WS บทที่ 259 เบาะแส PART 2
เมอร์ลินกำลังจะบอกพ่อมดลีโอเกี่ยวกับการครอบครองพลังปีศาจแพนโดร่าแต่พ่อมดลีโอโบกมือเบา ๆ
“ไม่ว่าเจ้าจะมีพลังปีศาจแพนโดร่าแบบไหน นั่นคือว่าเป็นความลับของเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องมาบอกข้า
ฉันแค่รู้สึกพอใจไคลส์ดูด้อยกว่าเจ้าในเรื่องนี้ เจ้าโดดเด่นกว่าไคลส์มาก ส่วนไวส์กับบลูเบิร์ดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ในอนาคตเจ้าต้องฆ่าไคลส์ด้วยมือของเจ้าเองเข้าใจไหม?”
ลำแสงส่องออกมาจากตาที่สามสีแดงเข้มบนหน้าผากของพ่อมดลีโอในทันทีและเขาก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึม
เมอร์ลินค่อนข้างแปลกใจ ตามข้อตกลงระหว่างดินแดนมนต์ดำกับออสมู นักเวทย์ที่อยู่เหนือกว่าระดับสี่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการเคลื่อนไหวใด ๆ อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินไม่ใช่นักเวทย์ระดับสี่ เขาเป็นเพียงนักเวทย์ระดับหนึ่งเท่านั้น แม้ว่าเขาจะเพิ่มระดับในเวลาอันสั้นแต่เขาก็ยังเป็นเพียงนักเวทย์ระดับสอง
มีเพียงเมอร์ลินเท่านั้นที่มีโอกาสฆ่าไคลส์ที่ทรยศต่อดินแดนมนต์ดำ!
“อาจารย์ลีโอ ผมจะจำไว้ ถ้าผมเจอไคลส์ในอนาคต ผมจะฆ่าเขาเอง!” เมอร์ลินตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แววตาอันมุ่งมั่นฉายแววออกมา
พ่อมดลีโอยิ้มอย่างไร้เหตุผลและส่ายหัวเล็กน้อย "ดีมากแต่เจ้าคงมาหาข้าด้วยเรื่องอื่นสินะ?” พ่อมดลีโอยิ้มขณะที่มองไปทางประตู
หัวใจของเมอร์ลินเต้นแรงและเขาก็รีบทำท่าทางให้เอ็มมาเข้ามา จากนั้นเขาก็พูดกับพ่อมดลีโอว่า
“พ่อมดลีโอ เธอมีชื่อว่าเอ็มม่า เมื่อสามปีที่แล้ว ผมพบเธอข้างนอกโดยบังเอิญและเห็นว่าเธอมีคุณสมบัติของนักเวทย์ ดังนั้นฉันจึงมอบคาถาให้แก่เธอ ฉันไม่คิดว่าภายในสามปี เธอจะสร้างคาถาระดับศูนย์สามอันสำเร็จ ดังนั้นฉันจึงรับเธอเป็นนักเรียนของฉันอย่างไม่เป็นทางการและเธอได้รับการจัดสรรให้มาที่หอคอยของคุณ”
เมอร์ลินอธิบายสถานการณ์ของเอ็มม่าสั้น ๆ ให้พ่อมดลีโอฟัง แม้เอ็มม่าจะเห็นว่ารูปลักษณ์ของพ่อมดลีโอค่อนข้างน่ากลัวแต่เธอก็โค้งคำนับเขาอย่างเกร็ง ๆ
“ไม่เลวเมอร์ลิน เนื่องจากเจ้าเป็นคนรับเธอมา เจ้าจะต้องช่วยเหลือเธอให้ผ่านการเกณฑ์ของดินแดนมนต์ดำด้วย”
พ่อมดลีโอไม่สนใจแต่ส่งเรื่องให้เมอร์ลินแทน สิ่งที่ยากที่สุดที่จะทำกับคนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวเหมือนพ่อมดลีโอคือการดูแลลูกศิษย์
“พ่อมดลีโอมีอีกอย่างที่ผมต้องการให้คุณช่วย ผมกลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งแล้วและได้รับบริวารคนหนึ่งมา เธอเป็นนักเรียนคนก่อนของคุณ เธอมีชื่อว่าเลอแรนก้า เนื่องจากเธอไม่ได้เป็นนักเวทย์ระดับหนึ่ง เธอจึงถูกขับออกจากที่นี่ ดังนั้น ตอนนี้เธอไม่มีทางเข้าสู่ดินแดนมนต์ดำและยังคงรอผมอยู่ข้างนอก
ผมต้องการความช่วยเหลือจากคุณเพื่อช่วยผมหาแหวนมนต์ดำของบริวารน่ะขอรับ”
เมอร์ลินชี้แจงเรื่องของเลอแรนก้าอย่างรวดเร็ว พ่อมดลีโอสะบัดมืออย่างใจร้อน
“นั่นเป็นเรื่องเล็กน้อย ฉันจะส่งคนให้นำแหวนมนต์ดำของบริวารมาให้แต่การมีบริวารเจ้าต้องทำตามกฎอย่างเคร่งครัด หากมีปัญหาใด ๆ ที่เกิดจากบริวารของเจ้า เจ้าก็รับผิดชอบต่อการกระทำของบริวารด้วย ดังนั้นเจ้าต้องระมัดระวังในการเลือกบริวาร”
เมอร์ลินพยักหน้า เมอร์ลินเข้าใจเรื่องนี้ดี เขาสังเกตเห็นว่าพวกนักเวทย์ระดับสองหรือสาม พวกเขาก็ยังไม่มีบริวาร ถ้าหากพวกเขาไม่พบคนที่เหมาะสม พวกเขาจะไม่รับใครมาเป็นบริวาร
ด้วยความช่วยเหลือจากพ่อมดลีโอ นักเวทย์ก็มาถึงหอคอยโดยเร็ว และส่งแหวนมนต์ดำสำหรับบริวารให้กับเมอร์ลิน ทันทีที่แหวนถูกส่งมา บริวารของเมอร์ลิน เลอแรนก้า ก็อยู่ในบันทึกของดินแดนมนต์ดำเรียบร้อยแล้ว
เมื่อได้แหวนมนต์ดำมาแล้ว เมอร์ลินก็พาเอ็มม่าออกจากห้องของพ่อมดลีโอ หลังจากที่พวกเขาออกมา เอ็มม่าก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ด้วยความกลัวยังหลงเหลืออยู่ เธอจึงถามว่า
“ท่านอาจารย์ นั่นคือพ่อมดลีโองั้น? เขาดูน่ากลัวจริงๆ…”
เมอร์ลินรู้ว่ามีคนไม่มากนักที่จะไม่กลัวรูปลักษณ์อันน่าสะพรึงกลัวของพ่อมดลีโอ อย่างไรก็ตาม เขารู้จักพ่อมดลีโอมาเป็นเวลานานและมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับนิสัยของพ่อมดลีโอ ดังนั้นเขาจึงไม่กลัว
“เอ็มม่า พ่อมดลีโอเป็นคนดี เธอจะเข้าใจเรื่องนี้เองหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง มาเถอะ ฉันจะพาเธอไปที่ห้อง เธอไปพักผ่อนก่อนแล้วค่อยทำความคุ้นเคยกับดินแดนมนต์ดำในภายหลัง”
เมอร์ลินช่วยเอ็มม่าตั้งหลักในหอคอยและทบทวนบางสิ่งที่เธอควรจดจำไว้ขณะอยู่ที่นี่ จากนั้นเขาก็รีบกลับไปยังที่ที่เลอแรนก้าอยู่
“เลอแรนก้าสวมแหวนมนต์ดำนี้ แล้วคุณอาจกลับไปที่ดินแดนมนต์ดำอีกครั้ง” เมอร์ลินยิ้มเล็กน้อยแล้วยื่นแหวนมนต์ดำให้เลอแรนก้า
ดูเหมือนว่าเลอแรนก้าจะพบเจออะไรมากมายในระหว่างที่เธอถูกขับออกจากดินแดนมนต์ดำ ในที่สุดเธอก็สามารถกลับมาที่นี่ได้
ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เธอถูกส่งตัวไปจากดินแดนมนต์ดำ เธอรู้สึกว่าความฝันทั้งหมดของเธอกลายเป็นผงธุลีราวกับไม่มีความหวังเหลืออยู่ ตอนนี้กลับไปที่ตระกูล ผู้คนที่นั่นต่างรังเกียจกับการกลับมาของเธอ เธอรู้สึกได้เพียงความเย็นชาจากคนในตระกูล
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอได้กลายเป็นบริวารของเมอร์ลินแล้ว นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โอกาสในการเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ยิ่งกว่านั้น ด้วยสถานะพิเศษของเมอร์ลิน เธอจะไม่ใช่คนที่ไม่สำคัญอีกต่อไป แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงบริวารของเมอร์ลินก็ตาม
*หวู่ม!*
เลอแรนก้าได้มองไปที่แหวนมนต์ดำอย่างซับซ้อน จากั้นเธอกับเมอร์ลินได้เปิดใช้งานวงแหวนเวทย์และกลับเข้าสู่ดินแดนมนต์ดำอีกครั้ง
…
“เฮ้อ…”
ในที่สุดเมอร์ลินก็กลับมาที่ห้องของเขาและถอนหายใจยาว เมื่อเขากลับมาอยู่ในดินแดนมนต์ดำ เขารู้สึกโล่งใจและสบายใจ
“ก่อนหน้านี้ ท่านไดอามอสได้ถอดรหัสอักษรรูนของหนังสือแห่งนิดันดร์และได้เปิดเผยลักษณะที่แท้จริงของมัน บางทีอาจมีเบาะแสเกี่ยวกับหนังสือเล่มที่สองและสามของหนังสือแห่งนิดันดร์อยู่ในนั้น”
เมอร์ลินพึมพำกับตัวเอง แล้วรีบดึงหนังสือหนังสือแห่งนิดันดร์เล่มแรกออกจากแหวนของเขาอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากไดอามอสได้ถอดรหัสอักษรรูนจึงทำให้หนังสือแห่งนิดันดร์ดูไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป มันส่อแสงประกายเจิดจ้า มันเคยดูเรียบง่ายและไร้ซึ่งการตกแต่ง
อย่างไรก็ตาม นี่คือรูปลักษณ์ที่แท้จริงของหนังสือแห่งนิดันดร์ เมอร์ลินตรวจสอบปกหนังสืออย่างรวดเร็วซึ่งปรากฏคำลึกลับในภาษามอลต้า
เมอร์ลินเริ่มอ่านภาษามอลต้าลึกลับอย่างระมัดระวัง
“หนังสือแห่งนิดันดร์ทั้งสามเล่มมีคาถาและพลังปีศาจแพนโดร่าบางอันที่ฉันสร้างขึ้น ในตอนแรกมันเป็นแค่สิ่งที่ฉันขีดเขียนอย่างลวก ๆ และคอยทำลายมันทีหลัง อย่างไรก็ตาม หลังจากไตร่ตรองแล้ว ฉันรู้สึกว่ามันน่าเสียดายที่จะทำเช่นนั้น ดังนั้นฉันจึงวางหนังสือแห่งนิดันดร์ทั้งสามเล่มไว้ในที่ต่าง ๆ สามแห่ง โดยเล่มที่สองอยู่บนชายหาดที่ไหนสักแห่งใกล้ทะเลมรณะ การจะหาเล่มที่สองได้จะต้องพบเล่มที่หนึ่งก่อน
ส่วนเล่มที่สามอยู่ในอุโมงค์หิน จำเป็นจะต้องพบเล่มที่หนึ่งและเล่มที่สองก่อนถึงจะตำแหน่งที่แน่นอนของเล่มที่สามได้!
สำหรับใครก็ตามที่โชคดีพอที่จะรวบรวมหนังสือแห่งนิดันดร์ครบทั้งสามเล่มได้ พวกคาถาและพลังปีศาจแพนโดร่าเป็นเพียงของเด็กเล่นเท่านั้น
โดยทั้งสามเล่มจะบอกถึงที่ซ่อนของแม็กซิมที่ฉันผนึกไว้ ต้องหาทั้งสามเล่มให้พบเท่านั้นถึงจะสามารถค้นหาและได้รับแม็กซิมนี้ไป…”
หลังจากเนื้อหาภาษามอลต้าของหนังสือแห่งนิดันดร์จบ เมอร์ลินเงยหน้าขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
ผู้ที่เขียนหนังสือต้องเป็นเจ้าของดั้งเดิมของหนังสือแห่งนิรันดร์อย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของนักเวทย์คนนี้คาถาและพลังปีศาจแพนโดร่าในหนังสือแห่งนิรันดร์เป็นเพียง ‘ของเด็กเล่น’ เท่านั้น
แถมเขายังได้ทิ้งสมบัติที่ยิ่งใหญ่ นั่นก็คือแม็กซิม
แม็กซิมคืออะไร? เมอร์ลินไม่ทราบเช่นกันแต่เขารู้ดีว่าแม้แต่พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่สามารถควบคุมแม็กซิมส์ได้
แม็กซิมเป็นสิ่งที่เรียกว่าพลังแห่งกฎ มันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มากที่แม้แต่จอมเวทย์ก็ไม่สามารถควบคุมได้
แม้แต่พื้นที่มิติของเบลล์ก็ยังมีแม็กซิมเลย
ดังนั้นแม้ว่าเมอร์ลินจะไม่แน่ใจว่าแม็กซิมคืออะไร แต่เขาก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่แม้แต่พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ก็ใฝ่ฝันถึง เมื่อคิดว่านักเวทย์ลึกลับได้ทิ้งแม็กซิมไว้ เขาก็รู้สึกทึ่งมาก
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้นักเวทย์คนนั้นต้องการคือให้รวบรวมหนังสือแห่งนิรันดร์ให้ครบทั้งสามเล่ม เมอร์ลินเคยได้ยินชื่อทะเลมรณะแต่มันอยู่ไกลเกินไป มันไม่ได้อยู่ในอาณาจักรแบล็กมูนแต่อยู่ทางใต้ ต้องเดินทางผ่านพื้นที่ต่าง ๆ ของอิทธิพลที่เป็นขององค์กรนักเวทย์หลายแห่ง จนในที่สุดก็จะถึงที่นั่น
ทะเลมรณะ เป็นสถานที่ที่แม้แต่นักเวทย์ที่อยู่เหนือระดับสี่ขึ้นไปก็ยังไม่กล้าพูดว่าพวกเขาสามารถไปถึงทะเลมรณะได้ อาจเป็นไปได้ว่ามีเพียงนักเวทย์ระดับเจ็ดเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงทะเลมรณะแม้จะไปได้แบบยากลำบากก็ตาม
ขนาดเล่มสองยังยากขนาดนี้ ไม่ต้องพูดว่าเล่มสามมันจะยากขนาดไหน สำหรับเล่มที่สามของหนังสือแห่งนิรันดร์ มันถูกซ่อนอยู่ในสถานที่ที่เขาไม่รู้จัก เมอร์ลินไม่เคยได้ยินสถานที่ใดที่เรียกว่าอุโมงค์หินดังนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาพบ
หากไม่ได้รวบรวมหนังสือแห่งนิรันดร์ทั้งสามเล่ม ย่อมไม่สามารถได้รับแม็กซิมที่ผนึกไว้ได้
“ด้วยพลังในปัจจุบันของฉัน ฉันคงไม่สามารถไปถึงทะเลมรณะได้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้หนังสือแห่งนิรันดร์เล่มที่สอง…”
เมอร์ลินส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ มันยากเกินไปที่จะนำเล่มที่สองและสามมา แม้ว่าเขาจะทำได้แต่ก็ไม่เสร็จในเวลาอันสั้นอย่างแน่นอน
ต่อจากนั้น เมอร์ลินก็เก็บหนังสือแห่งนิรันดร์เข้าไปในแหวนและนำพลังปีศาจแพนโดร่า สายลมแห่งการทำลาย ออกมา!
นี่คือพลังปีศาจแพนโดร่าธาตุลมที่มีพลังพอสมควร อย่างไรก็ตาม คาถาธาตุลมของเมอร์ลินคือคาถาเพิ่มความเร็ว ดังนั้นเขาจึงไม่มีสามารถฝึกฝนมันได้
เขาคิดว่าที่ดินแดนมนต์ดำน่าจะมีพลังปีศาจแพนโดร่า ดังนั้นเมอร์ลินจึงคิดที่จะแลกเปลี่ยนสายลมแห่งการทำลายกับพลังปีศาจแพนโดร่าอีกอันที่มีประโยชน์สำหรับเขา
สำหรับเรื่องนี้ เขาคิดว่าพ่อมดลีโอน่าจะช่วยเขาได้ ถ้าเขาได้รับความช่วยเหลือจากพ่อมดลีโอ การแลกเปลี่ยนพลังปีศาจแพนโดร่ากับดินแดนมนต์ดำจะต้องราบรื่นแน่นอน
เมื่อคิดอย่างนั้น เมอร์ลินก็เดินออกจากห้องอีกครั้ง
…
“อาจารย์ลีโอ ผมเกรงว่าจะมีบางอย่างที่ผมต้องการให้คุณช่วยอีก” เมอร์ลินยืนต่อหน้าพ่อมดลีโอและพูดด้วยความเคารพ
“ว่ามาสิ มีอะไรหรือเปล่า?” พ่อมดลีโอถามอย่างไม่ใส่ใจด้วยท่าทางสงบ
เมอร์ลินสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามสงบอารมณ์ที่ปั่นป่วนของเขา หลังจากนั้นเขาก็พูดเบา ๆ ว่า
“อาจารย์ลีโอ ผมต้องการแลกเปลี่ยนพลังปีศาจแพนโดร่ากับดินแดนมนต์ดำ!”
"อืม? เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนพลังปีศาจแพนโดร่างั้นเหรอ?”
ใบหน้าที่สงบในตอนแรกของพ่อมดลีโอเปลี่ยนไปเล็กน้อยในทันที ดวงตาที่สามสีแดงเลือดบนหน้าผากของเขาก็เปิดขึ้นเช่นกัน โดยจ้องตรงไปที่เมอร์ลิน