ตอนที่แล้วตอนที่ 7 : จอมเวทย์ผู้น่าเชื่อถือแห่งแฟรี่เทล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 : ปีศาจปรากฎกาย

ตอนที่ 8 : สมาชิกใหม่


กว่ามาคารอฟและเควินจะกลับมาจากสภาจอมเวทย์เวลาก็ร่วงเลยไปพอสมควร มาคารอฟและเควินต่างโดนสภาจอมเวทย์ต่อว่าอย่างหนักหน่วง เมื่อกลับมาถึงกิลด์พวกเขาก็เดินขึ้นไปบนชั้นสองอย่างเงียบๆ มาคารอฟในตอนนี้เหนื่อยทั้งกายและใจไม่มีแรงแม้แต่จะตวาดด้วยซ้ำ

“เควิน เจ้าคิดว่าสักวันกิลด์ของเราจะถูกยุบบ้างไหม?” มาคารอฟถอนหายใจด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง ในมือของเขาถือใบคำร้องจำนวนมากเอาไว้ ถ้าเด็กๆของเขามัวแต่ทำตัวทำลายล้างแบบนี้ต่อไป เขากลัวว่ากิลด์ที่แสนสงบสุขจะหายไปในสักวัน

“ต่อให้ถูกยุบจริงๆ แฟรี่เทลก็คงจะยังอยู่ต่อไปแม้ว่าจะในฐานะกิลด์แห่งความมืดก็ตาม มาสเตอร์ไม่ต้องกังวลไปหรอก” เควินพูดด้วยรอยยิ้ม แต่คำปลอบของเขาไม่ได้ฟังดูดีเลยแม้แต่น้อย มันยิ่งทำให้มาคารอฟที่ได้ยินเกิดอาการปวดจิตปวดใจยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

ตอนนั้นเองที่ชั้นล่างก็มีเสียงคนพูดว่า “ฉันกลับมาแล้ว” ดังขึ้นจากบริเวณประตู ทั้งสองมองลงมาจากบนชั้นสอง พวกเห็นชายหนุ่มผมสีดอกซากุระ บริเวณไหล่มีแมวเกาะอยู่ และหญิงสาวผมบลอนด์อีกคนอยู่ที่ด้านหน้าประตู

“นัตสึกลับมาแล้ว มาสเตอร์คิดว่าอีกนานไหมกว่าพวกนั้นจะเริ่มสู้กัน?” เควินยิ้มบางๆ การต่อสู้ภายในกิลด์นับว่าเป็นวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนานของกิลด์แฟรี่เทล และชายหนุ่มหัวชมพูที่ชื่อว่านัตสึเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบการทะเลาะวิวาทมากที่สุดคนหนึ่งของกิลด์

“เฮ้อ ทำไมเอลซ่าถึงไม่อยู่กันนะ? ช่างมันเถอะ ปล่อยพวกนั้นไป ยังไงนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าพวกนั้นต่อยตีกันสักหน่อย” มาคารอฟส่ายหัวพร้อมถอนหายใจ

และเป็นไปตามที่คาดไว้ ภายในเวลาอันสั้น กลุ่มคนที่ชั้นร่างก็เริ่มสู้กันเอง การต่อสู้เริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดทุกคนก็เริ่มใช้เวทมนตร์ออกมา

เมื่อเห็นท่าทางหมดอะไรตายอยากของมาคารอฟ เควินก็ได้แต่เกาหัวโดยไม่รู้จะทำยังไงดี เขาหันไปมองสถานการณ์ที่ด้านล่างและหันไปพูดกับมาคารอฟว่า “นี่มาสเตอร์ดูเหมือนว่ากิลด์เราจะมีเด็กใหม่ล่ะ เห็นสาวผมบลอนด์สวยๆนั่นไหม”

“สาวสวยผมบลอนด์?!” เมื่อได้ยินมาคารอฟก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งทันที เขากระโดดลงไปยังชั้นล่างพร้อมขยายร่างกลายเป็นยักษ์

“อย่าใจเสาะกันไปก่อนล่ะ เจ้าพวกบ้า!!!” มาคารอฟตะโกนออกมาอย่างดุดัน

ในตอนนี้ภายนอกของมาคารอฟได้กลายเป็นยักษ์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หัวของเขาสูงเทียบเท่ากับเพดานของกิลด์อย่างพอดิบพอดี ใบหน้าแสดงออกถึงความโกรธแทบไม่ต่างอะไรไปจากวิญญาณร้าย นี่คือเวทย์ขยายร่างยักษ์เวทย์เฉพาะตัวของกิลด์มาสเตอร์คนปัจจุบันของแฟรี่เทล

คนที่กำลังสู้กันอยู่ต่างพากันหยุดทันที ส่วนเควินเขาฉวยโอกาสนี้และเดินลงมาชั้นล่างอย่างเงียบๆและนั่งดูการแสดงของมาสเตอร์

“มาสเตอร์กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” เมื่อทุกคนต่างเงียบกันหมด มิร่าจึงถามมาคารอฟ

“มาสเตอร์งั้นเหรอ?!” สาวผมบลอนด์ที่ถูกพามาโดยนัตสึพูดด้วยอาการตื่นตกใจ เธอไม่คิดเลยว่ากิลด์ที่เธอกำลังจะขอเข้าร่วมด้วยมีมาสเตอร์ที่น่ากลัวขนาดนี้

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ในเมื่อทุกคนกลัวตาแก่กันหมด งั้นชัยชนะในครั้งนี้ก็ตกเป็-”

ขณะที่นัตสึกำลังหัวเราะอย่างลำพองใจ มือหนาก็เขกเข้าไปที่หัวอีกฝ่ายทันที

มาคารอฟหันหน้ากลับไปทางมิร่า สายตาเขาเหลือบไปเห็นสาวผมบลอนด์พอดี เขาเลยแส้รงทำเป็นพูดว่า “เจ้าเป็นสมาชิกใหม่งั้นเหรอ…?”

สาวผมบลอนด์รีบพยักหน้ารัวด้วยความกลัว

มาคารอฟที่ดูเหมือนจะรู้ตัวว่าสภาพในตอนนี้น่ากลัวเกินไป เขาเลยหดร่างกลับมาอยู่ในสภาพเดิม การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ทำให้อีกฝ่ายถึงกับช็อคตัวแข็งค้าง

หลังจากมาคารอฟได้ระบายอารมณ์และจัดการทุกคนเสร็จ  เขาก็เริ่มพูดจาดูถูกสภาจอมเวทย์ โดยมีเควินนั่งฟังและถอนหายใจอยู่เป็นพักๆ

“มาสเตอร์ไม่รู้ตัวรึไงว่าตัวเองเป็นตัวอย่างผิดๆให้กับเจ้าพวกนี้...”

“เควิน วันนี้มาสเตอร์โดนมาหนักงั้นเหรอ?” หลังจากเห็นอาการของมาคารอฟ มิร่าก็เดินมาที่บาร์พร้อมกับเด็กใหม่ก่อนจะหันมาพูดกับเควินซึ่งมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“เลวร้ายสุดๆเลยแหละ ตอนออกมาฉันเองก็เกือบจะทำลายสภาทิ้งไปเหมือนกัน แต่มาสเตอร์เข้ามาห้ามไว้” เควินจิบเบียร์ พร้อมคิดถึงคำบ่นก่อนหน้าจากนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง

“กล้าถึงขั้นทำลายสภาจอมเวทย์ นี่ฉันเหมาะกับกิลด์นี้จริงๆเหรอเนี่ย?” เด็กใหม่เมื่อได้ยินคำบ่นไร้สาระของเควิน ก็ช็อคไปทันที

“ห้ามทำอะไรบุ่มบ่ามเป็นอันขาดเข้าใจไหม หากพวกเราเผลอทำลายสภาจอมเวทย์ทิ้งไปจริงๆ กิลด์พวกเราได้ถูกยุบแน่” มิร่าลูบคางพร้อมบ่นเควินด้วยความเหนื่อยใจ

“ถล่มได้จริงๆงั้นเหรอ? สภาจอมเวทย์เนี่ยนะ?...” สาวผมบลอนด์มองไปที่เควินซึ่งอยู่ข้างๆ เธอไม่คาดคิดเลยว่าภายใต้ร่างผอมบางของเควินจะแฝงไปด้วยพลังอันน่าหวาดกลัว

“เธอเด็กใหม่สินะ? ฉันเควิน เธอชื่ออะไรงั้นเหรอ?”

“อ่า ฉันลูซี่ ต่อจากนี้ไปขอฝากตัวด้วยนะ” ลูซี่รีบแนะนำตัวเองให้เควินรู้จัก และด้วยเหตุนี้จึงทำให้มิร่าที่อยู่ข้างๆได้รู้ชื่อเธอไปด้วย

“ลูซี่ มานี่หน่อย ฉันจะช่วยปั๊มตราของกิลด์เราให้” มิร่าคว้ามือของลูซี่ไป โดยใบหน้าของเธอยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มเหมือนเช่นเคย

“มิร่า! ขอไฟที่นึง!” ตอนนั้นเองนัตสึก็ได้วิ่งเข้ามาหามิร่า ทันทีที่เควินเห็นนัตสึ เขาก็เบือนหน้าหนีและเดินหนีไป

“หะ? ทำไมพอเควินเห็นนัตสึแล้วเขาถึงหนีไปล่ะ” ลูซี่แอบถามมิร่า

“ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร” มิร่ากระซิบบอกลูซี่เบาๆ ด้วยสีหน้าสงสัยไม่ต่างกัน

เควินถือแก้วเบียร์เดินเข้ามาหาคาน่า ก่อนจะเทไวน์ทั้งขวดใส่แก้วที่ว่างเปล่าของเขา

“นายควรปล่อยวางได้แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนนั้นมันไม่เกี่ยวกับนัตสึสักหน่อย” เมื่อเห็นใบหน้าไม่สบายใจของเควิน คาน่าก็พูดปลอบ

“ฉันรู้ว่านัตสึไม่ผิด และมังกรที่เลี้ยงดูนัตสึมาก็ไม่น่าจะใช่ตัวตนที่เลวร้าย แต่ทุกครั้งที่เห็นหน้านัตสึภาพในอดีตมันก็ย้อนกลับมาตลอด” เควินนึกถึงหมู่บ้านของตัวเขาเองซึ่งถูกทำลายลงด้วยมังกรพิษ ความเกลียดชังยังคงฝังแน่นอยู่ในใจของเขา นั่นเป็นสาเหตุหลักที่เขาไม่สามารถญาติดีกับนัตสึได้

“ช่างเรื่องนั้นเถอะ ฉันไปหาภารกิจทำดีกว่า” เควินดื่มไวน์จนหมด หลังจากพูดคุยกับคาน่าอีกสักพัก เขาก็เดินขึ้นไปบนชั้นสอง

หลังจากเลือกอยู่นาน เควินก็เลือกได้สำเร็จ ในใบภารกิจมีรูปของมอนสเตอร์ตัวยักษ์ถูกวาดเอาไว้อยู่ โดยมีค่าตอบแทนอยู่ที่สิบล้านจีเวล

“จัดการมอนสเตอร์ยักษ์บนภูเขางั้นเหรอ? ไกลพอสมควรเลย” เควินไม่ชอบภารกิจที่น่าเบื่อ ภารกิจที่เขาชอบส่วนมากมีแต่ภารกิจจัดการมอนสเตอร์ทั้งนั้น ทุกครั้งที่เควินจัดการกับพวกมอนสเตอร์เขาจะได้รับแรงบรรดาลใจในการสร้างการ์ดใหม่ๆ

“อีกเดี๋ยวลัคซัสน่าจะกลับมาแล้ว รีบหนีไปตอนหมอนั่นไม่อยู่ดีกว่า” เมื่อคิดได้ดังนี้ เควินก็รีบดึงภารกิจและเดินไปที่ชั้นล่าง

“หืม? เด็กใหม่ออกไปแล้วงั้นเหรอ?” เมื่อลงมาด้านล่างเควินก็พบว่านัตสึและลูซี่หายตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ดูเหมือนจะตามนัตสึไปทำภารกิจ รู้สึกไม่พอใจเลยแฮะที่หมอนั่นออกไปทำภารกิจกับสาวสวย” คนที่ตอบเควินคือชายหนุ่มผมดำที่กำลังเปลือยเปล่าอยู่ ใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอิจฉา

“ไปทำภารกิจทันทีหลังจากเข้ากิลด์ เป็นคนขยันจริงๆ”

  ——

ภูเขาซึ่งเป็นจุดหมายของภารกิจในครั้งนี้ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของอาณาจักรฟีโอเร่ ภูเขาแห่งนี้มีเรื่องเล่าและตำนานเกี่ยวกับมันเต็มไปหมด เควินต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งวันเต็มกว่าจะบินมาถึงที่นี่

“พลังเวทมนตร์ดำรุนแรงมาก ดูเหมือนว่าเจ้ามอนสเตอร์นี่จะไม่ธรรมดาซะแล้ว!” ตอนนี้เควินมั่นใจแล้วว่ามอนสเตอร์ที่เขาเจอในครั้งนี้แข็งแกร่งกว่าที่เขาและลัคซัสร่วมมือกันจัดการเมื่อสองวันก่อนมาก

“เอาล่ะ มาเริ่มภารกิจกันเถอะ”

***

ลูซี่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด