HO บทที่ 140 มุมมองของวอนเดอร์ริ่งซาวด์
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้
“อืม…” วอนเดอร์ริ่งซาวด์เริ่มต้น ขณะละสายตาจาดริฟตอ้งคลาวด์ “บางทีเราควรกลับไปหาคนอื่น พวกเขาอาจสงสัยว่าเราอยู่ที่ไหน”
ซินหยายิ้มอย่างสดใส "เราควรไปดีกว่าก่อนที่พวกเขาจะเริ่มกังวล"
วอนเดอร์ริ่งซาวด์ไม่ต้องการให้ดริฟติ้งคลาวด์บอกเขาอีกรอบ เขาออกจากห้องควบคุมเรือทันทีที่คำพูดออกจากริมฝีปากของชายอีกคน เขาคงจะโกหกถ้าเขาบอกว่าเขายังไม่หวั่นไหวกับการสนทนาที่ทั้งสองคนมีก่อนหน้านี้
ท่าทางของดริฟติ้งคลาวด์เปลี่ยนไปจากวินาทีหนึ่งเป็นวินาทีต่อมายังคงปรากฏอยู่ในใจของเขา แค่คิดก็น่ากลัวสำหรับเขาแล้ว เขาเคยรู้สึกมาโดยตลอดว่าดริฟติ้งคลาวด์นั้นอ่อนโยน แม้แต่แมลงวันเขาคงทำร้ายไม่ลง แต่ตอนนี้ เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับเขา บางทีนั่นอาจเป็นเพียงหน้ากากและสิ่งที่เขาเห็นในวันนี้คือสีที่แท้จริงของดริฟติ้งคลาวด์
วอนเดอร์ริ่งซาวด์รู้ว่าเขาแค่คิดมากในสิ่งต่าง ๆ ที่ดริฟติ้งคลาวด์พูดออกมา แต่นั่นไม่ได้เปลี่ยนข้อเท็จจริงที่ว่าเขาอาจจะน่ากลัวราวกับตกนรกเมื่อเขาต้องการ
เมื่อเขาพบว่าเขาแอบชอบเว่ย เขาคิดว่าถ้าเขาพบเธอในชีวิตจริงสักวันหนึ่งเขาจะต้องระวังพ่อที่ปกป้องแต่กลับมีพี่ชายที่ต้องกังวล นอกจากนี้ เขายังมีความรู้สึกว่าดริฟติ้งคลาวด์จะให้ความสำคัญกับพวกเขามากขึ้นเมื่อพวกเขาพบกันในโลกแห่งความเป็นจริง
'อืม ฉันไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเว่ยด้วยซ้ำ' วอนเดอร์ริ่งซาวด์คิด
ขณะที่เขารีบไปตามดาดฟ้าเรือไปยังทางเข้าของส่วนบ้าน เขาต้องการสร้างความมั่นใจให้ตัวเองว่าเขาไม่มีวันมีเหตุผลที่จะนำความแค้นของดริฟติ้งคลาวด์มาสู่ตัวเขาเอง
เขาให้สัญญาว่าเขาจะเป็นทุกอย่างที่เธอต้องการ เขาเคยยุ่งกับการหักห้ามใจจากเธอแต่ตอนนี้เขาไม่อยากยุ่งอีก วอนเดอร์ริ่งซาวด์ต้องการพิสูจน์ให้เธอเห็นว่า พวกเขาสามารถอยู่ด้วยกันได้โดยไม่มีปัญหาจากอดีตของเขา
ขณะที่ความคิดเหล่านั้นแล่นเข้ามาในหัว เขาก็อดไม่ได้ที่จะหยุดชั่วครู่หนึ่ง เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาตกหลุมรักเร็วแค่ไหน เขาไม่ใช่คนที่จะเชื่อในรักแรกพบหรือรักหลังจากผ่านไปสองสามวัน แต่ที่นี่เขาทำตัวเหมือนผู้หญิงคนหนึ่งในละครโรแมนติก
เขาพบว่ามันค่อนข้างแปลก ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเว่ยขยายไปถึงขนาดนี้แล้วได้อย่างไร มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ถ้าเขาซื่อสัตย์กับตัวเอง เขากลับไม่ชอบความรู้สึกนั้น ความรู้สึกนี้มันเหมือนกับ เขาต้องการทำให้ความอบอุ่นที่เขารู้สึกในใจกลายเป็นเปลวไฟและเขาหวังว่าเขาจะจุดไฟแห่งความรักที่เผาไหม้ในตัวเธอได้เช่นกัน
ในที่สุดวอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็มาถึงทางเข้าในตัวเรือ โดยเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น สิ่งแรกที่เขาเห็นคือรอยยิ้มที่สวยงามของเว่ย ลมหายใจของเขาติดขัดในลำคอ เธอมีรอยยิ้มที่สวยงามจนทำให้ใบหน้าของเธอดูน่ารักยิ่งขึ้น
รอยยิ้มของเธอเป็นสิ่งที่เขาอยากเห็นบนใบหน้าของเธอมาโดยตลอด มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่จะพูดแต่เขารู้ว่าเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น วอนเดอร์ริ่งซาวด์จมอยู่ในรอยยิ้มของเธอจนเขาไม่ได้ยินแม้แต่ชื่อของเขาที่ถูกเรียก
“อ้าว วอนเดอร์ริ่งซาวด์ มาแล้วเหรอ!” เว่ยอุทานออกมา เธอรู้ว่าเป็นเขาก่อนที่เธอจะเห็นเขา เสียงฝีเท้าของเขามีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับพวกเขาเสมอ
เว่ยหลุดวิ่งบนลู่วิ่ง เธอหันกลับมาและจะถามว่าระบบนำทางถูกตั้งเรียบร้อยดีมั้ย แต่เมื่อสีหน้าของวอนเดอร์ริ่งซาวด์ เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเขาหรือไม่ เธอจึงก้าวไปข้างหน้าอย่างลังเล
เมลติ้งสโนว์ซึ่งอยู่ที่เครื่องชั่งน้ำหนักมองไปทางอื่นเมื่อเขาได้ยินเสียงของโรมมิ่งวินด์ เขากลอกตาไปที่ท่าทางของวอนเดอร์ริ่งซาวด์ หากเด็กชายอายุ 14 ปีอย่างเขาสามารถมองทะลุผ่านตัวเขาได้ เขาก็อยากจะทำอย่างนั้น
เขาไม่อยากสนใจนกเขาคูรักทั้งสองตัว เมลติ้งสโนว์ยังคงออกำลังเพื่อเพิ่มค่าสเตตัสของเขาต่อไป เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าดริฟติ้งคลาวด์จะมาถึงในไม่ช้า บางทีพวกเขาอาจจะออกกำลังร่วมกันได้ นั่นจะเป็นวิธีที่สนุกมากกว่าการดูคู่รักสองคนนี้
ด้วยความกังวลเกี่ยวกับสาเหตุที่เขายืนมองเธออยู่อย่างนั้น เว่ยก็เดินเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเธออยู่ใกล้เขามากพอ เธอโบกมือต่อหน้าเขาก่อนถามว่า “คุณโอเคไหม?”
เมื่อได้ยินเสียงของเธออยู่ใกล้วอนเดอร์ริ่งซาวด์ เขาได้สั่นออกจากอาการมึนงงใดๆ ก็ตาม เมื่อเขาเห็นว่าใบหน้าของเธออยู่ไม่ไกลจากตัวเขา เขาก็รู้สึกกระอักกระอ่วน เขาก้าวถอยหลังอย่างเคอะเขิน เขาก็หัวเราะออกมาอย่างประหม่า
ทันใดนั้นเขาก็รู้ว่าเขาเพิ่งยืนอยู่ตรงนั้นและจ้องมองผู้หญิงที่เขาแอบชอบอย่างคนโง่ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร วอนเดอร์ริ่งซาวด์พยายามทำให้ทุกอย่างดูเท่
"ฉันไม่เป็นไร ฉันหลงเสน่ห์ความงามของคุณจนหมดสติไปชั่วขณะ"
หลังจากได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากของเขา เมลติ้งสโนว์มองไปที่วอนเดอร์ริ่งซาวด์อย่างกับเขาเป็นตัวประหลาด เขาตกตะลึงอย่างยิ่งที่คน ๆ หนึ่งสามารถพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้
ในขณะเมลติ้งสโนว์ต้องการจะทุบหัวของเขาอย่างแรงเพื่อให้ลืมคำพูดเมื่อกี้ ทางด้านเว่ยก็ตกตะลึง โทนสีชมพูสวยงามค่อยๆ ลามไปทั่วใบหน้าของเธอ มือของเธอรีบขึ้นเพื่อปิดใบหน้าของเธอในขณะที่เธอละสายตาจากสายตาของเขา
“เอ่อ...” เธอเริ่มเขิน “ขอบใจนะ”
เมื่อตระหนักถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูด วอนเดอร์ริ่งซาวด์เริ่มที่จะตำหนิตัวเอง คำพูดอย่างนี้ออกมาจากปากของเขาได้อย่างไร? แม้ว่าเขาจะหมายถึงทุกคำที่เขาพูด แต่ก็มีวิธีที่ดีกว่าสำหรับเขาที่จะพูดมันอย่างแน่นอน
แม้ว่าเขาจะรู้สึกเขินอายอย่างมากในตอนนี้ แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าเขาชอบหน้าแดงของเว่ยมาก เขาคงไม่รังเกียจที่จะพูดเรื่องแบบนั้นตลอดเวลาถ้ามันทำให้เธอมีปฏิกิริยาแบบนี้
“แล้วการออกกำลังของคุณเป็นยังไงบ้าง?” วอนเดอร์ริ่งซาวด์ถาม พยายามเปลี่ยนเรื่องเป็นสิ่งที่เธอน่าจะสบายใจกว่า
เว่ยส่งยิ้มเขิน ๆ ให้กับเขา เว่ยมองเข้าไปในดวงตาของเขาอีกครั้ง “มันเยี่ยมมาก ในที่สุดฉันก็ได้ค่าพลังกายเพิ่มขึ้นอีกจุดหนึ่ง”
“วิเศษมาก” วอนเดอร์ริ่งซาวด์บอกกับเธอ “ด้วยความเร็วในการพัฒนาการของคุณ คุณจะแซงหน้าฉันในเร็ว ๆ นี้แหละ”
“ฉันไม่อยากเห็นด้วยกับคุณนะ ทักษะของคุณดีกว่าของฉันมาก” เว่ยกล่าวขณะดันหน้าอกของวอนเดอร์ริ่งซาวด์อย่างสนุกสนาน
เมื่อได้รับสัมผัสของเธอ ใบหน้าของวอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็เปล่งประกายด้วยความรัก ส่องแสงเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน “ถ้างั้นเราไปออกกำลังกายด้วยกันไหม เราต้องเพิ่มค่าสเตตัส ก่อนที่เราจะออกไปลุยด้วยกัน”
“ใช่ เราควรจะทำ” เว่ยพูด เธอจำได้เพียงว่าอีกไม่นานจะมีกันแค่สองคนเท่านั้น เธอจะต้องชินกับการอยู่คนเดียวกับเขาแต่เธอลืมไปว่าตอนนี้มีเมลติ้งสโนว์อยู่ในห้องด้วย
ขณะที่พวกเขาทั้งสองเดินไปที่ลู่วิ่งสองอันที่ตั้งอยู่ชิดกำแพง พูดคุยกันเงียบ ๆ เมลติ้งสโนว์ก็มองดูพวกเขาส่ายหัวช้า ๆ เขาอยากให้มีกำแพงกั้นพวกเขาไว้จริง ๆ
ในขณะที่เด็กหนุ่มกำลังคิดว่า เขาควรจะเลิกออกกำลังกายดีหรือไม่ ดริฟติ้งคลาวด์ก็เดินเข้ามาในห้องพอดี เมลติ้งสโนว์ไม่เคยรู้สึกมีความสุขเมื่อเห็นเขาเท่าตอนนี้มากก่อนเลย
“พี่ดริฟมาแล้ว พี่จะมาร่วมออกกำลังกายกับพวกเราไหม?” เมลติ้งสโนว์ถาม คำพูดไม่สามารถอธิบายได้ว่าเขามีความสุขแค่ไหนที่ได้พบคริฟติ้งคลาวด์
หลังจากที่ซินหยาบอกเมลติ้งสโนว์ว่าเขาจะไปตกปลาอย่างไร สิ่งเดียวที่เขาพูดได้ก็คือ "ขอผมตกด้วยได้มั้ย?"
30 นาทีต่อมา
“พี่ดริฟมาเลย เราไปตกปลากันเถอะ” เมลติ้งสโนว์กล่าวขณะวิ่งออกไปที่ดาดฟ้า เขาพร้อมที่จะทำอะไรก็ได้ ขอแค่อยู่ห่างจากเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องนั้น