ตอนที่แล้วWS บทที่ 270 สามกลุ่มใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 272 อิทธิพลของป้อมอูดอน PART 1

WS บทที่ 271 ไร้ที่พึ่งและคับแค้นใจ


ในหัวของเมอร์ลินยังคงประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับพันธมิตรปีกเทา หอคอยนักเวทย์และป้อมอูดอนที่พ่อมดวาแด็คเพิ่งให้มา

เขาพบข้อเท็จจริงที่ว่าหอคอยนักเวทย์มีนักเวทย์มากกว่าสี่สิบคนที่อยู่ในระดับสี่ขึ้นไป นี่มากกว่าดินแดนมนต์ดำที่มีเพียงสามสิบคนเท่านั้นซึ่งหมายความว่าหอคอยนักเวทย์มีพลังเทียบเท่ากับองค์กรนักเวทย์ที่มีภูมิหลังที่กว้างขวางและมรดกโบราณเช่นเฉกดินแดนมนต์ดำ

แต่ถึงอย่างนั้น ดินแดนมนต์ดำที่เป็นองค์กรนักเวทย์ขนาดเล็ก พวกเขาก็ไม่สามารถประมาทพลังของนักเวทย์ในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาได้

ในคำอธิบายของดินแดนมนต์ดำที่เกี่ยวกับหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา ที่นี่เป็นดินแดน ‘ป่าเถื่อน’ ที่พ่อมดพเนจรรวมตัวกันเพื่อต่อสู้เอาชีวิตรอดจากสัตว์ทะเล

อย่างไรก็ตาม เมื่อเมอร์ลินมาถึงหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาจากสิ่งที่เขาพบเห็นและได้ยินด้วยตนเอง มันไม่เหมือนอย่างที่เขาได้ยินมาเลย

อย่างหอคอนักเวทย์เป็นกลุ่มที่มีอำนาจอยู่แล้วซึ่งไม่ได้ด้อยกว่าดินแดนมนต์ดำ ในทางกลับกันพันธมิตรปีกเทากับป้อมอูดอนก็เป็นกลุ่มที่น่าเกรงขามซึ่งไม่อ่อนแอไปกว่าหอคอยนักเวทย์เลย

หากทั้งสามกลุ่มนี้รวมพลังกัน พลังของหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาทั้งหมดจะเทียบเท่ากับองค์กรนักเวทย์ขนาดกลาง

สำหรับองค์กรนักเวทย์ขนาดใหญ่ มันไม่ได้มีแค่สมาชิกจำนวนมากเท่านั้น ต้องมีจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างน้อยหนึ่งคนเพื่อสร้างองค์กรนักเวทย์ขนาดใหญ่ขึ้นมา

ตัวอย่างเช่น แม้ว่าอาคารสเตอร์ลิ่งจะไม่ใช่องค์กรนักเวทย์แต่เนื่องจากการมีอยู่ของจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่สเตอร์ลิ่งจึงสามารถเปรียบเทียบได้กับองค์กรนักเวทย์ขนาดใหญ่ แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นเพราะการมีอยู่ของจอมเวทย์สเตอร์ลิ่ง

หมู่เกาะเคิร์ดมันสลามีความคล้ายกับอาคารสเตอร์ลิ่ง มีเพียงเมอร์ลินเท่านั้นที่ไม่ทราบว่ามีจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่บนเกาะเคิร์ดมันสลาหรือไม่

“พ่อมดวาแด็ค สามกลุ่มใหญ่ของหมู่เกาะเคิร์ดมันสลานั้นทรงพลังจริง ๆ และยังมีกลุ่มอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วนซึ่งไม่ควรมองข้าม แม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับสามกลุ่มหลักก็ตาม ตอนนี้ที่หมู่เกาะเคิร์ดมันสลาได้พัฒนาจนมีศักยภาพสูงมากในปัจจุบันแล้ว พวกเขาจะรักษาสิ่งนี้ไว้ได้หรือไม่ หากไม่มีจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่คอยดูแลสิ่งต่าง ๆ?” เมอร์ลินเงยหน้าขึ้นและมองไปทางพ่อมดวาแด็ค

“จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่…”

พ่อมดวาแด็คพึมพำเบา ๆ กับตัวเองครู่หนึ่ง จากนั้นรอยยิ้มลึกลับก็ดึงขึ้นที่มุมริมฝีปากของเขา จากนั้นเขาพูดด้วยเสียงต่ำ

“พ่อมดเมอร์ลิน อันที่จริง มีจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่อยู่ที่หมู่เกาะเคิร์ดมันสลา มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ ฉันไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน  บางทีคุณอาจถามคนที่ป้อมอูดอน พวกเขาอาจจะรู้เรื่องนี้ก็ได้”

เมอร์ลินรู้สึกตะลึง เขาไม่คิดว่าหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาจะมีจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่จริง ๆ หากสิ่งที่พ่อมดวาแด็คพูดนั้นเป็นความจริง หมู่เกาะเคิร์ดมันสลา ทั้งหมดก็พัฒนาไปเป็นกลุ่มใหญ่โดยไม่ได้ตั้งใจซึ่งเปรียบได้กับองค์กรนักเวทย์ขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับอาคารสเตอร์ลิ่ง

แต่ในแง่ของพลังโดยรวม หมู่เกาะเคิร์ดมันสลามีพลังมากกว่าอาคารสเตอร์ลิ่ง ในท้ายที่สุด มีนักเวทย์ระดับเก้าสองสามกลุ่มในสามกลุ่มใหญ่ของหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาแต่อาคารสเตอร์ลิ่งได้รับการสนับสนุนจากจอมเวทย์สเตอร์ลิ่งเท่านั้น

จากข้อมูลของดินแดนมนต์ดำและองค์กรนักเวทย์อื่น ๆ ที่เกี่ยวกับหมู่เกาะเคิร์ดมันสลานั้นเก่าเกินไป สิ่งต่าง ๆ ภายในเกาะเปลี่ยนไปแล้วและหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาตอนนี้ได้กลายเป็นยักษ์ใหญ่เรียบร้อยแล้ว!

จากนั้นพวกเมอร์ลินก็เดินไปในเกาะ ตัวเกาะหลักพลุกพล่านไปด้วยผู้คนและเต็มไปด้วยเสียงตะโกนของนักเวทย์ที่เร่ขายของตามท้องถนน ทำให้เกิดความคึกคัก เมอร์ลินรู้สึกว่าตัวเองได้กลับไปที่เมืองแบล็กวอเตอร์เลย

อย่างไรก็ตามวาแด็คกับเบลล่าดูค่อนข้างหดหู่ พวกเขามีบางอย่างในใจที่ทำให้รู้สึกสนุกกับการเดินเที่ยวได้ เรื่องนี้ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับ ‘พ่อมดยาเลน’ ที่ถูกกล่าวถึงในการสนทนาก่อนหน้านี้

เมอร์ลินไม่ได้สอบถามเกี่ยวกับ ‘พ่อมดยาเลน’ และพวกเขาก็ไม่ต้องการจะพูดถึง

เนื่องจากทั้งสองคนอารมณ์ไม่ดี เมอร์ลินจึงไม่ได้ถามเรื่องพันธมิตรปีกเทาและหอคอยนักเวทย์ต่อ เขาจึงพูดกับวาแด็คกับเบลล่า;jk

“พวกคุณสองคนคงเหนื่อยแล้ว ทำไมเราไม่กลับป้อมอูดอนเพื่อไปพักผ่อนกันก่อนล่ะ?”

วาแด็คกับเบลล่าพยักหน้าและเริ่มหันหลังกลับ

อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้ก้าวไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงดังอันโกลาหลจากด้านหลังพวกเขา สีหน้าของวาแด็คกับเบลล่าก็เปลี่ยนไปและหันควับทันที ดวงตาของพวกเขาจ้องมองตรงไปข้างหน้า

“โดนาห์!”

สายตาของพ่อมดวาแด็คจับจ้องไปที่นักเวท์ที่สวมชุดพ่อมดสีอ่อนและหมวกสีดำปีกกว้างขณะที่เขาตะโกนผ่านฟันที่กัดแน่น

"อืม? วาแด็ค? เบลล่า?”

ใบหน้าของนักเวทย์ที่ถูกเรียกว่า ‘โดนาห์’ ว่างเปล่าอย่างเห็นได้ชัดในทันทีที่เขาเห็นวาแด็คกับเบลล่าแต่หลังจากนั้นเขาก็แสดงสีหน้ามืดมนอย่างรวดเร็ว

“ดูเหมือนว่าพวกแกยังไม่ได้เข้าร่วมกับกลุ่มใดเลย ดี ๆ พวกแกที่ไล่ล่าฉันมาตลอดและเกือบทำให้ฉันต้องตาย ตอนนี้ถึงเวลาเอาคืนแล้ว!”

ใบหน้าของพ่อมดโดนาห์แสดงสีหน้าชั่วร้าย จากนั้นเขาก็หันไปหาพ่อมดตัวสูงอีกคนแล้วพูดว่า “พ่อมดฮิตเต้ คงไม่ว่าอะไรที่ฉันจะทำอะไรบางอย่างที่นี่ใช่มั้ย?”

พ่อมดตัวสูงมองมาที่เมอร์ลินและคนอื่น ๆ และยิ้มเยาะที่มุมริมฝีปากของเขา “โปรดวางใจ กฎของหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาซึ่งห้ามการต่อสู้ไม่มีผลบังคับใช้กับเราสามกลุ่มใหญ่ ตอนนี้คุณเป็นนักเวทย์ของพันธมิตรปีกเทาแล้ว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้าคุณจะฆ่านักเวทย์สักสองสามคน”

“เยี่ยมมาก!”

หลังจากที่โดนาห์พูดจบ เขาแกว่งแขนอย่างดุเดือดและธาตุไฟอันหนาแน่น เริ่มแกว่งไปมาบนร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว

“ลำแสงเพลิง!”

พ่อมดโดนาห์ยกมือข้างหนึ่งขึ้นและลำแสงไฟลุกโชนก็ปะทุขึ้น อย่างรวดเร็วและในชั่วพริบตา มันก็มาถึงวาแด็ค

*ตูม!*

วาแด็คตอบสนองอย่างรวด เขาร่ายเวทย์ป้องกันธาตุดินแต่มันเป็นเพียงคาถาระดับหนึ่งและถูกลำแสงเพลิงทำลายทันที ยิ่งกว่านั้น เปลวเพลิงก็ยังลุกโชนไม่หยุดและกำลังลุกไหม้บนร่างของวาแด็ค

*แคร่ก!*

ผลึกน้ำแข็งหนาก่อตัวขึ้นบนตัววาแด็คทันที นี่เป็นคาถาที่เขาร่ายใส่ตัวเองเพื่อหยุดเปลวเพลิงบนร่างกายของเขา

“คาถาระดับสอง? นี่แกสร้างคาถาระดับสองสำเร็จแล้วเหรอ?”

