WS บทที่ 263 สิ่งของช่วยชีวิต
"เดอะเมทริกซ์ เริ่มวิเคราะห์โครงสร้างเวทมนต์สายธารแห่งความมืด!"
เมื่อเมอร์ลินรู้สึกถึงพลังจิตอันยิ่งใหญ่ภายในร่างกายของเขา เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาสั่งให้เดอะเมทริกซ์ทำการวิเคราะห์โครงสร้างคาถาสายธารแห่งความมืดทันที
โคงรสร้างของสารธารแห่งความมืดนั้น มันซับซ้อนกว่าเขตแดนแสงดำมาก อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้มันเทียบไม่ได้กับความสามารถในการคำนวณสุดล้ำของเดอะเมทริกซ์ ในไม่ช้า เดอะเมทริกซ์ได้สร้างโครงสร้างคาถาขึ้นใหม่มากมาย
อย่างที่เมอร์ลินเคยทำมาหลายครั้งแล้ว เขาเลือกโครงสร้างคาถาที่เสถียรที่สุดในบรรดาพวกมันทั้งหมด มันต้องเข้ากันได้กับโครงสร้างคาถาของเขตแดนแสงดำและหมอกรัตติกาลมากที่สุดด้วย
ในความเป็นจริง ความเข้ากันได้กลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อนักเวทย์ต้องการเป็นนักเวทย์ขั้นสูง เมื่อพลังของเขาเพิ่มขึ้น เขาสามารถสร้างโครงสร้างคาถาขั้นสูงขึ้นได้
เช่นเดียวกับโครงสร้างคาถาระดับสอง ไม่เพียงแต่จะต้องมีความเข้ากันได้โครงสร้างคาถาระดับหนึ่งเท่านั้นแต่ยังต้องเข้ากันได้กับโครงสร้างคาถาระดับศูนย์ด้วย
โครงสร้างคาถาจะกลายเป็นปัญหาหากระดับความเข้ากันได้ต่ำเกินไปและโครงสร้างคาถาทั้งหมดจะล่มสลายในเวลาเพียงชั่วพริบตาในท้ายที่สุด นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เหล่านักเวทย์ขั้นสูงนั้นหายากมาก ในทุกระดับที่พวกเขาก้าวหน้าไป ความยากในการสร้างคาถาที่เหมาะสมก็เพิ่มขึ้นมากมาย
เหตุผลเดียวที่เมอร์ลินไม่กังวลต่อเรื่องนี้ เพราะเขามีเดอะเมทริกซ์ เขาสามารถสร้างคาถาได้อย่างสงบและไม่ต้องกังวลว่าโครงสร้างคาถาจะพังทลาย
หลังจากเลือกแบบจำลองคาถาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจำลองลงในจิตใต้สำนึกของเขาโดยใช้พลังจิตของเขา ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลานาน เพราะในท้ายที่สุดสายธารแห่งความมืด มันมีความซับซ้อนมากเกินไป
เมอร์ลินระดมพลังจิตจำนวนมหาศาลและเริ่มจำลองโครงสร้างคาถาสารธารแห่งความมืดด้วยพลังทั้งหมดของเขา
เวลาผ่านไปทั้งวัน ด้วยการสั่นอย่างกะทันหัน ทั่วทั้งร่างของเมอร์ลินได้ปลดปล่อยออร่าอันมืดมิดอันน่าสะพรึงกลัวออกมา กระแสธาตุแห่งความมืดไม่สิ้นสุดไหลเข้าสู่ร่างกายของเมอร์ลินอย่างบ้าคลั่ง
“สำเร็จ! ฉันได้สร้างคาถาธาตุมืดระดับสอง สารธารแห่งความมืด ได้แล้ว!”
เมอร์ลินลืมตาขึ้น แม้ว่าเขาจะดูเหนื่อยล้าแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาประสบความสำเร็จในการสร้างคาถาระดับสองเป็นครั้งแรก ตราบใดที่เขามีพลังจิตเพียงพอ เขาก็สามารถสร้างคาถาระดับสองเพิ่มเติมได้
“หลังจากการเสริมพลังด้วยดวงใจแห่งความมืด แม้แต่ผู้ที่มีพลังจิตระดับสี่ก็ไม่สามารถต้านทานสายธารแห่งความมืดแบบเสริมพลัง บางทีแม้แต่ผู้ที่มีพลังจิตระดับห้าก็อาจได้รับผลกระทบบ้าง”
เมอร์ลินคุ้นเคยกับพลังของสายธารแห่งความมืดมาก มันมีต้นกำเนิดเดียวกันกับเขตแดนแสงดำแต่มีพลังมากกว่าเท่านั้น เมื่อมันถูกปลดปล่อยออกมา ธาตุแห่งความมืดจะพุ่งเข้าหาศัตรูราวกับกระแสน้ำ มันจะน่ากลัวอย่างยิ่งเมื่อมันมีพลังมากขึ้น
มันน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมเนื่องจากการครอบครองดวงใจแห่งความมืดของเมอร์ลิน พลังของคาถาประเภทความมืดก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน
ตอนนี้เมอร์ลินถือได้ว่าก้าวเข้าสู่นักเวทย์ระดับสองแล้ว เขาสามารถสร้างสายธารแห่งความมืดซึ่งเป็นคาถาที่ยากมากในบรรดาคาถาระดับสอง ดังนั้นหลังจากนี้การสร้างคาถาระดับสองที่เหลือคงจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา
ตอนนี้เขาสร้างสายธารแห่งความมืดสำเร็จแล้ว แผนการต่อไปของเขาคือการเดินทางไปยังหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาเพื่อค้นหาดินลาวา
ถ้าเมอร์ลินจะเดินทางไปที่นั่น เขาอาจใช้เวลาถึงหนึ่งปีครึ่ง ภายในช่วงเวลานั้น หากพลังจิตของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากอีกครั้ง มันเป็นไปได้สำหรับเขาที่จะสร้างคาถาระดับสองหรือสามได้
ดังนั้น เมอร์ลินจึงตัดสินใจว่า เขาจะเลือกคาถาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเขาจากหอสมุดก่อนออกจากดินแดนมนต์ดำ
แม้เมอร์ลินจะได้รับหนังสือแห่งนิรันดร์เล่มแรกซึ่งมีคาถาหลายประเภทตั้งแต่ระดับหนึ่งถึงระดับสามมากมาย สำหรับพ่อมดพเนจรสิ่งเหล่านี้เพียงพอแล้วสำหรับพวกเขา อย่างไรก็ตาม สำหรับเมอร์ลิน เขาคิดว่าที่ดินแดนมนต์ดำมีมรดกสืบทอดมาอย่างยาวนาน มีคาถาพิเศษมากมายที่ไม่มีอยู่ในหนังสือแห่งนิรันดร์
ด้วยเหตุนี้ เมอร์ลินจึงเตรียมที่จะเลือกคาถาระดับสองในหอสมุด
...
"คาถาระดับสองต้องใช้แต้มสนับสนุนมากมั้ยนะ?"
เมอร์ลินขมวดคิ้ว เขามาถึงที่หอสมุด เขาพบว่าคาถาระดับสองเหล่านี้ต้องใช้อย่างน้อยร้อยหรือสองร้อยแต้มสนับสนุน คาถาระดับสองบางอันที่มีมูลค่าสามร้อยแต้มหรือมากกว่านั้น สิ่งเหล่านี้มีราคาแพงมากสำหรับนักเวทย์หลายคนในดินแดนมนต์ดำ
อย่างไรก็ตาม คาถาเหล่านี้มีความพิเศษอย่างแท้จริง พวกเขามีพลังมากกว่าคาถาระดับสองที่บันทึกไว้ในหนังสือแห่งนิรันดร์
ตัวอย่างเช่น คาถาระดับสองธาตุไฟที่เมอร์ลินเลือก ทะเลเพลิงแห่งการชำระนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าเพลิงพิโรธ เมื่อร่ายคาถานี้ออกไป บริเวณโดยรอบก็กลายเป็นทะเลเพลิงซึ่งน่ากลัวราวกับนรก
นอกจากนี้ยังมีคาถาธาตุดินระดับสองคือม่านธรณี คาถานี้จะสร้างแสงที่เกิดจากการควบแน่นของพลังธาตุดินรอบ ๆ ตัวนักเวทย์ สิ่งนี้ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งกว่ารูปปั้นผู้พิทักษ์ หากเมอร์ลินมีโอกาสฝึกฝนพลังปีศาจแพนโดร่าผสานผืนพิภพสำเร็จ ม่านธรณีจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นถึงสามหรือหกเท่าทันที
