กหนาม]
[ผล: สามารถต้านทานการโจมตีของคู่ต่อสู้ 50%, ลดพลังโจมตีจากผู้ที่มีความแข็งแกร่งระดับต่ำกว่าทองแดง]
หลังจากที่ปรับขนาดของเสื้อกั๊กหนาม วัตสันมันก็ได้สวมใส่ชุดเกราะตัวใหม่ ตัวเขารู้ได้ทันทีว่าเสื้อกั๊กตัวนี้มันใหญ่จนเกินไป มันใหญ่จนใส่ไม่พอดีกับตัวของวัตสัน
วัตสันได้หยิบดาบบางๆ ขึ้นมาจากพื้นก่อนที่จะทดสอบฟันบนลงร่างกายของตัวเอง แม้ว่าวัตสันจะอายุยังน้อย แต่พละกำลังที่ตัวเขามีมันก็เกินกว่าพันชั่งไปแล้ว เพราะแบบนั้นการโจมตีของตัวเขาจึงทรงพลัง
ดาบบางๆ ถูกดีดออกจากชุดเกราะไปในทันที เสื้อกั๊กหนามไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่เพียงนิดเดียว ในทางกลับกันที่ใบดาบเกิดรอยแตกร้าวแทน
“ชุดเกราะนี่แข็งแกร่ง!”
วัตสันดวงตาเป็นประกาย ดาบบางๆ เป็นอาวุธระดับเหล็ก แต่ถึงแบบนั้นมันก็กลายเป็นของไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าเสื้อกั๊กหนาม ถ้าหากตัวเขามีเสื้อกั๊กในก่อนหน้านี้ วัตสันก็ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องกินไข่เพลิงโลกันตร์ฟินิกซ์ ตัวเขาจะต้องยืนหยัดและรับการโจมตีจากเวสลีย์ได้แน่
วัตสันสัมผัสชุดเกราะด้วยความรักก่อนจะถอดมันออกมา แม้ว่ามันจะเป็นเครื่องป้องกันที่ดีก็ตาม แต่ตัวเขาก็สัญญาไว้แล้วว่าจะมอบมันให้กับวินเซนต์ผู้เป็นพี่ชาย ยิ่งไปกว่านั้นเสื้อตัวนี้ยังใหญ่จนเกินไป มันคงจะดีกว่าถ้าหากตัวเขาจะมอบมันให้กับวินเซนต์
หลังจากที่หลอมรวมชุดเกราะได้วัตสันก็เหลือบมองไปยังดาบที่เหลืออยู่ แน่นอนว่าตัวเขาจะไม่ยอมปล่อยให้ดาบเล่มนั้นเสียเปล่าไป วัตสันเลือกที่จะฟิวชั่นมันทั้งหมด
[ฟิวชั่นสำเร็จ ได้รับอาวุธระดับทองแดง: ดาบวายุ]
[ผล: สามารถทำลายการป้องกันของผู้ที่มีพลังระดับทองแดงได้]
[ผลพิเศษ: เมื่อดาบถูกใช้ ใบมีดจะสามารถบีบอัดอากาศโดยอัตโนมัติได้ อากาศที่ถูกบีบอัดจะกลายเป็นคมดาบสายลม การโจมตีจากคมดาบสายลมสามารถไปได้ไกลสูงสุด 10 เมตร]
แม้จะใช้ดาบเรียวบางในการหลอมรวมถึง 5 เล่ม แต่ขนาดดาบเล่มใหม่ที่ได้กลับใหญ่ขึ้นกว่าหลายเท่าตัว มันเป็นดาบสีเขียวสวยงาม
วัตสันหยิบดาบขึ้นมาก่อนที่จะกวัดแกว่งมัน ทุกครั้งที่ดาบฟาดผ่านสายลม ใบดาบก็จะเปลี่ยนสายลมให้กลายเป็นคมดาบ เมื่อเหวี่ยงดาบได้แรงมากพอดาบวายุก็จะสามารถปล่อยคมดาบสายลมออกมาได้ การโจมตีของดาบวายุได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้กับพื้นดิน วัตสันอดไม่ได้ที่จะดีใจเมื่อเห็นพลังของดาบวายุ
พลังโจมตีของดาบเล่มนี้เทียบเท่าได้กับพลังของเวสลีย์ ไม่ว่าผู้ใช้จะอ่อนแอไร้ความสามารถ แต่ถ้าหากมีอาวุธชิ้นนี้คนคนนั้นก็จะมีพลังเทียบเท่ากับเวสลีย์ได้ วัตสันไม่แปลกใจเลยที่ทำไมทุกคนจึงอยากได้อาวุธชั้นยอด
หลังจากนั้นวัตสันก็ได้หลอมรวมเสื้อผ้ารวมไปถึงเครื่องประดับทั้งหมดที่ถูกทิ้งไว้ น่าเสียดายที่ของที่เหลือที่ผ่านการฟิวชั่นเป็นเพียงของระดับเหล็ก แต่ถึงแบบนั้นมันก็กลับกลายเป็นของชิ้นใหม่ วัตสันสวมใส่สร้อยคอก่อนที่จะตัดสินใจให้ชุดหลวมๆ ที่ได้มาใช้เป็นชุดนอนไป
ครอบครัวของวัตสันมีฐานะที่ยากจน และในฐานะที่ตัวเขาเป็นถึงลูกคนที่แปด มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ตัวเขาจะต้องประหยัด
...
ไม่ไกลจากวัตสันเท่าไหร่
“นี่มันอะไรกัน?”
วินเซนต์ที่กำลังซ่อนตัวอยู่หลังรั่วเตี้ยๆ ของฟาร์มไก่มองไปที่วัตสันก่อนที่จะอ้าปากค้าง “ชุดเกราะพวกนั้นหายไปและกลายเป็นเสื้อกั๊กแทน ดาบบางๆ เองก็กลายเป็นอาวุธระดับทองแดง ของทั้งหมดถูกหลอมรวมโดยที่ไม่ผ่านเตาหลอม? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?”
วินเซนต์ที่กำลังจะเดินจากไปคิดอะไรขึ้นมาได้ ก่อนหน้านั้นตัวเขาเห็นวัตสันเอาไข่มากว่าร้อยฟอง แต่จู่ๆ ไข่พวกนั้นก็กลายเป็นลูกบอลลูกเล็กๆ แทน วินเซนต์ที่คิดสงสัยตั้งใจที่จะกลับไปถาม แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นซะก่อน
วินเซนต์ที่เห็นแบบนั้นประหลาดใจอย่างที่ไม่เคยเป็น
ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย