WS บทที่ 266 ความผิดหวัง
“ออกมา!” เมอร์ลินกล่าวออกมาอย่างสงบ
แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจากก้อนหินไปไกลแต่เขาก็รู้ว่ามีคนซ่อนอยู่ด้านหลัง
นักเวทย์ที่ซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินต่างมองหน้ากัน ใบหน้าของพวกเขาเผยความรู้สึกที่หมดหนทางแต่หลังจากนั้นไม่นานก็สงบลง นักเวทย์ผู้ชายก็พึมพำภายใต้ลมหายใจของเขา
"ไปกันเถอะ พวกเราถูกพบแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องหลบซ่อนอีกต่อไป”
นักเวทย์ผู้หญิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพยักหน้าเล็กน้อย ทั้งสองเดินออกมาจากด้านหลังก้อนหินด้วยกัน
“ท่านพ่อมด พวกเราตกเป็นเหยื่อของทารกสองหัวก่อนหน้านี้แต่โชคดีที่คุณไล่มันออกไป หากไม่ใช่การช่วยเหลือของคุณ ชะตากรรมของพวกเราคงจบสิ้นไปแล้ว”
นักเวทย์ผู้ชายกล่าวขอบคุณเมอร์ลินทันทีที่เขาก้าวขาออกมา เขามีประสบการณ์มาก่อนในการจัดการกับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน เช่นนี้ เขารู้ว่าเขาต้องไม่ปล่อยให้ความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย มิฉะนั้นพวกเขาจะอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ปลอดภัย
"หื้ม? สัตว์ประหลาดตัวนี้มันมีชื่อเรียกว่าทารกสองหัวงั้นเหรอ? ช่างเป็นชื่อที่เหมาะสมเสียจริง!”
เมอร์ลินพึมพำออกมา เขาไม่เคยเห็นสัตว์ประหลาดแบบนี้มาก่อน เขาเพิ่งรู้ว่ามันถูกเรียกว่าทารกสองหัว เมื่อพิจารณาจากสีหน้าที่หวาดกลัวของนักเวทย์ทั้งสอง ทารกสองหัวจะต้องเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวมากแน่นอน
แม้ว่าเมอร์ลินจะแค่กระซิบกับตัวเองแต่นักเวทย์ผู้ชายก็เฉียบแหลมและจับสิ่งที่เขาพูดได้ สีหน้าร่าเริงปรากฏบนใบหน้าของเขาขณะที่เขาขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว
“เราขอทราบชื่อของคุณได้หรือไม่?”
เมอร์ลินลังเลครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจว่าจะไม่ปิดบัง เขาตอบอย่างใจเย็นว่า “เมอร์ลิน”
“คุณคือพ่อมดเมอร์ลิน ดูเหมือนคุณจะไม่รู้จักทารกสองหัว ดังนั้นฉันจึงคิดว่าคุณไม่ใช่นักเวทย์จากหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา ฉันขอทราบได้มั้ยว่าคุณมาจากไหน?”
เมื่อได้ยินสิ่งที่นักเวทย์ผู้ชายพูด การแสดงออกที่อธิบายไม่ได้ก็แวบเข้ามาในดวงตาของเมอร์ลิน เมอร์ลินถามว่า “คุณสองคนเป็นนักเวทย์จากหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาสินะ?”
"ถูกตัอง พวกเราคือนักเวทย์จากป้อมอูดอนซึ่งเป็นหนึ่งในสามกลุ่มหลักในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา ฉันชื่อเกอร์สันและเธอชื่อเดลฟ์”
เมอร์ลินพยักหน้าเงียบๆ เหตุผลเดียวที่เขาเดินทางมาที่นี่ก็คือเพื่อค้นหาหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา ตอนนี้เขาได้พบกับสองคนนี้แล้ว งานของเขาก็ง่ายขึ้นมาก
“พ่อมดเกอร์สัน แม่มดเดลฟ์ ฉันเป็นนักเดินทางจากแดนไกล เป้าหมายของฉันคือการค้นหาและเดินทางไปที่หมู่เกาะเคิร์ดมันสลา”
เมอร์ลินเก็บคำอธิบายสั้น ๆ ไว้โดยไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา อย่างไรก็ตาม ทั้งพ่อมดเกอร์สันและแม่มดเดลฟ์ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นแต่กลับเสนอความช่วยเหลือโดยไม่ลังเล
“เราสามารถพาคุณไปที่หมู่เกาะเคิร์ดมันสลาได้แถมพวกเรามาจากป้อมอูดอน พวกเรายินดีต้อนรับพ่อมดผู้ทรงพลังจากแดนไกล หากพ่อมดเมอร์ลินสนใจเข้าร่วมกลุ่มของเรา ฉันยินดีที่จะแนะนำคุณกับทางเบื้องบน”
“ไว้ฉันจะเก็บไว้คิดดู”
หลังจากหยุดชั่วครู่ เมอร์ลินก็เหลือบมองทะเลที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดอีกครั้ง เขาดูค่อนข้างกังวลในขณะที่เขาพึมพำ
