ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 หลินถงซู

บทที่ 1 คนขับรถประวัติลึกลับ


บทที่ 1 คนขับรถประวัติลึกลับ

คดีที่ 1 คดีฆาตกรรมแอปอูเบอร์

ชายคนหนึ่งคุกเข่าอยู่กับพื้น พยายามเขย่าร่างไร้ลมหายใจของชายอีกคนที่นอนจมกองเลือดด้วยความสิ้นหวัง แต่แล้วเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ก็ทำให้เขาสะดุ้งสุดตัว

เขารีบคว้าปืนขึ้นจากพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยเลือดและเล็งไปทางกลุ่มคนที่เดินตรงมาก่อนตวาดเสียงดัง “กูจะฆ่ามึง!”

แต่ไม่ว่าเขาจะเหนี่ยวไกกี่ครั้งกระสุนปืนกลับไม่พุ่งออกมาดังคาด ชายผู้มาใหม่สืบเท้าเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ พลางพูดเยาะเย้ย “ฮ่าๆๆ! นี่มันเรื่องอะไรกัน? ยอดนักสืบมือฉมังซ่งหลางฆ่าคู่หูของตัวเอง! ฉันชักรออ่านพาดหัวข่าวใหญ่ในหนังสือพิมพ์วันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้วสิ!”

ความโกรธที่อัดแน่นอยู่เต็มอกของซ่งหลางแทบระเบิด เมื่อเส้นความอดทนขาดผึงจึงโยนกระบอกปืนทิ้งและพุ่งเข้าใส่อาชญากรเลือดเย็นที่ใส่ร้ายเขาทันที! แต่ยังไม่ทันเข้าประชิดตัว อีกฝ่ายกลับหยิบท่อเหล็กจากที่ไหนสักที่ฟาดลงตรงศีรษะของเขาเต็มแรง!

ซ่งหลางล้มลงกองกับพื้น เลือดจากบาดแผลที่ถูกกระแทกสาดกระจายไปทั่วบริเวณ

ชายนิรนามโยนท่อเหล็กทิ้งไป เสียงแหลมเล็กที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาตดังก้องในแก้วหู

“จำใส่กะโหลกพวกแกไว้ซะ! จากนี้ไปจะไม่มีชื่อนักสืบซ่งหลางอีก! ถ้าฉันรู้ว่าใครกล้าแพร่งพรายเรื่องนี้ละก็ ฉันจะตามล่ามันมาหั่นเป็นชิ้น ๆ!” ชายนิรนามหัวเราะลั่นอย่างสะใจก่อนเดินหายไปในความมืด

เฉินฉีสะดุ้งตื่นจนร่างเด้งขึ้นจากเบาะ สายตาเหลือบมองกระจกมองหลังและพบว่าใบหน้าของตัวเองเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นทั่วหน้าผาก ท่าทางที่เป็นอยู่ตอนนี้ดูไม่เหมือนเขาคนเดิมเลยสักนิด ก่อนหน้านี้เขาเคยดีใจที่ตัวเองลืมอดีตอันเลวร้ายได้แล้ว แต่ภาพคนนอนจมกองเลือดในความฝันที่ฉายซ้ำไปซ้ำมายังทำให้เขาทรมานทุกครั้ง

เขาหยิบซองบุหรี่ออกจากกล่องแต่พอรู้ว่ามันหมดเกลี้ยงจึงโยนกลับที่ด้วยความเซ็งจัด

“โธ่เว้ย! ต้องทำงานอีกแล้วเหรอเนี่ย!” ตอนนี้เพิ่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งอาจทำให้คนที่ไม่ดูแลตัวเองจับไข้ แต่สำหรับคนขับรถหาเช้ากินค่ำอย่างเขาไม่มีเงินและเวลามากพอที่จะนอนอยู่บ้านเฉย ๆ เพื่อหลบลมหนาวหลายวันแบบคนอื่น

เขาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาตีสอง ใกล้เวลากลับบ้านไปอาบน้ำและนอนหลับพักผ่อนเต็มที

ขณะนั้นเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือของเขา แอปแสดงผลบนหน้าจอว่ามีผู้โดยสารรายหนึ่งกดเรียกใช้บริการ

เมื่อกดแผนที่ดูจุดหมายปลายทางจึงเห็นว่าผู้โดยสารคนนี้ต้องการไปทางเดียวกับเขาพอดี ได้กลับบ้านพร้อมเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ซื้อเนื้อย่างเสียบไม้กินก่อนนอนใครบ้างจะปฏิเสธ? เขากดยอมรับงานทันทีก่อนบิดกุญแจสตาร์ทรถ

พอขับไปถึงจุดที่ลูกค้าปักหมุด แสงไฟหน้ารถที่สาดส่องไปทำให้เห็นว่าลูกค้าที่เรียกรถเป็นผู้หญิง เฉินฉีโบกมือเรียกเธอด้วยท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ

ขาขาวเรียวก้าวขึ้นไปนั่งบริเวณเบาะหลังและงับประตูปิด เฉินฉีมองผ่านกระจกมองหลังและเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง สายตามองต่ำลงจากใบหน้าพลางคิดในใจ ‘อื้อฮือ บึ้มไม่ใช่เล่นนะเนี่ย!’

“ไปไหนครับคนสวย?”

“อย่าถามอะไรน่ารำคาญสิ ฉันปักหมุดไว้ในแอปแล้วนี่ว่าจะไปโรงแรมเฝิงจี้หลิน”

สาวสวยสะบัดเสียงใส่

พอเขาสตาร์ทรถเธอก็หยิบซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋า เฉินฉีชูสองนิ้วและพูดอย่างไม่เกรงใจ “ผมขอสักมวนสิ ตะกี้นี้ว่าจะแวะซื้อแล้วล่ะแต่ลืมจนได้ พอเห็นแล้วอยากสูบขึ้นมาเชียว”

เขาได้รับสายตาเย็นชาจากผู้โดยสารสาวแทนคำตอบ เธอเก็บซองบุหรี่ไว้ในกระเป๋าถือตามเดิม

“งั้นไม่เป็นไรครับ” พอเห็นอีกฝ่ายนิ่งเงียบไม่พูดจาจึงเริ่มชวนคุย “คุณไปโรงแรมคนเดียวตอนดึกดื่นแบบนี้ ทำไมไม่ให้แฟนมาส่งล่ะครับ? เขาไม่เป็นห่วงคุณแย่เหรอ?”

“ฉันจะไปหาเพื่อน”

“อืม คำตอบแบบคลาสสิคอีกแล้ว กลางค่ำกลางคืนแบบนี้ เกิดเจอคนเลวๆ เข้าจะแย่เอานะครับ”

“คนเลวเหรอ?” เธอยิ้มเยาะ “ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าใครดีใครเลว เขาไม่เขียนแปะไว้บนหน้าผากซะหน่อย”

“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก ผมไม่ได้อวดตัวนะ แต่ถ้ามีฆาตกรขึ้นมานั่งบนรถผมแล้วละก็ ผมเดาถูกเก้าในสิบเลยว่าคนคนนั้นใช่ฆาตกรไหม?”

“เหรอคะ? งั้นคุณบอกหน่อยสิว่าฆาตกรในความเข้าใจของคุณเป็นแบบไหน?”

“ฆาตกรเหรอ? อืม ... คนพรรค์นั้นมีท่าทางส่อพิรุธชัดเจนเลยล่ะ คำพูดคำจามีเล่ห์เหลี่ยม โมโหและหงุดหงิดง่ายด้วย ที่สำคัญเขาจะคุยกับคนแปลกหน้าให้น้อยที่สุด”

เธอพ่นลมหายใจเป็นเชิงหมั่นไส้ “ฮึ! คุณจะบอกว่าตัวเองชำนาญเรื่องพวกนี้ว่างั้นเถอะ”

หลังคุยกันสักพักหนึ่งเฉินฉีจึงโพล่งออกไป “คนสวย ผมอยากเป็นเพื่อนบนวีแชทกับคุณจัง”

“อะไรนะ?”

“ผมก็แค่อยากรู้จักคุณ ทำไมต้องสร้างกำแพงล้อมตัวเองขนาดนั้นด้วย?”

“ขอโทษ แต่ฉันไม่อยากรู้จักกับคนแบบคุณ”

“โอเค! งั้นก็ถือซะว่าผมไม่เคยพูดอะไรแล้วกัน” เฉินฉียุติการสนทนาด้วยความชำนาญ

บนรถเงียบไปสักพัก สาวสวยหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าถือพลางแอบมองอีกฝ่ายจากกระจกมองหลังก่อนพิมพ์ข้อความลงไป “ที่รักคะ คนขับรถคนนี้พูดไม่หยุดสักที น่ารำคาญสุด ๆ เลย”

...

“เช้าวันที่สิบเอ็ดกันยายน บนถนนซีอันฟูห่างจากตัวสะพานประมาณหนึ่งร้อยเมตร พบร่างหญิงสาวเสียชีวิตอยู่ใกล้แม่น้ำ ผู้ตายอายุประมาณยี่สิบห้าปี รูปร่างผอมเพรียว หน้าตาดี เสื้อผ้ามีร่องรอยฉีกขาดและมีเชือกผูกทิ้งไว้กับลำคอ จากรายงานเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ชันสูตรระบุว่าสาเหตุการตายเกิดจากการถูกรัดคอจากด้านหลัง พบร่องรอยการมีเพศสัมพันธ์ก่อนการเสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบกระเป๋าของผู้ตายตกอยู่ในแม่น้ำห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณสามร้อยเมตร ภายในมีบัตรประชาชน โทรศัพท์ และของใช้ส่วนตัวอีกจำนวนหนึ่ง จากการสืบสวนคาดว่าเงินหนึ่งพันหยวนในกระเป๋าของผู้ตายก็ถูกขโมยไปด้วย ตอนแรกโทรศัพท์ไม่สามารถเปิดเครื่องได้เพราะเปียกน้ำ แต่เมื่อนำไปส่งซ่อมก็พบข้อความสุดท้ายที่ผู้ตายส่งให้แฟนหนุ่ม ความว่า ‘ที่รักคะ คนขับรถคนนี้พูดไม่หยุดสักที น่ารำคาญสุด ๆ เลย’ ส่วนข้อความที่สองพิมพ์ว่า ‘ฉันลงจากรถแล้วค่ะ แต่รู้สึกเหมือนมีใครสักคนเดินตามมา’ ตำรวจเดินทางไปพบแฟนหนุ่มของผู้ตายแล้ว เขาบอกว่าได้รับข้อความจากผู้ตายตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้เรากำลังพยายามหาข้อมูลในโทรศัพท์จากแอปอูเบอร์ เพื่อสืบหาคนขับรถที่อยู่ในเหตุการณ์”

หลินชิวผู หัวหน้าหน่วยสืบสวนอาชญากรรมอ่านรายละเอียดของคดีด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ตำรวจนายอื่นที่นั่งฟังเงียบ ๆ ในตอนแรกเริ่มหันหน้าพูดคุยกัน

“คนขับอูเบอร์เป็นคนฆ่ารึเปล่า?”

“ทำไมคนขับอูเบอร์ถึงได้สารเลวแบบนี้นะ! ฉันว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรแบนแอปนี้ซะที”

“อย่ารีบตัดสินสิ ตอนนี้เราไม่มีหลักฐานชี้ชัดด้วยซ้ำว่าเขาเป็นฆาตกรจริงไหม?”

“แต่ถ้ายึดเวลาเป็นสมมติฐาน เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณตีสาม บนสะพานก็แทบไม่มีรถสัญจรไปมา เพราะฉะนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากว่าคนขับรถคนนี้จะเป็นผู้ก่อเหตุ!”

หลินชิวผูเคาะโต๊ะสองสามครั้ง เสียงพูดคุยในห้องประชุมเงียบลงทันที “ก่อนหน้านี้มีคดีคนขับอูเบอร์ข่มขืนและฆาตกรรมหญิงสาว ไม่ทันข้ามเดือนก็เกิดเหตุฆาตกรรมจากคนขับในแอปเดียวกัน ผมไม่นึกไม่ฝันเลยว่ามันจะกลับมาอยู่ในแฟ้มคดีอีกครั้ง ถ้าคดีถูกเปิดเผยสู่สาธารณะเมื่อไหร่สังคมจะต้องวิพากษ์วิจารณ์กันมากมายแน่ ๆ ผู้บังคับบัญชาของเราจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษและมอบหมายให้ปิดคดีนี้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมต้องแบกรับความกดดันทั้งจากทางเบื้องบนและสื่อมวลชนทุกแขนง ดังนั้นคดีนี้จะถูกสืบสวนอย่างต่อเนื่อง วันหยุดที่จะถึงในอีกสองวันนี้อาจต้องยกเลิกไปก่อน ถ้าปกติพวกคุณนอนเจ็ดชั่วโมงต่อวันก็ลดลงให้เหลือแค่ห้าซะ เราต้องใช้ความพยายามเต็มที่เพื่อหามูลเหตุจูงใจให้พบภายในสี่สิบแปดชั่วโมง ทุกคนมั่นใจไหมว่าจะทำได้?!”

คำพูดดังกล่าวดุดันและเข้มงวดจนคนฟังเกรงกลัว แต่เมื่อคนที่พูดเป็นหลินชิวผูจึงมีพลังควรค่าแก่การปฏิบัติตามเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงมองหัวหน้าหน่วยรูปหล่อของเธอด้วยแววตาเป็นประกาย

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชายมองไปทางตำรวจหญิงที่ยิ้มแป้นเหมือนคนตกหลุมรักก็พากันถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เทียบกันแล้วพวกเขาดูหมดอาลัยตายอยากมากกว่า

“พวกเรามั่นใจครับ!”

“พวกเรามั่นใจค่ะ!” ทุกคนตอบรับพร้อมกัน

“ดีมาก งั้นผมขอมอบหมายงานให้เลยแล้วกัน เสี่ยวฉี นายนำกำลังคนไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ ...”

ตำรวจหนุ่มสั่งการอีกหลายประโยค บรรดาเจ้าหน้าที่ทยอยแยกย้ายออกจากห้องประชุมไปตามลำดับ เขารวบรวมแฟ้มเอกสารเกี่ยวกับคดี แต่พอรู้สึกตัวว่ามีคนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังจึงชะงักกึกครู่หนึ่งก่อนก้มหน้าก้มตาจัดเรียงเอกสารต่อโดยไม่หันไปมอง

“เธอยังไม่กลับอีกเหรอ?”

“ทำไมคุณชอบโยนงานที่ไม่สำคัญอย่างการตรวจสอบความสัมพันธ์ของผู้ตายให้ฉันทำอยู่เรื่อย?” เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนนั้นบ่นอุบ

“เธอจะบอกว่าไม่สำคัญไม่ได้ สำหรับผมแล้วทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนคดีเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เธอมีหน้าที่แค่อย่างเดียวคือปฏิบัติตามคำสั่ง”

“ฮึ่ม! ที่พูด ๆ มาเนี่ยก็ถูกอยู่หรอก แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงไม่เคยแจกจ่ายงานที่เสี่ยงอันตรายให้ฉันเลย ใจคอจะมองฉันเป็นเด็กไม่รู้ประสาไปตลอดเลยรึไงกัน? หลินชิวผู ฉันร่ำเรียนและฝึกหนักจากโรงเรียนตำรวจตั้งสี่ปีเพื่อมาบรรจุเป็นตำรวจและทำหน้าที่ควรจะทำ ไม่ใช่มานั่งสบาย ๆ แบบนี้!”

ในที่สุดพี่ชายจึงยอมหันมามองน้องสาว พอเห็นใบหน้างอง้ำเต็มไปด้วยคำถามของอีกฝ่ายจึงเผลอใจอ่อน “น้องเอ๋ย พี่ ...”

“หัวหน้าหลิน!” หญิงสาวขึ้นเสียงทันที “ที่นี่สถานีตำรวจนะ คุณไม่ควรเรียกฉันอย่างสนิทสนมแบบนี้!”

เธอสะบัดหน้าเดินไปทางประตูก่อนหยุดเดินกะทันหัน จากนั้นจึงพูดต่อ “พี่ชาย ฉันจะทำผลงานในคดีนี้ให้ได้! พี่จะได้เลิกมองฉันเป็นเด็กน้อยซะที!”

หลินชิวผูยิ้มเจื่อนขณะมองน้องสาวของตัวเองเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด