EP 668 จัดการปัญหาเรียบร้อย
EP 668 จัดการปัญหาเรียบร้อย
By loop
ในช่วงยามบ่าย.
ฟ้าร้องบนท้องฟ้าเหนือเขตต้าเฟิง ท้องฟ้ายังไม่มีเมฆครึ้ม แต่ดูเหมือนฝนเองก็จะตกมาทุกเมื่อ
“นี้มันอากาศอะไร ฝนจะตกอีกแล้วเหรอ”
“เลขาซูบิน นายกเทศมนตรีโยฮวาพูดอะไรไหมก่อนที่เธอจะไป”
“เธอบอกกับผมว่าให้รอสายจาเธอก่อนที่เธอจะให้ผมไปส่งที่สำนักงานคณะกรรมการพรรค”
“ถ้าอย่างงั้นเราไปทานข้าวกันก่อนเถอะ”
“เอาล่ะ ทุกคนขึ้นรถแล้วไปกินข้าวกันก่อน”
ช่วงบ่ายโมงกว่าแล้ว ยังไม่มีข่าวคราวของนายกเทศมนตรีโยฮวาผู้คนในเขตหนานฉางเองก็อดใจรอไม่ไหว ดงซูบินเองก็ไม่รู้ว่าขจะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองจะมาเมื่อไหร่ ดังนั้นทุกคนจึงต้องไปที่รถของสำนักงานส่งเสริมการลงทุนจำนวนสามหรือสี่คัน ก่อนที่จะเดินทางไปที่ร้านอาหารข้างๆ สำนักงานส่งเสริมการลงทุนต้าเฟิง
เมื่อรถหยุดก่อนที่จะเข้าไปในร้าน ก็เห็นคนจำนวนหนึ่งเดินออกมาจากร้าน
หลังจากเห็นคนสองสามคนดูเหมือนมีชายวัยกลางคนๆหนึ่งเดินอยู่ตรงกลาง เขาก็พ่นลมหายใจออกมา “เฮ้ นี่ผู้อำนวยการซูบินหรือเปล่า?”
ดงซูบินยืนคิดอยู่สักพักและพูดว่า "โอ้ นั่นผู้กำกับซถนนิ เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"
ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างหน้าเขาสวมชุดตำรวจ ซุนเพิง รองผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงสาธารณะเทศมณฑลต้าเฟิง ครั้งสุดท้ายที่เขาไปเยี่ยมตำรวจระหว่างการประชุมส่งเสริมการลงทุนที่นี่ เขาได้รับแจ้งว่าดงซูบินก็มาที่นี้ด้วย
ซุนเพิงยิ้มและพูดว่า "ทำไมคุณไม่โทรหาผมก่อนที่จะมาที่นี้ ให้ผมทำหน้าที่เจ้าบ้านตอนรับคุณหน่อยจะไม่ดีหรือยังไง ผู้อำนวยการซูบิน"
ดงซูบินยิ้มและพูดว่า: "ใครจะกล้าโทรมารบกวนผู้กำกับซันกันล่ะงานของคุณเองก็มีมากมาย ทั้งต้องยุ่งอยู่กับการจับกุมอาชญากรการจับกุมผู้ต้องสงสัย อีกทั้งนักลงทุนพวกนั้นก็ต้องการไปที่หนานฉาง มันเป็นหน้าที่ของฉันอู่แล้ว คุณเองต้องไปจัดการงานจับกุมเท่านั้นก็มันยากมากพอแล้ว เห็นไหมงานของคุณเองมีมากมาย ใช่มั้ย ถ้าอย่างไรรอมีโอกาสเราไปหาร้านอาหารดีๆนั่งคุยกันจะดีกว่า!"
ซุนเผิง เองก็เคยผ่ายแพ้ให้กับดงซูบิน ทำให้ตัวเขาเองก็อายเมื่อต้องมาพบกับดงซูบินอีกครั้ง เขายังจำเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ลืมและยังลืมความโกรธในครั้งนั้นได้ดี
เจ้าหน้าที่ของหนานฉางเอง มองไปที่ดงซูบินพร้อมกับยิ้มออกมาละรู้สึกว่าเลขาซูบินนั้นเต็มไปด้วยความร้ายกาจอยากที่พวกเขาคาดไม่ถึง
เลขาหม่าเองก็พูดไม่ออก จากมุมมองหนึ่ง เธอชื่นชม ดงซูบินจริงๆ เขาเหมือนกับคนที่ไม่มีใครต้องการจะมีปัญหาด้วย ขนาดในมณฑลใกล้ๆเองก็รู้จักเขา เลขาหม่าก็คงอยากรู้ว่าเขาเองมีปัญหากับใครอยู่บ้างในตอนนี้
ในห้องส่วนตัว.
ทุกคนใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการยืนคุยกันก่อนที่จะเลขาหม่าจะนั่งที่หัวโต๊ะทันใดนั้นอาหารก็มาและทุกคนก็หิวและเริ่ม
ในระหว่างอาหารค่ำ ทุกคนแลกเปลี่ยนและพูดคุยเกี่ยวกับนักลงทุน แต่ ดงซูบิน นั้นกลับอยู่ตัวคนเดียวและไม่มีใครพูดกับเขาแม้ว่าจะเป็นประโยคสั้นๆก็ตาม ถึงอย่างงั้นดงซูบินเองก็ไม่ได้สนใจ เขาเองรู้ว่าทุกคนคงเข้าใจว่าเขาเองก็มีปัญหากับนายกเทศมนตรีโยฮวาเช่นกันจึงไม่กล้ามายุ่งกับเขาทำให้เขาทานอาหารอยู่เงียบเพียงตัวคนเดียว
......
ในอีกมุมหนึ่ง....
ดูเหมือนตอนนี้นายกเทศมนตรีหวังเองกำลังพูดคุยกับเลขาธิการพรรคหลี่เฟยผ่านโทรศัพท์ ถีงแม้ตอนนี้หลี่เฟยกำลังจะประชุมอยู่ เขาก็ไม่ได้ปิดโทรศัพท์ไปส่ะทีเดียว ดังนั้นหวังโบจึงรายงานรายละเอียดต่างๆให้กับหลี่เฟยทราบ “เลขาหลี่ ฉันเพิ่งออกมาจากกลุ่มพ่อค้าจีนของหนานฉางมาแล้ว บังเอิญตอนนั่นทางนั้นมีดงซูบินมาด้วย”
หลี่เฟิงขมวดคิ้ว “ดงซูบิน? จากมณฑลหยานไท?”
หวังโบกล่าวต่อว่า “ดูเหมือนว่าเขาจะย้ายไปเป็นเลขาธิการสำนักงานเขตที่นั้น เลยได้มากับพวกหนานฉางด้วย”
ดงซูบิน!
แน่นอน หลี่เฟิงจะไม่ลืมบุคคลนี้ สำนักงานส่งเสริมการลงทุนของต้าเฟิงนั้นสุดท้ายถูกบังคับโดยดงซูบินให้ยกเลิกการลงทุนมากกว่า 100 ล้านหยวนซึ่งน่าจะลดลงในต้าเฟิง เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นหลี่เฟิงก็มีอาการปวดหัวขึ้นมา คราวนี้เขาไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน เขามีหน้าที่รับผิดชอบในการถือโอกาสรับผู้โดยสารลงเครื่องมา เมื่อเห็นว่านักลงทุนชาวญี่ปุ่นได้ลงจากเครื่องบินด้วยกันแล้ว คนที่รับผู้โดยสารของหนานฉางก็ก็ยังไม่มาถึง พวกเขาคิดว่านักธุรกิจชาวญี่ปุ่นเหล่านั้นอาจรู้จักกันดี และบางทีพวกเขาอาจไม่รู้ว่าสถานที่ๆเขาจะไปลงทุนคือที่ไหน ยังไงก็ตามเขาเหล่านั้นคือกลุ่มเป้าหมายของเรา เราจึงคิดจะแย่งผู้ลงทุนเหล่านั้นมา
เป็นผลนายกเทศมนตรีโยฮวา มาถึงที่นี้ นั้นร่วมถึงเอาตัวปัญหาอย่างดงซูบินมาด้วย
เมื่อกี้ยังอยู่ในห้องประชุม หลังจากได้รับข่าวจากเกิงโยฮวาเขาพบว่ามีข้าราชการหลายคนออกมาทักทายเธอ ตัวเขาเองต้องการรอให้ เกิงโยฮวารอสักพัก ไม่นานหลังจากนั้น ประตูห้องประชุมคือ เมื่อผู้คนผลักให้เปิด เกิงโยฮวา ไม่สนใจใครเลยและเดินเข้าไป เธอดึงเก้าอี้ลงที่ประตูและไม่พูดอะไร เธองอขาและมองดูหนังสือพิมพ์
แม้ว่า เกิงโยฮวาไม่ได้พูดอะไร แต่ไม่สามารถเปิดการประชุมนี้ได้
เกิงโยฮวา...
ดงซูบิน...
ดูเหมือนทางผู้เข้าร่วมประชุมก็ดูแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“โอเค คุณกลับมาแล้ว” ริเชตัน พูดกับทางหวังโบ : "ดูเหมือนทางนายกเทศมนตรีโยฮวาจะมารับนักลงทุนของเธอด้วยตัวเอง"
“ท่านนายกหวังจะปล่อยให้เขาไปหรอ?”
“ทำตามที่ฉันบอก!”
“ผมเข้าใจ ผมจะรีบดำเนินการ”
เมื่อวางโทรศัพท์หลี่เฟิงก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน เขาคิดว่าจะจัดการกับพวกนักลงทุนเหล่านี้ได้สบายๆ? แต่ตอนนี้ กับมีนายเทศมนตรีโยฮวาเข้ามาเป็นการส่วนตัว และได้พากตัวของดงซูบินมาด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องแย่มากในตอนนี้ เขารู้ดีว่าผู้ได้รับสมยานามว่าเทพเจ้าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดเรื่องนี้อย่างแน่นอน และคิดว่าทางมณฑลต้าเฟิงเองก็คงจะใช้ประโยชน์จากโอกาสครั้งนี้ไม่ได้แล้ว
......
ในช่วงบ่าย.
ในที่สุดฝนก็ตกลงมา
เมื่อคืนฝนไม่ตก แต่ฝนแบบนี้มักไม่หยุด อาจใช้เวลานาน
และคงจะไม่หยุดง่ายๆ ทางเลขาหม่าและ แพนเซินจึ้ กำลังรออยู่ในร้านอาหาร ประมาณบ่ายสามโมง โทรศัพท์ของนายกเทศมนตรีโยฮวา ก็ต่อสายมาถึงเขา
“คุณมาที่โรงแรมรุ่ยเหอ!”
เลขาหม่าพูดอย่างสุภาพว่า "ทางเราจะรีบเดินทางไปให้เร็วที่สุด"
เมื่อวางสายเลขาหม่าพูดกับทุกคน: "ตอนนี้ได้รับคำสั่งจากนายกเทศมนตรีโยฮวาแล้ว"
ทุกคนออกไปข้างนอก ดงซูบินเองก็เหมือนคนไร้ตัวตัว และไม่มีใครเรียกเขา เขาเองก็ไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้เท่าไรนัก เขาขับช้าๆไปตามถนน เขารู้จักโรงแรมนี้ และเขามาครั้งล่าสุด
โรงแรมรุ่ยเหอบริเวณห้องโถง
เมื่อเขามาเลขาหม่าเห็นว่าไม่มีใคร เธอโทรหาเกิงโยฮวา และรออย่างอดทน
ในเวลานี้ดงซูบินขับรถช้าๆ และคนสุดท้ายเข้าไปในห้องโถงยาวของโรงแรม แต่เมื่อเขามา พนักงานเสิร์ฟในโรงแรมและหัวหน้าคนงานหลายคนจำเขาได้
“เฮ้ ดูคนนั้นสิ!”
“คนที่มาร่วมงานกับทางสำนักส่งการลุงทุนต้าเฟิงใช่ไหม?”
"นั่นมันเขา ฉันจำได้ว่าตอนที่เขามาครั้งแรก เขาจัดการหักหน้านายกเทศมนตรีเขาส่ะหน้าแหกเลย"
“ใช่ จำได้ว่า ดูเหมือนว่าเขาทำร้ายนายกเทศมนตรี และทางตำรวจไม่กล้าจับกุมเขา”
“ทำไมเขามาอีกล่ะ รีบไปแจ้งผู้จัดการเถอะ ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่นแล้ว! คราวนี้นักลงทุนญี่ปุ่นพักเยอะ! อาจเกิดปัญหาขึ้นมาได้!”
เมื่อดงซูบินเพิ่งจะเข้าประตูโรงแรมก็เต็มไปด้วยผู้คน
ผู้จัดการล็อบบี้มองมาที่เขาด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง และรีบโทรไปแจ้งเขา
ดงซูบิเองรู้สึกอายเล็กน้อย แต่นั้นเขาก็งงว่าทำไมเขาต้องอายด้วย?
ครั้งนี้พนักงานโรงแรมบริการพวกเขาเป็นอย่างดี และคนในเขตหนานซานตกตะลึงอีกครั้ง “สวัสดีท่านผู้อำนวยการดงซูบิน ! ! ผมเป็นผู้จัดการของที่นี่”