“ฉันคิดว่า เราควรออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ทารกสองหัวคนนั้นยังคงกลับอีกและเมื่อถึงเวลานั้น ฉันเกรงว่าแม้ฉันก็ไม่มั่นใจว่าจะจัดการกับมันได้”
ความกลัวของเมอร์ลินไม่ได้เกิดจากทารกสองหัวแต่มาจากความสามารถในการควบคุมอันทรงพลังของมัน มันน่าทึ่งมากที่มันสามารถควบคุมสัตว์ทะเลที่ทรงพลังบางตัวได้
หากทารกสองหัวเรียกสัตว์ทะเลที่แข็งแรงกว่ามา แม้แต่เมอร์ลินก็ไม่สามารถรับมือพวกมัน ดังนั้น สถานที่แห่งนี้ยังคงอันตรายอยู่และเป็นการดีที่สุดสำหรับพวกเขาที่จะออกจากที่นี่โดยเร็ว
พ่อมดเกอร์สันพยักหน้าเห็นด้วย ดูเหมือนว่าเขายังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เขากล่าวเสริมว่า “ถูกของคุณ เราควรจากไปตอนนี้ ที่นี่อันตรายเกินไป”
พ่อมดเกอร์สันยังคงสั่นกลัว เขาและแม่มดเดลฟ์รู้สึกเสียใจที่มาในสถานที่อันตรายเช่นนี้ พวกเขาแทบไม่เชื่อเลยว่าสิ่งแรกที่พวกเขาพบที่นี่คือทารกสองหัว ถ้าไม่ใช่เพราะเมอร์ลิน พวกเขาคงจะตายไปแล้ว
ดังนั้นทั้งสามจึงรีบออกจากชายหาด
...
“พ่อมดเมอร์ลิน คุณมาที่หมู่เกาะเคิร์ดมันสลาเพื่อเข้าร่วมกลุ่มใด? คุณไม่สามารถอยู่รอดได้หากปราศจากการคุ้มครองของกลุ่มในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา แม้แต่นักเวทย์ที่ทรงพลังที่สุดก็ยังเข้าร่วมบางกลุ่ม มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่มีการรับประกันความปลอดภัยเมื่อเผชิญกับการโจมตีที่รุนแรงของสัตว์ทะเล”
ระหว่างทางเกอร์สันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อบอกถึงข้อมูลให้กับเมอร์ลินเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบันบางอย่างในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาเป็นสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านแต่นั่นก็อยู่บนพื้นฐานที่ว่าสถานที่นั้นปลอดภัย แต่อันที่จริง หมู่เกาะเคิร์ดมันสลาไม่ได้เป็นเพียงไม่ปลอดภัยเท่านั้นแต่ยังเต็มไปด้วยอันตรายจากสัตว์ทะเลและมนุษย์ด้วยกันเอง
เกาะเล็ก ๆ นับพันที่ก่อตัวเป็นหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา มักตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีของสัตว์ทะเล สัตว์ทะเลเป็นเป็นผู้ปกครองที่แท้จริงของท้องทะเลอันกว้างใหญ่นี้ สัตว์ทะเลจะมารวมตัวกันเป็นฝูงและโจมตีหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาเป็นระยะๆ
ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาและสิ่งนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของกลุ่มต่าง ๆ ฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่าจะสามารถจัดระเบียบกองกำลังของพวกเขาและปราบสัตว์ทะเลเหล่านั้นได้อย่างเป็นระบบ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงไม่ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ทะเลเพียงลำพัง ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสามารถแบ่งผลกำไรประเภทต่าง ๆ ที่ได้รับหลังจากกำจัดสัตว์ทะเลด้วย
สำหรับนักเวทย์ร่ายที่ไม่ได้เข้าร่วมกลุ่มใด ๆ ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเขาก็ต้องเหนื่อยล้าอันเป็นผลมาจากการต่อสู้อย่างต่อเนื่องกับคลื่นของสัตว์ทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุด มีตัวอย่างค่อนข้างน้อยของผู้ที่เสียชีวิตจากพวกมัน
อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ในทันที เขาเพิ่งมาถึงหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา ดังนั้นจึงเขาต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน นอกจากนี้เขามาที่นี่เพื่อหาดินลาวา ถ้าเขาสามารถพบมันได้บนหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา เขาก็ไม่จำเป็นต้องค้นหามันท่ามกลางภูเขาไฟที่อันตรายเหล่านั้น
“นอกจากป้อมอูดอนแล้ว ยังมีกลุ่มอื่น ๆ ที่หมู่เกาะเคิร์ดมันสลาอีกไหม?”
เมอร์ลินนึกถึงพ่อมดเกอร์สันที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าป้อมอูดอนเป็นเพียงหนึ่งในสามกลุ่มใหญ่ในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาซึ่งหมายความว่ามีอีกสองกลุ่มที่คล้ายกับป้อมอูดอนไม่มากก็น้อย
พ่อมดเกอร์สันไม่ได้ปกปิดข้อมูลใดๆ ตรงกันข้าม เขาให้คำอธิบายอย่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่เขา “หมู่เกาะเคิร์ดมันสลาประกอบด้วยกลุ่มต่าง ๆ มากมาย แต่ส่วนอื่น ๆ เป็นเพียงกลุ่มเล็ก ๆ มีเพียงสามกลุ่มที่ไม่มีปัญหาและมีอำนาจเหนือกว่า นอกจากพวกเราป้อมอูดอนแล้ว อีกสองกลุ่มคือพันธมิตรปีกเทากับหอคอยนักเวทย์”
เมอร์ลินจดจำชื่อของทั้งสามกลุ่มนี้ไว้ในใจของเขา หากในกรณีที่เขาไม่พบเจอดินลาวา เขาก็อาจจะต้องอยู่ในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาต่อจึง ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเลือกสังกัดหนึ่งในสามกลุ่มนี้
ไม่นานนัก เมอร์ลินก็สามารถเห็นเกาะเล็ก ๆ มากมายที่ชายทะเล เกาะเหล่านี้อยู่ไม่ไกลจากกัน
จากระยะไกล พวกมันดูราวกับว่าจะเชื่อมต่อกันแม้จะกระจัดกระจายและดูเหมือนว่ามีนับหมื่นเกาะ
‘นี่คือหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา!’
“พ่อมดเมอร์ลิน เราไปถึงหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาแล้ว ตอนนี้เราจะมุ่งหน้าตรงไปยังเกาะหลักที่ใหญ่ที่สุด ในเกาะหลักนั้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใหญ่หรือเล็ก พวกเขาประจำการอยู่ที่เกาะหลัก”
พ่อมดเกอร์สันให้คำอธิบายโดยละเอียดแก่เมอร์ลินขณะที่เมอร์ลินหรี่ตาและพิจารณาที่ตั้งของเกาะหลักอย่างละเอียด
หลังจากตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาก็พบว่าที่ตั้งของเกาะหลักนั้นเป็นจุดยุทธศาสตร์อย่างแท้จริง เนื่องจากถูกล้อมรอบด้วยเกาะที่เหลือเกือบทั้งหมด ไม่เพียงแต่จะใหญ่ที่สุดเท่านั้นแต่ยังปลอดภัยที่สุดอีกด้วย
เขาเคยได้ยินจากพ่อมดเกอร์สันว่าหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาไม่ปลอดภัย เพราะในบางครั้งจะมีสัตว์ทะเลจำนวนมากเข้าโจมตีหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา เมื่อถึงเวลานั้น มันจะเป็นฉากของการสังหารหมู่ที่มีการต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้นทุกที่ อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ของเกาะหลักทำให้มั่นใจว่าสัตว์ทะเลจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการบุกเข้ามาในเกาะหลัก
ไม่น่าแปลกใจที่มีกลุ่มต่าง ๆ มากมายที่เลือกที่จะไปประจำการบนเกาะหลัก รวมถึงกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดสามอันดับแรก
ในไม่ช้า ภายใต้การนำทางของพ่อมดเกอร์สัน เมอร์ลินก็มาถึงเกาะหลัก นักเวทย์จำนวนไม่น้อยทักทายพ่อมดเกอร์สัน ดูเหมือนว่าเขาจะค่อนข้างเป็นที่นิยมที่นี่
“พ่อมดเมอร์ลิน พวกเรามาถึงป้อมอูดอนแล้ว คุณตัดสินใจได้หรือยังว่าจะเข้าร่วมกลุ่มใด?”
ดวงตาของพ่อมดเกอร์สันเป็นประกายด้วยความคาดหวัง เขาตระหนักดีถึงความสามารถของเมอร์ลิน เมื่อเมอร์ลินเข้าร่วมกับป้อมอูดอน เขาจะได้รับรางวัลมากมายและได้รับโชคลาภมหาศาล
“ฉันยังไม่ตัดสินใจในเรื่องนี้จริง ๆ จริงสิ มีสถานที่ขายวัสดุเล่นแร่แปรธาตุจำนวนมากไหม?”
เมอร์ลินยิ้มเล็กน้อย เขาไม่ได้วางแผนที่จะตัดสินใจในเวลานี้
“มีสถานที่เช่นกันแต่พวกเขาทั้งหมดเป็นพ่อค้าของกลุ่มอูดอน ส่วนใหญ่ขายวัสดุการเล่นแร่แปรธาตุให้กับสมาชิกของฝ่ายของเรา หากคุณไม่ใช่คนของเรา ราคาก็จะสูงขึ้น”
“ไม่เป็นไร ฉันขอดูหน่อย”
เมอร์ลินไม่ได้คิดอะไรเลย เขามีหินธาตุจำนวนมากอยู่ในแหวนของเขาและเขาได้ใช้หินเหล่านี้เพื่อเติมพลังเวทย์อย่างสิ้นเปลืองแล้วในขณะที่เขากำลังรีบเดินทางมาที่นี่ ดังนั้นเขาจึงไม่รังเกียจที่จะใช้หินเหล่านี้เพิ่มอีกนิด ตราบใดที่เขาได้ครอบครองดินลาวา หินธาตุจำนวนเท่าใดที่เขาใช้ไปก็ยังคงคุ้มค่า
เมื่อเห็นว่าเมอร์ลินไม่สนใจ พ่อมดเกอร์สันก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม เขาพาเมอร์ลินไปที่ร้านค้าที่กว้างขวางแทน สามารถมองเห็นนักเวทย์หลายคนกำลังเลือกซื้อของอยู่
“พ่อมดเมอร์ลิน ขอให้สิ่งที่คุณต้องการอยู่ที่นี่ หากคุณไม่พบมันที่นี่ คุณจะไม่พบมันที่อื่นในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา แม้ว่าคุณจะไปหาพ่อค้าคนอื่นก็ตาม”
เมอร์ลินพยักหน้าและเข้าไปในร้าน เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา แม่มดสาวหน้าตางดงามก็เดินเข้ามาต้อนรับเขาทันที
“ยินดีต้อนรับท่านพ่อมด ท่านกำลังมองหาสิ่งใดอยู่เจ้าคะ”
แม่มดคนนี้ดูเหมือนนักเวทย์ระดับเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม เธอดูค่อนข้างเด็กและดูเหมือนว่าเธอเพิ่งเริ่มฝึกหัดเมื่อไม่นานนี้ อย่างไรก็ตาม เธอยังคงมีโอกาสที่จะกลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่ง
เมอร์ลินครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วถามว่า “ฉันต้องการดินลาวา คุณมีมันหรือไม่?”
“ดินลาวา? นั่นจะเป็นเรื่องยาก ดินลาวาอาจเป็นวัตถุดิบในการเล่นแร่แปรธาตุอันล้ำค่าแต่สำหรับสถานที่อย่างหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาก็ยังหาพบได้ยาก เราจะต้องมองหามันท่ามกลางภูเขาไฟที่อันตราย ในช่วงที่ผ่านมามีนักเวทย์เพียงไม่กี่คนที่ยังคงมองหาดินลาวา ท่านพ่อมด ถ้าคุณต้องการสร้างอุปกรณ์เวทมนต์ เรามีวัตถุดิบที่พอจะทดแทนดินลาวาได้…”
เมอร์ลินตัดบทแม่มดคนนั้นทันที เขาขมวดคิ้วขณะขัดจังหวะ “คุณไม่มีดินลาวาที่นี่หรือ?”
แม่มดมองดูเมอร์ลินอย่างจนใจ จากนั้นเธอก็พยักหน้าและพูดต่อ “ถูกต้อง เนื่องจากมันอันตรายเกินไปที่จะนำมันมา ดังนั้นเราจึงไม่มีที่นี่จริง ๆ แม้ว่าคุณจะไปที่ร้านค้าอื่น ๆ ในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา ฉันก็แน่ใจว่าคุณจะไม่พบมันที่นั่นเช่นกัน”
เมอร์ลินค่อนข้างผิดหวัง เขาแทบไม่เชื่อเลยว่าหลังจากความพยายามทั้งหมดที่เขาทำเพื่อไปถึงหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา เขายังไม่สามารถหาดินลาวาได้ เขาต้องไปหามันท่ามกลางภูเขาไฟที่อันตรายจริง ๆ เหรอ?
เขาจำไว้ว่าเมื่อภูเขาไฟเหล่านั้นกำลังปะทุอยู่ แม้แต่นักเวทย์ระดับเจ็ดก็คงไม่รอดจากความตาย ถ้าเขาหรือเธอไม่ได้เตรียมตัวไว้ให้ดี
ขณะที่เมอร์ลินเริ่มรู้สึกท้อแท้ พ่อมดเกอร์สันที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาได้พูดขึเนมา "หากคุณต้องดินลาวาล่ะก็ คุณมาเข้าร่วมกับป้อมอูดอนของเราดูสิ ถ้าคุณเข้าร่วมกับกลุ่มเรา คุณจะหาดินลาวาได้ไม่ยาก”