นอกจากนี้ยังมีคาถาธาตุลมระดับสอง ลำแสงลมพัด ชื่อนั้นเรียบง่ายแต่ก็ยังแข็งแกร่งกว่า สายลมแห่งอิสระ เมื่อร่ายคาถานี้ ร่างกายของนักเวทย์จะเบาราวกับลมพร้อมกับความเร็วที่เพิ่มขึ้น
นอกจากคาถาทั้งสามนี้แล้ว ยังมีคาถาประกายสายฟ้าอีกด้วย นี่เป็นคาถาที่มีต้นกำเนิดเดียวกันกับลูกสายฟ้า ตัวคาถามีลักษณะรวดเร็วราวกับสายฟ้า แม้ตัวคาถาจะปรากฏขึ้นชั่วพริบตาแต่มีพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว
ส่วนคาถาธาตุน้ำแข็งที่เมอร์ลินเลือก มันมีชื่อว่า ผนึกทุ่งน้ำแข็ง นี่เป็นคาถาพิเศษสุดที่จะแช่แข็งทุกเป้าหมายภายในพื้นที่ตราบเท่าที่รัศมีคาถาจะไปถึง
ยิ่งพื้นที่มีขนาดใหญ่เท่าใด ผลกระทบของผนึกทุ่งน้ำแข็งก็จะยิ่งอ่อนลงเท่านั้น ในทำนองเดียวกัน ยิ่งพื้นที่มีขนาดเล็กเท่าใด ผลกระทบของผนึกทุ่งน้ำแข็งก็จะยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเท่านั้น
คาถาระดับสองทั้งห้านี้พร้อมกับสายธารแห่งความมืด พวกมันจะเป็นคาถาระดับสองในอนาคตของเมอร์ลิน หากในกรณีที่เขาไม่พบคาถาที่ดีกว่า เขาจะสร้างคาถาเหล่านี้ทีละอันหลังจากที่เขาได้รับพลังจิตเพียงพอ
"ทะเลเพลิงแห่งการชำระ, ม่านธรณี, ลำแสงลมพัด, ประกายสายฟ้า, และผนึกทุ่งน้ำแข็ง เดอะเมทริกซ์บันทึกคาถาทั้งห้านี้ไว้ในฐานข้อมูล"
เมอร์ลินสั่งให้เดอะเมทริกซ์บันทึกคาถาเหล่านี้ คาถาทั้งห้านี้ เมอร์ลินใช้จ่ายไปมากกว่าพันห้าร้อยแต้มสนับสนุน
นี่เป็นเพียงคาถาระดับสองและคาถาระดับสามจะมีราคาแพงกว่านี้ โชคดีที่ใกล้จะครบหนึ่งปีแล้วและเมอร์ลินก็จะได้รับแต้มสนับสนุนหมื่นแต้มจากดินแดนมนต์ดำอีกครั้ง
หลังจากที่เมอร์ลินเลือกคาถาระดับสองและเตรียมการอย่างไร้ที่ติแล้ว เขาก็ไปหาพ่อมดลีโอเพื่อบอกลาเขา
“อาจารย์ลีโอ!”
เสียงของเมอร์ลินดังขึ้น หลังจากนั้นประตูบานใหญ่ก็ค่อย ๆ เปิดออก มีร่องรอยของความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของพ่อมดลีโอ ดูเหมือนว่าเขาจะทำการทดลองบางอย่างซึ่งทำให้เขาเหนื่อยมาก
“เมอร์ลิน มีอะไรเหรอ?” แม้ว่าพ่อมดลีโอจะขมวดคิ้วและดูเหนื่อยล้าแต่เขายังคงถามด้วยสีหน้ายินดีเมื่อเห็นว่าเป็นเมอร์ลิน
“อาจารย์ลีโอ ผมมาเพื่อบอกลาคุณ ผมพร้อมที่จะเดินทางไปหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาแล้ว”
เมอร์ลินบอกถึงเหตุผลในการเดินทางไปที่นั่น คิ้วของพ่อมดลีโอขมวดคิ้วแน่นขึ้น หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง พ่อมดลีโอก็ค่อย ๆ อ้าปากพูด
“ดินลาวาสามารถพบได้ที่หมู่เกาะเคิร์ดมันสลาเท่านั้นแต่มันอยู่ไกลจากดินแดนมนต์ดำมาก หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้า ข้าเกรงว่าข้าจะไม่มีทางไปถึงที่นั่นได้ทันเวลา”
แม้ว่าเมอร์ลินจะเคยไปเมืองโฟลตติ้งกับเมืองโทลเล่แต่ในความเป็นจริง พ่อมดลีโอให้ความสนใจกับเมอร์ลินอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีพลังอันทรงพลังในดินแดนมนต์ดำ นอกจากออซมูแล้ว ยังไม่มีใครกล้าสู้กับเมอร์ลินอีก
อย่างไรก็ตาม หมู่เกาะเคิร์ดมันสลาซึ่งอยู่ห่างไกลจากดินแดนมนต์ดำ มันต่างออกไป นักเวทย์หลายคนไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อขององค์กร
หากเขาต้องตกอยู่ในอันตรายที่นั่น ดินแดนมนต์ดำก็ช่วยอะไรไม่ได้เช่นกัน การตัดสินใจของเมอร์ลินในการเดินทางไปยังหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาในครั้งนี้นั้นอันตรายกว่าเมื่อก่อนมาก
“อาจารย์ลีโอ ผมคิดว่าผมเตรียมการเพียงพอแล้ว!” เมอร์ลินพูดอย่างจริงจัง
ผ่านไปครู่หนึ่งก่อนที่พ่อมดลีโอจะพยักหน้าและพูดว่า “ดีมาก ความสามารถของเจ้าไม่ถือว่าอ่อนแอแล้ว นักเวทย์ระดับสี่ทั่วไปไม่สามารถต่อสู้กับเจ้าได้ เพื่อที่จะเป็นนักเวทย์ที่ยอดเยี่ยม เจ้าต้องออกไปข้างนอกบ่อย ๆ และสัมผัสกับความมหัศจรรย์ต่าง ๆ ของโลกของนักเวทย์ในอนาคต สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเจ้าในการสร้างคาถาเฉพาะของเจ้าเอง”
ในที่สุด พ่อมดลีโอก็อนุญาตให้เมอร์ลินเดินทางไปยังหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาที่อยู่ห่างไกลออกไป
ขณะที่เมอร์ลินกำลังจะจากไป พ่อมดลีโอกล่าวว่า "ช่วยรออีกสามวันก่อนที่เจ้าจะออกจากดินแดนมนต์ดำ หลังจากสามวันแล้ว มาหาข้าที่นี่ ข้าจะทำของไว้ช่วยชีวิตเจ้า"
เมื่อพูดจบ พ่อมดลีโอก็ไล่เมอร์ลินออกไป
“สามวันเพื่อสร้างของช่วยชีวิต? ในเมื่อเขาบอกว่ามันช่วยชีวิต ฉันเกรงว่านี่จะไม่ใช่เรื่องธรรมดา”
เมอร์ลินเหลือบมองไปที่ห้องของพ่อมดลีโอ เขารู้สึกซาบซึ้งที่พ่อมดลีโอจะสร้างของช่วยชีวิตในอีกสามวัน
เมอร์ลินสัมผัสได้ถึงความห่วงใยอย่างจริงใจของอาจารย์ลีโอ มันเหมือนกับที่เคยเป็นกับชายชราอีธาน แม้ว่าเขาจะมีอารมณ์แปลก ๆ แต่เมอร์ลินก็รู้สึกขอบคุณชายชราอีธานอยู่เสมอ
หลังจากออกจากบ้านของพ่อมดลีโอ เมอร์ลินก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุด เขาคิดว่าเขาควรใช้ช่วงเวลาสามวันนี้เพื่อสอนเอ็มม่าให้มากขึ้น
เอ็มม่าไม่มีเดอะเมทริกซ์และเมอร์ลินไม่ได้ตั้งใจที่จะนำโครงสร้างคาถาที่สร้างโดยเดอะเมทริกซ์ออกมาโดยตรง นี่คือ ‘ความลับ’ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมอร์ลิน ‘ความลับ’ ที่เขาไม่คิดเปิดเผยให้ใครรู้
นอกจากนี้ เมอร์ลินยังต้องการดูแลเอ็มม่าให้เป็นนักเวทย์อย่างแท้จริง เขาไม่สามารถใช้วิธีการที่น่าสงสัยและกลโกงเช่นนั้นสอนเอ็มม่าได้
"ท่านอาจารย์?"
เมื่อเอ็มม่าเห็นเมอร์ลินนอกห้อง ความตื่นเต้นก็ปรากฎบนใบหน้าของเธออย่างชัดเจน
เมอร์ลินพยักหน้าและกล่าวว่า "อีกสองสามวันฉันจะออกจากดินแดนมนต์ดำ ดังนั้นในช่วงสองสามวันนี้ฉันจะสอนเธอและให้ความรู้บางอย่างเกี่ยวกับการสร้างโครงสร้างคาถา"
แม้ว่าเมอร์ลินจะพึ่งพาเดอะเมทริกซ์ในการสร้างโครงสร้างคาถา แต่เขาก็กลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่ง หลังจากใช้เวลาอยู่ในดินแดนมนต์ดำเป็นเวลานาน เขารู้บางสิ่งเกี่ยวกับการสร้างโครงสร้างคาถา แม้ว่าเขาจะไม่เคยสร้างมันเองมาก่อนก็ตาม
แต่นั่นก็เกินพอที่เขาจะสอนเอ็มม่าได้ ดังนั้น เมอร์ลินจึงนำความรู้นี้ไปสอนเอ็มม่า
สามวันผ่านไปในพริบตา เมอร์ลินเหลือบมองไปยังชั้นสูงสุดของหอคอยพ่อมด ขณะที่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับวัตถุช่วยชีวิตที่พ่อมดลีโอทำ ดังนั้นเขาจึงมาแต่เช้าที่หน้าห้องของพ่อมดลีโอและรออย่างเงียบ ๆ