บทที่ 356 ความต้องการที่แปลกประหลาด
บทที่ 356 ความต้องการที่แปลกประหลาด
ขณะที่กำผลึกวิเศษ 20 ชิ้นในมือ เย่จงหมิงก็ขยับสายตาไปมองเหล่ามรณาชนที่อยู่โดยรอบ
ผู้คนที่นี่ไม่ต้องการผลึกวิเศษ
ไม่ต้องการ…
พวกเขามีประวัติยาวนานแค่ไหน? ถ้าไม่ต้องการผลึกวิเศษมายาวนาน จะมีสิ่งที่ทำลายไม่ได้นี้เหลือทิ้งอยู่มากขนาดไหน? การเก็บสะสมโดยไม่ตั้งใจนี้ ปริมาณจะมีถึงล้านชิ้น สิบล้านชิ้น หรือแม้กระทั่งหลักร้อยล้านชิ้นหรือไม่? หากเขาสามารถนำมันกลับไปได้ เขามิกลายเป็นทรราชท้องถิ่น (ผู้มั่งคั่ง)ที่แท้จริงในทันที และสามารถหมุนรูเล็ตได้ตามใจชอบหรือ?
เย่จงหมิงแทบไม่เคยตื่นเต้นจนแทบหัวใจระเบิดเช่นนี้มาก่อน ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าการได้เข้ามาสู่อาณาจักรลับเป็นสิ่งที่ดี
แต่เย่จงหมิงไม่ใช่เด็ก เขาจึงไม่ได้ถามเรื่องผลึกวิเศษกับอาเถาโดยตรง หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ระงับความตื่นเต้นในใจลง
เขาจะไม่เป็นคนริเริ่มพูดถึงเรื่องนี้ก่อน เพราะมันจะเท่ากับว่าส่งตัวเองไปให้คนอื่นเชือดถึงหน้าประตู
มรณาชนเหมือนเฉลิมฉลองวันหยุดยาว ปีศาจลิงเขียวเกือบ 30 ตัวเหล่านี้ เพียงพอสำหรับคนทั้งเผ่ากินได้ 20 วัน ซึ่งโดยปกติจะมีเฉพาะการออกล่าสัตว์ครั้งใหญ่เท่านั้น ที่จะสามารถเก็บเกี่ยวได้มากขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม ในการล่าสัตว์ครั้งใหญ่ทุกครั้งจะต้องมีคนตาย แต่ครั้งนี้มีคนได้รับบาดเจ็บเพียง 6-7 คนเท่านั้น
เย่จงหมิงเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้พวกเขาได้รับอาหารมากมายในครั้งนี้ มรณาชนจึงมีทัศนคติที่ดีต่อเขา และอนุญาตให้เขาเคลื่อนย้ายไปมาในค่ายได้อย่างอิสระ
แน่นอนว่า ค่ายนี้ไม่ได้ใหญ่โตนัก สามารถเดินได้สองรอบภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง
หลังจากเดินเรื่อยเปื่อยอยู่สักพัก เย่จงหมิงก็พบเป้าหมาย เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อยากรู้อยากเห็นในตัวเขา และเข้ามาสัมผัสเสื้อผ้าของเขา
“หนูน้อยน่ารักจังเลย”
เย่จงหมิงลูบศีรษะเด็กน้อย พร้อมกับมีรอยยิ้มหลอกเด็กปรากฏขึ้นบนใบหน้า
เด็กผู้หญิงตัวน้อยอาจเคยได้ยินเรื่องของเย่จงหมิงจากผู้ใหญ่มาก่อน เธอจึงไม่มีการป้องกันใดๆต่อเขา และแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณอาคนนี้กำลังพูด แต่เธอก็ยิ้มให้อย่างสดใส
“กินขนมไหม?”
เย่จงหมิงหยิบช็อกโกแลตชิ้นหนึ่งออกมาจากพื้นที่มิติ บนโลกในเวลานี้สิ่งนี้เป็นสิ่งดีที่ผู้วิวัฒนาการจะพกพามันไปด้วย เพื่อเป็นอาหารชดเชยพลังงานหลังจากการต่อสู้ ก่อนที่เขาจะจากมา เซี่ยเล่ยได้นำมาให้เขาค่อนข้างมาก
หนูน้อยตาโต เธอไม่เคยเห็นกระดาษห่อที่สวยงามเช่นนี้มาก่อน
“นี่คือช็อกโกแลต อร่อยนะ ลองกินหน่อยไหม?” เย่จงหมิงพูดพร้อมกับฉีกห่อออก แล้วหักชิ้นเล็กๆใส่ปากตัวเอง แสดงท่าทางให้หนูน้อยดูว่าสิ่งนี้คือของกิน
หนูน้อยก็ฉลาด เธอเข้าใจได้ทันที และหยิบชิ้นส่วนช็อกโกแลตที่เย่จงหมิงส่งให้นำเข้าปาก แล้วรอยยิ้มของเธอก็หวานขึ้นมาทันที
อร่อยมาก นี่อะไร?
ต่อให้ไม่พูดเย่จงหมิงก็เข้าใจ ว่าหนูน้อยกำลังถามเขาด้วยประโยคนี้
แล้วเย่จงหมิงก็เปิดเผยหางสุนัขจิ้งจอกของเขาทันที เขาหยิบผลึกวิเศษออกมาขยับไปมาต่อหน้าหนูน้อย
“บอกหน่อยสิว่า คุณอาจะหาสิ่งนี้ได้จากที่ไหน?”
หนูน้อยมองไปที่ผลึกวิเศษ แล้วมองไปยังช็อกโกแลต จากนั้นก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเลือกอย่างหลัง
จากนั้น…
เย่จงหมิงถึงกับมีเส้นดำ (พูดไม่ออกบอกไม่ถูก) เมื่อหนูน้อยพูดและทำท่าทางอยู่นาน แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร
“ฮ่า ฮ่า เย่ เจ้าต้องการสิ่งนี้ ทำไมไม่มาหาข้าล่ะ?”
ชิป…
เย่จงหมิงรู้สึกอายที่กำลังหลอกเด็กแล้วถูกจับได้ เขามองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบตัวอาเถา เขาจึงรู้ว่าพลังจิตวิญญาณของอีกฝ่ายแข็งแกร่งเทียบเท่ากับมังกรปีศาจยังโกสระดับ 6 ซึ่งเพียงพอจะครอบคลุมค่ายเล็กๆแห่งนี้
เขาจึงหันหลังกลับและเดินไปยังเต็นท์ที่พักของอาเถา
เมื่อรู้แล้ว งั้นก็คุยเรื่องข้อตกลงอย่างจริงจังกันเลย
พอเดินเข้าไปในเต็นท์ เขาก็พบอาเถากำลังรอต้อนรับอยู่ด้วยรอยยิ้ม ข้างๆกันมีชายวัยกลางคนสองคนกับชายฉกรรจ์อีกสองคนนั่งอยู่ด้วย ในขณะที่มี่หยาขยิบตาบอกใบ้อะไรสักอย่าง ซึ่งเย่จงหมิงก็ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร
เย่จงหมิงรู้ข้อมูลพื้นฐานบางอย่างของมรณาชน เขาจึงรู้ว่าอาเถาคือผู้นำของเผ่า ส่วนชายวัยกลางคนคือนักศิลปะการต่อสู้ของเผ่า ทำหน้าที่เป็นผู้สอนทักษะการสู้รบ ส่วนชายฉกรรจ์ทั้งคู่ คนหนึ่งชื่อตี้นั่ว (ดีโน) อีกคนชื่อไคนั่ว (คีโน) เป็นหัวหน้าทีมล่าสัตว์ ทำหน้าที่ปกป้องเผ่าและล่าสัตว์
สำหรับมี่หยา เธอเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ของเผ่า ทำหน้าที่คล้ายกับเจ้าหน้าที่โลจิสติก รับผิดชอบด้านกำลังสนับสนุนและการรักษาพยาบาล
“เรามาคุยกัน ผมต้องการผลึกแบบนี้ ถ้าคุณมี งั้นเราก็มาทำธุรกรรมบางอย่างกันอย่างยุติธรรม”
เย่จงหมิงไม่เลอะเลือน เขายอมรับว่าประเมินมรณาชนต่ำเกินไป แม้ว่าคนเหล่านี้จะนุ่งห่มแบบโบราณ แต่พวกเขาก็มีสติปัญญาสูง
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว การพูดกันตรงๆจึงไม่มีอะไรผิด เพราะคนฉลาดย่อมรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ในขณะที่ยังแสวงหาจุดร่วมและสงวนจุดต่างเอาไว้
อาเถาหันไปพูดกับคนอื่นๆ เขาน่าจะกำลังบอกคนอื่นว่าเย่จงหมิงพูดอะไร
สายตาของคนในห้องจ้องไปยังผลึกวิเศษที่เย่จงหมิงวางไว้บนโต๊ะไม้ สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งแปลกในสายตาของพวกเขา ขโมยผลงานมาจากเว็บ ThaiNovel พวกเขารู้จักมันมาตั้งแต่เกิด บรรพบุรุษของพวกเขาเคยศึกษามันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งก็ได้ข้อสรุปว่า ผลึกแบบนี้ไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกเขา
พวกเขาจึงไม่เข้าใจว่านักรบที่แข็งแกร่งอย่างเย่จงหมิง ทำไมถึงต้องการสิ่งนี้ พวกเขาไม่เชื่อว่าเย่จงหมิงจะเอาไปทำเครื่องประดับ เพราะมันไม่มีเหตุผล แต่เนื่องจากเย่จงหมิงต้องการมัน มันจึงเป็นของมีค่า พวกเขาสามารถหาประโยชน์จากมันได้
เห็นได้ชัดว่า อาเถาเตรียมพร้อมไว้แล้ว เขาหยิบถุงหนังสัตว์ประหลาดสกปรกๆ ออกมาเขย่าเทสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา
ม่านตาของเย่จงหมิงหดตัวลง เมื่อเห็นผลึกวิเศษหลายร้อยชิ้น ส่วนใหญ่เป็นระดับ 1 และระดับ 2 มีระดับ 3 สีดำอยู่ 2-3 ชิ้น และมีแม้กระทั่งระดับที่เหนือกว่าอย่างผลึกวิเศษระดับ 5 สีน้ำเงินอีก 1 ชิ้นด้วย
“เรายังมีสิ่งนี้อีก แต่ความต้องการในการแลกเปลี่ยนของเราสูงมาก”
พูดตามตรงอาเถาก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เย่จงหมิงต้องการผลึกแบบนี้ไปทำอะไร แม้เขาจะมีพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็อ่านใจคนไม่ได้ เขาเพียงแค่เรียกร้องให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดเพื่อเผ่าเท่านั้น
บรรพบุรุษของพวกเขาไม่มีใครต้องการสิ่งเหล่านี้ สิ่งที่เขาเอามาแสดงให้เย่จงหมิงดูเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งที่เขาเอามาจากหลานชาย ผลึกเหล่านี้เป็นเพียงของเล่นตามปกติของเด็กๆในเผ่าเท่านั้น
“ต้องการอะไรว่ามา”
อาเถาเคยคิดจะคุยกับเย่จงหมิงมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เร่งด่วนมาก เพราะตอนนี้ชีวิตของคนในเผ่าเป็นไปอย่างยากลำบากมาก ประชากรลงลดเรื่อยๆ และหากสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่เกินหมื่นวัน มรณาชนคงต้องสูญสลายไปจริงๆ
การชะลอตัวของจำนวนประชากรนี้ไม่ได้เกิดเพราะขาดความอุดมสมบูรณ์ แต่เป็นเพราะสัตว์ประหลาดภายนอกแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และราคาของการล่าที่พวกเขาต้องจ่ายก็สูงขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน ทำให้ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการล่ามีเพิ่มขึ้น และการตายของชายหนุ่มทุกคนก็หมายถึงการสูญเสียสายเลือดใหม่ของเผ่าพันธุ์
แต่ถ้าพวกเขาไม่ออกไปล่าสัตว์ ทุกคนในเผ่าก็จะต้องอดตาย แม้การต่อสู้ครั้งก่อนจะไม่มีคนตาย แต่นั่นก็เป็นเพราะเหล่าผู้อาวุโสในเผ่าต่างพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าสมาชิกในกลุ่มจะไม่มีใครตาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า ในบรรดาสัตว์ประหลาด ปีศาจลิงเขียวอ่อนแอที่สุด แต่พวกมันก็แข็งแกร่งพอๆกับพวกเขา
ในช่วงเวลาที่สิ้นหวัง เย่จงหมิงก็โผล่มา สำหรับมรณาชนที่สูญเสียการติดต่อกับโลกภายนอกเป็นเวลานาน นี่คือความหวังอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ความหวังนี้อาจดูคลุมเครือว่าจะเป็นผู้นำภัยพิบัติมาสู่พวกเขาก็ตาม แต่อาเถาก็ตัดสินใจที่จะเจรจากับเย่จงหมิง
อย่างไรก็ตาม คำว่าคลุมเครือนี้สามารถลบออกไปได้แล้ว ตอนนี้อาเถารู้สึกจริงๆว่า ชายหนุ่มที่มีชื่อว่าเย่คนนี้ คือความหวังที่มรณาชนรอคอยมานาน
“ข้าต้องการ…” อาเถาพูด
******
ผู้แปล - ของแห้งที่ทำตุนไว้ตอนป่วยหมดแล้วน้า ตอนนี้ปั่นไปลงไปเหมือนเดิมนะจ๊ะ