837-838
5/8
Ep.837
คิก คิก
เมื่อหญิงสาวทรงเสน่ห์ปรากฏตัวขึ้น สิ่งแรกที่เธอทำคือส่งเสียงหัวเราะ จากนั้นกล่าวกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ว่า “เพียงเพื่อฆ่ามดปลวกไม่กี่ตัว ถึงกับต้องเรียกข้าออกมาเชียวหรือ? ฝีมือเจ้านี่ นับวันก็ยิ่งถดถอยลงนะ”
สีหน้าของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์แสดงออกชัดถึงความขุ่นเคือง กระชากเสียงเบาๆว่า “มนุษย์ตรงหน้าคือผู้ฝึกตนทุกอาชีพขั้น 10 อีกทั้งยังมีวิชาเทพเซียนอีกหลายแขนง สิ่งประดิษฐ์เทวะอีกนับไม่ถ้วน และหนึ่งในนั้นสามารถดูดกลืนพลังแห่งศรัทธาของข้าได้!”
ซูเฉินอยู่ห่างกับมันถึงสองขั้น ทว่ากลับสามารถตอบโต้มันได้ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของเขา
หากมันคิดเอาชนะซูเฉินในระยะเวลาอันสั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้
เพื่อที่จะหยุดเยว่หลิง เลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเรียกหญิงสาวทรงเสน่ห์ออกมาเท่านั้น
“เผ่ามนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง กลับมีความสามารถเพียงนี้ นับเป็นอัจฉริยะฝึกตนที่หาได้ยากยิ่งในโลกจริงๆ” หญิงสาวทรงเสน่ห์ใช้สายตาเย้ายวนมองซูเฉินด้วยความสนอกสนใจ พึมพำกับตัวเอง
“แกคือต้นผลกำเนิดมารใช่ไหม?” ซูเฉินหรี่ตาลง กล่าวอย่างเฉยเมย
กลิ่นอายที่หญิงสาวทรงเสน่ห์ปลดปล่อยออกมา มันเหมือนกับต้นผลกำเนิดมารที่เขาเคยสังหารไปแล้ว เลยเกิดข้อสงสัยขึ้นมา
อีกประเด็นก็คือ ในที่สุดซูเฉินก็เข้าใจแล้วว่าทำไมต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ถึงเกิดความคิดฆ่าล้างบางผู้คนในงานประมูล คาดว่าคงเป็นเพราะต้องการช่วยต้นผลกำเนิดมารกลืนกินแก่นโลหิตของเหล่าผู้ฝึกตน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งแก่ตนเอง
“มีความรู้ไม่เลวนี่ เล่นเอาซะข้าเกิดลังเลที่จะฆ่าเจ้าเลย” หญิงสาวทรงเสน่ห์หัวเราะคิกคัก
“เยว่หลิงกำลังเข้าควบคุมเมืองเยว่กวงอยู่ อย่าเสียเวลาอีกเลย”
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ทำสีหน้าเย็นชา เอ่ยย้ำเตือน
หญิงสาวเจ้าเสน่ห์เก็บรอยยิ้มของเธอ กล่าวอย่างชัดแจ้งและสงบเยือกเย็นว่า “ไม่ต้องกังวลไป จะฆ่าเขา ใช้แค่กระบวนท่าเดียวก็พอแล้ว”
สิ้นเสียง เธอโบกสะบัดกิ่งไม้สีเลือด กรีดอากาศเข้าหาซูเฉิน
แทบจะในทันที ปราณชั่วร้ายอันเข้มข้นถึงขีดสุดกระจายเข้ากลืนร่างซูเฉิน
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เมื่อตกอยู่ท่ามกลางปราณเหล่านี้ เกรงว่าคงเสียสติไปแล้ว และกลายเป็นหุ่นเชิดของต้นผลกำเนิดมารอย่างง่ายดาย
ทว่าบนตัวของซูเฉินมี [กายาเทพอสูรนิรันดร์] สามารถต้านทานสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงได้
ขณะที่กิ่งไม้สีเลือดฟาดลงมา เท้าของเขาก็เริ่มขยับไหว หายวับไปจากที่เดิมราวกับภูติผี
“เป็นไปได้อย่างไร!?”
มองไปยังซูเฉินที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยปราณชั่วร้าย แต่กลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ หญิงสาวทรงเสน่ห์อุทานด้วยความตกใจ
“ข้าก็บอกเจ้าแล้วว่าไอ้เด็กนี่ไม่ธรรมดา เร็ว! ร่วมมือกันกำจัดเขา!”
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์พ่นลมหายใจเย็นชา ขณะที่มันกำลังจะลงมือ ก็พบว่าซูเฉินที่เวลานี้ยืนหยัดอยู่กลางอากาศ ค่อยๆชักดาบสงครามสีดำสนิทออกมา
ดาบเล่มนี้มิใช่ใดอื่น เป็น [ดาบเสริมมนตรา]
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับครั้งก่อน ปราณอันแหลมคมที่เล็ดลอดออกมาจากตัวดาบในเวลานี้ มันเข้มข้นรุนแรงกว่าเดิมหลายสิบเท่า อาจกล่าวได้เลยว่าทะยานไปอยู่ในระดับสิ่งประดิษฐ์เทวะแล้ว
ย้อนกลับไปสักเล็กน้อย เมื่อครู่ ขณะที่กำลังสนทนากับต้นผลกำเนิดมาร ซูเฉินลอบใช้ [อัญมณีอัพเกรด] ไปหลายสิบเม็ด ทำการยกระดับ [ดาบเสริมมนตรา] ให้มีคุณภาพสูงในลมหายใจเดียว
นอกจากนี้ เขายังใช้ [อัญมณีฟิวชั่นเวทมนต์] อีกหลายเม็ด ผสมผสานเวทย์น้ำแข็งและเวทย์ธาตุไฟเข้าด้วยกันได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบันต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์กับต้นผลกำเนิดมารรวมเป็นหนึ่ง จนสามารถตัดผ่านเข้าสู่ระดับเทวะขั้น 2 หากพวกมันโจมตีเยว่หลิง ย่อมไม่มีใครสามารถหยุดได้
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ก่อนที่อีกฝ่ายจะลงมือ ซูเฉินจึงตัดสินใจชิงโจมตีก่อนด้วยกระบวนท่าร้ายแรงถึงชีวิต
แม้นี่จะเป็นการผสานรวมเวทมนต์เข้าด้วยกันครั้งแรก และยังไม่อาจทราบถึงอำนาจทำลายล้างที่แน่ชัด แต่ซูเฉินกลับรู้สึกมั่นใจกับการโจมตีนี้อย่างบอกไม่ถูก
เขาเชื่อ! เชื่อว่าตราบใดที่ดาบเล่มนี้ฟาดฟันออกไป ฝ่ายตรงข้ามย่อมได้รับความเสียหายร้ายแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“อย่าเสียเวลาอีกเลย เร่งลงมือพร้อมกันเถิด”
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์เริ่มเกิดความกังวลเล็กน้อย เหวี่ยงกิ่งก้านทุบลงใส่ซูเฉิน
ช่วงเวลานี้สถานที่จัดประมูลสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง นี่เป็นสัญญาณว่าเมืองเยว่กวงกำลังถูกเก็บลง จำเป็นต้องหยุดมันโดยเร็วที่สุด
“ฆ่า!!”
ต้นผลกำเนิดมารไม่ลังเลเช่นกัน โบกกิ่งไม้สีเลือดทุบออกไป
6/8
Ep.838
สีหน้าท่าทีของซูเฉินดูเคร่งเครียดอย่างถึงที่สุด สับดาบลงมาอย่างไม่คิดรั้งรอ
เห็นแค่เพียงกระแสคลื่นขาวกระพือออกจากมัน ในเวลาเดียวกัน อัคคีผลาญแปดทิศและโลกันต์เยือกแข็งก็กระโจนออกมาจากใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์]
ในคราเดียว ตลอดทั้งโถงประมูลร้อนระอุราวกับภูเขาไฟระเบิด ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกเย็นเยียบราวถูกโยนลงในธารน้ำแข็ง
กลิ่นอายของสองเวทมนต์ที่ต่างกันสุดขั้วผสานเข้าด้วยกัน ควบคู่ไปกับการสนับสนุนของมหาเพลิงเอกลักษ์ อำนาจยามปลดปล่อยสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ชวนให้รู้สึกราวกับว่าสามารถทำลายได้ทั้งสวรรค์และปฐพี!
นี่มันวิชาเทพเซียนอะไรกัน?
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์และต้นผลกำเนิดมารสั่นสะท้านด้วยความกลัว ในใจของพวกมันเกิดความคิดที่จะหลบหนี
อู๋หยาจื่อเองก็ตกใจจนไม่อาจหาคำใดมาอธิบาย เขาอ้าปากค้าง ไม่สามารถหุบเข้าหากันได้เป็นเวลานาน
การโจมตีนี้ของซูเฉิน สร้างความพรั่นพรึงอย่างสุดโต่ง ภายใต้แรงกดดันมหาศาลที่โหมกระหน่ำ สถานที่ประมูลคล้ายพังทลายลง
เหล่าผู้คนที่ก่อนหน้านี้โชคดี ยังสามารถรอดชีวิตมาได้ต่างหมอบราบลงกับพื้น ตัวสั่นด้วยความกลัว กระทั่งระดับเทวะก็ไม่มีข้อยกเว้น
วินาทีถัดมา กระแสคลื่นน้ำแข็งและเปลวเพลิงกระหน่ำซัด พัดผ่านกิ่งก้านของสองต้นไม้ สลายมันกลายเป็นฝุ่นได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็โถมเข้าปะทะกับร่างขอต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์อย่างแรง
เห็นแค่เพียงต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ถูกแช่แข็งในลมหายใจเดียว จากนั้นก็เกิดไอหมอกหนา คล้ายถูกหลอมละลายด้วยความร้อนแผดเผา
ในชั่วพริบตาต่อมา ร่างใหญ่ของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ก็ถูกหลอมเหลว หดเล็กลงจนสุดท้ายเหลือเพียงความว่างเปล่า
“ซูเฉินฆ่าระดับเทวะขั้น 2 ได้!”
ดวงตาของอู๋หยาจื่อเบิกกว้าง มุมปากสั่นระริก
แม้ได้เห็นกับตาตัวเอง เขาก็ยังรู้สึกเหลือจะเชื่อ
“ไม่! มันยังไม่ตาย!” ซูเฉินหรี่ตาลง เอ่ยเสียงกระซิบ
ถึงแม้ว่าต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์และต้นผลกำเนิดมารจะหายไป แต่ชิ้นส่วนยังไม่ดรอป หมายความว่าพวกมันยังไม่ตาย
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาไม่มีเรี่ยวแรงเหลือให้ตรวจสอบอีกแล้ว
หลังจากระเบิดการโจมตีอันน่าทึ่ง เจ้าตัวอ่อนเปลี้ยเพลียแรง คล้ายพลังงานทั้งตัวว่างเปล่า เหือดหายไปสิ้น ความรู้สึกอ่อนล้าอย่างสุดขีดแทรกซึมเข้ามาในหัวใจ
ซูเฉินค่อยๆร่อนลงไปข้างๆอู๋หยาจื่อ หอบหายใจหนักหน่วง
“ซูเฉิน เจ้าไม่เป็นไรนะ?”
สัมผัสได้ถึงลมหายใจเบาบางของซูเฉิน อู๋หยาจื่อถามด้วยความกังวล
“ผมยังสบายดี” ซูเฉินยกยิ้มมุมปาก หันกลับไปทางต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ แล้วเอ่ยเตือนว่า “ผู้อาวุโส พวกมันน่าจะยังไม่ตาย ระวังตัวไว้ให้ดี”
ยังไม่ตายอีกเหรอ?
สีหน้าของอู๋หยาจื่อกลายเป็นเย็นเยียบ กวาดมองไปรอบๆอย่างระแวดระวัง
ทันใดนั้นเอง พืชขนาดเท่าฝ่ามือสองต้น หนึ่งแดงหนึ่งเขียวได้โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน เหนือศรีษะของพวกมัน จู่ๆก็ปรากฏชามหินขนาดประมาณหนึ่งจั้งลอยขึ้น ข้างในชามเต็มไปด้วยของเหลวสีเขียวที่เปล่งประกายพลังชีวิตออกมาถึงขีดสุด
ทันใดนั้นเอง ชามหินค่อยๆเอียงลง ของเหลวจำนวนมากถูกเทลงบนพืชทั้งสองต้น
วินาทีถัดมา ฉากอันแปลกประหลาดได้ปรากฏขึ้น
หลังจากพืชทั้งสองดูดซับของเหลว มันก็เริ่มเติบโตอย่างบ้าคลั่ง ชั่วพริบตาเดียวสูงชะลูดถึง 10 จั้ง
และกลิ่นอายของพวกมันก็ค่อยๆเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานก็มาถึงขั้น 10
“ของเหลวที่อยู่ในชามหินนั่นคือน้ำพุแห่งชีวิต –พวกมันใช้น้ำพุแห่งชีวิตฟื้นฟูฐานฝึกตน!” อู๋หยาจื่อร้องโวยวาย
ซูเฉินยังไม่ฟื้นตัว ทว่าอีกฝ่ายกำลังจะกลับคืนสู่ระดับเทวะแล้ว หากปล่อยให้ถึงเวลานั้น เกรงว่าพวกเขาคงตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง
กระนั้น ตอนนี้หากคิดจะหยุด เกรงว่าคงสายเกินไปแล้ว
ซูเฉินเองก็รู้สึกกังวลมากเช่นกัน เพราะยังไงซะ สภาพของเขาในตอนนี้ไม่สามารถลงมือได้
แต่ในช่วงเวลาวิกฤตนี้เอง เยว่หลิงได้เอ่ยขึ้น “ซูเฉิน ข้าควบคุมเมืองเยว่กวงได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้สามารถเรียกเก็บได้ทันที”
ได้ยินแบบนั้น ซูเฉินถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก กล่าวน้ำเสียงเฉียบขาดว่า “รีบเก็บมันซะ!”
ครืนนนนน
บังเกิดเสียงแผ่นดินไหวสั่นสะเทือนขุนเขา
ซูเฉินรู้สึกว่าภาพตรงหน้าพร่ามัว เมื่อวิสัยทัศน์กลับคืนมา ก็พบว่าตนกำลังยืนอยู่บนที่ราบแห่งหนึ่งแล้ว และในเวลานี้ บนมือของเยว่หลิงกำลังถือเมืองเล็กๆที่เจิดจ้าไปด้วยแสงสีเงินอยู่
ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก นั่นสมควรเป็นเมืองเยว่กวงที่ย่อขนาดลงหลายร้อยหลายพันเท่า