WS บทที่ 261 จอมเวทย์ผู้พิทักษ์
มิติมนต์ดำนั้นใหญ่มาก พ่อมดฮิวเซียสยังคงเดินไปพร้อมกับแนะนำสถานที่นี้ให้เมอร์ลินรับทราบอย่างละเอียด
พ่อมดฮิวเซียสได้พาเมอร์ลินมาถึงสถานที่ที่เต็มไปด้วยอักษรรูน ณ ที่แห่งนี้ เมอร์ลินเห็นร่างที่สวมเสื้อคลุมของพ่อมดสีดำ ร่างนั้นสูงกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ร่างกายทั้งหมดของเขาไม่มีสัญญาณชีพใด ๆ เลย ราวกับว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นคนตาย
พ่อมดฮิวเซียสหยุดและพูดเบา ๆ กับเมอร์ลิน "นี่คือจอมเวทย์ผู้พิทักษ์แห่งมิติมนต์ดำ"
“จอมเวทย์ผู้พิทักษ์?”
เมอร์ลินเต็มไปด้วยคำถามมากมายแต่ท่าทางของฮิวเซียสยังคงเคร่งขรึมในขณะที่เขาพูด "ถูกต้อง นี่คือจอมเวทย์ผู้พิทักษ์ นอกจากท่านไดอามอสแล้ว คงไม่มีใครในดินแดนมนต์ดำที่รู้ชื่อและต้นกำเนิดของจอมเวทย์ผู้พิทักษ์ ตั้งแต่ที่ฉันเข้าร่วมดินแดนมนต์ดำ ท่านไม่เคยออกไปจากที่แห่งนี้เลย ท่านทำหน้าปกป้องสถานที่แห่งนี้เสมอ บางทีท่านอาจจะเกี่ยวข้องกับท่านจอมเวทย์ฟิเดลก็เป็นได้…"
เห็นได้ชัดว่าฮิวเซียส แสดงความเคารพต่อจอมเวทย์ผู้พิทักษ์ผู้ลึกลับเป็นอย่างมาก ในขณะที่เมอร์ลินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จอมเวทย์ผู้พิทักษ์ซึ่งดูไม่แก่เลยแต่เมอร์ลินไม่คาดคิดว่าเขาจะอยู่ในดินแดนมนต์ดำมาเป็นเวลานาน แล้ว
“เอาล่ะ เมอร์ลิน เอาพลังปีศาจของแพนโดร่าออกมา หากคุณต้องการนำสิ่งใดออกจากมิติมนต์ดำ คุณต้องได้รับอนุญาตจากจอมเวทย์ผู้พิทักษ์ หากปราศจากการอนุญาตก็จะไม่มีใครสามารถนำสิ่งใดออกไปจากที่นี่ได้”
เมอร์ลินพยักหน้า เขานำสายลมแห่งการทำลายที่เขาได้รับมาจากไวส์ออกมาจากแหวนของเขา
พ่อมดฮิวเซียสไม่ได้ดูและส่งต่อให้กับจอมเวทย์ผู้พิทักษ์โดยตรง เขาพูดกับจอมเวทย์ผู้พิทักษ์ด้วยความเคารพว่า
"ท่านจอมเวทย์ผู้พิทักษ์ นี่คือเมอร์ลิน สมาชิกทางการของดินแดนมนตำ เขาได้รับพลังปีศาจแพนโดร่ามาด้วยโชคลาภและต้องการแลกเปลี่ยนพลังปีศาจแพนโดร่ากับดินแดนมนต์ดำ ท่านช่วยตรวจสอบมันด้วยขอรับ”
จอมเวทย์ผู้พิทักษ์ที่หลับตาอยู่ได้ลืมตาขึ้นช้า ๆ หลังจากได้รับสายลมแห่งการลำลาย เขามองดูมันชั่วครู่และพูดอย่างเรียบ ๆ ว่า
"เราไม่มีพลังปีศาจแพนโดร่าอันนี้ในมิติมนต์ดำ เจ้าสามารถแลกมันกับพลังปีศาจแพนโดร่าที่มีค่าเท่าเทียมกันได้!"
หลังจากพูดอย่างนั้น จอมเวทย์ผู้พิทักษ์ก็โบกมือและอักษรรูนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา ประตูปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ในมิติมนต์ดำ
เมื่อเห็นจอมเวทย์ผู้พิทักษ์วาดอักษรรูนจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย เมอร์ลินก็ตกตะลึง แม้ว่าดินแดนมนต์ดำจะเชี่ยวชาญด้านอักษรรูนก็ตามหรือแม้แต่นักเวทย์ระดับเจ็ดที่เชี่ยวชาญในศาสตร์อักษรรูนก็ตาม พวกเขาก็ไม่สามารถใช้งานอักษรรูนมากมายได้ง่ายดายขนาดนี้
นี่แสดงให้เห็นว่า จอมเวทย์ผู้พิทักษ์ต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับอักษรรูน
"หลังประตูบานนั้นเป็นสถานที่ที่เก็บพลังปีศาจแพนโดร่าเอาไว้!"
