244 - มาเริ่มกันเถอะ
244 - มาเริ่มกันเถอะ
สำผัสศักดิ์สิทธิ์ของสตรีศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงอาจถูกปิดกั้น แต่ใบหน้าของนางยังคงเย็นชา ใบหน้าที่สวยงามของนางผันผวนอย่างมากเมื่อเผชิญหน้ากับคลื่นสีทองที่ออกมาจากหว่างคิ้วของเย่ฟ่าน
เย่ฟ่านหัวเราะอย่างเย็นชา มือทั้งสองของเขาหมุนไปรอบๆ ร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าของนางโดยไม่มีการเขินอายแม้แต่น้อย เขาเคลื่อนไหวอย่างหยาบคายและชั่วช้าเกินที่ใครจะทนไหว
"เจ้า…"
“ข้าบอกไปแล้วว่าข้าจริงจังมาก เจ้าคิดว่าข้าหลงใหลในเสน่ห์ของเจ้าจริงๆเหรอ?”
"หยุดเถอะขอร้อง!" ร่างกายของนางตอบสนองอีกครั้งมันเปลี่ยนเป็นสีชมพูด้วยความอับอายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เย่ฟ่านลูบไล้ไปทั่วร่างกายของสตรีศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง ร่างกายของพวกเขาคลุกคลีอยู่ในท่าที่สนิทสนมมาก แต่เจตนาฆ่าของแต่ละฝ่ายยังคงมีอยู่อย่างแข็งแกร่ง!
นี่คือการต่อสู้ประสาทสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ ดวงอาทิตย์สีทองกลายเป็นเปลวไฟที่ห่อหุ้มจิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์ของเหยาซีอย่างสมบูรณ์และมันกำลังต่อต้านทะเลแห่งจิตสำนึกของเย่ฟ่าน
ทั้งสองคนอาจจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในด้านการกระทำของพวกเขานั้นมันชัดเจนว่าพวกเขาต่างก็ต้องการให้คู่ต่อสู้ตายให้ได้
ทันใดนั้นเหยาซีก็เปล่งเสียงร้องอันเจ็บปวดและละเอียดอ่อน ออกมาทันที จิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์ของนางเริ่มละลายหายไปและจางลงเล็กน้อย
“เหยาซี เจ้าไม่มีโอกาสแล้ว!” เย่ฟ่านกดดัน
ในขณะเดียวกันมือของเขาก็ลูบไล้ร่างกายที่สวยงามของหญิงสาวเพื่อให้เหยาซีเกิดความฟุ้งซ่านจากความโกรธและอับอาย
อย่างไรก็ตามในเวลานี้เย่ฟ่านรู้สึกได้ถึงอันตรายอย่างใหญ่หลวง เพราะรอยยิ้มอันอ่อนหวานและเย้ายวนของเหยาซีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางอีกครั้ง
“เจ้าหนูน้อย ไปตายซะ!”
เสียงของนางเบาและนุ่มนวลราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ แต่เจตนาฆ่าของนางถูกปลุกเร้าด้วยความบ้าคลั่งอย่างแท้จริง
เย่ฟ่านกระแทกคลื่นทะเลแห่งจิตสำนึกของเขาเข้าสู่หน้าผากของหญิงสาวอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาต้องการบดขยี้นางให้ตายในครั้งเดียว
ปัง!
ทะเลแห่งจิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์ของเหยาซีระเบิดออกมาอย่างรุนแรงราวกับจักรวาลที่ลุกไหม้ และความผันผวนอันน่าสะพรึงก็ปะทุขึ้นทำให้ทุกสิ่งรอบตัวถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
สำผัสศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านอาจทรงพลัง แต่ในเวลานี้เขายังคงได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เขาไม่คิดว่าเหยาซีจะเด็ดขาดได้ขนาดนี้ ในช่วงเวลาสุดท้ายนางไม่ลังเลที่จะระเบิดจิตสำนึกของตัวเองเพื่อตายไปพร้อมกับเขา
ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงความตายอย่างแท้จริง วิญญาณของเขาเคลื่อนตัวออกไปด้านข้างเพื่อหลบจากแรงระเบิด แต่ทุกอย่างก็เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป
แม้ว่าเขาจะมีการเตรียมการบางอย่าง แต่สำผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ยังทำร้ายเขาให้ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
ปัง!
เย่ฟ่านกระเด็นกลับหลังกระแทกเข้ากับผนังของวิหารเก่าจนเป็นช่องแตกขนาดใหญ่ ดวงตะวันอันแรงกล้าซึ่งเกิดจากสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเหยาซีถูกทำลายอย่างสมบูรณ์!
โชคดีที่ทะเลแห่งจิตสำนึกของเย่ฟ่านไม่ได้รับบาดเจ็บ ต่อให้ร่างกายของเขามีสภาพน่าสังเวชแค่ไหนแต่มันก็จะฟื้นตัวอย่างช้าๆขอเพียงเขามีสมบัติศักดิ์สิทธิ์และเวลามากพอ
“เหยาซี…” เสียงของเย่ฟ่านเย็นชาขณะที่เขาเขย่าร่างกายที่อ่อนนุ่มของนาง
ในเวลานี้เหยาซีเป็นเหมือนผลงานชิ้นเอกแห่งความสมบูรณ์แบบแต่นางก็นิ่งเฉยอย่างสมบูรณ์
“นางตายแบบนี้จริงๆเหรอ” เย่ฟ่านสงสัยมาก
แรงระเบิดเมื่อสักครู่นั้นรุนแรงไม่น้อย แต่หญิงสาวที่ชั่วร้ายเช่นนางจะฆ่าตัวตายจริงๆหรือ? นางตายไปแล้วใช่หรือไม่?
“ฮ่าๆๆ ภรรยาของข้า ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะตายไปจริงๆ!” เขายิ้มอย่างเย็นชา
แต่นางไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลย
เย่ฟ่านไม่แน่ใจ แต่เขารู้สึกว่าสำผัสศักดิ์สิทธิ์ของนางหายไปแล้วในขณะที่อุณหภูมิร่างกายของนางก็เริ่มเย็นลงอย่างชัดเจน และพลังปราณชีวิตของนางก็หมดลงอย่างเห็นได้ชัด
เย่ฟ่านเกิดความรู้สึกสงสัยเขาจึงถอดเสื้อผ้าบนร่างกายของนางออกจนหมด เขาไม่เชื่อว่าเมื่อทำแบบนี้แล้วนางจะยังสามารถนิ่งเฉยอยู่ได้
แต่สุดท้ายเหยาซีกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ นางเป็นเหมือนตุ๊กตาหยกที่ไม่เคลื่อนไหวและนอนอยู่บนขาของเขาอย่างเงียบๆ
เย่ฟ่านไม่มีทางเลือกอื่นได้แต่ปลดปล่อยสำผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาเข้าไปในทะเลแห่งจิตสำนึกที่หน้าผากของเหยาซีอีกครั้ง เขาไม่เชื่อว่านางจะตายแบบนี้จริงๆ
ปัง!
ในเวลานี้พลังอันยิ่งใหญ่ได้กดทับลงมาจากท้องฟ้าอย่างรุนแรง เย่ฟ่านเงยหน้าขึ้นและเห็นวังจันทราขนาดใหญ่กำลังตกลงมา
“ข้ารู้ว่าเจ้ายังไม่ตาย!” จิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านถอยกลับอย่างรวดเร็ว
“ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าจิตสำนึกศักดิ์สิทธิ์ที่สั่งสมมาหลายปีจะไม่สามารถฆ่าเจ้าได้” ใบหน้าของเหยาซีนั้นเคร่งขรึมขณะที่นางกล่าวต่อไปว่า
“สัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ามีพลังมาก มันเกินความคาดหมายของข้าจริงๆ เจ้าทำให้มันแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?”
หัวใจของเย่ฟ่านสั่นไหว ตอนนี้วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาเกือบจะถูกทำลายไปแล้ว หญิงงามคนนี้มีอุบายอยู่เต็มอกและพร้อมที่จะปลิดชีวิตเขาได้ตลอดเวลา โชคดีที่เขาเฝ้าระวังอยู่เสมอ
“เหยาซี ตอนนี้เจ้าสามารถพึ่งพาอะไรได้อีก? ถ้าเจ้าไม่มีอะไรอื่นพวกเราก็มาเป็นสามีภรรยาที่แท้จริงกันเถอะ!”
ในโลกภายนอกนิ้วของเย่ฟ่านสัมผัสไปทุกสัดส่วนของหญิงสาวด้วยความหยาบคายและไร้ยางอายอย่างยิ่ง
ภายในทะเลแห่งจิตสำนึกใบหน้าของเหยาซีเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง นางรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกายของนางและนางก็พูดอย่างเย็นชาว่า
“ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้ เราก็มาตายด้วยกันเถอะ”
จิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์ของนางจุดไฟขึ้นและเผาผลาญวังจันทราเพื่อให้มันระเบิดทำลายจิตวิญญาณของเย่ฟ่านไปด้วย
“ด้วยการจุดไฟจิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์ของข้า ข้าสามารถควบคุมวังจันทราเพื่อให้มันระเบิดตายไปพร้อมกับเจ้า!” เหยาซีตะโกนด้วยความโกรธแค้น
เมื่อเห็นการกระทำของนางที่มีความเด็ดขาดเป็นอย่างมาก เย่ฟ่านก็ถอยกลับอย่างรวดเร็ว สติสัมปชัญญะทั้งหมดของเขาพุ่งออกมาและหยุดอยู่นอกหน้าผากของนาง
“ต่อให้เจ้าเผาผลาญทะเลจิตสำนึกของตัวเอง ข้าก็ไม่ยอมให้เจ้าออกมาจากร่างกายได้!”
สัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านปิดผนึกหน้าผากของเหยาซี ต่อให้นางระเบิดทะเลแห่งจิตสำนึกของตัวเองจริงๆนางก็จะตายก่อนเขาอย่างแน่นอน
ปัง!
ทะเลแห่งจิตสำนึกของเหยาซีสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าครั้งนี้นางจะไม่ได้ล้อเล่น
“พอได้แล้ว ถ้าเจ้าไม่หยุดอย่าหาว่าข้าไร้ความเมตตาก็แล้วกัน” ในเวลานี้เย่ฟ่านเริ่มสำรวจร่างกายของเหยาซีอย่างจริงจัง
“ให้ข้าดูหน่อยว่าร่างกายของเจ้าแตกต่างจากคนอื่นหรือไม่…”
สตรีศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงโกรธจัด สิ่งที่นางกลัวมากที่สุดกำลังเกิดขึ้น เย่ฟ่านกำลังเตรียมที่จะ 'ยุ่ง' จริงๆ
“ถ้าเจ้าไม่ประนีประนอมกับข้าข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว” เขาหยุดและพูดว่า “ตอนนี้ ข้าจะให้ทางเลือกที่สามแก่เจ้า ส่งมอบคัมภีร์โบราณของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงมาแล้วข้าจะไปทันที”
เขารู้ว่าถ้าเขาขอตั้งแต่แรกนางก็คงจะปฏิเสธอย่างแน่นอน แต่ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้โดยให้ความหวังเล็กๆกับนาง นางอาจจะประนีประนอมได้จริงๆ
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ก็เกินความคาดหมายของเขา นางไม่ได้คิดเรื่องนี้ก่อนจะพูดว่า
“เลิกฝันได้แล้ว!”
นางรู้อย่างชัดเจนว่าการประนีประนอมในสถานการณ์เช่นนี้มีแต่จะทำให้เขาได้รับประโยชน์ฝ่ายเดียวเท่านั้น ดังนั้นนางจึงปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”
เย่ฟ่านอุ้มเหยาซีที่ร่างกายเปลือยเปล่าขึ้นมาวางบนโต๊ะที่อยู่กลางศาลา
ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไปคงสั่นสะเทือนทั้งดินแดนรกร้างตะวันออกอย่างแน่นอน หลายคนคงนอนไม่หลับและพบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับได้
เย่ฟ่านสงบมากในขณะที่เขายืนอยู่หน้าโต๊ะหิน เขาไม่ได้เริ่มทันที แต่เฝ้ามองดูร่างกายของหญิงสาวอย่างใจเย็น
สตรีศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงอาจดูเหมือนนางมาร แต่ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ นางไม่อาจนิ่งเฉยได้ เสียงของนางสั่นเครือขณะที่นางพูด
“ในเมื่อมันเป็นเช่นนี้ เรามาตายด้วยกันเถอะ!”
ปัง!
เหยาซีไม่สนใจราคาที่ต้องจ่าย ในตอนนี้วิญญาณของนางลากวังจันทราขนาดใหญ่ออกมาจากทะเลแห่งจิตสำนึกด้วยร่างกายที่เปียกโชกไปด้วยเลือด!