ตอนที่ 16 : เรื่องน่าขำ
เหตุการณ์ในอันน่าสะพรึงในครั้งนี้ที่มีสาเหตุมาจากพวกไอเซนวอลด์ กลายเป็นข่าวใหญ่โตแพร่สะพัดไปทั่ว โดยความดีความชอบในครั้งนี้เป็นของแฟรี่เทลที่ค้นหาต้นตอของอีกฝ่ายได้ทันเวลาและจัดการอีกฝ่ายลงได้ในที่สุด
ทว่าเควินผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นโดยตรงกลับไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับเรื่องพวกนี้เลยแม้แต่น้อย เขายังคงทำตัวเป็นตาลุงแก่ๆอยู่ภายในกิลด์เหมือนดั่งปกติ
อย่างไรก็ตามวันนี้ลางสังหรณ์ของเขาได้บอกว่า วันนี้จะเกิดการต่อสู้อันน่าดุเดือดขึ้น
“พวกนั้นจะสู้กันรึไง?” เควินถามออกมา เมื่อเห็นว่านัตสึจ้องหน้าหาเรื่องเอลซ่าพร้อมเดินออกจากกิลด์ไป เอลซ่าเองก็เดิมตามนัตสึไปเช่นเดียวกัน
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่! นัตสึหาเรื่องเอลซ่าแต่เอลซ่ากลับไม่ตอบโต้เนี่ยนะ” เควินมองไปที่ทั้งสองอย่างไม่เชื่อสายตา พฤติกรรมของพวกนี้ผิดปกติเกินกว่าความเข้าใจของเขา
“ในตอนที่ทำภารกิจ นัตสึได้ท้าสู้กับเอลซ่าน่ะ…” เกรย์ที่ยืนอยู่ข้างๆบอกกับเควิน ด้วยสีหน้าคาดหวังจะได้เห็นนัตสึถูกซัดจนน่วม
“หมอนั่นไม่รู้รึไงว่าต่อให้ชนะเอลซ่าได้ ยัยนั่นก็จะรีบตามล้างแค้นทันที อันที่จริงเจ้าพวกนี้เองก็นิสัยคล้ายๆกันอยู่…” เควินปาดเหงื่อ เพราะครั้งหนึ่งในตอนที่เขาเอาชนะเอลซ่าได้ เอลซ่าก็เอาแต่มาท้าเขาไม่หยุด จนเขาเหนื่อยทั้งกายและใจ
เมื่อข่าวแพร่กระจายไปทั่วกิลด์ คนภายในกิลด์ก็ทยอยเดินกันออกมาล้อมนัตสึและเอลซ่าเอาไว้ พร้อมส่งเสียงเชียร์อย่างกระตือรือร้น
“สองคนนั้นจะสู้กันจริงๆเหรอ?!” เควินหันไปด้านหลังและพบว่าเป็นลูซี่ที่เป็นคนพูดออกมา
“อ่า ไม่ว่าจะเป็นเอลซ่าหรือนัตสึ ทั้งคู่ก็เป็นพวกจริงจังกับการต่อสู้เหมือนๆกัน” เควินตอบกลับไป
“แต่การที่...สมาชิกกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดสองคนกำลังเผชิญหน้ากันเนี่ยนะ...ฉันคิดว่า…”
“ฮะ สมาชิกกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดนี่เธอพูดเรื่องอะไรอยู่กัน?” ลูซี่ถูกเกรย์พูดแทรก
“เอ๊ะ! นาย นัตสึ แล้วก็เอลซ่า ไม่ใช่สามคนที่แข็งแกร่งที่สุดของแฟรี่เทลหรอกเหรอ?”
“ไร้สาระน่า” เกรย์พูดขึ้น เขาจะเป็นสามคนที่แกร่งที่สุดในกิลด์ได้ยังไงกัน เขายังไม่ผ่านการทดสอบเป็นจอมเวทย์ระดับ S เลยด้วยซ้ำ
“จริงที่ว่าทั้งนัตสึและเกรย์เองต่างก็เป็นลูกผู้ชาย แต่ฉันไม่ยอมรับหรอกว่าพวกเขานั้น ‘แข็งแกร่งที่สุด’ ในแฟรี่เทลยังมีคนแข็งแกร่งกว่าพวกเขาอยู่อีกมาก หนึ่งในนั้นก็คือฉันคนนี้ยังไงล่ะ!” เอลฟ์แมนหันไปตะโกนใส่ลูซี่
“ใช่แล้วๆ ฉันเก่งกว่าเอลซ่าเห็นๆ ไหงเธอถึงประเมินฉันต่ำขนาดนั้นกันเนี่ย?” เควินซึ่งยืนอยู่ข้างๆบ่นออกมาด้วยความไม่พอใจ เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกแนวหน้าของแฟรี่เทล ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้คนอื่นมองเขาว่าอ่อนแอกว่าคนอื่น
“เอ๊ะ! เควินแข็งแกร่งกว่าเอลซ่าอีกงั้นเหรอ!” ลูซี่ตะโกนออกมา ในความคิดของเธอ เธอคิดว่าเควินแข็งแกร่งอยู่ในระดับเดียวกับเกรย์และนัตสึเพียงเท่านั้น “แต่เควินเองก็แอบกลัวเอลซ่าไม่ใช่เหรอ?”
“เปล่าหรอกฉันแค่รับมือนิสัยของยัยนั่นไม่ค่อยได้ก็เท่านั้น” เขาไม่กล้าบอกลูซี่ถึงเรื่องการทดสอบระดับ S หากอีกฝ่ายรู้เข้าชื่อเสียงของเขาได้พังยับอย่างแน่นอน
“ปฎิกิริยาแบบนี้ หรือว่าทั้งคู่เคยแอบมีซัมติงกันงั้นเหรอ?”
ขณะที่ลูซี่กำลังมโนไปไกล ทางเอลซ่าและนัตสึก็ได้เริ่มต้นการต่อสู้
“น่าเบื่อชะมัด ฉันขอตัวก่อนละกัน” เควินถอนหายใจพร้อมหันหลังเดินออกไปทันที
“เควินไม่รอดูผลเหรอ?” ลูซี่ถามอย่างสงสัย
“อย่างมากฝีมือของนัตสึก็ดีกว่าเอริกอร์แค่นิดหน่อย ซึ่งนั่นยังห่างชั้นจากเอลซ่ามาก ฉันไม่อยากเสียเวลาไปกับการต่อสู้ที่มันรู้ผลอยู่แล้วหรอกนะ” เควินหันหลังพร้อมโบกมือลา
อันที่จริงเควินเองก็ไม่ได้ถึงกับไม่สนใจการต่อสู้ระหว่างทั้งสองเลยซะทีเดียว แต่เขาสัมผัสได้ถึงพลังเวทย์ที่คุ้นเคยมาถึงยังแมกโนเลียแล้วต่างหาก พลังเวทย์ของลักซัส
ด้วยนิสัยชอบเอาชนะของอีกฝ่าย เควินไม่สามารถรับประกันได้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ถูกกระตุ้นจากการต่อสู้ระหว่างเอลซ่าและนัตสึ
ถึงแม้ตัวเขาเองจะแข็งแกร่ง แต่เควินนั้นไม่ชอบการต่อสู้ที่ไร้ความหมายสักเท่าไหร่ เทียบกันแล้วการใช้ชีวิตอย่างสบายๆน่ะดีกว่าเป็นไหนๆ
แม้จะแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่ได้ชอบความรุนแรงนัก
ทว่าหากแข็งแกร่งไม่พอ ชะตากรรมอันแสนเลวร้ายก็จะรออยู่
เมื่อมาถึงบ้าน เขาเริ่มหยิบของต่างๆออกมาจากตู้เย็นและเริ่มทำอาหารด้วยความเชี่ยวชาญ เขาหยิบไวน์ชั้นดีออกมาจากห้องเก็บไวน์และเริ่มดื่มด่ำกับช่วงเวลาอันแสนสงบสุข
แต่โดยรสนิยมแล้วเควินเองก็ไม่ชอบบรรยากาศที่เงียบสงบมากเกินไปนัก
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว เควินก็ผล็อยหลับไป และตื่นเมื่อคาน่ามาหาเขาในตอนเย็น
“ทำไมถึงทำหน้าหงุดหงิดแบบนั้น แพ้พนันมารึไง?” เควินไม่แม้แต่จะปลอบอีกฝ่ายแต่เลือกหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวของคาน่า เขาจำได้ชัดเจนว่าวันนี้คาน่านั้นลงเงินพนันไปเป็นจำนวนมาก
“นายยังไม่รู้ข่าวเหรอ?”
“ห๊ะ?”
“เอลซ่าถูกคนจากสภาคุมตัวไปในข้อหาทำลายทรัพย์สินจากการต่อสู้กับพวกไอเซนวอลด์” คาน่าพูดด้วยสีหน้าจริงจัง การประลองของเอลซ่าและนัตสึถูกขัดจังหวะโดยจอมเวทย์จากสภา
“ไม่ต้องห่วงไปหรอก อีกไม่นานเอลซ่าก็ถูกปล่อยตัวเองนั่นแหละ” เควินที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้วเลือกที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงปกติ
“พวกสภาแค่จัดฉากเท่านั้นแหละ เพราะพวกเขาถูกชาวเมืองวิพากษ์วิจารณ์ไปเป็นจำนวนมาก เขาเลยต้องหาแพะรับบาปเพื่อเบี่ยงความสนใจ แต่อีกฝ่ายไม่กล้าลงโทษอะไรจริงจังหรอก ไม่ต้องห่วง”
“...ฉันกลัวว่านัตสึจะไปถล่มสภาน่ะสิ!”
“ถ้างั้นก็แย่หน่อยนะ~”