ตอนที่แล้วตอนที่ 100 เอาจริง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 102 ยอดเขาสองร้อยเมตรสุดท้าย

ตอนที่ 101 ร่วมมือกัน


ตอนที่ 101 ร่วมมือกัน

กายหันไปมองผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงที่ไร้ผู้นำ ตอนนี้หลายคนต่างงุนงงกับสิ่งที่กายกระทำ แต่ก็มีผู้เล่นบางส่วนที่ดึงสติกลับมาทันถึงแบบนั้นพวกเขาเหล่านั้นก็โดนเงาไล่สังหารตายไปอย่างรวดเร็ว จึงไม่มีโอกาสในการเตือนคนอื่น ๆ

“พวกเจ้าก็ต้องตายเช่นกัน” กายหันไปหาผู้เล่นที่อยู่ใกล้สุด เขามาคนเดียวดังนั้นทุกการโจมตีจึงสามารถใช้ออกมาได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องกลัวว่าจะโจมตีโดนพวกเดียวกัน

“ศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟัน ขั้น 2” กายฟันดาบสังหารใส่ผู้เล่นที่อยู่ใกล้สุด 4 คน ร่างของพวกเขาโดนผ่าครึ่งตายไปในทันที

ทหารม้าของกิลด์กะโหลกแดงที่เคยตามล่ากายตอนนี้พากันควบม้าเข้ามาหมายจะสังหารกาย แน่นอนว่ากายไม่กลัวอยู่แล้ว เขากระโจนเข้าไปหามันตรง ๆ ดาบโค้งของหนึ่งในทหารม้าเล็งมาที่คอหมายจะฟันให้หัวของกายหลุด

กายยิ้มอย่างเย็นชาเขาไม่เล็งไปที่คนแต่เล็งไปที่ขาม้าแทน ดาบหักสังหารตัดขาม้าทั้ง 4 ขาดในทันที

“อะไรกัน อ๊ากกก...” ผู้เล่นขี่ม้าคนนั้นก็จะรู้ตัวก็สายไปแล้ว ด้วยความเร็วของม้า พอมันไม่มีขาก็ทำให้เสียหลักหน้าทิ่ม ไปพร้อมกับร่างของผู้เล่นที่โดนตัวของม้าอัดกระแทกจนแหลกตายไปอย่างน่าอนาถ

กายเคลื่อนไหวเร็วขึ้นและเร็วขึ้น กลยุทธ์ตัดขาม้านั้นใช้ได้ผลอย่างน่าทึ่ง จนเขาสังหารทหารม้าไปกว่า 15 คนในที่สุดพวกที่เหลือไม่กี่นายก็พากันถอยหนีด้วยความหวาดกลัว

“ตาย!” แต่ถึงจะไม่มีทหารม้าให้ฆ่า กายก็ไล่ฆ่าพวกที่ไม่มีม้าต่อ

“อ๊ากก.. ดาบนั้นมันคืออาวุธอะไรกัน”

“ไม่...มันฟันดาบของข้าหักในครั้งเดียว อ๊ากกก”

“ถอย ๆ เร็ว”

ผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงต่างถอยหลังกันอย่างตื่นตระหนก ดาบหักสังหารแสดงพลังออกมาในสงครามระยะประชิดได้อย่างดี การฟันหนึ่งครั้งสังหารได้สองคน

ยิ่งฆ่าออร่าสังหารของดาบก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น กายรู้สึกเหมือนได้รับยาโด๊ปเข้าไปจำนวนมหาศาล พอมันรวมเข้ากับศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลัง เขาจึงเป็นเหมือนพยัคฆ์ในฝูงแกะ

กายไม่ได้ฆ่าแค่ผู้เล่น แต่ยังรวมถึงเงาด้วย พวกเงาลงจากภูเขามามากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ตอนนี้ใกล้เวลาจะเข้าช่วงที่สองของด่านแล้ว

...

ผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงถอยหนี แต่ความซวยมาเยือนพวกเขาอีกครั้ง เพราะสิ่งที่ดักอยู่ทางข้างหลังกลับเป็นผู้เล่นกลุ่มนักเลง ที่นำโดย [นักเลง 1]

“อัดพวกมันให้เละ”

“โอ้ววว!!”

ผู้เล่นในกลุ่มนักเลงนั้นใช้อาวุธเช่นมีดสั้น ดาบคู่ กระบอง เป็นหลัก ส่วนศิลปะการต่อสู้นั้นไม่น่าเชื่อว่าทุกคนจะฝึกฝนในรูปแบบที่เหมือน ๆ กันนั้นก็คือ ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ เพลงมวย

ศิลปะการต่อสู้เพลงมวยนั้นมันคือการใช้ร่างกายโจมตีเหมือนอาวุธ ดังนั้นสามารถบอกได้ว่าพวกเขาเปลี่ยนร่างหายให้กายเป็นอาวุธ จะมีศาสตราวุธใดน่ากลัวเท่ากับอาวุธที่เป็นหนึ่งเดียวกับร่างกาย แม้ในช่วงแรกพวกเขาอาจจะสู้กับอาวุธอย่างดาบ ธนู ค้อน ขวานไม่ไหว แต่ถ้าถึงจุดหนึ่งการโจมตีของเพลงมวยจะหลากหลายมากและทรงพลังในทุก ๆ หมัด ทุกการโจมตี

ซึ่งสามารถเห็นได้จากคนหนึ่ง นั้นคือ ลิลี่ ลิลี่นั้นก็ฝึกฝนเพลงมวยเช่นกัน และเธอก็น่ากลัวเป็นอย่างมาก ชนิดที่สู้ได้สูสีกับมีอา นั้นแสดงให้เห็นว่าเพลงมวยก็ไม่แพ้ศิลปะการต่อสู้คนอื่น ๆ เช่นกัน

ผู้เล่นกิลด์กะโหลกแดงโดนสังหารอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้มันเป็นการสังหารหมู่ไปแล้ว ผ่านไปหลายนาทีทั้งสนามรบบริเวณนี้ก็โดนสังหารจนหมด ศพลอยเป็นลูกไฟหายไปอย่างรวดเร็ว

“ลอร์ดเจ็ดโลหะ เจ้าจะเป็นลูกน้องของข้าหรือเปล่า” [นักเลง1] ตะโกนถามเสียงดังอยู่บนหลังม้าพร้อมกับมีเหล่านักเลงที่มีชีวิตรอดมาถึงตอนนี้อีกราว ๆ 200 คนถ้วน

แต่ท่าทีการขี่ม้าของนักเลง 1นั้นยากมา เพราะม้าดูเหมือนจะไม่ยอมให้เขาขี่ได้ง่าย ๆ นั้นก็ไม่แปลกเพราะ [นักเลง1] ไม่มีทักษะการขี่ม้า พวกเขาจึงยากจะควบคุมม้า

“ม้าทำไมมันขี่ยากขนาดนี้ ทั้งที่ในโลกจริงข้าเรียนขี่ม้าทุกเดือน” เฮนริกหรือ [นักเลง1] บ่นออกมาก่อนจะใช้ทักษะควบคุมม้าให้อยู่นิ่ง ๆ

กายรู้สึกไม่ชอบผู้เล่นนักเลง1มากเพราะในตอนที่เจอกันครั้งแรกชายคนนี้ก็คิดจะใช้เงินฟาดหัวเข้าให้เป็นลูกน้องซะแล้ว

“ไม่สนใจ”

“ดีมาก...หืม ไม่สิทำไมเจ้าไม่ยอม!บ้าเอ๊ย! ข้าอุตส่าห์มาช่วยเจ้านะ” เฮนริกชี้หน้าด่ากายอย่างหงุดหงิด เงินก็ไม่สามารถซื้อลอร์ดเจ็ดโลหะได้ และพวกเขาก็ไม่แข็งแกร่งพอที่จะชนะลอร์ดเจ็ดโลหะได้นั้นทำให้เฮนริกที่มักอยากได้อะไรก็ต้องได้ถึงกับจนปัญญา

“เจ้า...ไม่สนใจจริง ๆ เหรอ ถ้าเข้าร่วมข้าจะให้เข้าเป็นลูกพี่ ไม่สิได้แค่ลูกพี่รองพอ เพราะข้าคือลูกพี่ใหญ่”

เฮนริกยื่นข้อเสนอ แต่กายส่ายหัวและกล่าว “ข้าไม่สนใจ”

“เจ้า!”

ในตอนที่เฮนริกจะกล่าวอะไรต่อ ในตอนนั้นเองเสียงเตือนของระบบดังขึ้น “เปลวไฟนรกทำงาน”

สีหน้าของทุกคนเริ่มเปลี่ยนไป เพราะไฟนรกทำงานนั้นหมายถึง ดินแดนแห้งแล้งกำลังลุกเป็นเพลิงบีบพวกเขาเข้าหาเงาที่อยู่บนภูเขา

กายและเฮนริกจ้องหน้ากัน ตอนนี้ถ้ากายไม่ร่วมมือก็ต้องสู้กับเฮนริก แน่นอนว่ามันจะเป็นการดังทั้งสองลงสู้นรก

“อ๊ากกก!!”

“ไฟมาแล้วหนีเร็ว...”

ผู้เล่นที่ไม่ได้อยู่ทั้งสองฝั่งต่างก็วิ่งขึ้นกันไปทางภูเขาสูงนับพันเมตร เพื่อหนีไป แต่พอไปถึงพวกเขาก็เจอกับเงา จนเกิดเป็นการต่อสู้อีกครั้ง

กายมองไปที่ภาพตรงหน้า เพราะการต่อสู้ตรงจุดของพวกเขาดุเดือดที่สุดนั้นทำให้มีเงาดักรออยู่จำนวนมาก และเงาพวกนั้นยังเป็นเงาของพวกกิลด์กะโหลกแดง เงาของกลุ่มนักเลงและที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือเงาของกายก็อยู่ในนั้นด้วย

เฮนริกและคนอื่น ๆ ก็เห็นด้วยเช่นกัน

เพราะเงาของลอร์ดเจ็ดโลหะยืนอยู่ในตำแหน่งที่น่าตกใจ มันคือตำแหน่งของผู้นำ ลอร์ดเจ็ดโลหะที่มีพลังโจมตีสุดยอดก็น่ากลัวแล้ว ตอนนี้ถ้ามีกองทัพจะน่ากลัวขนาดไหน

หลายคนพากันกลืนน้ำลายและบ่นในใจว่า “แดนสงครามจะโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว”

“จะเอายังไง”

ในตอนนั้นกายถามเฮนริก เฮนริกได้แต่กลืนน้ำลายไม่รู้จะเอายังไง

“ลูกพี่ เราพาทุกคนถอยอ้อมไปทางนั้นก็ได้ พยายามอยู่เป็นร้อยอันดับสุดท้ายให้ได้ เราก็จะชนะ”

“อะ..อืม” เฮนริกพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่อยู่ ๆ กายก็กล่าวขึ้นมาอย่างดูถูก

“พวกเจ้าเป็นนักเลงกระจอกจริง ๆ”

“ข้าไม่ใช่นักเลงกระจอก ถอนคำพูดเดียวนี้”

“หึ ถ้าไม่ใช่นักเลงก็จอกแล้วทำไมต้องหนีมันด้วย มาร่วมมือกับข้าเป็นยังไง” กายยิ้มออกมา

“ร่วมมือ?” เฮนริกถามด้วยความสงสัย

“ใช่ เราจะร่วมมือกันฝ่าเงาขึ้นไปเอาเหรียญตราแห่งผู้ชนะกัน ส่วนใครจะได้เหรียญก็ขึ้นอยู่กับว่าใครไปถึงก่อน” กายยื่นข้อเสนอที่ดูบ้าสุด ๆ เพราะแม้แต่คนบ้าแบบเฮนริกก็ยังรู้สึกว่าบ้ามาก ตั้งแต่แดนสงครามเปิดขึ้นมายังไม่มีใครเคยได้เหรียญตราแห่งผู้ชนะแม้แต่คนเดียวมาก่อน

หลายครั้งพวกผู้เล่นมักจะสังหารกันและก็จบลงด้วยร้อยคนสุดท้ายที่เหลือรอด นั้นทำให้เหล่าผู้เล่นเริ่มชาชินและคิดว่านี่คือทางเดียวที่ชนะในแดนสงคราม

แต่ถ้าเกิดได้เหรียญตราแห่งผู้ชนะมามันจะทำให้ผู้เล่นคนนั้นโด่งดังขึ้นมาในทันที และมันยังเป็นเหรียญแรกของแดนสงครามด้วย

เฮนริกยิงคิดก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น หัวใจของเขาเต้นกระหน่ำไม่หยุดพึมพำออกมาว่า “ถ้าฉันได้เหรียญตรามากลุ่มนักเลงนี้จะโด่งดังในทันที และถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ของเกมราชันสงครามออนไลน์”

“ตกลง ข้าตกลง” เฮนริกตอบรับในทันที เหล่านักเลงคนอื่น ๆ ก็เข้าใจว่าเรื่องนี้สำคัญแค่ไหน อีกอย่างถ้าเฮนริกในฐานะลูกพี่ใหญ่ [นักเลง1] ตกลงพวกเขาก็ตกลงเช่นกัน

“ถ้าอย่างนั้นก็มาร่วมมือกันและถ้าอยากจะผ่านไปได้พวกเจ้าต้องฟังคำสั่งข้า”

คนที่จะชนะเงาลอร์ดโลหะได้ก็ต้องเป็นลอร์ดโลหะตัวจริง นั้นคือความเป็นจริงที่เห็นได้ชัดเจน แม้แต่เงายังให้ลอร์ดเจ็ดโลหะเป็นผู้นำเลย

“มาเริ่มกันเลยเถอะ” เฮนริกยิ้มออกมาก่อนจะหันม้าควบตะลุยไปที่ภูเขาในทันที

กายเองก็ไม่รอช้าหยิบค้อนสั่นสะเทือนขึ้นจากนั้นก็กระโดดขึ้นหลังเจ้าหมอกควบตามเฮนริกไปในทันที

“กองกำลังเราน้อยไป ต้องไปช่วยผู้เล่นคนอื่น ๆ ก่อน แล้วถึงรวมไปปะทะกับพวกเงาในครั้งเดียว” กายตะโกนบอกเฮนริก

“ได้”

“งั้นก็ฝั่งขวามือก่อนเป็นยังไง”

“ไม่มีปัญหา”

กายและกลุ่มผู้เล่นนักเลงตรงไปยังด้านขวามือของพวกเขาโดยมีเปลวไฟนรกไล่ตามหลังมา ที่นั่นมีผู้เล่นราว ๆ 50 คนที่โดนเงาจำนวนพอ ๆ กับพวกเขารุมล้อมอยู่ แต่เพราะพวกผู้เล่นไม่ไว้ใจและยังฆ่ากันเองอยู่ เงาที่รวมตัวกันจึงไล่ฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายได้

“หยุดฆ่ากันเองได้แล้ว เราต้องช่วยกันออกไปจากตรงนี้ก่อน”

มีผู้เล่นที่พอจะรู้ว่าทำยังไงถึงจะรอดไปได้ตะโกนออกมา แต่ยังไม่ทันไรเขาก็โดนผู้เล่นอีกคนหนึ่งสังหารด้วยศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟัน ขั้น 1 ในทันที

“จะออกไปทำไม แค่เหลือคนให้น้อยกว่าร้อยพวกเราก็ชนะแล้ว ฮ่า ๆ ฆ่ากันเร็ว ๆ เร็วเข้า” ผู้เล่นคนนี้มีกลุ่มของตัวเองราว ๆ สิบคนดังนั้นพวกเขาจึงแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ๆ ที่ถูกล้มอยู่ตรงนี้

แต่ถึงอย่างนั้นก่อนที่จะได้พูดประโยคต่อไปกลุ่มของพวกเขาก็โดนเงาหลายสิบตัวรุมฆ่าในทันที แม้เงาจะเป็นเพียงตัวก๊อบปี้หรือบอทของผู้เล่น แต่บอทพวกนี้ก็ทรงพลังไม่ต่างจากต้นฉบับเลยและมันยังรู้จักการร่วมมือกัน

กลุ่มของชายคนนี้คือกลุ่มที่แข็งแกร่งและคุกคามพวกมันได้ดังนั้นเงาจึงเลือกฆ่าพวกเขาก่อนนั้นทำให้ความคิดที่ว่าติดร้อยอันดับแรกในด่านนี้ของชายคนนี้ต้องจบลงในทันที

“พวกเราตายหมดก่อนติดร้อยอันดับแน่”

ผู้เล่นหลายคนเสียดายเงินที่ต้องเสียในการเดิมพัน แม้จะไม่เยอะแต่ถ้ารวม ๆ กันหลายตามันก็ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ มีหลายคนที่ตั้งแต่แดนสงครามเปิดตัวมาก็ยังไม่เคยชนะแม้แต่ครั้งเดียว

“ฆ่าพวกมัน”

แต่แล้วในตอนนั้นเองก็มีกลุ่มผู้เล่นนับร้อย ๆ คนวิ่งเข้ามาช่วยพวกเขาและฆ่าเงาอย่างโหดเหี้ยม และคนที่โดดเด่นที่สุดไม่ใช่ใครอื่น ๆ แต่เป็น...กายและกลุ่มนักเลง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด