ตอนที่ 13 : สโตกเกอร์นามว่าเควิน
วันรุ่งขึ้นเมื่อเควินมาที่กิลด์ เขาก็เห็นมิร่ากำลังเขียนจดหมายเวทมนตร์อยู่ จากนั้นเธอก็พูดอะไรสักอย่างกับมันก่อนที่จดหมายจะพับตัวมันเองลง
“มิร่า เขียนจดหมายหาใครเหรอ” เควินถามอีกฝ่ายอย่างเป็นกันเอง
“ไหนๆก็เป็นโอกาสดีที่เอลซ่า นัตสึ และเกรย์ได้ร่วมทีมกัน ฉันเลยเขียนจดหมายไปหามาสเตอร์น่ะ” ขณะพูดมิร่าก็ประทับตราจดหมาย ไม่นานนักก็มีนกบุรุษไปรษณีย์มารับจดหมาย
“สวัสดีคุณมิร่าเจน นี่คือจดหมายถึงมาสเตอร์มาคารอฟใช่ไหม” เจ้านกคว้าจดหมายของมิร่าไปพร้อมถามอย่างร่าเริง
“ช่วยรีบส่งให้ด้วยนะ พอดีเป็นเรื่องสำคัญ” มิร่าพูดกับมันด้วยรอยยิ้ม จากนั้นนกบุรษไปรษณีย์ก็บินออกไปทันที
“มิร่า จดหมายนั่นจะไม่ทำให้มาสเตอร์เกิดอาการหวาดระแวงใช่ไหม?” เควินมองนกที่บินออกไป พร้อมจินตนาการถึงทีมเวิร์คของทั้งสามในทีมเอลซ่า
“บอกได้ยากมากเลย”
วันนี้ยังคงเป็นวันสบายๆอีกวันหนึ่ง เนื่องจากมาสเตอร์ไปร่วมประชุม เควินเองก็ขี้เกียจไปทำภารกิจเขาเลยนั่งเล่นอยู่กับพวกมาคาโอะ
อย่างไรก็ตาม ในตอนเที่ยงของวันนั้นเอง การ์ดใบหนึ่งของเควินก็ส่งเสียงดังขึ้นมา
เควินหยิบการ์ดขึ้นมาด้วยอาการมึนเมา เขามองมันใกล้ๆและพบว่ามันคือการ์ด ‘สื่อสาร’ เพื่อใช้ในการติดต่อกับเขาในกรณีฉุกเฉิน โดยมีทั้งหมดสามคนที่สามารถติดต่อหาเขาได้ ได้แก่ คาน่า มาคาโอะ และมาคารอฟ
คาน่ากำลังดื่มอยู่กับเขาและมาคาโอะ แสดงว่าอีกฝ่ายคือมาสเตอร์อย่างแน่นอน
“ไม่อยากจะตอบจริงๆ ทุกครั้งที่มาสเตอร์ติดต่อมามันมีแต่เรื่องทั้งนั้น” เควินพึมพำพร้อมใช้งานการ์ด ‘สื่อสาร’ อย่างไม่เต็มใจนัก
“เควินตอนนี้เจ้าอยู่ไหน!” ทันทีที่เขารับเสียงตะโกนของมาสเตอร์ก็ดังออกมา
“ตอนนี้ผมอยู่ที่กิลด์ มีอะไรงั้นเหรอมาสเตอร์?” เควินตอบกลับไปอย่างเอื่อยเฉื่อย
“ตอนนี้เจ้าอยู่ที่กิลด์งั้นเหรอ? แล้วเจ้ารู้เรื่องการตั้งทีมระหว่างเอลซ่า นัตสึ เกรย์ไหม?” มาคารอฟผงะไปทันทีเมื่อได้ยินว่าเควินนั้นอยู่ที่กิลด์ น้ำเสียงที่เขาถามออกมาเต็มไปด้วยความกังวล
“อ่าหะ มีอะไรงั้นเหรอ?”
“เจ้ารีบตามไปเดี๋ยวนี้! ทั้งสี่วางแผนจะถล่มเมืองนี้ทิ้งเควินเจ้าต้องรีบไปหยุดเจ้าพวกนั้น!!!” ดูเหมือนว่าต้นเหตุของความกังวลของมาสเตอร์จะมาจากความกลัวที่ว่าพวกเอลซ่าจะทำลายเมืองทิ้ง
“หืม? สี่คนเหรอ?” เควินเพิกเฉยต่อความกังวลของมาคารอฟ และถามสิ่งที่ตัวเองสงสัยอยู่ออกมา
“ลูซี่ไงล่ะ ฉันกลัวว่าทั้งสามคนจะทะเลาะกันระหว่างทาง เลยขอให้ลูซี่ช่วยไปห้ามพวกนั้นยังไงล่ะ” มิร่าพูดแทรกขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจราวกับกำลังจะบอกว่า ‘ชมฉันสิ’
“คิดว่าลูซี่จะหยุดเจ้าพวกบ้านั่นได้จริงๆเหรอ?” เควินพูดตรงๆออกมากับมิร่า จนทำให้แววตาของมิร่าเต็มไปด้วยความสับสน
“เควิน- ไม่เป็นไรนะมิร่า โอ๋ๆ” ทันใดนั้นคาน่าที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็พูดขึ้น แม้เสียงของเธอจะไม่ดังนัก แต่ก็ดึงดูดความสนใจของคนทั้งกิลด์ได้สำเร็จ
“อะไรนะ?! เควินทำมิร่าจังร้องไห้งั้นเหรอ?”
“อะไรนะ! เควินฟันมิร่าจังแล้วทิ้งงั้นเหรอ?”
“อะไรนะ? พี่สาวของฉันถูกเควินทิ้งหลังจากโดนรังแกอย่างหนักงั้นเหรอ!”
เพียงแค่ไม่กี่วิ ภาพลักษณ์ของเควินก็กลายเป็นคนโฉดชั่วยิ่งกว่าโลกิเสียอีก
“เจ้าพวกงั่งนี่…” เควินมองดูพวกนั้นที่ส่งสายตามาอย่างหาเรื่อง พร้อมส่ายหน้าก่อนจะตอบกลับมาคารอฟและตรงออกจากกิลด์ไปทันที
“ว่าแต่เควิน นายรู้เหรอว่าพวกนั้นอยู่ที่ไหน?” ก่อนเควินจะเดินออกไปคาน่าก็ได้ถามขึ้น
“ไม่ต้องห่วงเมื่อวานฉันแอบร่ายเวทย์ติดตามใส่ตัวลูซี่ไว้แล้ว” เควินยกนิ้วโป้งให้คาน่าพร้อมหัวเราะออกมา
“หมอนั่นหน้าหนาขนาดไหนถึงกล้าบอกว่าตัวเองเป็นสโตกเกอร์ได้อย่างเต็มปากเต็มคำขนาดนั้น” คาน่าถอนหายใจเล็กน้อย จนทำให้มาคาโอะที่อยู่ข้างๆหัวเราะออกมา
เควินนั้นไม่ชอบที่จะอัญเชิญมังกรค้างคาวของเขาภายในเมือง เขาเลยเดินออกไปที่นอกเมืองพร้อมอัญเชิญมันออกมาและบินไปด้วยความไวสูง
“ฉันคอยสังเกตุการณ์เจ้าพวกนั้นจากระยะไกลดีกว่า” เควินครุ่นคิดอยู่บนแผ่นหลังของมังกร ก่อนจะสรุปได้ว่าทางที่ดีเขาควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเอลซ่าให้ได้มากที่สุด
ความเร็วของมังกรค้างคาวนั้นรวดเร็วเหนือกว่าจินตนาการ เพียงแค่ไม่กี่นาทีเควินก็มาถึงสถานีรถไฟภายในเมือง โดยที่พวกเอลซ่ากำลังเตรียมขึ้นรถเวทย์กันอยู่
“ดูเหมือนว่าเจ้าพวกนี้ยังไม่สร้างปัญหาสินะ…”
“จะว่าไปคนไหนเมืองหายไปไหนกันหมด? หรือว่าเจ้าพวกนั้นได้ก่อเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ?”
“รีบจัดการให้มันจบๆดีกว่า ไม่งั้นสภาจอมเวทย์ได้บ่นจนหูชาอีกแน่…” เควินพูดพร้อมหันไปมองกำแพงลมที่ล้อมลอบสถานีเอาไว้และถอนหายใจออกมา
เควินหยิบการ์ดใบหนึ่งออกมาด้วยท่าทีสบายๆ การ์ดใบนี้เป็นการ์ดเวทมนตร์ที่ด้านในเป็นรูปแม่กุญแจกำลังถูกไข
“ปัดเป่าเวทมนตร์” เควินชี้การ์ดไปที่กำแพงลมที่ล้อมรอบสถานีเอาไว้ ทันใดนั้นการ์ดก็เลือนแสงออกมาและตรงเข้าใส่กำแพงลม จนทำให้กำแพงลมเริ่มสลายไปอย่างช้าๆ
“หืม? ดูเหมือนพลังเวทย์ของอีกฝ่ายจะมากกว่าที่คิดเอาไว้แฮะ ศัตรูขอพวกนั้นคือใครกันแน่?” เควินเริ่มคิดอย่างจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าศัตรูเองก็ไม่ใช่ไก่อ่อนซะทีเดียว
“ช่างเถอะ ให้พวกเอลซ่าตามล่าเจ้าพวกนั้นไปก่อนแล้วกัน”
บนรถเวทย์ เอลซ่ากำลังใส่พลังเวทย์ของตนไปกับเครื่องยนตร์อย่างบ้าคลั่ง
“เอลซ่า ไหวรึเปล่า มาเปลี่ยนกันไหม?” เกรย์อดไม่ได้ที่จะถามเอลซ่าด้วยความเป็นห่วง อีกฝ่ายดูเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันไม่เป็นไร” เอลซ่าแกล้งทำทีท่าว่ายังสบายดีอยู่ ซึ่งเกรย์เองก็รู้อยู่แก่ใจดีแต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะโน้มน้าวผู้หญิงหัวรั้นตรงหน้ายังไงดี เลยได้แต่นั่งอยู่นิ่งๆ
“ถ้าเควินอยู่ที่นี่สถานการณ์คงดีขึ้นมาก!” เกรย์พูดอย่างเป็นกังวลเมื่อทำได้เพียงแค่นั่งอยู่ข้างๆเอลซ่าที่กำลังพยายามอย่างสุดกำลัง
“หืม? เหมือนจะมีคนเรียกฉันนะ” ตอนนั้นเองก็มีเสียงพูดดังขึ้นเหนือหัวของเกรย์
ทุกคนภายในรถเวทย์ได้แต่แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา ส่วนอีกคนก็ลอยมาอยู่บนหลังคาอย่างเงียบๆ
เกรย์รีบยื่นหน้าออกมาก่อนจะเห็นชายในชุดคลุมดำนั่งอยู่ด้านบนของรถเวทย์
“เควิน นี่นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?!”
***
มาคาโอะ
การ์ดปัดเป่าเวทมนตร์