ฮิวเซียสเผยรอยยิ้มและจ้องไปที่ประตูขณะที่เขาพูดด้วยความรู้สึกซับซ้อน
เมอร์ลินพยักหน้าแล้วเดินผ่านประตูไป
ทันทีที่เขาเดินเข้าไป เมอร์ลินก็ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ทันที ที่นี่มีแสงไฟสว่างไสวที่ทำให้พื้นที่สว่างไสวเหมือนแสงตะวัน
ในนั้นมีกล่องหยกขาวขนาดเล็กจำนวนมากที่ลอยอยู่กลางอากาศ กล่องส่องแสงทำให้ดูชวนฝัน
“พลังปีศาจแพนโดร่าในกล่องหยกสิบสามกล่องทางด้านซ้ายของเจ้ามีค่าเท่ากับสายลมแห่งการทำลาย เจ้าสามารถเลือกหนึ่งในนั้นได้! ดังนั้นจงเลือกอย่างชาญฉลาด เมื่อเปิดแล้ว คุณต้องจดจำวิธีการฝึกฝนของ พลังปีศาจแพนโดร่าถูกเก็บไว้ในกล่องหยกภายใน 2 ชั่วโมง หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมง เจ้าต้องออกไปจากที่นี่!”
เมื่อเมอร์ลินเหลือบมองกล่อง เสียงเยือกเย็นดังมาจากข้างหลังเขา จอมเวทย์ผู้พิทักษ์เข้ามาทางประตูตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
เมอร์ลินตั้งใจฟังคำพูดของเขาอย่างใกล้ชิด นี่คือกฎของมิติมนต์ดำ ที่แม้แต่นักเวทย์ระดับเจ็ดยังต้องปฏิบัติตามกฎที่นี่ ดังนั้นเมอร์ลินจึงจ้องมองไปที่กล่องหยกสิบสามกล่องทางด้านซ้าย
*หวู่ม!*
จอมเวทย์ผู้พิทักษ์พลิกฝ่ามือไปรอบ ๆ และกล่องหยกก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา จากนั้นเขาก็วางสายลมแห่งการทำลายลงในกล่องและสลักอักษรรูนลึกลับบางตัวกลางอากาศที่ประทับลงบนกล่องอย่างคร่าว ๆ
หลังจากปิดผนึกกล่องแล้ว จอมเวทย์ผู้พิทักษ์ก็วางมันไว้ข้าง ๆ กล่องหยกทั้งสิบสามกล่องทางด้านซ้ายของพวกเขาตอนนี้กลายเป็นสิบสี่กล่องแล้ว นี่หมายความว่าตอนนี้ดินแดนมนต์ดำมีพลังปีศาจแพนโดร่าสิบสี่อันซึ่งมีระดับเดียวกับสายลมแห่งการทำลาย
นี่เป็นจำนวนที่มากแต่ก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับออสมูได้
เมอร์ลินตรงมาที่กล่องหยกเหล่านี้และกวาดตามองอย่างระมัดระวัง มีอักษรรูนลึกลับสลักอยู่บนกล่องหยก ทันทีที่เขาขยายพลังจิตไปยังมัน เขาก็สามารถอ่านบทนำสั้น ๆ เกี่ยวกับพลังปีศาจแพนโดร่าซึ่งบรรจุอยู่ในกล่องหยก
ตอนนี้เมอร์ลินครอบครองดัชนีเยือกแข็ง, เพลิงวินาศและดวงใจแห่งความมืดอย่างไรก็ตาม ทั้งดัชนีเยือกแข็งกับเพลิงวินาศเป็นพลังสายโจมตี แม้แต่ดวงใจแห่งความมืดก็สามารถใช้เป็นพลังโจมตีได้
ดังนั้น เมอร์ลินจึงปรารถนาที่จะมีพลังปีศาจแพนโดร่าสายป้องกันในตอนนี้
ในขณะเดียวกัน เขาไม่ควรเลือกพลังปีศาจแพนโดร่าที่ทรงพลังที่สุด เขาควรเลือกพลังปีศาจแพนโดร่าที่สามารถรวมเข้ากับคาถาของเขาได้เช่นเดียวกับดวงใจแห่งความมืด การที่มันสามารถรวมกับคาถาของเขาได้ มันจะทำให้คาถาของเขามีพลังที่สูงเกินกว่าที่เขาหรือใครก็ตามจะจินตนาการได้
ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงยุคสมัยรุ่งโรจน์ที่สุดของนักเวทย์ พลังปีศาจแพนโดร่าที่แข็งแกร่งนั้นเป็นสิ่งที่สามารถรวมเข้ากับคาถาได้เสมอ มีเพียงผู้ที่สามารถรวมเข้ากับคาถาเท่านั้นที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้ครอบครองพลังปีศาจแพนโดร่าที่ทรงพลังที่สุด
ดัชนีเยือกแข็งกับเพลิงวินาศไม่สามารถรวมเข้ากับคาถาของเขาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ถือว่ามีพลังมากในแง่นี้
เมอร์ลินจึงตัดสินใจว่าเขาจะเลือกพลังปีศาจแพนโดร่าธาตุดิน ที่อยู่ภายในกล่องหยกสามกล่องนี้ อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินต้องพิจารณาพวกมันอย่างละเอียด
ในที่สุด เขาก็เหลือพลังปีศาจแพนโดร่าสองอันซึ่งเหมาะกับเมอร์ลิน ทั้งสองอยู่สายป้องกัน
พลังปีศาจแพนโดร่าทั้งสองนี้ถูกเรียกว่า ‘โล่คงกระพัน’ กับ ‘ผสานผืนพิภพ’
โล่คงกระพัน’ ตามชื่อของมัน นั่นคือพลังปีศาจแพนโดร่าซึ่งสามารถรวบรวมธาตุดินที่ไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อสร้างโล่ขนาดมหึมาที่มีความสามารถในการป้องกันที่น่าสะพรึงกลัว อย่างไรก็ตาม รูปแบบแรกของ ‘โล่คงกระพัน’ นั้นเปรียบได้กับคาถาป้องกันระดับสี่ดังนั้นจึงถือว่าค่อนข้างทรงพลัง
เมอร์ลินอยากจะเลือก ‘โล่คงกระพัน’ อยู่แล้ว แต่เขารู้สึกประทับใจเมื่อเห็นพลังปีศาจแพนโดร่าในอีกกล่องหนึ่ง
‘ผสานผืนพิภพ’ พลังปีศาจแพนโดร่าที่มีชื่อแปลก ๆ มันคือพลังปีศาจแพนโดร่าที่เหมาะกับเมอร์ลินมากที่สุด
เขาสามารถเริ่มต้นการฝึกฝนผสานผืนพิภพได้ทันที เนื่องจากเขาได้สร้างคาถาระดับหนึ่งรูปปั้นผู้พิทักษ์ที่เป็นเงื่อนไขไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังสามารถรวมพลังปีศาจแพนโดร่าเข้ากับคาถาของเขาได้อย่างง่ายดาย หากเขาประสบความสำเร็จในการฝึกฝนมัน ดูเหมือนว่าจะคล้ายกับดวงใจแห่งความมืดแต่มีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างพวกมัน
ดวงใจแห่งความมืดเป็นที่รู้จักกันดีในแง่ของการใช้ร่วมกับคาถาธาตุมืด ในสมัยโบราณ หากผู้หนึ่งปลูกฝังดวงใจแห่งความมืด คน ๆ นั้น จะสามารถแสดงความแข็งแกร่งได้มากไม่ว่าจะมีเวทมนตร์ธาตุมืดแบบไหนก็ตาม
อย่างไรก็ตามผสานผืนพิภพนั้นแตกต่างกันโดยที่พลังของมันจะเน้นไปที่เวทมนตร์ป้องกันธาตุดินเท่านั้น มันสามารถรวมเข้ากับคาถาป้องกันธาตุดินได้เท่านั้นซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของคาถาธาตุดินนั้น ๆ
นอกจากนี้ ผสานผืนพิภพก็ยังมีจุดที่ไม่เหมือนใคร มันสามารถรวมกับคาถาระดับแรกได้ซึ่งแตกต่างจากดวงใจแห่งความมืดที่สามารถผสานกับคาถาระดับสี่ขึ้นไปเท่านั้น
ด้วยพลังผสานผืนพิภพ เมอร์ลินจะสามารถเพิ่มความสามารถในการป้องกันของเขาได้อย่างมากแถมยังทดแทนอุปกรณ์เวทมนต์หูกระต่ายได้อีกด้วย
ราวกับผสานผืนพิภพถูกสร้างขึ้นเพื่อเมอร์ลิน ดังนั้น หลังจากที่ได้เห็นพลังของมัน เมอร์ลินจึงเลือกผสานผืนพิภพโดยไม่ลังเลเลยสักนิด
"ท่านจอมเวทย์ผู้พิทักษ์ ผมขอเลือก ผสานผืนพิภพขอรับ!" เมอร์ลินหันกลับมาและพูดกับจอมเวทย์ผู้พิทักษ์
จอมเวทย์ผู้พิทักษ์จ้องมองกล่องหยกอย่างเฉยเมยและพูดด้วยน้ำเสียงสงบว่า “เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการเลือกผสานผืนพิภพ? เมื่อเจ้าตัดสินใจไปแล้ว เจ้าจะไม่สามารถเปลี่ยนใจได้อีก”
“ผมแน่ใจ กรุณาเปิดกล่องหยกให้ผมด้วยขอรับ” เมอร์ลินตอบด้วยสายตาที่แน่วแน่
"เอาล่ะ! สองชั่วโมงต่อมา เจ้าต้องปล่อยมือจากผสานผืนพิภพและนำมันกลับเข้าไปในกล่องหยก"
หลังจากนั้น จอมเวทย์ผู้พิทักษ์กางฝ่ามือกว้างและอักษรรูนลึกลับก็บินออกมาจากฝ่ามือของเขาและพุ่งเข้าไปในกล่องหยกอย่างรวดเร็ว อักษรรูนบนกล่องหยกเริ่มสั่นอย่างรุนแรง แล้วค่อย ๆ หายไปจากสายตา
แม้ว่าเขาจะมีเวลาเพียงสองชั่วโมงแต่ก็มากเกินพอที่เมอร์ลินจะอ่านวิธีการฝึกฝน เนื่องจากเขามีเดอะเมทริกซ์ เขาจึงสามารถจดจำวิธีการฝึกฝนได้อย่างง่ายดายภายในไม่กี่นาที
"เดอะเมทริกซ์ เริ่มบันทึก!"
เมอร์ลินเปิดใช้งานเดอะเมทริกซ์ในใจของเขา หลังจากตั้งค่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เมอร์ลินก็ค่อย ๆ เปิดกล่องหยกของผสานผืนพิภพอย่างระมัดระวัง
"ผสานผืนพิภพมีสองรูปแบบ ในรูปแบบแรกจำเป็นต้องสร้างคาถาป้องกันธาตุดินระดับหนึ่ง ในรูปแบบที่สองจะต้องสร้างคาถาธาตุดินระดับสี่ก่อน
การฝึกฝนผสานผืนพิภพจะต้องใช้ดินลาวาควบคู่ไปด้วย!
หากปลูกฝังผสานผืนพิภพสำเร็จ ความแข็งแกร่งของเวทมนตร์ป้องกันประเภทดินจะเพิ่มขึ้นสามถึงหกเท่า!”
นอกเหนือจากการแนะนำผสานผืนพิภพ ส่วนที่เหลือเป็นวิธีการฝึกฝนแบบละเอียดของมัน พอเขาอ่านจบก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
มันไม่ยากเลยที่จะบรรลุข้อกำหนดเบื้องต้นของการฝึกฝนรูปแบบที่หนึ่ง เนื่องจากเมอร์ลินได้สร้างคาถาป้องกันธาตุดินระดับหนึ่งอย่างรูปปั้นผู้พิทักษ์ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาต้องมีสมบัติที่เรียกว่าดินลาวาเพื่อฝึกฝนผสานผืนพิภพให้สำเร็จ
เรื่องนี้ค่อนข้างยากเพราะเมอร์ลินไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับดินลาวามาก่อน มันต้องเป็นเรื่องยากที่จะเสาะหา
หากเขาฝึกฝนผสานผืนพิภพสำเร็จ มันจะทำให้คาถาของเขาแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นสามถึงหกเท่า แม้นี่ผลลัพธ์จะน้อยกว่าห้าถึงสิบเท่าของดวงใจแห่งความมืด
แต่ถึงอย่างนั้น ภาพรวมของผสานผืนพิภพก็ยังพอรับได้เพราะดวงใจแห่งความมืดถือเป็นพลังปีศาจแพนโดร่าที่รู้จักกันดี แถมมันยังมีสามรูปแบบ ดังนั้นจึงไม่สามารถนำมาเทียบได้
“เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว เจ้าจงเก็บผสานผืนพิภพแล้วกลับเข้าไปในกล่องหยกและออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
ทันใดนั้น จอมเวทย์ผู้พิทักษ์ไร้อารมณ์ก็พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นขึ้นมา