843-844
3/8
Ep.843
ซูเฉินตะลึงไปชั่วขณะ พอได้สติก็ถามว่า “ถ้าให้พวกเขาติดตั้งบนตัวนาย นายจะสามารถยกระดับได้กี่ขั้น?”
“การติดตั้งแต่ละครั้งจะยกระดับได้หนึ่งขั้น และสามารถติดตั้งได้สูงสดถึง 5 ตัว” หุ่นเชิดทองคำกล่าว
ซู๊ดดดด!
ซูเฉินสูดหายใจลึก เอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจว่า “แล้วนายนี้นายอยู่ระดับเทวะขั้นไหน”
“ระดับเทวะขั้น 1”
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินกำหมัดแน่น ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
หากสามารถหามาได้ 5 ตัว และทำการติดตั้งลงไป ไม่ใช่ว่าหุ่นเชิดทองคำจะกลายเป็นตัวตนระดับเทวะขั้น 6 หรอกหรือ?
ซึ่งนั่นสูงกว่าบรรพชนตระกูลฉีตั้งหนึ่งขั้น! แบบนี้ก็แทบจะเรียกได้เลยว่ามันได้กลายเป็นการดำรงอยู่ที่สามารถเดินเหินได้ทั่วทุกหนแห่งท่ามกลางมิติภายนอก
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ ซูเฉินเพิ่งหาหุ่นเชิดมาได้แค่สองตัวเท่านั้น ยังเหลืออีกสาม และรู้ที่อยู่แค่หนึ่งในสามเท่านั้น
แล้วอีกอย่าง เขายังไม่มีหัวใจจักรกล ต่อให้เจอร่างของหุ่นเชิดระดับเทวะทั้งห้า ก็ไม่สามารถปลุกพวกมันให้ตื่นขึ้นมาได้
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า หากซูเฉินต้องการช่วยให้หุ่นเชิดทองคำกลายเป็นขั้น 6 หนทางยังอีกยาวไกล
หลังจากนั้น ซูเฉินและหุ่นเชิดทองคำได้พูดคุยกันเรื่องจักรวรรดิจักรกล ก่อนปิดถุงเก็บของ แล้วเริ่มคัดแยกชิ้นส่วน
แม้สามารถสังหารต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่อันตรายในครั้งนี้นับว่าสูงมาก ดังนั้นชิ้นส่วนที่ดรอปจึงมีทั้งหมดเกือบหมื่นชิ้น
ซูเฉินใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงในการคัดแยกชิ้นส่วน จากนั้นแลกเปลี่ยนน้ำยา [โพชั่นกายภาพขั้น 7 ] แล้วยื่นให้แก่เยว่หลิง
[โพชั่นกายภาพขั้น 7 ] มีค่าด้อยกว่าหัวใจจักรกลและหุ่นเชิดระดับเทวะมากนัก แต่เขาต้องรีบออกไปจากที่นี่ ดังนั้นควรมีอะไรซักอย่างตอบแทน แล้วค่อยมอบให้แก่เธออีกในภายหลัง
“ซูเฉิน นี่คืออะไร?”
เยว่หลิงไม่เคยเห็น [โพชั่นกายภาพ] มาก่อน เอ่ยถามด้วยความสงสัย
ซูเฉินอธิบายว่า “นี่คือน้ำยาที่สามารถช่วยยกระดับฐานฝึกตนได้ หลังจากดื่มมันแล้ว ระดับจะเพิ่มขึ้นหนึ่งขั้นทันที”
ได้ยินแบบนั้น เยว่หลิงตกใจ มือที่ถือ [โพชั่นกายภาพ] สั่นเทา
สิ่งที่สามารถเพิ่มระดับฐานฝึกตนได้ ทุกชิ้นล้วนมีค่ามหาศาล ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ซูเฉินมอบให้คือสมบัติที่ช่วยให้ยกระดับได้ทันที มันเลยยิ่งล้ำค่าขึ้นไปอีก
“ซูเฉิน ขอบใจนะ แต่สิ่งนี้ล้ำค่าเกินไป ข้ารับไว้ไม่ได้หรอก”
เยว่หลิงยื่น [โพชั่นกายภาพ] คืนให้แก่ซูเฉิน
ซูเฉินไม่รับมัน แต่กล่าวว่า “พวกเรากำลังจะออกไปจากที่นี่เร็วๆนี้ เธอควรยกระดับซะ นี่จะช่วยให้เธอมีโอกาสรอดชีวิตเพิ่มขึ้น”
“พวกเจ้าจะจากไปแล้ว? เร็วขนาดนี้เชียว?” การแสดงออกทางสีหน้าของเยว่หลิงหมองลง
“ยังมีเรื่องอีกมากกำลังรอให้ฉันจัดการ” ซูเฉินพยักหน้ายืนยัน
การค้นหาต้นไม้แห่งชีวิตไม่อาจล่าช้าได้ ในเมื่อเรื่องที่นี่จบลงแล้ว แน่นอนว่าเขาต้องกลับไปยังทวีปมนุษย์โดยเร็วที่สุด
เยว่หลิงครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายกัดฟันและกล่าวว่า “ซูเฉิน ข้าขอติดตามพวกเจ้าไปด้วยได้ไหม?”
ติดตามพวกเรางั้นหรอ?
ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เยว่หลิงคือเจ้าหญิงเผ่าเอลฟ์ หากเธอจากไป เผ่าเอลฟ์จะไม่วุ่นวายเอาหรือ?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูเฉินลองถามหยั่งเชิงว่า “ถ้าเธอจากไป แล้วใครจะเป็นคนควบคุมเผ่าเอลฟ์? ไหนจะเสด็จแม่กับผู้อาวุโสหยูฉี?”
ผู้อาวุโสหยูฉีตามติดเป็นเงา ไม่เคยห่างจากกายเยว่หลิงเลย แต่คราวนี้ซูเฉินกลับไม่เห็นเธอ เลยรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง
“ไม่มีใครควบคุมเผ่าเอลฟ์ได้ ต่อให้ข้าอยู่ก็ไม่สามารถควบคุมมันได้”
เยว่หลิงถอนหายใจยาว จากนั้นกล่าวว่า “ส่วนเสด็จแม่กับผู้อาวุโสหยูฉี พวกท่านหายตัวไปอย่างลึกลับเมื่อไม่นานมานี้ ตอนแรกข้าก็สงสัย แต่ตอนนี้มั่นใจแล้ว ว่าคงไม่พ้นเป็นฝีมือของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์”
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย เริ่มเข้าใจว่าทำไมเยว่หลิงถึงอยากติดตามเขา
เพราะอาศัยเพียงกำลังของเยว่หลิง หากปราศจากที่พึ่งคอยสนับสนุน คงเป็นการยากที่จะตั้งหลักในเผ่าเอลฟ์ได้
แล้วอีกอย่าง ในมือเธอยังมีเมืองเยว่กวงอันแสนล้ำค่า สิ่งนี้ย่อมดึงดูดความละโมบของผู้คน
เกรงว่าหากพวกซูเฉินจากไป เยว่หลิงคงมิแคล้วถูกลอบสังหารและช่วงชิงสมบัติชิ้นนี้ไป
4/8
Ep.844
“งั้นเธอก็มากับพวกเราเถอะ” ซูเฉินอนุญาต
อันที่จริง การที่เยว่หลิงติดตามเขา ก็ถือว่ามีประโยชน์เช่นกัน เพราะท้ายที่สุดแล้วเมืองเยว่กวงคือสิ่งประดิษฐ์เทวะชั้นนำ ที่สามารถจับศัตรูในช่วงเวลาสำคัญได้ จากนั้นที่เหลือก็แค่ปิดประตูตีสุนัข
“ขอบใจนะซูเฉิน” เยว่หลิงมีความสุขมาก
ในเมื่อเขาตกปากรับคำกับเยว่หลิงแล้ว ซูเฉินเลยพาเธอเข้าไปทำความรู้จักกับทุกคน
ต่อมา ซูเฉินเปิด [มิติสันโดษ] พูดคุยกับตันหลินสั้นๆ อธิบายสถานการณ์ของเยว่หลิง จากนั้นส่งเยว่หลิงเข้าไปข้างใน
“พี่ฉี ผมจะกลับไปทวีปมนุษย์แล้ว คุณมีแผนจะทำอะไรต่อ?”
ซูเฉินเดินมาข้างๆฉีมู่เฟิง แล้วเอ่ยถาม
“ข้าออกมาครั้งนี้เพื่อฝึกฝน ไปที่ไหนก็เหมือนกัน อีกอย่าง ข้าอยากจะเห็นทวีปมนุษย์มานานแล้ว ข้าขอไปกับเจ้าด้วย!”
หลังจากฉีมู่เฟิงพูดจบ เขาก็หันไปมองน้องสาวทั้งสอง
“แล้วพวกเจ้าพี่น้องเล่า?”
“ข้าก็อยากไป!” ฉีมู่เสวี่ยไม่ลังเลแม้แต่น้อย แต่เมื่อเธอหันไปสบตากับซูเฉิน ก็ต้องก้มศีรษะลงด้วยความหวาดกลัว
“ข้าเองก็ไม่มีธุระอะไร ขอร่วมเดินทางไปด้วย” ฉีมู่อวี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ครั้งนี้พวกเธอมาถึงทวีปเอลฟ์ เหตุผลหลักๆก็เพื่อแลกเปลี่ยนหัวใจจักรกล
แต่ใครจะทันคิด ว่าดันมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น หัวใจจักรกลก็ไม่ได้ครอบครอง ทั้งยังสูญเสียน้ำยาแก่นชีวิตและหุ่นเชิดระดับเทวะไปอีก
อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องดีๆอย่างฉีมู่เฟิงและซูเฉินสาบานเป็นพี่น้องกัน
เมื่อเทียบกับเรื่องนี้แล้ว ในความเป็นจริงนับว่าพวกเธอทำกำไรได้ไม่เลว เพราะการดำรงอยู่อย่างซูเฉิน ไม่ช้าก็เร็วต้องกลายเป็นบุคคลที่ทรงพลังที่สุดท่ามกลางมิติภายนอก
มีสหายเป็นผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ น้ำยาแก่นชีวิตและหุ่นเชิดตัวหนึ่ง เทียบกันไม่ได้เลย
“ในเมื่อทุกคนตัดสินใจแบบนั้น ก็เดินทางไปด้วยกันเถอะ” ซูเฉินเห็นด้วยอย่างเต็มใจ
ฉีมู่เฟิงคือระดับเทวะ ส่วนฉีมู่อวี้และฉีมู่เสวี่ยต่างเป็นผู้แข็งแกร่งขั้น 10 หากมีเหล่าพี่น้องตระกูลฉีอยู่ข้างๆ นับว่าช่วยเหลือได้มาก
“เสี่ยวจือ กลับเส้นทางเดิม” ซูเฉินสั่ง
เพื่อกลับสู่ทวีปมนุษย์โดยเร็วที่สุด วิธีการที่ดีที่สุดคือย้อนกลับไปยังสถานที่ที่จากมา
“รับทราบ” [รถศึกอัจฉริยะ] รับคำสั่ง พุ่งออกไปเป็นทิศทางเดียว
ซูเฉินเอนตัวลงบนเก้าอี้คนขับ หลับตาลง สมองค่อยๆปั่นความคิด
การเดินทางสู่ทวีปเอลฟ์ อาจกล่าวได้ว่าอันตรายถึงสุดขีด ถึงขั้นพูดได้เลยว่า นับแต่เขาได้รับชิ้นส่วน นี่คืออันตรายร้ายแรงที่สุดที่เคยพบเจอ
อย่างไรก็ตาม อันตรายกับผลกำไรมักเป็นไปในทิศทางเดียวกัน การกอบโกยครั้งนี้ อุดมสมบูรณ์อย่างหาที่เปรียบมิได้
ไม่ว่าจะเป็นน้ำอมฤต , น้ำพุแห่งชีวิต , หุ่นเชิดระดับเทวะสองตัว และหัวใจจักรกล ทุกสิ่งล้วนมีค่ามหาศาล
นอกจากนี้ เขายังถือโอกาสใช้ชิ้นส่วนจำนวนมากที่สะสมไว้
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะประเด็นหลักคือเขาสามารถพัฒนากระบวนท่าสังหารรูปแบบใหม่ นั่นคือการผสมผสานระหว่างเวทมนต์สองชนิด ไฟและน้ำแข็ง
เมื่อทั้งสองรวมเป็นหนึ่ง อำนาจของมัน เพียงพอที่จะล้างสวรรค์ผลาญปฐพี
เห็นได้ชัดว่า กระบวนท่าสังหารนี้ได้กลายเป็นไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาแล้ว
อย่างไรก็ตาม กระบวนท่าสังหารนี้มีจุดอ่อนคือใช้แล้วจะตกอยู่ในสภาวะอ่อนเพลีย ดังนั้นไม่ควรใช้ไปเรื่อยเปื่อย
…
[รถศึกอัจฉริยะ] เดินทางมาหลายวัน ในที่สุดก็ค้นพบตำแหน่งเขตแดนที่เชื่อมโยงกับทวีปมนุษย์
แต่ขณะที่เขากำลังจะเปิดฟังก์ชั่นข้ามเขตแดน จู่ๆนกสำรวจก็ร้องเตือนขึ้นมา “เจ้านาย มีอันตรายกำลังใกล้เข้ามา!”
ซูเฉินเลิกคิ้ว ออกคำสั่งทันที “เสี่ยวจือ สแกนหารอบๆ”
ความสามารถในการคาดการณ์อันตรายของนกสำรวจได้รับการพิสูจน์แล้ว หากมันเอ่ยเช่นนั้น แสดงว่าย่อมมีอันตรายอยู่เป็นแน่
“เจ้านาย พบพวกต่างเผ่าสองตนกำลังใกล้เข้ามาหาพวกเรา”
[รถศึกอัจฉริยะ] ค้นหาซักพัก ก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ระดับฐานฝึกตนของพวกมันอยู่ขั้นไหน?” ซูเฉินถาม
“ผู้ฝึกตนขั้น 10 กับระดับเทวะอีกหนึ่งตน”
ระดับเทวะ?
ซูเฉินหรี่ตาลง กล่าวเสียงกระซิบ “เสี่ยวจือ ขยายภาพของพวกมันที!”