ระบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 24 ฉันชื่อฉู่ฮ่าวเทียน
ตอนที่ 24 ฉันชื่อฉู่ฮ่าวเทียน
“คุณชายหวัง หายหน้าหายตาไปนานเลยนะคะ แล้ววันนี้ลมอะไรหอบมาได้ล่ะคะนี่?”
หญิงสาวแต่งตัวเซ็กซี่ที่หวังยู่หยางเรียกว่าพี่หลิง เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับร้องทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ฮ่าๆๆ พอดีผมยุ่งๆน่ะครับ วันนี้บังเอิญสะสางเรื่องยุ่งๆได้แล้ว ก็เลยพาพี่ชายมาเที่ยวผ่อนคลายหาความสนุก! นี่ครับพี่ชายของผมเองครับชื่อว่าเย่โม่!”
หวังยู่หยางหัวเราะเสียงดังพร้อมเอื้อมมือไปจับบั้นท้ายของพี่หลิงบีบเบาๆ
“เจ้าเล่ห์ใหญ่แล้วนะคะเนี่ย! คุณชายหวังกำลังเอาเปรียบพี่หลิงอยู่นะคะ!”
หญิงสาวแสร้งทำเป็นดุหวังยู่หยาง แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะขัดขืนปัดป้องเลยแม้แต่น้อย
“เอาล่ะ ถ้างั้นก็ให้เจียฉีดูแลคุณชายเย่ก็แล้วกันนะคะ แต่อย่ารังแกเธอล่ะ เธอเป็นเพียงแค่นักร้องของที่บาร์เท่านั้น!”
พี่หลิงร้องบอกพร้อมกับจ้องมองเด็กสาวหน้าตาน่ารักที่อยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าแววตาโล่งอก
เย่โม่สัมผัสได้ว่า พี่หลิงคนนี้นับเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจดีมากคนหนึ่ง ที่เป็นฝ่ายออกตัวใช้คำพูดปกป้องเด็กสาวที่ชื่อจียฉี และในสังคมของคนทำงานกลางคืนนั้น ยากนักที่จะหาคนที่มีจิตใจดีเช่นนี้ได้
และเมื่อมีพี่หลิงผู้ช่ำชองงานบริการเข้ามาร่วมด้วย บรรยากาศภายในห้องก็เปลี่ยนเป็นคึกคักสดใสขึ้นมาทันที และเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ส่วนเย่โม่กับหลี่เจียฉีก็เริ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน ต่างฝ่ายต่างอ้าปากหัวเราะกันอย่างมีความสุข
จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ และเย่โม่กับหลี่เจียฉีก็เพิ่งจะร้องเพลงรักคู่กันจบไป ผู้หญิงสองคนก็เปิดประตูเดินเข้ามาในห้องส่วนตัว และตามมาด้วยชายหนุ่มอีกสองคน
“ในที่สุดก็มาแล้ว! เข้ามาๆเร็วเข้า ฉันของแนะนำให้รู้จักกับพี่เย่โม่ก่อน!”
หลังจากที่หวังยู่หยางแนะนำเย่โม่ให้กับเพื่อนๆที่เพิ่งมาใหม่แล้ว เขาก็เริ่มแนะนำเพื่อนๆทั้งสี่คนให้เย่โม่รู้จักบ้าง
“คนนี้ชื่อว่าตู้เผิง เป็นลูกชายของหัวหน้าสำนักงานรักษาความมันคงเมืองจี่หนิง ส่วนนั่นก็หยวนเฟย เป็นลูกชายของประธานบริษัท ฝูหลง เรียลเอสเตท นั่นฮั่นเหมิงเหมิง เธอเป็นลูกสาวของท่านผู้ว่าการธนาคารจี่หนิง คนสุดท้ายนั่นชื่อว่าโจวหุยเป็นเพื่อนสนิทของฮั่นเหมิงเหมิงตั้งแต่เล็กๆ!”
เมื่อได้เห็นหวังยู่หยางออกจะมีมารยาทกับเย่โม่เป็นอย่างมาก ทั้งสี่คนก็พอจะคาดเดาได้ว่า เด็กหนุ่มคนนี้น่าจะต้องไม่ใช่คนธรรมดา ไม่อย่างนั้นหวังยู่หยางคงจะไม่ให้เกียรติถึงขนาดเรียกเขาว่าพี่เย่แน่!
“ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ!”
เย่โม่เอ่ยทักทายพร้อมกับพยักหน้า ในขณะเดียวกันก็แอบจดจำชื่อ และรูปลักษณ์ของทั้งสี่คนอยู่อย่างเงียบๆ
ตู้เผิงมีใบหน้าเหลี่ยมและตัดผมสั้น รูปร่างสูงแต่ตามร่างกายมีกล้ามเนื้อแน่นไปหมด เห็นได้ชัดว่าเขาคงจะเข้ายิมสร้างกล้ามเนื้อมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร
ส่วนหยวนเฟยนั้นกลับมีรูปร่างตรงกันข้ามกับตู้เผิงอย่างสิ้นเชิง เขาเป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างบอบบาง และดูเป็นคนอ่อนโยน
ในขณะที่โจวหุยนั้น ดูเหมือนจะมีรูปร่างหน้าตาที่ด้อยกว่าฮั่นเหมิงเหมิง และหลี่เจียฉีเล็กน้อย
“เร็วเข้าๆ นั่งลงได้แล้วทุกคน มาดื่มแล้วก็ร้องกันให้เต็มที่ คืนนี้ไม่เมาไม่เลิก!” หวังยู่หยางร้องตะโกนบอกเพื่อนๆ
ในเรื่องของเหล้าและไวน์นั้น ดูเหมือนเย่โม่จะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์น้อยที่สุด!
เมื่อกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวมาดื่มด้วยกันแบบนี้ มีหรือที่จะไม่เมามาย เหตุการณ์ภายในห้องเวลานี้ จึงกลายเป็นว่า เธอดื่มให้ฉัน ฉันดื่มให้เธอ วนเวียนกันอยู่อย่างนี้ไม่จบ!
ไม่มีใครรู้ตัวว่า แต่ละคนต่างดื่มกันเข้าไปมากเท่าไหร่ ยกเว้นเย่โม่ที่เวลานี้ร่างกายแข็งแกร่งอย่างมาก และหลี่เจียฉีที่ไม่ดื่มเลย ส่วนคนอื่นๆนั้นดื่มกันเข้าไปหนัก และคนที่มีสภาพย่ำแย่ที่สุดดูเหมือนจะเป็นหวังยู่หยาง ที่เวลานี้เกือบจะอาเจียนออกมาหลังดื่มกับพี่หลิงเข้าไปมาก และเวลานี้ก็กำลังนอนหมดสติอยู่บนโซฟา
เย่โม่รู้ตัวว่าตนเองไม่สามารถที่จะดื่มเข้าไปมากกว่านี้ได้อีก จึงได้ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่หลังจากที่เขาเดินออกจากห้องไปแล้วนั้น ก็มีเสียงที่ไม่เป็นมิตรนักดังขึ้นอยู่ด้านนอกประตู
“เร็วเข้าสิครับคุณชายฉู่.. ในห้องนี้มีแต่ผู้หญิงสวยๆอยู่เต็มไปหมด รับรองว่าคืนนี้คุณชายฉู่ได้สมใจแน่ครับ!”
“หลีกไป! ขอฉันดูให้เห็นกับตา ถ้าคืนนี้ฉันสามารถหาสาวสวยระดับท็อปๆมาระบายอารมณ์ได้ ฉันจะให้รางวัลแกอย่างงามเลยโว้ย!”
“คุณชายฉู่ครับ แค่ผมได้รับใช้คุณชายฉู่ก็นับเป็นบุญแล้ว จะกล้ารับรางวัลจากคุณชายฉู่ได้อีกยังไงล่ะครับ!”
ซูเหล่าซานรีบพูดประจบประแจงฉู่ฮ่าวเทียน ที่กำลังยืนยิ้มชั่วร้ายอยู่หน้าประตูห้องส่วนตัวของหวังยู่หยาง
เมื่อเปิดประตูเข้าไป ฉู่ฮ่าวเทียนก็พบกับสาวสวยอย่างฮั่นเหมิงเหมิงที่กำลังเมามาย และหลี่เจียฉีที่ยังสวยใสบริสุทธิ์นั่งอยู่ แววตาของฉู่ฮ่าวเทียนก็ถึงกับเบิกกว้างเป็นประกายขึ้นมาทันที เขารีบเดินตรงเข้าไปนั่งข้างๆหลี่เจียฉี พร้อมกับยกแก้วไวน์ในมือของตนเองขึ้นมา และบอกกับหญิงสาวทั้งสองคนว่า
“ผมเป็นลูกชายของฉู่หนานเฟิง ประธานบริษัท โกลเดน ไทรพอด เอนเตอร์เทนเมนท์ พวกคุณสองคนมีรูปร่างหน้าตาที่สะสวยมากทีเดียว ไม่ทราบว่าสนใจที่จะเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในบริษัทของพ่อผมมั๊ยครับ? ผมรับรองว่าพวกคุณสองคนจะต้องกลายเป็นศิลปินที่โด่งดังมากอย่างแน่นอน!”
ซูเหล่าซานที่ติดตามมาด้วยรีบพูดสนับสนุนขึ้นทันที “นั่นน่ะสิแม่หนู พวกเธอสองคนนับว่าโชคดีมากแล้วรู้มั๊ย ปกติคุณชายฉู่ไม่ยื่นข้อเสนอแบบนี้ให้ใครง่ายๆนะ แล้วถ้าใครที่เขาสนใจล่ะก็ เขาสามารถผลักดันจนกลายเป็นดาราดังระดับนางเอกได้เลยล่ะ!”
เมื่อพี่หลิงที่อยู่ในห้องเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอก็รู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังคิดที่จะทำเรื่องชั่วร้ายอยู่ เธอจึงรีบดึงมือหลี่เจียฉีให้มานั่งข้างๆเธอทันที พร้อมตอบฉู่ฮ่าวเทียนกลับไปยิ้มๆ
“คุณชายฉู่คะ น้องๆพวกนี้ยังเรียนหนังสือกันอยู่เลยนะคะ อีกอย่าง พวกเธอก็ไม่ได้คิดที่อยากจะเป็นดารงดาราอะไรเลย ขอบคุณมากนะคะสำหรับความหวังดี”
และเมื่อฉู่ฮ่าวเทียนได้ยินว่า สาวๆในห้องนี้ล้วนแล้วแต่ยังเป็นเด็กนักศึกษา เขาก็ถึงกับยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าเดิม
“ผมทำไปด้วยความหวังดีและตั้งใจดีอย่างแท้จริง การที่คุณปฏิเสธไม่รับความหวังดีแบบนี้ เท่ากับเป็นการไม่ให้หน้าผมฉู่ฮ่าวเทียนเลยนะครับ!”
เมื่อเห็นว่าคุณชายฉู่เริ่มจะมีโมโหขึ้นมาแล้ว ซูเหล่าซานก็รีบควักธนบัตรสีแดงปึกใหญ่ออกมาโยนลงบนโต๊ะพร้อมพูดกับพี่หลิงว่า
“นี่คนสวย เอาเงินจำนวนห้าหมื่นหยวนนี่ไปซะ แล้วเธอกับเพื่อนๆคนอื่นก็ช่วยออกไปจากห้องนี้ก่อน คืนนี้คุณชายฉู่ของเรามีธุระอยากจะคุยกับสาวสวยทั้งสองคนนี้เป็นการส่วนตัว! จะเรียกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนยีนซึ่งกันและกันก็ได้ ฮ่าๆๆ”
ในเวลานั้น ตู้เผิงก็ได้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับปัดธนบัตรปึกนั้นของซูเหล่าซานตกลงไปบนพื้นทันที พร้อมกับร้องตะโกนใส่หน้าว่าคนพวกนั้นว่า
“นี่พวกแกเป็นบ้าอะไร? พวกแกคิดว่าพวกฉันทั้งหมดที่อยู่ในห้องเป็นใคร? หึ! อย่าว่าแต่เงินแค่ห้าหมื่นหยวนเลย ต่อให้แกเอาเงินห้าแสนมากองไว้ตรงหน้า ก็คงได้แค่ขี้ไปก้อนหนึ่งเท่านั้นล่ะ เข้าใจมั๊ย?”
หลังจากนั้น ตู้เผิงก็ได้ส่งสัญญาณให้พี่หลิงช่วยพยุงร่างของหวังยู่หยางลุกขึ้น แตะเตรียมที่จะพาทุกคนออกไปจากห้อง
“หึ! ถ้าคืนนี้พวกแกสามารถก้าวออกไปจากร้านนี้ได้ ฉันฉู่ฮ่าวเทียนจะยอมเขียนชื่อตัวเองกลับหัวเลยคอยดู!”
หลังจากที่ฉู่ฮ่าวเทียนร้องคำรามข่มขู่ลั่น ลูกน้องอย่างซูเหล่าซานก็รีบรับลูกต่อทันที มันเดินเข้าไปยืนขวางหน้าประตูห้องไว้ จากใบหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อครู่พลันเปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นมาทันที ก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นสาดใส่หน้าพี่หลิง
“ให้ตายเถอะสาวๆ! การที่ฉันฉู่ฮ่าวเทียนพอใจในตัวพวกเธอสองคน นับว่าเป็นโชควาสนาของพวกเธอแล้วนะ รู้มั๊ยว่า ถ้าพวกเธอสองคนตั้งใจบริการฉันให้ประทับใจ ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้ฉันอาจจะซื้อรถสปอร์ตให้พวกเธอคนละคันก็ได้!”
“ไอ้เวรเอ๊ย!! นี่แกกล้าอวดดีพูดจาชั่วๆแบบนี้ต่อหน้าพวกเราเชียวเหรอ? แกรู้มั๊ยว่าพ่อของฉันเป็นใคร? พ่อของฉันก็คือตู้เฉิง หัวหน้าสำนักงานรักษาความมั่นคงนะเว้ย!”
ตู้เผิงวิ่งตรงเข้าไปชี้หน้าฉู่ฮ่าวเทียนด้วยความโมโห
“ฮ่าๆๆ ที่แท้ก็ลูกชายหัวหน้าตู้นี่เอง! แล้วยังไง? ลุงของฉันเป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการฝ่ายกฏหมาย ที่ดูแลควบคุมสำนักงานรักษาความมั่นคงอีกที”
หลังจากที่พูดออกมาจนจบแล้วนั้น ฉู่ฮ่าวเทียนก็ได้คว้าแก้วไวน์บนโต๊ะขึ้นมาฟาดใส่หัวของตู้เผิงทันที
การลงมือจู่โจมอย่างกะทันหันเช่นนี้ ถึงกับทำให้ตู้เผิงตกตะลึงงงงันไปชั่วขณะ ร่างของเขาทรุดลงนั่งบนโซฟา พร้อมกับเลือดสีแดงที่ค่อยๆไหลลงมาตามหน้าผาก
เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ฮั่นเหมิงเหมิง โจวหุย และหลี่เจียฉีที่นั่งอยู่ข้างๆถึงกับตัวสั่นเทาด้วยความตกใจกลัว!
--------------------------
ติดตามนิยายแปลสนุกๆอีกหลายเรื่องได้ที่เพจ : แปลสนุก