ตอนที่แล้วบทที่ 10 แฟนคนที่สอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 12 เปิดเผยฆาตกรตัวจริง

บทที่ 11 โชคเข้าข้าง


กำลังโหลดไฟล์

บทที่ 11 โชคเข้าข้าง

คนที่กำลังถูกสอบสวนถูกยั่วยุและกำลังโมโหทำให้หลินถงซูรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก กลับกันเฉินฉีไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย เขาเอื้อมมือไปวางบนบ่าของชายคนนั้นก่อนจะมองหน้าอีกฝ่ายแล้วถามว่า “รู้ไหมว่าเราเจออะไรในศพของกู้เหมิงซิง?”

“อะไร!?” อีกฝ่ายถามอย่างงุนงง

เฉินฉีกระซิบเบา ๆ ที่หู “โรคติดต่อทางเพศไง”

ชายคนนั้นหน้าแดงลามไปถึงปลายหู เขาหันไปทางหลินถงซูแล้วกระซิบ

“เพราะอย่างนั้น...คุณเลยจะถามว่าผมกับเธอเคยทำ... เรื่องอย่างว่าไหมน่ะเหรอ?”

“มีเพศสัมพันธ์กันนั่นแหละ!”

หน้าของชายหนุ่มแดงขึ้นไปอีกจนดูราวกับมะเขือเทศเมื่อโดนเฉินฉีไล่ต้อน ทำให้เขาจำใจรับสารภาพอย่างตะกุกตะกัก “เราเข้าโรงแรมด้วยกันหลังจากงานเลี้ยงบริษัทครั้งหนึ่ง ตอนนั้นดึกมากแล้วผมเลยอาสาไปส่งเธอที่บ้าน ผมแกล้ง ๆ ถามเธอว่าอยากจะเข้าโรงแรมด้วยกันไหม แต่ผมไม่คิดว่าเธอจะตอบตกลง มันเป็นครั้งแรกของผม เพราะอย่างนั้นก็เลยสับสนและประหม่าเล็กน้อย เรื่องนี้เกี่ยวกับคดีบ้างไหมเนี่ย?”

“คุณได้ป้องกันหรือเปล่า?”

“ผมใส่ถุงยางอนามัยนะ”

“คุณเคยติดโรคทางเพศสัมพันธ์มาก่อนไหม?”

“ไม่เคยเลย ผมสุขภาพดีมาก”

“เรื่องนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่แล้ว?”

“เมื่อสองเดือนก่อน”

หลังจากตอบคำถามเสร็จเขาก็มองไปทางหลินถงซูด้วยสีหน้าเขินอาย เฉินฉีตบไหล่เขา “ขอบคุณครับ ข้อมูลนี้มีประโยชน์มากต่อการสืบสวนคดี”

“คุณตำรวจครับ ผมไปได้หรือยัง?”

“อ๋อ อีกเรื่องหนึ่ง วันหยุดของกู้เหมิงซิงคือวันไหนนะ?”

“วันพุธครับ!”

“วันพุธตลอดเลยเหรอ?”

เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะบอกให้ทั้งสองรอสักครู่ขณะที่เขาเปิดดูรายชื่อเข้างานแล้วให้ข้อสังเกตว่า “บริษัทจัดเวลาให้เธอหยุดวันจันทร์แต่เธอกับเสี่ยวชางขอสลับกัน เพราะงั้นเธอเลยเปลี่ยนมาหยุดวันพุธตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว”

เฉินฉีมองดูรายชื่อเข้างานแล้วเหมือนจะใช้ความคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาจึงถามออกมาว่า “เอาล่ะ คำถามสุดท้าย เพื่อนสนิทของเธอเป็นใคร?”

“โอ้ เรื่องนั้นผมไม่รู้อะไรมากนักหรอกครับ”

“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือครับ”

ทันทีที่เฉินฉีกับหลินถงซูออกจากบริษัทไปหลินถงซูก็ถามว่า “ทำไมคุณถึงอยากจะสอบสวนเพื่อนสนิทของเธอนักล่ะ? หรือคุณคิดว่าฆาตกรคือเพื่อนสนิทของเธอ?”

เฉินฉีอธิบายว่า “จากมุมมองของนักจิตวิทยาอาชญากรแล้ว แรงจูงใจในการฆาตกรรมของฆาตกรหญิงส่วนใหญ่มักจะชัดเจนมาก มักจะเกี่ยวข้องกับความสนใจส่วนตัวโดยเฉพาะเรื่องอารมณ์ ผมมั่นใจประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าผู้หญิงคนนั้นในรถผมกับกู้เหมิงซิงรู้จักกันดี”

“นักจิตวิทยาอาชญากรรมเหรอ?” หลินถงซูมองไปยังเฉินฉีด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

“ไม่เอาน่า คนขับรถจะอ่านหนังสือในเวลาว่างบ้างไม่ได้หรือไงกัน? เลิกตั้งคำถามเรื่องความสามารถกับความเป็นมืออาชีพของผมสักทีได้ไหม?”

“ฉันก็แค่สงสัยว่าทำไมคุณถึงดูเป็นมืออาชีพจัง?” หลินถงซูบ่นพึมพำใส่เขา “ถ้างั้นคุณอยากจะพุ่งเป้าไปที่ผู้สงสัยคนนี้เลยใช่ไหม? เริ่มสอบสวนจากความสัมพันธ์ของผู้ตายกันเถอะ!”

“ผมมอบหน้าที่นี้ให้คุณเลย...” เฉินฉีถูกแทรกด้วยเสียงเรียกเข้าของเขาเป็นสายของเพื่อนร่วมงานของเขานั่นเอง เสียงปลายสายพูดด้วยความกังวล “ตาเฒ่าเฉิน นายไปทำอะไรมาเนี่ย? ตอนนี้ตำรวจมาหาฉันแล้วถามถึงนายว่านายทำอะไรอยู่เมื่อสามคืนก่อน”

หลังจากพูดคุยกันไม่กี่คำเฉินฉีก็วางสายไป เขาส่ายหัวแล้วยิ้ม “พี่ชายคุณนี่ช่างมีพรสวรรค์จริง ๆ เขานำกำลังไปสืบหาข้อมูลมั่ว ๆ แถมยังสืบจากแอปอูเบอร์อยู่เลย ทำไมเขาถึงได้หมกมุ่นนักนะ? หัวดื้อชะมัด”

หลินถงซูกระทืบเท้า “อย่าพูดลับหลังพี่ฉันแบบนั้นนะ!”

“ผมแค่พูดตามความเป็นจริง ถ้าคุณอยากปิดคดีนี้เพื่อเอาผลงานละก็อย่าหวังพึ่งให้พวกเขาสืบหาข้อมูลคนใกล้ชิดกับผู้ตายเลย”

“มันไม่เกี่ยวกับผลงาน ฉันอยากทำคดีนี้เพราะอยากให้ผู้ตายได้รับความเป็นธรรม คุณไม่คิดถึงเรื่องนี้เลยหรือไง?” หลินถงซูแค่นเสียง

“โอเค โอเค งั้นก็โทรหาพี่ชายคุณเลยสิว่า ‘โทษทีนะ ตอนนี้ฉันกับผู้ต้องสงสัยคนสำคัญกำลังไปสืบคดีด้วยกัน’”

ท่าทีของเฉินฉีทำให้หลินถงซูตกตะลึงจนพูดไม่ออก ขณะที่เฉินฉีจุดบุหรี่สูบเขาก็สั่งว่า “การสืบสวนของเราจะมีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องเยอะมากคุณควรตัดสินใจได้แล้วว่าอยากได้ผลงานหรือเปล่า ถ้าเจอผู้ต้องสงสัยที่ตรงกับข้อสันนิษฐานแล้วอย่าลืมติดต่อผมละกัน”

“ตรงกับข้อสันนิษฐานเหรอ? ข้อสันนิษฐานไหน? คุณจำได้ว่าเธอเป็นยังไงเพียงแค่เจอเธอในเวลาสั้น ๆ งั้นเหรอ?”

เฉินฉีลูบคางแล้วย้อนคิด “เธอเป็นผู้หญิงอายุประมาณยี่สิบห้าปีหน้าตาดูเรียบร้อยสูงราวหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร ดูเหมือนเธอจะทำงานที่เกี่ยวข้องกับด้านการแพทย์อาจจะเป็นหมอก็ได้ เธอดูเป็นคนเงียบ ๆ และระมัดระวังตัวพอสมควร”

“คุณรู้ได้ยังไงว่าเธอเป็นหมอ?”

“ตอนผู้ตายยังมีชีวิตอยู่เธอทำอาชีพอะไรล่ะ? ผู้แทนยาไง เธอมีโอกาสสูงที่จะทำงานร่วมกับหมอ”

“ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่ใช่ว่าทั้งคู่รู้จักกันผ่านทางธุรกิจเหรอ?”

เฉินฉีส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “ไม่จำเป็นหรอก ผู้แทนยามักจะมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในโรงพยาบาลเท่านั้น อีกอย่างถ้าคุณอยากดูข้อมูลคนไข้คุณจำเป็นต้องขอหมายอนุญาตก่อน มันไม่ได้ขอกันง่าย ๆ แล้วก็เสียเวลามากด้วย ทั้งคู่อายุไล่เลี่ยกันผมเลยคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมากกว่า คุณควรจะไปหาข้อมูลเพื่อนร่วมชั้นของเธอโดยเฉพาะเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย”

ถึงแม้ว่านี่จะเป็นขั้นตอนทั่วไปที่ใช้ในการสืบสวนแต่เมื่อคำพูดพวกนั้นออกมาจากปากของเฉินฉีแแล้กลับฟังดูชัดเจนและมีเหตุผลมาก หลินถงซูพยักหน้าและจดคำแนะนำของเขาลงไป

“ผมไปก่อนแล้วดีกว่า วันนี้ผมยังไม่ได้ทำงานเลย ถ้าผมไม่ได้ลูกค้าสักสองสามคนละก็คงกระเป๋าแห้งแน่ ๆ ถ้ามีอะไรก็โทรหาผมแล้วกัน” เฉินฉีเดินตรงไปที่ประตูหน้าของบริษัท

หลังจากแยกกันเฉินฉีไม่ได้ไปหาลูกค้าในทางกลับกันเขากลับไปยังที่เกิดเหตุ หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้วสามวันตำรวจได้เอาเทปกั้นที่ล้อมไว้ออกแล้ว เฉินฉีล้วงกระเป๋าแล้วเดินเข้าไปในความมืดบนชายหาดที่เต็มไปด้วยหินกรวด เสียงคลื่นสาดซัดดังเข้ามาในหูของเขา

เขาใช้ตาสอดส่ายหาเบาะแส แต่หลังจากผ่านแสงแดดและสายลมไปสามวันดูเหมือนจะไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่แล้ว

หลังจากเดินเสียเวลาอยู่หลายรอบเฉินฉีก็หัวเราะและบ่นพึมพำกับตัวเอง “มันก็เป็นแค่อดีตไปแล้วนี่ ทำไมไม่ปล่อยให้หัวใจมันด้านชาไปซะล่ะ? นี่เป็นโชคชะตาของคุณเหรอ?”

เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาทันใดนั้นจึงเห็นหญิงแก่คนหนึ่งกำลังเก็บขยะอยู่ข้างทางเพียงคนเดียว ในมือถือถุงที่เต็มไปด้วยกระป๋องโซดาและขวดเปล่า เธอสวมเสื้อโค้ตสีไวน์แดงตัวยาวที่ดูไม่เหมาะกับผู้สวมใส่แม้แต่น้อย

เฉินฉีสังเกตเห็นรายละเอียดได้เพียงมองแค่ปราดเดียว เสื้อโค้ตยาวตัวนั้นมีกระดุมคู่กันสองแถวแต่หนึ่งในนั้นกลับหายไป ฉับพลันเหมือนว่าเขาจะคิดอะไรได้บางอย่างจึงบ่นพึมพำกับตัวเอง “นั่นใช่สิ่งที่ผู้ตายถือไว้ตอนนั้น...”

คิดได้ดังนั้นเขาจึงเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วก่อนจะถามอย่างสุภาพว่า “คุณป้าครับ ชุดที่กำลังใส่อยู่คุณป้าเอามาจากที่ไหนเหรอ?

หญิงคนนั้นมองเฉินฉีด้วยความกลัวเล็กน้อยและไม่ตอบคำถาม เมื่อเฉินฉีถามหลายครั้งเข้าในที่สุดเธอก็ยอมตอบด้วยน้ำเสียงลังเลว่า “ป้าเอามาจากถังขยะในตอนดึกคืนหนึ่ง คุณต้องการอะไร?”

เฉินฉียิ้ม “อย่าเข้าใจผิดนะ ผมแค่ชอบสไตล์ของมันมาก ๆ น่ะ ผมขอเสื้อโค้ตตัวนี้ได้ไหม?”

หญิงชราตื่นกลัวก่อนจะเอามือกุมที่อกเสื้อแล้วถามว่า “อะไรนะ? คุณจะแย่งเอาของฉันไปเหรอ?”

เฉินฉีหยิบกระเป๋าเงินออกมาแล้วหยิบเงินสามร้อยหยวนออกมา “ไม่ครับ ไม่ได้จะแย่งไป ผมอยากจะซื้อมันน่ะ!”

คุณป้าคนนั้นยังคงตื่นตระหนกและระแวงอยู่ เฉินฉีโกหกหล่อนว่าเขาจะซื้อไปให้แฟน แม้หญิงชรายังเคลือบแคลงอยู่แต่ก็ขายให้เขาไป เฉินฉีใส่เสื้อลงในถุงพลาสติกอย่างบรรจงไม่ให้ลายนิ้วมือของเขาทำให้หลักฐานเสียรูป

หลังจากหญิงชราเดินจากไป เฉินฉีมองไปที่เสื้อโค้ตในมือก่อนจะร้องตะโกนด้วยความดีใจ “โชคเข้าข้างแล้ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด