ตอนที่แล้วภาพเทพอสูรบรรพกาล ตอนที่ 209 กับดัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปภาพเทพอสูรบรรพกาล ตอนที่ 211 บังคับปะทะ!

ภาพเทพอสูรบรรพกาล ตอนที่ 210 ฟ้าปราณี (ฟรี)


ระยะห่างระหว่างเมืองกู่ชานกับมณฑลเฮ่อผิงนั้นคือ 630 ลี้ เมิ่งชวนและภรรยาข้ามหุบเขาและแม่น้ำพร้อมกับพุ่งตรงไปยังเป้าหมาย ในเวลาไม่ถึงห้านาที พวกเขาก็พบกับมณฑลเฮ่อผิง

บางครั้งก็มีฝนโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าที่มืดดำพร้อมกับลมที่พัดโบก

‘หืม?’ เมิ่งชวนเห็นการต่อสู้ที่อยู่ห่างออกไปในทันที พื้นที่หลายส่วนถล่มลงเหลือเพียงซาก มีเพียงราชาอสูรและเทพอสูรเท่านั้นที่ยังคงต่อสู้อยู่บนซากปรักหักพังของเมือง เหล่ามนุษย์ต่างเฝ้ารออยู่ใต้ดินและภาวนา

“ราชาอสูรเจ็ดตนงั้นรึ?” เมิ่งชวนส่งกระแสจิตไปหาหลิวชีเยว่ “ทำเหมือนทุกที”

“ระวังตัวด้วย” หลิวชีเยว่กล่าวเช่นปกติ

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะสังหารราชาอสูรทั้งหมดนั่นภายในสิบกระบวนท่า” เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ เมิ่งชวนมุ่งเข้าสู่สนามรบ

เกิดปีกเพลิงขึ้นมาบนหลังหลิวชีเยว่ หลังจากบินตรงไป เธอก็ลอยอยู่กลางอากาศห่างออกจากสนามรบไปประมาณสองลี้ เธอถือธนูไว้ในมือพร้อมกับอีกมือที่หยิบลูกศรออกมา เธอมองลงไปยังสนามรบ เตรียมพร้อมจะช่วยเมิ่งชวนทุกเมื่อ

หลิวชีเยว่มีเหตุผลที่จะอยู่ห่างออกไปสองลี้ เขตแดนสีขาวของจางหวินเฟิงและขอบเขตการรับรู้ของแก่นสารแห่งจิตนั้นอยู่ประมาณสองลี้! เข็มทะลวงวิญญาณของเมิ่งชวนได้ผลแค่เพียงหนึ่งลี้เท่านั้น ดังนั้นการรักษาระยะห่างจากสนามรบหนึ่งลี้นั้นจึงสำคัญมาก กระทั่งการโจมตีของเฟิงโหวเทพอสูรหรือราชาอสูรระดับสี่ก็ยังไม่เกินสองลี้เลย จึงทำให้เทพอสูรมหาสุริยันอยู่ห่างจากศัตรูออกไปอย่างน้อยสองลี้

เมิ่งชวนพุ่งเข้าสู่สนามรบด้วยร่างสายฟ้า หลิวชีเยว่ที่สยายปีกเพลิงอยู่นั้นดูเด่นสะดุดตามาก เทพอสูรทั้งสี่ที่ถูกล้อมเงยหน้าขึ้น พวกเขารู้สึกยินดีที่ได้เห็นสิ่งที่หวังเอาไว้

“นั่นศิษย์พี่เมิ่ง”

“ศิษย์พี่เมิ่งกับศิษย์พี่หลิวมาแล้ว!”

“ศิษย์พี่เมิ่งเป็นคนที่ฝึกฝนร่างอสูรตัดสายฟ้าได้สำเร็จ! เขาใช้เวลาเพียงห้านาทีเท่านั้นเอง”

ลู่ฟางและคนอื่นๆดีใจกับการมาถึงของพวกเขา

….

‘นั่นรึ?’ ในโรงน้ำชาห่างออกไปไม่กี่ลี้ ราชาอสูรระดับสูงฝูเจี๋ยวในชุดสีเทามองดูเมิ่งชวนและหลิวชีเยว่ที่สยายปีกเพลิงด้วยความเหลือเชื่อ!

‘หลิวชีเยว่กับเมิ่งชวน?’ ฝูเจี๋ยวแทบจะไม่เชื่อสายตาตนเองที่จะได้พบกับปลาใหญ่ถึงสองตัว มันรอมานานแล้วที่จะได้จับปลาใหญ่เช่นนี้ แต่ว่าการที่ได้เจอกับเมิ่งชวนและหลิวชีเยว่นั้นเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายไปมาก เขาหยวนชูมีทีมเทพอสูรที่ทรงพลังนับร้อย และเมิ่งชวนกับหลิวชีเยว่ก็มีหนึ่งในนั้น

เทพอสูรส่วนมากนั้นก็เหมือนกับจางหวินเฟิงและหยางฟาง พวกเขาทรงพลังมาก แต่ก็แก่ชรามากแล้ว นั่นทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับเทพอสูรหลายคนกับการไปถึงเขตแดนแห่งเต๋าก่อนอายุ 50 ส่วนมากพวกเขาจะไปถึงเขตแดนแห่งเต๋าเมื่ออายุ 150 ปี ดังนั้นแล้วเทพอสูรมหาสุริยันที่ทรงพลังของเขาหยวนชูส่วนมากจึงแก่ชรา มีเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่เป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์

ทว่า กระทั่งเหล่าอัจฉริยะเองก็มีระดับความสามารถ สำหรับอัจฉริยะเช่นเมิ่งชวน เชวเฟิง และเหยียนชื่อตงแล้วนั้น พวกเขาจะได้ขึ้นเป็นเฟิงโหวเทพอสูรอย่างแน่นอนด้วยความเยาว์วัยและพลัง และยังมีโอกาสที่จะได้ขึ้นเป็นราชันเทพอสูรอีกด้วย จึงทำให้เขาหยวนชูให้ความสำคัญกับพวกเขาเหล่านี้มาก หลิวชีเยว่นั้นอ่อนแอกว่าพวกเขา เธอสามารถเป็นเฟิงโหวเทพอสูรได้อย่างแน่นอนด้วยความช่วยเหลือของสายเลือดวิหคเพลิง แต่โอกาสในการขึ้นเป็นราชันเทพอสูรนั้นยังน้อย ทว่าสายเลือดของเธอนั้นสามารถสืบทอดต่อไปได้ ดังนั้นเธอจึงสำคัญต่อมนุษย์ชาติมาก

‘ข้าได้พบกับอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของมนุษย์ถึงสองคนเลยอย่างนั้นรึ? ฮ่าๆ ปลาใหญ่สองตัวนี้ติดเข้าแหข้าเต็มๆเลย พวกมันทั้งอ้วนและเนื้อดี หากข้าฆ่าพวกมันได้ เขาหยวนชูจะบ้าคลั่งเพราะความโกรธเกรี้ยวเป็นแน่ แต้มที่ข้าได้จากการสังหารสองคนนี้แทบจะเทียบได้กับการสังหารเฟิงโหวเทพอสูรสองคนเลยด้วยซ้ำ’ ฝูเจี๋ยวตื่นเต้นมาก ‘อย่าเครียด อย่าตระหนก’ ฝูเจี๋ยวทำให้ใจเย็นลง ‘ถ้าข้าตื่นเต้นมากไปจนทำให้มันหนีไปได้ ข้าจะเสียใจไปทั้งชีวิตแน่’

ในขณะเดียวกัน ฝูเจี๋ยวก็ครุ่นคิดว่าจะจัดการกับเมิ่งชวนและหลิวชีเยว่อย่างไร ‘เมิ่งชวนนั้นรวดเร็วมาก เรียกได้ว่าเร็วเกือบเท่าราชันเทพอสูร หากข้าทำให้มันรู้ตัว มันจะต้องหนีไปพร้อมกับหลิวชีเยว่อย่างแน่นอน หลิวชีเยว่มีสายเลือดวิหคเพลิง และใช้นิพพานะวิหคเพลิงได้’

ฝูเจี๋ยวหรี่ตา ‘สถานะพวกมันสูงมาก เขาหยวนชูจะต้องให้สมบัติรักษาชีวิตไว้อย่างแน่นอน ข้ามั่นใจไม่ได้ถึง 100 แต่โอกาสเพียง 80-90 ก็เพียงพอแล้ว’

ฝูเจี๋ยวเดินออกจากโณงน้ำชาอย่างเงียบๆ มันเดินไปตามถนนราวกับเงา พุ่งเข้าใส่เมิ่งชวนอย่างต่อเนื่อง

มันกดกระแสพลังพร้อมกับบิดเบือนแสงรอบตัว ทำให้มันมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า

มันเดินเข้าสนามรบพร้อมกับฝนที่โปรยปราย

‘ข้าต้องเข้าไปใกล้กว่านี้ หากข้าโจมตีพลาดเพราะอยู่ไกล เมิ่งชวนจะหนีไปได้แน่ ข้าต้องระมัดระวังมาก การโจมตีระยะประชิดยังไงก็แรงกว่า ดังนั้นข้าจะต้องสังหารมันในการโจมตีเพียงครั้งเดียวให้ได้ ถึงข้าจะพลาด ข้าก็สามารถโจมตีต่อตามไปอีกได้ท่าพิฆาตของข้าสามารถสังหารเมิ่งชวนได้ภายในพริบตา! พอเมิ่งชวนตาย หลิวชีเยว่ที่เป็นเพียงนักเกาฑัณฑ์ก็จะไม่สามารถทำอะไรได้ มันจะหนีจากข้าไปไหนไม่ได้หากเมิ่งชวนตาย ถึงใช้นิพพานะวิหคเพลิงข้าก็สังหารได้อยู่ดีหากมีเวลามากพอ’

ฝูเจี๋ยววางแผนการโจมตี

ฟู่ววว

สายฝนโหมกระหน่ำพร้อมกับสายลมที่โบกโกรก

หลังจากเมิ่งชวนลงไป ราชาอสูรทั้งเจ็ดก็หนีออกไปด้วยความตื่นตระหนก

ฝูเจี๋ยวในชุดสีเทาเดินเข้าสู่สนามรบท่ามกลางสายฝน มันไม่สนใจราชาอสูรทั้งเจ็ดแม้แต่น้อย อันที่จริงแล้วไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่ามันอยู่ที่นี่ มันออกเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวในรอบหลายปี และมันจะสุ่มเลือกสนามรบเพื่อจะซุ่มโจมตี ดังนั้นกระทั่งลูกน้องของมันก็ยังไม่รู้ว่ามันอยู่ที่นั่น จึงทำให้ไม่มีทางที่จะถูกหักหลังได้

หากเป็นเฟิงโหวเทพอสูรที่มา ฝูเจี๋ยวจะหนีไปอย่างเงียบๆ ทว่าคราวนี้เมิ่งชวนและหลิวชีเยว่เป็นกำลังเสริม ฝูเจี๋ยวเชื่อว่านี่เป็นของขวัญจากสวรรค์

‘แต้มที่ข้าได้มาจากการสังหารพวกมันก็เพียงพอที่จะซื้อยามังกรเบญจพิษ’ มุมปากของฝูเจี๋ยวแสยะขึ้น มันวางแผนจะซ่อนตัวอยู่ในโลกมนุษย์เป็นเวลาร้อยปี มันคิดว่าคงจะใช้เวลานานกว่าจะได้แต้มเพียงพอสำหรับยามังกรเบญจพิษ แต่ช่างน่าตกใจที่ได้พบกับเมิ่งชวนและหลิวชีเยว่เช่นนี้

บางทีพวกเขาอาจจะแข็งแกร่งขึ้นมากในอนาคต แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นเพียงแค่เทพอสูรมหาสุริยัน

ฟุบๆๆๆ!

เมิ่งชวนรวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาดพร้อมกับสังหารราชาอสูรเหล่านั้นด้วยกระบี่ในมือ ราชาอสูรทั้งเจ็ดหนีไปด้วยความตื่นกลัว ทีมเทพอสูณสี่คนเองก็ช่วยเมิ่งชวนไล่จับราชาอสูรเหล่านั้น

ฟุบ

ฝูเจี๋ยวเข้าหาอย่างเงียบๆ จากระยะสองลี้เหลือเพียงหนึ่งลี้ มันเองก็เร็วเช่นกัน เพียงพริบตาก็เคลื่อนที่ได้ไกลกว่าร้อยจั้ง เมื่อมันอยู่ห่างออกไป 30 จั้ง ฝูเจี๋ยวก็กระพริบตาหนึ่งครั้ง

ฟุบ!

ลำแสงสีทองสองเส้นพุ่งออกมาจากดวงตา ฝูเจี๋ยวไม่ซ่อนลำแสงสีทองนั้นแม้แต่น้อย ลำแสงสีทองพุ่งเข้าใส่เมิ่งชวนด้วยความเร็วมหาศาล

เมิ่งชวนสังหารราชาอสูรไปหกตนในขณะที่ตนที่เจ็ดกำลังถูกทีมเทพอสูรรุมฆ่า

ในตอนที่เมิ่งชวนกำลังยิ้มอยู่นั้นเอง หัวใจเขาก็สั่นสะท้าน นั่นเป็นเพราะเขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในเขตการรับรู้ 50 จั้งของแก่นสารแห่งจิต เมิ่งชวนเห็นตัวชายชุดคลุมสีเทาได้อย่างชัดเจน ภายใต้ชุดคลุมนั้นคือใบหน้าที่มีเขาหนึ่งอัน ใบหน้าและผิวหนังนั้นเหี่ยวย่น มันไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นอสูร

‘ข้าสัมผัสถึงกระแสพลังได้ในระยะ 5 ลี้ด้วยแก่นสารแห่งจิต แต่ข้าสัมผัสกระแสพลังมันไม่ได้’ เมิ่งชวนรับรู้ได้ในทันที ‘มันคือราชาอสูรระดับสี่’

ในตอนที่ลำแสงสีทองพุ่งออกมา มันก็พุ่งออกไปไกลกว่าสามสิบจั้ง หลายคนตื่นตระหนก

“อะไรนั่น?”เทพอสูรทั้งสี่คนมองดูลำแสงสีทองทั้งสองที่ปรากฏขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวพุ่งเข้าใส่เมิ่งชวน

“อาชวน” หลิวชีเยว่ที่กำลังผ่อนคลายเมื่อก่อนหน้านี้และกำลังลดธนูลงก็เปลี่ยนสีหน้าไปในทันที

เมิ่งชวนชักกระบี่ออกมาในทันใด เขาฟันออกไปและลำแสงกระบี่ที่ดูราวกับดอกบัวสีแดงก็บานออก

แกร๊งๆ!

เมิ่งชวนปัดป้องลำแสงสีทองทั้งสองไปได้โดยสิ้นเชิงด้วยกระบี่อสูรสังหาร ก่อให้เกิดเสียงกระทบดังลั่น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด