ระบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 27 ทหารหน่วยรบพิเศษ
ตอนที่ 27 ทหารหน่วยรบพิเศษ
เย่โม่จ้องมองร่างไร้สติของผู้ชายสามคนที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น จากนั้น จึงเดินเข้าไปนั่งยองๆ พร้อมกับใช้นิ้วจี้จุดบนแผ่นหลังของพวกมัน จากนั้น จึงได้หยิบขวดไวน์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเทราดลงไปบนใบหน้าของพวกมันทันที
ชายทั้งสามคนตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!
“คุณชายฉู่เป็นยังไงบ้างครับ?”
ชายหัวโล้นรีบเข้าไปพยุงร่างของฉู่ฮ่าวเทียนให้ลุกขึ้นมานั่ง พร้อมกับร้องตะโกนถามด้วยความห่วงใย โดยไม่สนใจแขนที่ยังคงมีเลือดไหลไม่หยุดของตัวเอง
“คุณชายฉู่ครับ ต้องแก้แค้นมันคืนนะครับ!”
แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีเลือดไหลออกมาจากศรีษะของฉู่เหล่าซานแล้ว แต่ใบหน้าของมันก็ยังคงมีคราบเลือดติดอยู่เต็มไปหมด พร้อมกับร้องคร่ำครวญออกมาราวกับพ่อแม่ของมันตาย
ฉู่ฮ่าวเทียนหันไปมองลูกน้องของตัวเองทั้งสองคน พร้อมกับยกฝ่ามือขึ้นลูบไล้แก้มขวาที่บวมเป่งอยู่ จนกระทั่งถึงตอนนี้ มันยังแทบไม่อยากจะเชื่อว่า ตนเองถูกอีกฝ่ายทำร้ายร่างกายจนมีสภาพแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้
เย่โม่เปลี่ยนไปนั่งที่โต๊ะแทน พร้อมกับจ้องมองพวกมันทีละคน แล้วจึงพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ ในเมื่อพวกแกทั้งสามคนก็รู้สึกตัวแล้ว พวกเรามาสะสางบัญชีกันดีกว่า!”
ซูเหล่าซานกับชายหัวโล้นหันไปมองหน้ากันทันที และดูเหมือนพวกมันสองคนจะเข้าใจความหมายของเย่โม่ได้เป็นอย่างดี
“ฉันกับเพื่อนๆกินดื่มกันอยู่ในห้องดีๆ แต่พวกแกกลับเดินเข้ามาหาเรื่อง แค่นั้นยังไม่พอ พวกแกยังกล้าลงมือทำร้ายร่างกายเพื่อนๆของฉันด้วย มิหนำซ้ำยังทำให้สาวๆในห้องตกใจร้องไห้ เอาเป็นว่า… ฉันขอเรียกค่ารักษาพยาบาล แล้วก็ค่าทำขวัญเป็นเงินหนึ่งล้านหยวน หลังจากนั้น ก็ให้เรื่องวันนี้จบๆไปซะ!”
“แต่ว่า.. ถ้าพวกแกไม่ตกลง ฉันก็จะสั่งเบียร์มาเพิ่มอีกสักลัง แล้วก็จะเอาขวดเบียร์พวกนั้นฟาดหัวพวกแกทีละขวดจนกว่าจะหมด! เอาล่ะ.. พวกแกจะเลือกข้อเสนอแบบไหน ก็รีบๆบอกมา!”
เย่โม่ยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวหลังจากพูดจบ ในขณะที่ฉู่ฮ่าวเทียนกับลูกน้องได้แต่นั่งตัวสั่นงันงกด้วยความหวาดกลัว
ฉู่ฮ่าวเทียนจ้องมองศรีษะที่อาบไปด้วยเลือดของซูเหล่าซานแล้วก็ได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะกล้ำกลืนต่อความเจ็บปวดที่แก้มขวา พร้อมกับร้องบอกเย่โม่ไปว่า
“ฉัน.. ฉันไม่ได้เอาเงินสดติดตัวมามากขนาดนั้น ส่วนในบัตรของฉันก็มีเงินอยู่แค่สามแสนหยวน ฉัน.. ฉันของโทรบอกคนให้ส่งเงินมาให้จะได้มั๊ย?”
เย่โม่ยังไม่ตอบฉู่ฮ่าวเทียนในทันที แต่หันไปถามหวังยู่หยางแทนว่า “แถวนี้มีตรงไหนที่คนพลุกพล่านน้อยกว่านี้มั๊ย?”
“มี! ใกล้ๆนี้มีแม่น้ำอยู่สายหนึ่ง บริเวณริมฝั่งแถวนั้นมีสวนสาธารณะอยู่ นอกจากหนุ่มๆสาวๆแอบไปพลอดรักกันไม่กี่คู่ กลางคืนแบบนี้ก็แทบไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมา”
เย่โม่พยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะหันไปสั่งฉู่ฮ่าวเทียนว่า “เอาล่ะ! ไปจัดการจ่ายบิลของห้องนี้ทั้งหมด แล้วก็โทรบอกคนของแกให้เอาเงินไปให้ฉันที่สวนสาธารณะริมฝั่งแม่น้ำ”
แม้ฉู่ฮ่าวเทียนจะแสดงท่าทียินยอมทำตามอย่างว่าง่าย แต่มันก็แอบคิดอยู่ในใจว่า ‘เดี๋ยวก่อนเถอะมึง! รอให้ลุงหลงของกูมาถึงก่อน พวกมึงสองคนได้ตายแน่ ไอ้สารเลว!’
หลังจากใช้เงินในบัตรจ่ายบิลค่าอาหารในคืนนี้แล้ว ฉู่ฮ่าวเทียนก็ถูกเอาตัวไปขึ้นรถของหวังยู่หยาง แล้วทั้งหมดก็ขับไปที่สวนสาธารณะริมฝั่งแม่น้ำ ส่วนชายหัวโล้นกับซูเหล่าซานนั้น เย่โม่ไม่ได้ใส่ใจ และได้กลัวว่าพวกมันจะไปเรียกพรรคพวกมามากกว่านี้
เมื่อทั้งหมดไปถึงสวนสาธารณะแล้ว หวังยู่หยางก็ได้จอดรถไว้ด้านนอก แล้วทั้งหมดก็เดินเข้าไปรออยู่ด้านใน ผ่านไปราวสิบกว่านาที ทุกคนก็ได้ไปหยุดอยู่ที่ศาลาข้างทะเลสาบขุดหลังหนึ่ง
“ยังจะรออะไรอีก? รีบๆโทรบอกให้คนเอาเงินมาที่นี่ได้แล้ว!”
เย่โม่ยกเท้าถีบเข้าที่บริเวณท้องน้อยของฉู่ฮ่าวเทียนทันที แม้เขาจะไม่ได้ใช้เรี่ยวแรงอะไรมากนัก แต่นั่นก็ทำให้ฉู่ฮ่าวเทียนถึงกับอาเจียนเอาน้ำดีออกมาเลยทีเดียว
“ละ.. ลุงหลงเหรอครับ? ผมฮ่าวเทียนนะครับ รีบๆเอาเงินสดหนึ่งล้านหยวนมาให้ผมที่สวนสาธารณะริมฝั่งแม่น้ำด้วยนะครับ!”
ฉู่ฮ่าวเทียนกล้ำกลืนความเจ็บปวดในขณะที่โทรบอกลุงของตนเอง ส่วนทางด้านปลายสายนั้น ชายวัยกลางคนก็ได้แต่ยืนฟังนิ่ง คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย
หลังจากนั้นไม่นาน ชายวัยกลางคนก็ได้เดินทางมาถึงศาลาริมทะเลสาบภายในสวนสาธารณะที่นัดหมาย
“นี่เป็นเงินหนึ่งล้านหยวน หวังว่าเธอจะรักษาคำพูดนะ!”
ลุงหลงจัดการเปิดกระเป๋าเอกสาร พร้อมกับใช้ไฟฉายเล็กๆส่องให้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน
แต่ด้วยสายตาของเย่โม่เวลานี้ แน่นอนว่าเขาสามารถมองเห็นทุกอย่างภายใต้ความมืดมิดนี้ได้อย่างชัดเจน หลังจากเห็นธนบัตรที่อยู่ในกระเป๋าใบนั้นแล้ว เขาจึงได้แต่พยักหน้าและตอบกลับไปว่า
“ส่งเงินมา แล้วก็เอาคนกลับไปได้!”
“รับไป!”
ลุงหลงโยนกระเป๋าใบนั้นให้เย่โม่ หลังจากรับไว้ได้อย่างง่ายดายแล้ว เย่โม่ก็ส่งกระเป๋าเอกสารใบนั้นให้กับหวังยู่หยางพร้อมกับสั่งว่า
“ไปรอฉันที่รถ!”
“แต่ว่าพี่เย่…”
“ไม่ต้องห่วงฉัน!” เย่โม่หันไปตบบ่าหวังยู่หยางเบาๆ
“ก็ได้! แต่ถ้าอีกสิบนาทีพี่เย่ยังไม่ออกมา ฉันจะโทรเรียกให้คนมาช่วยทันที!”
หลังจากร้องตะโกนบอกเย่โม่ไปแล้ว หวังยู่หยางก็ได้แต่กัดฟันกรอด และเดินออกไปจากสวนสาธารณะทันที
หลังจากที่หวังยู่หยางเดินออกไปจนลับสายตาแล้ว เย่โม่ก็ได้ผลักร่างของฉู่ฮ่าวเทียนไปให้ลุงหลงทันที และเมื่อหลุดจากเงื้อมมือของเย่โม่ได้แล้ว ฉู่ฮ่าวเทียนก็รีบวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังของลุงหลงอย่างรวดเร็ว ปากก็ร้องบอกด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
“ลุงหลงครับ! ลุงเฝ้าถนอมเลี้ยงดูผมมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ตอนนี้ผมกลับถูกไอ้สารเลวนี่มันทำร้ายร่างกาย ลุงต้องแก้แค้นให้ผมด้วยนะครับ! ลุงต้องฆ่าไอ้สารเลวนี่ แต่ก่อนที่มันจะตาย ลุงต้องจัดการหักแขนหักขาของมันทิ้งซะ ไม่อย่างนั้นความแค้นในใจของผมคงจะไม่ได้รับการชำระแน่ครับ!”
“ฮ่าวเทียน ไปหลบอยู่ตรงนั้นก่อน! ลุงจะจัดการไอ้เด็กนี่ให้เอง หลังจากลุงจับตัวมันไว้ได้แล้ว หลานอยากจะแก้แค้นมันยังไงก็ตามใจ!”
“ครับคุณลุง!”
ฉู่ฮ่าวเทียนก้าวเดินออกไปจากศาลาริมน้ำ พร้อมกับยืนจ้องมองเย่โม่ไกลๆ ด้วยแววตาดุดันโหดเหี้ยม
“ไอ้เด็กเลว! แกกล้าแตะต้องฮ่าวเทียนแบบนี้ ฉันบอกได้เลยว่า เทวดาหน้าไหนก็ช่วยแกไม่ได้! ฉันหลงเสี่ยวจะจัดการกับแกก่อน แล้วค่อยไปเอาเงินของฉันกลับคืน!”
หลงเสี่ยวร้องบอกเย่โม่ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก หลังจากพูดจบแล้ว เขาก็กระโดดจู่โจมเข้าใส่เย่โม่ในทันที ราวกับลูกธนูที่พุ่งออกจากคันศร
เย่โม่ไม่มีสีหน้าท่าทางตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขากลับยืนมอง ‘การแสดง’ หลงเสี่ยวที่เชื่องช้าราวกับหอยทากด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม
หลงเสี่ยวถึงกับงุนงง และแทบไม่อยากจะเชื่อว่า เด็กหนุ่มคนนี้จะสามารถหลบกำปั้นของตน ที่พุ่งเข้าใส่ร่างได้อย่างรวดเร็ว มิหนำซ้ำ สีหน้าของไอ้เด็กสารเลวคนนี้ไม่เพียงไร้ซึ่งความตระหนกตกใจ แต่ยังฉาบไปด้วยรอยยิ้มอีกด้วย!
‘นี่มันบ้าอะไรกัน?! ไอ้เด็กเวรนี่สามารถหลบหมัดของฉันได้เชียวเหรอ?’
หลงเสี่ยวนั้นครั้งหนึ่งเคยเป็นทหารมาก่อน แต่เวลานี้กลับถูกเด็กเหลือขอคนหนึ่งถอนหงอกจนแทบไม่เหลือแม้แต่เส้นเดียว
พรึบ!
หลงเสี่ยวยังคงชกพลาดอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พลิกตัวเปลี่ยนมาเป็นยกเท้าเตะเข้าใส่ร่างของเย่โม่แทน!
แต่ครั้งนี้เย่โม่กลับไม่หลบ และปล่อยให้อีกฝ่ายเตะเข้าใส่ร่างของตนเองได้อย่างง่ายดาย!
ปัง!
หลงเสี่ยวรู้สึกราวกับว่าตนเองได้เตะเข้ากับแผ่นเหล็กที่แข็งแกร่ง จากนั้น ขาทั้งขาของเขาก็เปลี่ยนเป็นชาขึ้นมาทันที
“มีเรี่ยวแรงแค่นี้เองน่ะเหรอ? นี่แกจะแกล้งออมแรงไปทำไมกัน?”
เย่โม่ร้องตะโกนเย้ยหยันหลงเสี่ยว ในขณะเดียวกันก็เป็นฝ่ายจู่โจมเข้าใส่หลงเสี่ยวกลับบ้าง แต่ลูกเตะของเย่โม่นั้นเร็วกว่าของฝ่ายตรงข้ามหลายเท่านัก!
ปังๆ
กร๊อบๆ
ร่างของหลงเสี่ยวถูกลูกเตะของเย่โม่กระแทกเข้าใส่ จนถึงกับลอยละลิ่วออกไปกลางอากาศ พร้อมกับเสียงกระดูกหักที่ดังขึ้นพร้อมกัน
“เป็นไปไม่ได้! ฉันเคยเป็นถึงทหารในหน่วยรบพิเศษ! ต่อให้ตอนนี้ไม่ได้เก่งกาจเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะพ่ายแพ้ให้กับเด็กหนุ่มจากการถูกเตะเพียงแค่ครั้งเดียวแบบ...”
หลงเสี่ยวกล้ำกลืนกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ เย่โม่ที่หันไปมองฉู่ฮ่าวเทียนก็ร้องตะโกนขัดขึ้นเสียก่อน
“แก.. ถ้ายังไม่อยากตายก็เดินมานี่!”
ฉู่ฮ่าวเทียนจ้องมองหลงเสี่ยวที่นอนกลิ้งอยู่กับพื้น พร้อมกับเดิมกุมเป้าคอตกตัวลีบเข้าไปหาเย่โม่อย่างว่าง่าย
“จำใส่หัวของแกไว้ให้ดี! วันหน้าถ้าบังเอิญพบกับฉันอีกล่ะก็ แกต้องคุกเข่าเรียกฉันว่าปู่ทันที เข้าใจมั๊ย?”
เย่โม่จ้องมองฉู่ฮ่าวเทียนด้วยสีหน้าแววตาดุดัน
“ครับๆ เข้าใจแล้วครับ!”
ฉู่ฮ่าวเทียนรีบตอบกลับไปด้วยความตกใจกลัว พร้อมกับพยักหน้าหงึกๆไม่หยุด
“วันนี้ฉันได้เงินมาหนึ่งล้านหยวน อารมณ์ก็เลยค่อนข้างดีหน่อย เอาเป็นว่าฉันจะปล่อยแกไปก็แล้วกัน แต่จำคำพูดของฉันไว้ให้ดีล่ะ!”
หลังจากพูดจบแล้ว เย่โม่ก็เดินออกจากสวนสาธารณะไปหาหวังยู่หยางที่รถทันที!
--------------------------
ติดตามนิยายแปลสนุกๆอีกหลายเรื่องได้ที่เพจ : แปลสนุก