วาแด็คขจัดผลึกน้ำแข็ง แม้ว่าเปลวเพลิงบนร่างกายของเขาจะหายไปแต่ใบหน้าของเขาก็ยังค่อนข้างซีด มันเป็นการโจมตีเพียงครั้งเดียวแต่เขาได้รับบาดเจ็บหนักมาก

ลำแสงเพลิงของพ่อมดโดนาห์นั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นคาถาระดับสอง ซึ่งแข็งแกร่งกว่าคาถาระดับหนึ่งของวาแด็คมาก

“ฮ่าฮ่าฮ่า ย้อนกลับไปตอนนั้น ตอนที่ฉันถูกพวกแกสองคนไล่ตามจนมาถึงหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา ฉันสามารถสร้างคาถาระดับสองได้เมื่อนานมาแล้ว ถึงฉันจะถูกพวกแกไล่ตามตลอดทางแต่อย่าคิดว่าฉันจะกลัวพวกแก! ฉันตั้งใจจะไม่ยุ่งกับคนบ้าสองคนต่างหากเพื่อที่จะได้มาที่หมู่เกาะเคิร์ดมันสลายังไงล่ะ อย่างไรก็ตาม พวกแกมันโง่จริง ๆ ที่ตามฉันมาที่นี่ ตอนนี้มันถึงเวลาตายของพวกแกแล้ว!!”

สีหน้าอันบิดเบี้ยวของโดนาห์เต็มไปด้วยความโกรธ ดูเหมือนว่าเขาจะถูกไล่ล่าอย่างน่าสมเพชโดยวาแด็คกับเบลล่าตลอดทางมาที่นี่ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเก็บความเกลียดชังไว้มากมาย

“หนอย!! โดนาห์!!”

แสงอันแหลมคมส่องประกายในดวงตาของแม่มดเบลล่า จากนั้นเธอก็พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับการระเบิดอย่างรุนแรงของความผันผวนของพลังธาตุลมที่อยู่รอบตัวเธอ

*หวู่ม! หวู่ม! หวู่ม!*

สายลมพัดปกคลุมทั่วทั้งพื้นดิน ใบพัดพุ่งเข้าหาพ่อมดโดนาห์อย่างรวดเร็ว

“ไร้ประโยชน์ ครั้งนี้ฉันได้เข้าร่วมกับพันธมิตรปีกเทาและมอบอุปกรณ์เล่นแร่แปรธาตุอันล้ำค่าที่ฉันได้มาจากยาเลนให้พวกเขา ไม่เพียงแต่ฉันได้รับความสนใจจากพันธมิตรปีกเทาเท่านั้น แต่ฉันยังได้รับเสื้อคลุมที่สามารถต้านทานการโจมตีด้วยคาถาระดับ 3 ได้ ฮ่าฮ่า!”

พ่อมดโดนาห์คำรามเสียงดัง แม้ว่าใบพัดลมจะพัดเข้ามาหาเขาแต่เขาก็ไม่ได้ถูกคุกคามแต่อย่างใด เสื้อคลุมที่เขาสวมอยู่นั้นปกป้องกันการโจมตีทั้งหมด พลังป้องกันของมันอย่างกับเสื้อคลุมที่เมอร์ลินได้แลกเปลี่ยนจากดินแดนมนต์ดำ

พันธมิตรปีกเทามีทรัพยากรมากที่สุด ก่อนหน้านี้ เมอร์ลินไม่ค่อยเชื่ออย่างนั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เห็นเสื้อคลุมที่โดนาห์สวมอยู่ เมอร์ลินก็ประหลาดใจ เขาสงสัยเล็กน้อยว่าเขาประเมินพันธมิตรปีกเทาต่ำไป

แม่มดเบลล่ามาที่ด้านข้างของพ่อมดวาแด็คทันทีและสนับสนุนเขาแล้วถอยกลับอย่างช้า ๆ แม้ว่าพวกเขาจะดูเกลียดพ่อมดโดนาห์ถึงขีดสุด แต่พวกเขาก็ตกอยู่ในอันตรายในสถานการณ์ปัจจุบันนี้

“โดนาห์ แกยังจำได้ไหมว่าพ่อมดยาเลนปฏิบัติต่อพวกเราอย่างไร? เขาแนะนำวิธีสร้างโครงสร้างคาถาและอธิบายให้เราทราบถึงวิธีการปรุงยา เขาเป็นดั่งอาจารย์ของพวกเราแต่แกซุ่มโจมตีเขาอย่างหน้าไม่อาย สำหรับคนอย่างแก ต่อให้ตายนับหมื่นครั้งก็ไม่อาจชดใช้บาปนี้ได้!”

หน้าอกของแม่มดเบลล่าสั่นไม่หยุดและใบหน้าที่ซีดเผือดเผยให้เห็นว่าความโกรธของเธอได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เบลล่าและวาแด็คเห็นโดนาห์ ทั้งคู่จะโกรธจัด พวกเขาตามล่าโดนาห์มาจนถึงหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาเพื่อที่จะได้ฆ่าเขา

แค่พรสวรรค์ของโดนาห์นั้นดูดีกว่าพวกเขาและเขาได้มอบวัสดุการเล่นแร่แปรธาตุให้กับพันธมิตรปีกเทา ทำให้เขาได้รับความสนใจจากพวกเขาและได้รับมอบเสื้อคลุมที่มีความสามารถในการป้องกันอันทรงพลังจึงทำให้วาแด็คกับเบลล่าไม่สามารถสู้กับเขาได้

ทางด้านเมอร์ลิน เขากำลังจ้องมองโดนาห์ด้วยแววตาเย็นเยียบฉายชัดในดวงตาของเขา

โดนาห์แสดงสีหน้าเคร่งขรึม จ้องไปที่วาแด็คกับเบลล่า เขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างบ้าคลั่ง

"ตายซะ!"

โดนาห์กางแขนทั้งสองข้างออกอีกครั้งและเปลวเพลิงที่แผดเผาก็พุ่งออกมา เปลวเพลิงเปลี่ยนเป็นลำแสงสองดวงซึ่งพุ่งเข้าหาพ่อมดเบลล่าและวาแด็คตามลำดับ

วาแด็คสูดหายใจเข้าลึก ๆ และตะโกนขึ้นฟ้าว่า “โดนาห์ พวกเรากำลังจะเป็นสมาชิกของป้อมอูดอนนะ!! นี่แกกล้าฆ่าพวกเราที่เป็นสมาชิกงั้นเหรอ?”

“ป้อมอูดอน? พี่พวกเขาได้เข้าร่วมที่นั่นแล้วหรือ?”

เมื่อได้ยินวาแด็คพูดถึงป้อมอูดอน นักเวทย์ที่อยู่รายล้อมก็ตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ที่หมู่เกาะเคิร์ดมันสลา ป้อมอูดอนถือเป็นกลุ่มที่มีอำนาจมากที่สุดอย่างแน่นอน

จากปฏิกิริยาของคนเหล่านี้ สามารถบอกได้ว่าป้อมอูดอนมีอิทธิพลมหาศาล!

ใบหน้าของโดนาห์เปลี่ยนไปด้วยความไม่แน่ใจแต่เมื่อเห็นว่าพ่อมดวาแด็คกับแม่มดเบลล่าไม่ได้สวมเสื้อคลุมของป้อมอูดอน เขาก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา

“หึหึ ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกแกยังไม่ได้เป็นสมาชิกป้อมอูดอน ถ้าฉันจะฆ่าวพกแก มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

โดนาห์ไม่สนใจคำพูดของวาแด็คและยังคงส่งลำแสงเพลิงไปยังแม่มดเบลล่าและพ่อมดวาแด็คซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังถูกกดดันด้วยเวทมนตร์ระดับสองอันทรงพลังเช่นนี้

“พ่อมด ยาเลน, เบลล่ากับฉัน ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี ตอนนี้พวกเราไม่อาจล้างแค้นให้คุณได้แล้ว!”

วาแด็คกับเบลล่าได้แลกเปลี่ยนสายตากัน ใบหน้าของพวกเขาค่อนข้างซีดเผือดและดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความคับแค้นใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด