WS บทที่ 262 ดินลาวา
"เฮ้อ..."
เมอร์ลินถอนหายใจยาว โชคดีที่เขาได้บันทึกทุกอย่างเกี่ยวกับผสานผืนพิภพไว้ในเดอะเมทริกซ์แล้ว เขาสามารถอ่านมันได้อีกครั้งหลังจากกลับไปที่หอคอย
ดังนั้น เมอร์ลินจึงวางผสานผืนพิภพกลับเข้าไปในกล่องหยก จากนั้นเขาก็หันกลับมาและโค้งคำนับให้จอมเวทย์ผู้พิทักษ์เล็กน้อย แล้วออกจากประตูเดินกลับไปที่มิติมนต์ดำ
พ่อมดฮิวเซียสกำลังรอเมอร์ลินอยู่ในมิติมนต์ดำอย่างเงียบ ๆ เมื่อเห็นเมอร์ลิน พ่อมดฮิวเซียสเผยรอยยิ้มและถามเมอร์ลินว่า “พ่อมดเมอร์ลิน คุณพบพลังปีศาจแพนโดร่าที่คุณต้องการหรือไม่ ฉันไม่เคยผ่านประตูนั้นมาก่อน…”
ฮิวเซียสมองเมอร์ลินด้วยความชื่นชม แม้ว่าเขาจะเป็นนักเวทย์ระดับเจ็ดแต่เขาไม่มีพลังปีศาจแพนโดร่า เนื่องจากเขาไม่เคยมีส่วนสำคัญใด ๆ ต่อดินแดนมนต์ดำเลย เขาจึงไม่มีโอกาสได้เข้าประตูและเลือกพลังปีศาจแพนโดร่าให้ตัวเอง
เมอร์ลินพยักหน้า "ผมได้พบสิ่งที่ผมต้องการแล้ว พ่อมดฮิวเซียส เราสามารถกลับไปที่ดินแดนมนต์ดำตอนนี้เลยได้มั้ย?"
เขาแทบรอไม่ไหวที่จะกลับไปที่หอคอยเพื่อศึกษาผสานผืนพิภพที่เพิ่งได้มา
พ่อมดฮิวเซียสพยักหน้า จากนั้นจึงนำเมอร์ลินไปที่วงแหวนเวทย์ในมิติมนต์ดำ จกานั้นแสงสีขาวส่องประกายปกคลุมเมอร์ลินและพ่อมดฮิวเซียส ในทันที ร่างทั้งสองก็หายไปพร้อมกับแสง
…
แสงสว่างวาบในหอคอยและดวงตาแนวตั้งสีแดงบนหน้าผากของพ่อมดลีโอเปิดกว้างทันที ตาปล่อยแสงสีแดงออกมา
*พรึ่บ! พรึ่บ!*
ร่างสองร่างเดินออกจากแสง เมอร์ลินกับพ่อมดฮิวเซียสเพิ่งออกจากมิติมนต์ดำ
“อาจารย์ลีโอ!”
หลังจากที่ได้เห็นพ่อมดลีโอ เมอร์ลินก็เผยรอยยิ้ม พ่อมดลีโอพยักหน้าเล็กน้อย “เยี่ยมมาก เมอร์ลิน ดูเหมือนว่าเจ้าจะพบพลังปีศาจแพนโดร่าที่เหมาะกับเจ้าแล้ว”
หลังจากหยุดเล็กน้อย พ่อมดลีโอก็ยิ้มให้พ่อมดฮิวเซียส “เจ้าโง่ ครั้งนี้ข้าต้องขอบคุณเจ้ามาก เอาล่ะ เมอร์ลิน ไปกันเถอะ!”
จากนั้นพ่อมดลีโอก็พาเมอร์ลินออกจากหอคอยของฮิวเซียส
ระหว่างการเดินทาง พ่อมดลีโอไม่ได้ถามเมอร์ลินเกี่ยวกับพลังปีศาจแพนโดร่าที่เขาเลือกมาแต่เป็นเมอร์ลินที่ไม่สามารถหยุดตัวเองจากการบอกพ่อมดลีโอได้
“อาจารย์ลีโอ ผมได้แลกกับพลังปีศาจแพนโดร่าที่มีชื่อว่า ผสานผืนพิภพ จากมิติมนต์ดำน่ะขอรับ”
"หืม? ผสานผืนพิภพ? ข้าเคยได้ยินมาว่า มันค่อนข้างดี มันเป็นพลังปีศาจสายป้องกันและสามารถรวมเข้ากับคาถาของเจ้าได้ มันเป็นพลังปีศาจแพนโดร่าที่เหมาะกับเจ้ามากที่สุด!" พ่อมดลีโอยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักผสานผืนพิภพเป็นอย่างดี
หลังจากนั้น พ่อมดลีโอก็ตรงไปที่ชั้นบนสุดของหอคอย ขณะที่เมอร์ลินกลับมาที่ห้องของเขา
"เดอะเมทริกซ์ นำข้อมูลของผสานผืนพิภพออกมา!"
เมอร์ลินสั่งให้เดอะเมทริกซ์ให้ข้อมูลแก่เขาเกี่ยวกับผสานผืนพิภพซึ่งบันทึกไว้ในมิติมนต์ดำ แม้ว่าเมอร์ลินจะเคยอ่านข้อมูลมาก่อนแต่เขาไม่สามารถจำรายละเอียดทั้งหมดได้
"ผสานผืนพิภพต้องการดินลาวา…แล้วฉันจะหาดินลาวาได้จากที่ไหน?"
เมอร์ลินขมวดคิ้ว การฝึกฝนพลังปีศาจแพนโดร่านั้นไม่ใช่เรื่องยาก แม้จะมีบางอันที่มีวิธีฝึกฝนที่น่ากลัว อย่างน้อยที่สุด การฝึกฝนดัชนีเยือกแข็งกับเพลิงวินาศก็ไม่ใช่เรื่องยาก มีเพียงการฝึกฝนดวงใจแห่งความมืดเท่านั้นที่ยากกว่าเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่ยากที่สุดในการฝึกฝนพลังปีศาจแพนโดร่าก็คือการค้นหาสมบัติที่จำเป็นในระหว่างการฝึกฝน เมื่อเมอร์ลินฝึกฝนดันชีเยือกแข็งในตอนนั้น เขาได้รับไขกระดูกน้ำแข็งร้อยปีจากพ่อมดแซมเมียร์
ในขณะเดียวกัน สมบัติที่จำเป็นในการฝึกฝนเพลิงวินาศก็ถูกจัดเตรียมไว้แล้วในโบราณสถาน ในกรณีของดวงใจแห่งความมืด การฝึกฝนส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในภาพลวงตาซึ่งเมอร์ลินคงทำไม่ได้ถ้าหากไม่มีศิลาแห่งการรู้แจ้งของพ่อมดลีโอ
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่สุดคือการหาสมบัติที่จำเป็นในการฝึกฝนพลังปีศาจแพนโดร่า อย่างการฝึกฝนผสานผืนพิภพ เมอร์ลินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะหาดินลาวาได้ที่ไหน
“ดินลาวา มันควรจะเป็นสมบัติธาตุดิน ฉันอาจจะสามารถแลกเปลี่ยนหนังสือบางเล่มที่พูดถึงสมบัติหายากทุกประเภทจากหอสมุดได้”
เมอร์ลินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นลุกขึ้นยืนและมุ่งหน้าไปยังหอสมุด
…
หอสมุดคึกคักไปด้วยผู้คน ส่วนใหญ่เป็นสมาชิทางการของระดับหนึ่งขึ้นไป อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของเมอร์ลินในหอสมุดยังคงสร้างความตื่นตระหนกในกับเหล่าสมาชิกทางการของดินแดนมนต์ดำ
ท้ายที่สุด ตัวตนปัจจุบันของเมอร์ลินแตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก เขาเป็นนักเวทย์หกธาตุ นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าเมอร์ลินได้ฆ่านักเวทย์อัจฉริยะระดับสามสองคนจากออสมู
เขาแข็งแกร่งกว่าไคลส์ ดังนั้นแม้แต่นักเวทย์ระดับสาม ก็ยังต้องทำความเคารพเมอร์ลินเมื่อพวกเขาเห็นเขา เมอร์ลินคุ้นเคยกับการเป็นจุดสนใจอย่างนี้ตั้งแต่เขาที่เขาเมืองโทลเล่แล้ว นักเวทย์เกือบทั้งหมดของตระกูลชาเดอสันจะแสดงความเคารพอย่างสูงสุดเมื่อเห็นเขา
“เจอแล้ว หนังสือที่มีข้อมูลของวัสดุปรุงยาธาตุดิน วัสดุเล่นแร่แปรธาตุและของหายาก ฉันต้องการหนังสือสามเล่มนี้”
เมอร์ลินมองไปรอบ ๆ แบบสุ่มและพบว่าหนังสือสามเล่มนี้เกี่ยวข้องกับสิ่งของธาตุดิน ไม่ว่าจะเป็นวัสดุปรุงยา วัสดุเล่นแร่แปรธาตุหรือของหายาก เมอร์ลินก็แลกเปลี่ยนกับพวกมันมา หนังสือเหล่านี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับเมอร์ลินในการค้นหาดินลาวา
หนังสือสามเล่มนี้ไม่แพง พวกมันใช้แต้มสนับสนุนน้อยกว่าห้าสิบแต้ม เมอร์ลินไม่คิดว่าจำนวนนี้แพงเพราะเขามีแต้มสนับสนุนกว่าหมื่นต้ม แม้ว่าเขาจะใช้แต้มสนับสนุนได้เพียงหนึ่งพันแต้มแต่เขาก็ยังเหลืออีกมากที่สามารถรองรับการใช้งานของเขาได้เป็นเวลานาน
ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ได้มาที่หอสมุดบ่อยนัก ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสน้อยที่จะใช้แต้มสนับสนุนของเขา
หลังจากแลกหนังสือสามเล่มนี้แล้ว เมอร์ลินก็ปล่อยให้เดอะเมทริกซ์บันทึกเนื้อหาทั้งหมดในหนังสือ เขาไม่มีเวลาอ่านหนังสืออย่างละเอียด
"เดอะเมทริกซ์ หาข้อมูลเกี่ยวกับดินลาวาให้ฉัน"
หลังจากบันทึกเนื้อหาของหนังสือเหล่านี้แล้ว เมอร์ลินก็ค้นหาเนื้อหาโดยตรงด้วยความช่วยเหลือของเดอะเมทริกซ์
บี๊บ ค้นหาเสร็จแล้ว พบข้อมูลของดินลาวา ส่วนใหญ่พบในภูเขาไฟ เป็นดินชนิดพิเศษที่ก่อตัวขึ้นหลังจากถูกฝังไว้ในดินเป็นเวลาหลายพันปี เป็นวัสดุเล่นแร่แปรธาตุที่สำคัญ มีข่าวลือว่าพวกมันอยู่ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่หลายแห่ง อาจพบในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลาจากหนึ่งในภูเขาไฟในหมู่เกาะเหล่านั้น
เดอะเมทริกซ์ได้พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับดินลาวาจากหนังสือ
เมอร์ลินรู้สึกอิ่มเอมใจ ดินลาวาเป็นวัตถุดิบในการเล่นแร่แปรธาตุ เห็นได้ชัดว่าใช้ในการแปรสภาพผลิตภัณฑ์การเล่นแร่แปรธาตุที่ทรงพลัง อย่างไรก็ตาม การฝึกฝนผสานผืนพิภพต้องใช้ดินลาวาจึงจะประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ ข้อมูลยังกล่าวถึงตำแหน่งคร่าวๆ ของดินลาวาด้วย สามารถพบได้ในภูเขาไฟในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา
“หมู่เกาะเคิร์ดมันสลา?
เมอร์ลินขมวดคิ้ว เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับหมู่เกาะเคิร์ดมันสลามาก่อน มันอยู่ในทะเลกว้างไกลจากแผ่นดินและดินแดนมนต์ดำ แทนที่จะเป็นทะเลมรณะที่อยู่ทางใต้ มันตั้งอยู่ในมหาสมุทรใกล้ทางเหนือ
หมู่เกาะเคิร์ดมันสลาไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลขององค์กรนักเวทย์ใด ๆ อันที่จริงสถานที่นั้นมีชื่อเสียงมากเพราะอุดมไปด้วยของหายากและวัตถุดิบในการเล่นแร่แปรธาตุ
ดังนั้น จึงมีพ่อมดพเนจรจำนวนมากมารวมตัวกันที่หมู่เกาะเคิร์ดมันสลา มีแม้กระทั่งพ่อมดจากองค์กรนักเวทย์
เมอร์ลินต้องการมองหาดินลาวาที่ภูเขาไฟในหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา อย่างไรก็ตาม หลังจากประเมินอย่างรอบคอบแล้ว เขาคิดว่าความสามารถของเขายังคงขาดอยู่ การไปหมู่เกาะเคิร์ดมันสลานั้นแตกต่างจากการไปเมืองโฟลตติ้งและเมืองโทลเล ที่นั่นมีสัตว์ทะเลที่ทรงพลังในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นระดับห้า หก หรือแม้แต่ระดับเจ็ด
พ่อมดพเนจรอาจมีพ่อมดระดับเจ็ดด้วย แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะมีพ่อมดพเนจรที่กลายเป็นนักเวทย์ระดับเจ็ด แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ นักเวทย์เหล่านี้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะเคิร์ดมันสลา พวกเขาคงจะมีลำดับชั้นและการปกครองเป็นของตัวเอง
ดังนั้น หมู่เกาะเคิร์ดมันสลาจึงเกือบจะมีอิทธิพลเท่าเทียมกับอาคารสเตอร์ลิ่ง
หากเมอร์ลินต้องการไปที่หมู่เกาะเคิร์ดมันสลา เขาต้องปรับปรุงความแข็งแกร่งโดยรวมเสียก่อน
เพื่อปรับปรุงความแข็งแกร่งโดยรวมของเขา วิธีที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการสร้างคาถาระดับสอง พลังจิตของเมอร์ลินแข็งแกร่งเพียงพอแล้ว แม้ว่าเขาจะยังห่างไกลจากการมีพลังจิตระดับสี่ การสร้างคาถาระดับสองไม่ควรเป็นปัญหา
คาถาระดับสองที่สามารถปรับปรุงความสามารถของเมอร์ลินได้อย่างมากคือคาถาธาตุมืดระดับสองอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อเขาสร้างสายธารแห่งความืดแล้ว เมอร์ลินจะสามารถยืนหยัดต่อสู้กับนักเวทย์ระดับสี่ได้ด้วยเอฟเฟกต์เสริมของดวงใจแห่งความมืด
“ฉันยังต้องการพลังจิตอีกเล็กน้อยเพื่อสร้างสายธารแห่งความมืด ฉันจะรอจนกว่าพลังจิตจะทำซ้ำในห้วงมิติเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า จากนั้นฉันจะเริ่มสร้างมันทันที”
เมื่อเมอร์ลินตัดสินใจได้แล้ว เขาจึงอยู่ในหอคอยเพื่อทำสมาธิโดยไม่ออกจากหอคอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว
…
*วิ้ง…*
หลังจากนั้นสองสามวันพื้นที่มิติของเบล์ที่หน้าอกของเมอร์ลินก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เมอร์ลินลืมตาขึ้นและพึมพำกับตัวเอง “ดูเหมือนว่าพลังจิตของฉันจะถึงขีดจำกัดอีกครั้งแล้ว”
ดังนั้นเขาจึงขยายพลังจิตของเขาไปยังพื้นที่มิติอย่างรวดเร็วเพื่อดู ตามที่คาดไว้ พลังจิตที่ซ้ำกันของเขาถึงขีดจำกัดแล้ว ด้วยพื้นที่มิติทำให้อัตราการเพิ่มขึ้นของพลังจิตของเมอร์ลินได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
"ผสาน!"
เมอร์ลินผสานพลังจิตที่ซ้ำกันในห้วงมิติอย่างไม่ลังเล ทำให้พลังจิตของเขาเองพุ่งสูงขึ้นทันที
“ฟู่...”
เมอร์ลินถอนหายใจยาว เขารู้สึกว่าพลังจิตของเขาเพิ่มขึ้นเป็นระดับที่ไม่สามารถจินตนาการได้ พลังจิตที่ทรงพลังเช่นนี้ก็เพียงพอที่จะสร้างคาถาระดับสองของเขา นั่นคือสายธารแห่งความมืด