ตอนที่แล้วWS บทที่ 272 อิทธิพลของป้อมอูดอน PART 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 274 เสื้อคลุมขอบทอง

WS บทที่ 273 อิทธิพลของป้อมอูดอน PART 2


เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำเต็มท้องฟ้าราวกับทะเลเพลิง นี่คือคาถาระดับสี่ที่วาลาร์ร่าย

เมอร์ลินสูดหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อมาถึงจุดนี้ เสื้อคลุมของเขาไม่มีทางต้านทานสิ่งนี้ได้และแม้แต่คาถาป้องกันระดับสอง ม่านธรณี ที่เขาเพิ่งสร้างขึ้นก็ไม่สามารถป้องกันคาถาระดับสี่ได้หากไม่มีการปรับปรุงใด ๆ

ดังนั้น เมอร์ลินจึงทำได้เพียงโจมตีอย่างช่วยไม่ได้

“พลังปีศาจแพนโดร่า ดัชนีเยือกแข็ง!”

เมอร์ลินยื่นนิ้วสีซีดหนึ่งนิ้วและชี้ไปทางพ่อมดวาลาร์ ทันใดนั้น ลมเย็นยะเยือกก็พุ่งออกมาและก่อตัวเป็นผลึกน้ำแข็งทุกที่ที่ผ่านไป

*แคร่ก! แคร่ก!*

ผลึกน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนได้ก่อตัวขึ้น โดยบางส่วนยังล้อมเปลวไฟและแช่แข็งไว้กลางอากาศ จากนั้นจึงตกลงสู่พื้นและแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พลังของมันยังสามารถแช่แข็งและผนึกคาถาระดับสี่ไว้ให้เป็นน้ำแข็งได้ มันต้องไม่ใช่คาถา ไม่ใช่คาถาที่เมอร์ลิน พ่อมดที่ไม่ได้เป็นนักเวทย์ระดับสองจะร่ายได้

“พลังปีศาจแพนโดร่า…นี่คือพลังปีศาจแพนโดร่า แกมีพลังปีศาจแพนโดร่าจริง ๆ เหรอ?”

ความประหลาดใจเกิดขึ้นบนใบหน้าของพ่อมดวาลาร์ พลังปีศาจแพนโดร่านั้นมีพลังที่แปลกประหลาดและไม่อาจหยั่งรู้ได้และระดับของพ่อมดจะไม่มีประโยชน์เลยหากต้องเผชิญหน้ากับมัน

ในพันธมิตรปีกเทา พ่อมดวาลาร์ได้เห็นนักเวทย์ระดับสองที่ฝึกฝนพลังปีศาจแพนโดร่า นักเวทย์คนนั้นสามารถเอาชนะนักเวทย์ระดับสามได้อย่างง่ายดาย รวมถึงไปนักเวทย์ระดับสี่บางคนด้วย

ดังนั้นพ่อมดวาลาร์จึงรู้ดีถึงความน่ากลัวของพลังปีศาจแพนโดร่า เมื่อเห็นว่าเมอร์ลินใช้พลังปีศาจแพนโดร่า เขาก็ระวังตัวทันที

ขณะที่พ่อมดวาลาร์กำลังจะร่ายเวทย์ป้องกัน ความผันผวนของธาตุมืดได้ปั่นป่วนก็เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันรอบ ๆ ตัวเมอร์ลิน

“สายธารแห่งความมืด!”

เมอร์ลินร่ายเวทย์ออกมาเบา ๆ ทันใดนั้น แสงโดยรอบก็มืดลงและธาตุความมืดที่หลั่งไหลออกมาอย่างไม่รู้จบก็พุ่งออกมาราวกับกระแสน้ำซึ่งมันล้อมรอบพ่อมดวาลาร์และคนอื่น ๆ อย่างสมบูรณ์

สารธารแห่งความมืดได้รับการเสริมพลังจากดวงใจแห่งความมืด มันทำสามารถทำให้นักเวทย์ระดับสี่ของวาลาร์ตกสู่ภาพลวงตาได้อย่างง่ายดาย

พ่อมดวาลาร์ไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย ร่างกายของเขาเดินโซเซไปทั้งตัวในขณะที่เขาติดอยู่ในภาพลวงตาอย่างสมบูรณ์

*แคร่ก*

ความเย็นของดัชนีเยือกแข็งแช่แข็งแขนของพ่อมดวาลาร์อย่างรวดเร็ว เมอร์ลินจัดการวาลาร์แบบเดียวที่เขาทำกับโดนาห์ ทำให้เขาของเขาใช้งานไม่ได้ทันที

นี่เป็นเพราะว่าเมอร์ลินค่อนข้างวิตกเกี่ยวกับพันธมิตรปีกเทา ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะฆ่พวกเขา

*พรึ่บ*

เมอร์ลินสลายสายธารแห่งความมืดออกไปและพ่อมดวาลาร์ก็ฟื้นคืนสติ ใบหน้าของเขาซีดเซียวและเขาสูญเสียความรู้สึกทั้งหมดที่แขนขวาของเขาไป เช่นเดียวกับโดนาห์ที่เสียแขนข้างหนึ่งไป

วาลาร์กัดริมฝีปากอย่างโกรธจัดและใบหน้าของเขาก็มืดลงในขณะที่เขาจ้องมองเมอร์ลินอย่างเย็นชาราวกับอสรพิษ นั่นทำให้เมอร์ลินรู้สึกอึดอัดมาก ถ้าเขาอยู่ที่อื่น เขาคงฆ่าวาลาร์ไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม พวกเขาอยู่บนหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา ที่มีข้อจำกัดมากมายที่เขาไม่สามารถทำอย่างนั้นได้

“วาลาร์ เป็นอะไรไป? คุณโดนโจมตีจากป้อมอูดอนใช่ไหม?”

เสียงหนึ่งดังขึ้นและนักเวทย์สองสามคนเดินมาจากข้างหลังด้วยเสียงดัง เจ้าของเสียงเป็นนักเวทย์ที่มีรอยแผลเป็นสามอันที่ใบหน้า ทำให้เขาดูค่อนข้างน่ากลัว

เมื่อนักเวทย์หน้าบากเห็นแขนที่หายไปของวาลาร์ เขาก็กวาดสายตาไปที่เมอร์ลิน, บอร์กโดซ์และคนอื่นๆ ทีละคน

“โชคดีที่หัวหน้ามาทัน ถ้าคุณมาช้ากว่านี้ ฉันอาจจะตายไปแล้ว!”

วาลาร์เลียริมฝีปากของเขา หลังจากที่ได้เห็นนักเวทย์หน้าบากคนนี้มา ร่องรอยของความยินดีก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

“พวกนั้นเป็นคนทำเหรอ?” นักเวทย์หน้าบากถามอย่างเย็นชาด้วยเสียงต่ำ

“หัวหน้าไม่ใช่ว่าคุณไม่รู้ว่าคนป้อมอูดอนเป็นอย่างไร ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโดนาห์และฉันต้องขอบคุณผู้ชายที่ชื่อเมอร์ลิน”

วาลาร์จ้องไปที่เมอร์ลินด้วยความเกลียดชังในขณะที่เขาเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้นักเวทย์หน้าบากฟัง

“ดีมาก แกคือคนที่ทำร้ายวาลาร์สินะ? ไม่ว่าแกจะมาจากป้อมอูดอนหรือไม่ก็ตาม แกต้องชดใช้ค่าเสียหายในการทำร้ายวาลาร์ เนื่องจากแกทำให้แขนของเขาพิการไปข้างหนึ่ง ฉันจะทำลายแขนทั้งสองข้างทิ้งซะ!”

ทันใดนั้น พลังจิตที่ครอบงำก็เล็ดลอดออกมาจากนักเวทย์หน้าบาก มันเป็นพลังของนักเวทย์ระดับห้า ชายคนนี้เป็นนักเวทย์ระดับห้า

“ไอ้หน้าบาก! แกทำตัวยิ่งใหญ่ต่อหน้าพวกเรา นักเวทย์จากป้อมอูดอนอย่างงั้นเหรอ? ถ้างั้นก็เข้ามาสิ ให้ชายชราคนนี้เห็นว่าแกเติบโตขึ้นมากแค่ไหนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้”

เสียงแหลมดังออกมาจากฝูงชน ในไม่ช้า พ่อมดผู้มีไหวพริบที่สวมเสื้อคลุมเทาและหมวกที่ขาดอยู่ก็เดินออกไปช้า ๆ ข้างหลังเขามีพ่อมดชุดเสื้อคลุมเทาอีกสองสามคน

เมอร์ลินหรี่ตาเล็กน้อย เขาจำเสื้อคลุมที่พวกเขาสวมอยู่ได้ พวกเขาเป็นนักเวทย์จากป้อมอูดอน เนื่องจากพวกมันเป็นสีเทา หมายความว่าพวกมันคือผู้ร่ายเวทย์ที่อยู่เหนือกว่าหรือเท่ากับระดับสี่

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชายชราที่มีไหวพริบที่พูดนั้นดูเหี่ยวแห้งและผอมแห้งราวกับลมพัดพาเขาไปแต่พลังที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเขานั้นน่ากลัวกว่าพลังของนักเวทย์หน้าบาก

เมื่อเห็นชายชราก้าวเข้ามา ใบหน้าของนักเวทย์หน้าบากก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยและดูไม่น่าพอใจอย่างยิ่ง เขาถามเสียงต่ำ “วอลเลอร์ ป้อมอูดอนของคุณคิดจะปกป้องคนพวกนี้ได้จริง ๆ หรือ?”

"ป้องกัน? ฮิฮิ พวกเขากำลังจะกลายเป็นสมาชิกของป้อมอูดอนของเรา คุณก็รู้เช่นกันว่าสมาชิกของป้อมอูดอนทุกคนคือสหายของเรา ถ้าคุณบอกว่าเรากำลังปกป้องสหายของเรา ก็แล้วมันจะทำไม  มีอะไรจะพูดอีกไหม?” พ่อมดวอลเลอร์พูดอย่างไม่ใส่ใจราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกังวลเลยสักนิด

ใบหน้าของนักเวทย์หน้าบากยิ่งจมลงไปอีก นี่คือป้อมอูดอนที่ไม่กลัวอะไรเลยแม้แต่น้อย ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะเผชิญหน้ากับพันธมิตรปีกเทาหรือหอคอยนักเวทย์ แม้ว่าจะเป็นแค่นักเวทย์ระดับหนึ่ง ตราบใดที่ยังเป็นสมาชิกของป้อมอูดอน พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะเข้ามาปกป้อง

นี่คือป้อมอูดอน พวกเขาไม่เหมือนกับนักเวทย์ทั่วไปและเป็นเหมือนกลุ่มคนบ้าในอุดมคติที่รวมตัวกัน นักอุดมคตินิยมคนหนึ่งอาจไม่มีทางอยู่รอดในโลกของนักเวทย์แต่ถ้ากลุ่มนักอุดมคติที่ทรงพลังรวมตัวกัน พลังของพวกเขาก็จะมหาศาล ทำให้เกิดอาการปวดหัวสำหรับฝ่ายอื่น

"ไปกันเถอะ!"

นักเวทย์หน้าบากรู้ดีว่าการมาถึงของวอลเลอร์ พวกเขาคงไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ได้ในวันนี้ ชาวป้อมอูดอนเป็นคนบ้า หากกลุ่มพันธมิตรปีกเทาโจมตีจริง ๆ พวกเขาจะได้รับผลกระทบจากการโจมตีของนักเวทย์ที่แข็งแกร่งกว่าจากป้อมอูดอนทันที

บางทีพันธมิตรปีกเทาอาจตอบโต้พวกเขา แต่หากทำเช่นกันพวกเขาก็จะสูญเสียคนในกลุ่มไปเป็นจำนวนมากซึ่งมันไม่คุ้มค่าที่จะทำเช่นนั้น

นักเวทย์หน้าบากพาคนอื่น ๆ จากพันธมิตรปีกเทาออกไปอย่างเร่งรีบ เมอร์ลินที่ได้เห็นความแข็งแกร่งและอำนาจของป้อมอูดอนอย่างแท้จริง ไม่น่าแปลกใจที่ป้อมอูดอนได้รับการขนานนามว่าเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาเพราะพวกเขามีพลังมากกว่าพันธมิตรปีกเทา

มันไม่ใช่ความแข็งแกร่งของพวกเขาที่มากกว่าพันธมิตรปีกเทาแต่เป็นเพราะลักษณะของพวกเขาไม่กลัวที่จะก่อปัญหาและไม่ได้พูดอะไรที่จะเริ่มทำสงครามกับฝ่ายที่มีอำนาจอื่นเพื่อช่วยนักเวทย์จากป้อมอูดอน ตราบใดที่เป็นการช่วยเหลือสหาย ไม่ว่าจะสร้างความวุ่นวายมากเพียงใด ป้อมอูดอนก็จะสนับสนุนอย่างเต็มที่

อาจจะมองว่าป้อมอูดอนดูไร้เหตุผลและกดขี่ข่มเหงแก่บุคคลภายนอก แต่สมาชิกของป้อมอูดอนรู้สึกถึงความรักและความปลอดภัยที่หาที่เปรียบมิได้

วอลเลอร์ ชายชราผู้มีไหวพริบเดินไปหา เมอร์ลิน, เบลล่าและวาแด็ค หลังจากพิจารณาพลังของเมอร์ลินและคนอื่น ๆ แล้ว เขาก็ยิ้มและพูดว่า

“พวกคุณทุกคนกำลังจะเข้าร่วมป้อมอูดอนใช่ไหม? ความจริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องกลัว หากมีป้อมอูดอนอยู่ข้างหลังคุณก็ไม่ต้องกลัวใครบนหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา! แม้ว่าเจ้าหน้าบากจะดูดุร้ายแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะฆ่าพวกคุณทุกคน ฮิฮิ ก่อนหน้านี้เขาเคยทนทุกข์กับป้อมอูดอนมาก่อนด้วยซ้ำ”

เมอร์ลินผงกศีรษะ เบลล่าและวาแด็คแสดงความขอบคุณ

“เอาล่ะ พวกคุณตามฉันกลับมาที่ป้อมอูดอน” พ่อมดวอลเลอร์โบกมือเบา ๆ และกลุ่มผู้ร่ายคาถาจากป้อมอูดอนก็ค่อยๆ เดินทางกลับป้อมอูดอน

ในช่วงเวลาสั้น ๆ ทางกลุ่มก็รีบกลับป้อมอูดอน พ่อมดวอลเลอร์ยิ้มให้เมอร์ลิน “พ่อมดเมอร์ลิน คุณเป็นเพียงนักเวทย์ระดับหนึ่งแต่คุณสามารถเล่นวาลาร์ให้อยู่หมัดได้ น่าเหลือเชื่อจริง ๆ! วาลาร์นั่นเป็นถึงนักเวทย์ระดับสี่ ถ้าคุณสามารถเอาชนะโฮมุนครุสระดับสี่ได้ คุณก็จะกลายเป็นพ่อมดเสื้อคลุมสีเทา

พ่อมดวอลเลอร์ไม่รู้สถานการณ์ของเมอร์ลิน เขาไม่รู้ว่าเมอร์ลินเอาชนะโฮมุนครุสระดับสี่ไปแล้วและตอนนี้กำลังรอนักเวทย์ระดับห้าในป้อมอูดอนปรุงยาเสร็จเพื่อมารับคำท้าของเมอร์ลิน

เมอร์ลินเพียงยิ้มตอบพ่อมดวอลเลอร์ หลังจากนั้น พ่อมดวอลเลอร์ก็ส่งเมอร์ลินและคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของพวกเขา ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความหมายว่า “ในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา มันยากถ้าคุณไม่เข้าร่วมกลุ่มใด ๆ ก็ให้เป็นพ่อมดพเนจรที่ทรงพลังก็ตาม จะเป็นการดีที่สุดหากคุณได้รับการประเมินและเข้าร่วมป้อมอูดอนได้ เมื่อคุณจะเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของป้อมอูดอน บนหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาจะไม่มีใครกล้าโจมตีสมาชิกของป้อมอูดอน!”

น้ำเสียงของพ่อมดวอลเลอร์เผยให้เห็นความมั่นใจอย่างแท้จริง นอกจากนี้ เมอร์ลิน, วาแด็คและคนอื่น ๆ ได้เห็นอิทธิพลของป้อมอูดอนด้วยสายตาของพวกเขาเองในวันนี้

“เอาล่ะ ทุกท่านสามารถพักผ่อนได้ที่นี่ ฉันจะไปพักผ่อนก่อน”

พ่อมดวอลเลอร์พูดอย่างอบอุ่นและหลังจากส่งเมอร์ลินและคนอื่นๆ กลับที่พักแล้ว เขาก็เดินจากไป

*หวู่ม*

ทันใดนั้น พ่อมดเสื้อคลุมเทาก็วิ่งเข้ามาจากภายนอกที่พัก

"ฮะ? พ่อมดวอลเลอร์ คุณอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ ทำไมคุณไม่ลาดตระเวน? คุณมาทำอะไรที่นี่?"

เห็นได้ชัดว่าพ่อมดเสื้อคลุมเทารู้จักพ่อมดวอลเลอร์ และไม่ต้องรอให้พ่อมดวอลเลอร์ตอบคำถามก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ เขาเห็นเมอร์ลินและรีบไปหาเขา รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา “พ่อมดเมอร์ลิน ตามฉันมาเร็ว พ่อมดศักวราปรุงยาเสร็จแล้วและกำลังรอประเมินพลังของคุณ!”

เมอร์ลินพยักหน้า เขาคำนวณวันและตระหนักว่าเขารอมาสองวันแล้ว พ่อมดศักวาราได้ทำยาของเขาเสร็จแล้วและยอมรับคำท้าของเขา

คนอื่นอาจไม่รู้จักพ่อมดศักวาราแต่พ่อมดวอลเลอร์รู้จักเขาเป็นอย่างดี เมื่อได้ยินว่าเมอร์ลินกำลังจะยอมรับการประเมินของพ่อมดศักวารา เขาก็เดาเหตุผลได้ทันที ดวงตาของเขาเกือบจะโผล่ออกมาเบ้าขณะที่เขาพูดด้วยความไม่เชื่อ

“คุณพูดว่าอะไรนะ? พ่อมดเมอร์ลินกำลังจะท้าทายพ่อมดศักวรางั้นเหรอ?”

“พ่อมดวอลเลอร์ หากคุณสนใจ คุณสามารถติดตามดูได้ ฮี่ฮี่ ถ้าพ่อมดเมอร์ลินทำสำเร็จ ป้อมอูดอนทั้งหมดจะต้องตกใจขนาดไหน!”

ใบหน้าของพ่อมดชุดเสื้อคลุมส่องประกายระยิบระยับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด