ตอนที่ 1017-1018 ชอบไหม?
ในสายตาของเหมาเยซื่อ เหตุการณ์นี้ช่างน่าตกใจ ไม่ต่างจากการที่พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
แปลกจริง ๆ
ในความเห็นของเขา หากพี่เขาไม่คิดจะแต่งงาน นั่นแหละถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ยากเสียจริงที่จะคาดคิดว่าเขาจะตกหลุมรักใครสักคน รวมไปถึงการแต่งงาน และการมีลูก
ผู้ชายอย่างพี่ใหญ่ของเขา เหมาะจะอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต
เขาน่ะเหรอจะมีเวลาออกเดต
เวลานอนยังแทบจะไม่มีเสียด้วยซ้ำ
“จริงสิ!” เฉียวเมียนเมียนกัดริมฝีปากและขมวดคิ้ว
“หลัวหลัวน่ะ น่าจะชอบพี่ใหญ่จริง ๆ แต่ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่จะทำไปเพราะความรักผิดชอบต่อเธอ จริง ๆ แล้ว ฉันก็แอบหวังว่าหลัวหลัวจะได้อยู่กับพี่ใหญ่”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ต่อไป หลัวหลัวก็คือพี่สะใภ้ของฉัน ถ้าเธอเป็นพี่สะใภ้ของฉัน ฉันคงจะมีความสุขมาก แต่อีกทาง ฉันก็คิดว่าเธอไม่เหมาะที่จะเป็นพี่สะใภ้ หลัวหลัวน่ะ เธอเป็นคนสดใส มีชีวิตชีวา ชอบใช้ชีวิตตามใจอย่างอิสระ”
“บุคลิกของพี่ใหญ่ดูเหมือนจะจำเจไปหน่อย ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาก็ยุ่งมากจนแทบไม่มีเวลากลับบ้านเสียด้วยซ้ำ หากเขาได้เป็นประธานาธิบดีของประเทศ A เขาคงจะยุ่งมากกว่านี้”
“ฉันไม่คิดว่าเขาจะให้ความรักกับหลัวหลัวได้ตามที่เธอต้องการ ถ้าหลัวหลัวคบกับเขาจริง เธอคงมีเวลากับเขาเพียงน้อยนิด ฉันเลยให้คำแนะนำแก่หลัวหลัวว่าให้ปฏิเสธพี่เขาไป พอมาคิดดูอีกที คุณคิดว่าฉันไม่มีเหตุผลมากเกินไปหรือเปล่า?”
เหมาเยซื่อยังคงตกตะลึง
หลัวจากฟังคำอธิบายของเฉียวเมียนเมียน เขาพยายามทำความเข้าใจ และในที่สุดก็ยอมรับความคิดเห็นของเธอ
เขามองดูท่าทางกังวลใจของเธอและครุ่นคิดอย่างจริงจังก่อนจะพูดว่า
“คุณคิดว่าบุคลิกและงานของพี่ผม ไม่เหมาะกับเธอ หรือว่าคุณกลัวว่าพี่ผมเขาจะไม่สามารถให้ความสุขกับเธอได้?”
“ค่ะ” เฉียวเมียนเมียนพยักหน้า
“แต่ตอนนี้ ฉันรู้สึกว่า มันค่อนข้างยากที่จะอธิบายว่าพวกเขาจะพัฒนาความสัมพันธ์กันในอนาคตได้ยังไง อย่างตอนที่พวกเราเจอกันครั้งแรก ฉันเองก็ไม่เคยคิดเลยว่า ฉันจะรักคุณมากขนาดนี้”
เฉียวเมียนเมียนตระหนักว่าเธอเพิ่งสารภาพรักแก่เหมาเยซื่อ
เธอดูเป็นธรรมชาติ เมื่อเธอบอกรักเขา
เธออดไม่ได้ที่จะหน้าแดง และหันไปมองเขาอย่างเขินอาย
“เอ่อ ฉันหมายถึง เขาอาจจะมีความสุขด้วยกันก็ได้ คุณคิดว่ายังไง”
คำสารภาพนั้นชัดเจน
ทำให้ชายคนนั้นยิ้มออกมา
เมื่อมองไปที่ใบหน้าซีดของหญิงสาว เขาก็อดไม่ได้ที่จะก้มศีรษะลง เขาบีบคางเธอด้วยนิ้วที่เรียวยาว พร้อมกระซิบเบา ๆ “ที่รัก พูดอีกทีสิ”
เมื่อชายหนุ่มขยับเข้ามา เฉียวเมียนเมียนได้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา
กลิ่นนี้ทำให้เธอเวียนหัว
ใบหน้าของเฉียวเมียนเมียนร้อนผ่าวขึ้น เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น และพบกับใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาอยู่ตรงหน้าเธอ หัวใจของเธอเต้นรัวดั่งมีกลองชุดตีอยู่ภายใน
เธอรู้ว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไร แต่เธอแค่อยากจะแกล้งเขา จึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ฉันคิดว่า ไม่แน่ในอนาคต พวกเขาอาจจะพัฒนาความสัมพันธ์กันได้”
เขากำคางเธอแน่น “ไม่ใช่ประโยคนี้”
เฉียวเมียนเมียนยังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “ฉันหมายถึง บางทีหลังจากที่ได้คบกัน พวกเขาอาจจะรักกันมากก็ได้..”
“ไม่ใช่ประโยคนี้” เหมาเยซื่อรู้ว่าเธอจงใจทำเช่นนี้ เขายิ้มและขบริมฝีปากของเธอเบา ๆ
“เด็กน้อย คุณรู้นี่ ว่าผมอยากได้ยินอะไร ถ้าคุณไม่พูด ผมจะจูบคุณ”
เฉียวเมียนเมียนหัวเราะเบา ๆ เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ จับที่ริมฝีปากของเธอ
“ก็ได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอ จะให้ฉันต้องพูดซ้ำอีกทำไม”
“ก็อยากฟังอีกนี่”
เหมาเยซ่อับมือเธอและจูบที่ฝ่ามือ
“พูดอีกครั้งสิ แล้วผมจะช่วยคุณคิดว่าเกิดอะไรขึ้น”
เฉียวเมียนเมียนพูดไม่ออก
“ไม่มีใครรู้จักพี่ใหญ่ของผมดีไปกว่าผมอีกแล้วนะ การวิเคราะห์ของผมมีประโยชน์กับเพื่อนสนิทของคุณอย่างแน่นอน ที่รัก ตกลงจะพูดอีกครั้งไหม?”
ริมฝีปากของชายคนนั้นยังแนบกับฝ่ามือของเธอ
ขณะที่เขาพูด ริมฝีปากอันอบอุ่นและชื้นของเขา แตะลงกับฝ่ามือของเธอ
เฉียวเมียนเมียนมองลงมาและเห็นว่าเขากำลังจับมือเธอด้วยท่าทางและวิธีที่เขาจูบลงฝ่ามือของเธอเต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน
เธอถูกเขาล่อลวงในทันที
ในตอนนี้เธอรู้สึกอายเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้
“เหมาเยซื่อ ฉันบอกว่าฉันรักคุณ”
เธอรักเขามาก
เธออยากอยู่กับเขาตลอดไป
อยู่กับเขาจนผมของเขาเปลี่ยนสีขาว
ชายคนนี้มองเธออย่างอ่อนโยน “พูดอีกครั้งสิ ที่รัก”
เฉียวเมียนเมียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เธอจับใบหน้าหล่อเหลาของเขาและมองไปท่เขา “เหมาเยซื่อ ฉันรักคุณ”
“พูดอีกครั้งสิ”
“เหมาเยซื่อ ฉันรักคุณ”
“พูดอีกครั้งสิ”
“เหมาเยซื่อ ฉันรักคุณ”
“พูดอีกครั้งสิ”
เฉียวเมียนเมียนพูดไม่ออก
ผู้ชายคนนี้คิดอะไรอยู่
เสพติดคำว่ารักไปแล้วหรือยังไง
ทำไมเขาถึงได้ชอบฟังคนสารภาพรักนัก?
เธอจ้องไปที่เขา “เหมาเยซื่อคะ จะพอได้หรือยัง ตอนนี้คุณช่วยบอกฉันได้แล้ว ว่าคุณมีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหลัวหลัวและพี่ชายของคุณ”
“ที่รัก เรียกผมว่าสามีสิ แล้วผมจะบอกคุณ” มีใครบางคนไม่รั้งรอที่จะร้องขออะไรอีกครั้ง
เฉียวเมียนเมียนพูดไม่ออก
“เหมาเยซื่อ คนไร้ยางอาย รับปากไว้แล้วนะ...”
“ใช่ ใช่ ผมไร้ยางอาย ที่รัก คุณช่วยเรียกผมว่าสามีอีกครั้งจะได้ไหม ตอนอยู่ในห้องทำงานคุณยังเรียกผมอยู่เลย เรียกผมอีกครั้งเถอะนะ ผมสัญญานี่เป็นคำขอสุดท้ายแล้วจริง ๆ”
เมื่อเห็นว่าเขารั้น เฉียวเมียนเมียนพบว่ามันน่าขบขันและน่ารำคาญไปพร้อม ๆ กัน สุดท้าย เธอก็ทำตามคำขอของเขาและเรียกเขาว่า สามี
ริมฝีปากอันอบอุ่นของชายผู้นั้นทาบลงมาที่ริมฝีปากของเธอ
เหมาเยซื่อคลายจูบออก เมื่อเห็นเฉียวเมียนเมียนเกือบจะหมดสติเพราะขาดออกซิเจน
ดวงตาของเขาเร่าร้อนขณะที่เขาลูบไล้ริมฝีปากที่บวมของเธอ
“ที่รัก คุณช่างน่ารักเหลือเกิน”
เฉียวเมียนเมียนเกือบจะเป็นลมเพราะจูบของเขา เธอชกหน้าอกของเขาแล้วพูดว่า “เหมาเยซื่อ คนโกหก”
เหมาเยซื่อหัวเราะคิกคัก “ผมกลายเป็นคนโกหกได้ยังไง ที่รัก ผมไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะไม่จูบคุณ”